เวลาผ่านไปไม่ถึงหนึ่งชั่วยาม รถม้าเคลื่อนที่มาตามทางพลันหยุดตัวลงกะทันหัน
เหม่ยหลินที่นั่งหลับตาพิงผนังรถม้าอยู่ถึงกับต้องลืมตาขึ้นมา ในขณะที่หญิงสาวกำลังเริ่มจะงุนงงและระลึกได้ถึงความผิดปกติ รถม้าพลันขยับและเคลื่อนตัวขึ้นมาอีกครา แต่ครั้งนี้รถม้ากลับไม่นุ่มนวลเหมือนเก่า
เหม่ยหลินยิ่งต้องกะพริบตาขมวดคิ้วพันกันเมื่อรับรู้ได้แล้วว่ารถม้าของนางผิดปกติ
ทั้งนี้นางจึงตระหนักได้ถึงเหล่าบ่าวไพร่ที่รอนางอยู่ตรงรถม้าหน้าวัดเมื่อครู่ใหญ่ที่ผ่านมา พวกบ่าวไพร่พวกนั้นรีบกระวีกระวาดพยุงร่างของนางให้ขึ้นนั่งบนรถม้าในทันทีเมื่อนางเดินไปถึงรถม้า ไม่มีถามไถ่ถึงเหตุการณ์ผิดปกติอันใด
ไม่ถามถึงกระทั่งชิงชิงที่หายตัวไปพร้อมบ่าวคนอื่น
หญิงสาวคิดได้อย่างนั้นจึงรีบขยับกายมาทางด้านหน้าของรถม้าแล้วเปิดผ้าม่านตรงนั้นออกเพื่อดูเหตุการณ์ข้างนอกของรถม้าในทันที
และนางก็ได้เห็น ด้านหน้าของรถม้าที่ควรจะมีคนขับรถม้านั่งอยู่เพื่อบังคับม้าหากแต่มันกลับว่างเปล่าไม่มีผู้ใดนั่งอยู่ตรงนั้น
เมื่อเหม่ยหลินมองออกไปยังทิศทางด้านหน้าของรถม้าที่กำลังเคลื่อนตัว
ตรงนั้น นางก็สังเกตได้ว่า ทิศทางที่รถม้าพุ่งตัวไปหาได้เป็นเส้นทางของพื้นดินสำหรับให้รถม้าวิ่งย่ำแต่อย่างใดไม่ แต่ว่ามันกลับเป็นแผ่นดินที่ขาดหายไป มองเห็นเพียงหลุมดำขนาดใหญ่อยู่รำไร
ซึ่งแน่นอนว่ามันจะเป็นอะไรไปไม่ได้ นอกจาก...
หน้าผา!
หญิงสาวยิ่งขมวดคิ้วเรียวสวยพันกันแน่น นางหลับตาลงอย่างต้องการข่มจิตใจที่บัดนี้มันปลิวหายไปถึงไหนต่อไหนจนรู้สึกเคว้งคว้างไปหมด เมื่อระลึกได้แล้วถึงการเดินทางออกจากวังมาในครานี้
นี่คงเป็นแผนซ้อนแผนอีกแผนหนึ่งสำหรับการสังหารนางได้อย่างแนบเนียน ถูกโจรป่าปล้นชิงและสังหาร หากไม่สำเร็จก็ให้เกิดอุบัติเหตุจนรถม้าตกหน้าผา
และตายไปอย่างเงียบงัน
ไร้คนผิด!
เหม่ยหลินที่ยังคงหลับตาอย่างเก็บข่มอาการหวาดกลัวอย่างที่สุดในชีวิตยามระลึกได้อย่างนั้น นี่นางคงจะไม่ได้กลับไปหาเสด็จพ่ออีกแล้วใช่หรือไม่ การมีชีวิตอยู่ของนางเบียดเบียนผู้ใดมากนักหรือไร ไยต้องกระทำการถึงเพียงนี้
ทำไมกัน?
เสียงรถม้าที่กำลังวิ่งเสียงดังเนื่องจากอาจจะถูกตีและถูกไล่ตะเพิดให้วิ่งอย่างเอาเป็นเอาตายในบัดนี้ไม่สามารถดังไปกว่าเสียงอื้ออึงในใบหูของเหม่ยหลินได้แต่อย่างใด
หญิงสาวทำได้เพียงจับขยุ้มอยู่ที่สาบเสื้อตรงหน้าอกของตนพยามยามอดทนและต่อสู้กับความหวาดกลัวอย่างสุดความสามารถ
นางลืมตาขึ้นมาแต่ก็ไม่สามารถมองเห็นภาพอันใดได้มากไปกว่าม่านน้ำตาที่ไหลเอ่อจนนองใบหน้างาม นางจึงต้องหลับตาลงอีกครั้งโดยมิรู้ได้ว่าจักต้องทำอย่างไร
นางจะทำอะไรได้
นางคงต้องตายไป
แต่เพียงอึดใจต่อมา เสียงตึงตังของรถม้าที่เคลื่อนตัวรุนแรงพลันหายไป เสียงเกือกม้ากระทบพื้นดินพลันเงียบลง เสียงล้อเลื่อนของรถม้าพลันหยุดหมุน
ทุกอย่างคล้ายกับเวลาหยุดเดินทางกะทันหัน ร่างของนางกระแทกกับตัวรถจนรู้สึกเจ็บไปหมด
เหม่ยหลินถึงกับชะงักค้างนิ่งงันก่อนจะค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง นางสังเกตได้ถึงความผิดปกติได้อีกครา
แต่ทว่ามันมิใช่เสียงที่ดังอื้ออึงในใบหูแต่อย่างใด มันมิใช่เสียงลมกรรโชกแรงคล้ายตกจากที่สูงแต่อย่างใด
และเพียงอึดใจต่อมารถม้าของนางก็พลันขยับได้อีกครา แต่ครั้งนี้การเคลื่อนตัวของรถม้าพลันเปลี่ยนไป ทั้งยังคล้ายกับว่าหมุนเปลี่ยนทิศทางการขