ราเชนทร์บอกชื่อร้านอาหารกึ่งผับชื่อดังย่านลาดพร้าว ธเนศกดดูการปักหมุดที่เพื่อนส่งมาให้ เขาเดินกลับไปบอกกับพี่ชายฝาแฝดว่ามีธุระด่วน หลานชายตัวน้อยที่รับประทานอาหารอิ่มแล้วหันมาตัดพ้อ
“อาเนศ ไหนบอกว่าจะอยู่กับผมครับ?”
“ไม่ได้แล้วน้องพืช อามีธุระด่วน เอาไว้วันอาทิตย์อาจะชดเชยให้ก็แล้วกันนะครับ อาจะพาไปเที่ยวสวนสนุกดีไหม?”
เด็กชายทำตาโต “ดีครับ คุณพ่อไม่ยอมพาไปสักที สงสัยคุณพ่อจะแก่เกินไปก็เลยไม่ชอบสวนสนุก”
ธนาแทบจะสำลักน้ำที่กำลังดื่ม เขาไอแค่กๆ แล้ววางแก้วน้ำลง “พ่อไม่ได้แก่นะครับ พ่อแค่ไม่ชอบไปที่แบบนั้น”
เด็กชายหันมาเอียงคอถาม “ไม่ชอบเพราะคุณพ่ออายุมากไป เที่ยวสวนสนุกไม่สนุกแล้วสิครับ”
ทักษพรเห็นสามีทำหน้ากระอักกระอ่วนก็หัวเราะ “พี่นาคะ ยอมรับไปเถอะค่ะ ถ้าพี่นาไม่อยากไปสวนสนุกก็ให้พี่เนศพาน้องพืชไปแทนก็ได้”
“ได้ๆ พี่ยอมรับว่าพี่แก่ก็ได้ พืชนะพืช หันมาทำร้ายพ่อตัวเองซะงั้น” ธนามองน้องชายที่ดูเหมือนจะรีบร้อน “แกไปเถอะเนศ วันอาทิตย์ค่อยมาพาน้องพืชไปเที่ยว เออ ชวนณัฐกับฟ้าไปด้วยก็ดีนะ จะได้มีคนคอยดูแลหลานหลายๆ คน”
“ณัฐน่ะได้ แต่ฟ้าคงไม่สะดวก ตอนนี้ท้องใหญ่แล้ว เดี๋ยวฉันเรียกนิวไปด้วยอีกคนดีกว่า น้องพืชวิ่งไปวิ่งมาจะได้ตามทัน”
ณัฐวุฒิเลขาคนสนิทของธนากับวิษณุเลขาของธเนศ นอกจากจะเป็นเลขาผู้เก่งกาจยังเป็นบอดี้การ์ดฝีมือดีด้วย
“ได้ๆ เอาตามที่แกว่าก็แล้วกัน ฉันไปก่อนล่ะเดี๋ยวเพื่อนรอ”
“ผักกาดดูสิ เนศทำเหมือนจะไปตามจับชู้งั้นล่ะ”
“พี่นาก็พูดเกินไป แฟนสักคนพี่เนศก็ยังไม่มี ที่ได้ยินมาก็มีแต่คู่ควง เมื่อไหร่จะมีโอกาสได้ตามจับชู้ล่ะค่ะ”
ธนายิ้ม “จริงด้วย หนูเนศมันเป็นปลาไหล ไม่รู้ว่าผู้หญิงแบบไหนที่จะเอามันอยู่?”
“ต้องมีสักคนล่ะค่ะ”
“ที่แน่ๆ ต้องไม่ใช่ผู้หญิงที่มันเคยควง”
“เรามาพนันกันดีไหมคะ?” ทักษพรยิ้มเจ้าเล่ห์ “ผักเพิ่งจะดูทำนายดวงทางทีวีตอนเช้า ราศีของพี่นากับพี่เนศถ้ายังโสดเขาบอกว่าปีนี้จะมีดวงด้านความรัก มีเกณฑ์แต่งงาน”
“อีกแล้ว ผักกาดเชื่อดวงอีกแล้ว”
“พี่นาไม่เชื่อก็ต้องกล้าพนันสิคะ ผักว่าปีนี้พี่เนศต้องเจอคนถูกใจค่ะ และอาจจะเปิดตัวในฐานะแฟน”
ธนามองหน้าภรรยา “ได้! ถ้างั้นพี่จะพนันว่าเนศไม่มีทางมีแฟนในปีนี้ ถ้าพี่แพ้พี่ยินดีจ่ายหนึ่งแสน”
ทักษพรตาลุกวาว “ได้ค่ะ ผักรับพนัน แต่เราจะพูดกันปากเปล่าไม่ได้นะคะ ต้องทำสัญญาด้วย” เธอรีบลุกไปหยิบกระดาษกับปากกามาเขียนและยื่นให้สามีลงนาม “เซ็นชื่อกับวันที่ด้วยค่ะ”
“เอาจริงเหรอเนี่ย? ผักพร้อมจะจ่ายพี่หนึ่งแสนใช่ไหม?” คนเป็นสามีเอ่ยกระเซ้า สายตาเขาแสดงความเป็นต่อ เขากับธเนศเป็นพี่น้องฝาแฝด หากว่าอีกฝ่ายรู้สึกพิเศษกับผู้หญิงสักคนเขาต้องรู้ก่อนคนอื่น
“ค่ะ ผักเชื่อมั่นในคำทำนายของหมอเสือ” เธอเอ่ยชื่อหมอดูชื่อดังที่เดินสายออกรายการทีวีแทบทุกช่อง
ธเนศทรุดตัวลงติดกับราเชนทร์บนโซฟาตัวหรู สายตาของเขาจับจ้องไปยังโต๊ะที่อยู่ติดผนังร้าน พรรษายังคงพูดคุยกับภาคิณอย่างสนุกสนาน ทั้งสองนั่งใกล้กันมาก
“ดูจากภาษากาย กูว่าเขาสองคนน่าจะสนิทกันมาก่อนนะ”
“หึ! ไม่แน่หรอก ผู้หญิงแบบนี้อาจจะพร้อมสนิทกับผู้ชายรวยๆ ทุกคนก็ได้ ขนาดกับกู เพิ่งเคยเห็นกันครั้งแรกยังกล้าขอคุยเป็นการส่วนตัวเลย”
ราเชนทร์หลับตาปริบๆ เขาไม่กล้าโต้แย้งธเนศเพราะเขาไม่ได้มีประสบการณ์เรื่องผู้หญิงอย่างใกล้ชิดและหลากหลายเหมือนกับท่านประธานบริษัทวินเนอร์เบฟเวอเรจเจ้าของฉายาเพลย์บอยพันล้าน
“มึงเชื่อกูเชนทร์ พรรษาน่าจะเล็งภาคิณก็เลยพยายามเสนอตัวอย่างเต็มที่” สายตาของธเนศบ่งบอกว่าไม่พอใจพรรษาอย่างมาก
“มึงพูดเหมือนไม่ชอบเขาแล้วจะมาดูทำไม? กูว่าปฏิเสธไปก็จบ ปล่อยเขาไปกับภาคิณเถอะ”
“ผิดแล้ว ภาคิณเป็นคู่แข่งคนสำคัญของกู อย่างน้อยพรรษาก็มีฟาร์มวัวนมขนาดใหญ่อยู่ในมือ ถ้ากูปล่อยให้สองคนนั้นดิวกันสำเร็จ กูก็เสียผลประโยชน์ทางธุรกิจสิ อีกอย่างถ้าเขาแอบไปนอนกับภาคิณลับๆ โดยที่เกียรติมันไม่รู้ พรรษาอาจจะปล่อยให้เกียรติมันเพ้อฝันต่อ วันหน้าอาจจะหันมาหลอกใช้เพื่อนเราก็ได้”
“อ้าว! ไหนมึงบอกไม่ชอบเขา ตอนนี้ดันกลัวเขาจะไปกับคนอื่น ตกลงมึงจะเอาไงหะท่านประธานธเนศ?”
สายตาของธเนศจ้องไปยังพรรษาเขม็ง ตอนที่เธอยิ้มช่างทำให้โลกสดใสขึ้นทันตา เพียงแต่ว่า...เธอไม่ควรยิ้มให้คนอื่น
“ผู้หญิงอย่างพรรษา สมควรจะอยู่กับผู้ชายรู้ทันมารยาหญิงอย่างกูเท่านั้น เพื่อธุรกิจและเพื่อเพื่อนที่ดีอย่างเกียรติ”
ราเชนทร์อ้าปากหวอเมื่อได้ยินบทสรุปของธเนศ “นี่มึง...มึงคิดจะเอาเขาไว้เป็นคู่นอนชั่วคราวเหรอ?”
“เออ กูตัดสินใจแล้ว” ธเนศกดข้อความส่งไปหาพรรษา
หญิงสาวได้ยินเสียงเตือนของโทรศัพท์มือถือก็ก้มหน้าลงกดอ่านข้อความ พอเห็นว่าคนที่ส่งมาเป็นธเนศเธอก็ยิ้มมุมปาก
“มีเรื่องอะไรดีเหรอพีช?” ภาคิณเอ่ยเย้า
“สัญญาคู่ค้าของพีชได้ข้อสรุปแล้วน่ะสิคะ”
ภาคิณหน้าเสีย ครั้งแรกที่พีชมาเล่าปัญหาการขายน้ำนมดิบให้เขาฟัง เขากำลังคิดหาวิธีจะช่วยเธอ แต่กลับช้าไปเพียงก้าวเดียวก็หมดโอกาสในการเป็นฮีโร่ของหญิงสาวที่เขาพึงใจ
“ถ้าสัญญาเสียเปรียบ พีชก็อย่าเพิ่งตกลงนะ ให้พี่คิดอีกสี่ห้าวัน ถ้าจะเสนอโปรโจกใหม่ พี่ต้องเขียนรายละเอียดทุกอย่างให้รัดกุมและชัดเจน ถึงจะเสนอบอร์ดบริหารผ่าน”
ภาคิณได้ยินจากคนที่เขาส่งไปสืบความลับทางการค้าของบริษัทวินเนอร์เบฟเวอเรจมาแล้วว่าทางนั้นกำลังจะหันไปทำผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับนม เขาที่คิดอยากจะช่วยพรรษาและหวังช่วงชิงโอกาสทางธุรกิจจึงคิดจะบุกเบิกตลาดทางนี้ด้วย
“พีชไม่อยากรบกวนพี่คิณเลยค่ะ กว่าจะเสนอโปรเจกผ่านคงจะอีกสักพัก แต่เรื่องของพีชเป็นเผือกร้อน ไม่ควรจะโยนใส่มือคนอื่น ถ้าทางนั้นเขารับข้อเสนอแล้ว พีชก็สบายใจ ขอบคุณพี่คิณมากเลยนะคะที่เป็นห่วง พีชขอโทษจริงๆ ที่ทำให้พี่คิณต้องมาร้อนใจไปกับพีช”
ข้อความถูกส่งมายังโทรศัพท์ของพรรษาอีกครั้ง ธเนศรบเร้าให้เธอออกมาคุยกับเขาที่หน้าร้าน
“พีชต้องรีบไปคุยธุระแล้วค่ะ เดี๋ยวคู่ค้าจะเปลี่ยนใจ พืชขอตัวนะคะ” หญิงสาวพูดพร้อมกับลุกขึ้นยืน
ภาคิณไม่กล้ารั้งเธอเอาไว้ คนอย่างพรรษาถ้ายิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ และถ้าพยายามกักขังเธอ เธอก็จะยิ่งดิ้นรนหนี เขาได้แต่ยิ้มเศร้า
“ครับ เอาไว้พี่จะนัดทานข้าวกับพีชอีกนะ”
“ได้ค่ะ ขอบคุณมากนะคะพี่คิณ”
ธเนศนั่งรออยู่ในรถตู้คันใหญ่ วันนี้เขาต้องไปธุระหลายแห่งและไม่ได้แวะบ้านจึงต้องให้วิษณุเลขาและบอดี้การ์ดประจำตัวมาบริการ เสื้อผ้าชุดลำลองของเขามีแขวนอยู่ในรถ ชายหนุ่มจึงเปลี่ยนให้เหมาะกับสถานที่ได้
ฉากกั้นระหว่างช่วงคนขับกับคนนั่งด้านหลังถูกปิดเอาไว้ พรรษาเดินขึ้นไปนั่งข้างธเนศ
“คุณตกลงเหรอคะ?”
ชายหนุ่มทำหน้าขรึม “ใช่ ผมรับข้อเสนอของคุณ”
“ถ้าคุณตกลง ฉันจะพูดให้ชัดเจนอีกครั้ง ฉันจะนอนกับคุณสัปดาห์ละสามคืนในช่วงเวลาสามเดือน ส่วนคุณก็ทำสัญญารับซื้อน้ำนมดิบจากฟาร์มแสนรักเป็นเวลาห้าปี โดยรับซื้อทั้งหมดที่เราผลิตได้”
“เรื่องรับซื้อน้ำนมดิบ ขอเพียงคุณภาพของน้ำนมฟาร์มคุณผ่านมาตรฐานของวินเนอร์ผมยินดีรับซื้อไว้ทั้งหมด แต่เรื่องที่คุณจะมานอนกับผมแค่สามคืนผมไม่เห็นด้วย”
“มากกว่านั้นไม่ได้ค่ะ ฉันมีลูกสาวที่ต้องดูแล”
******************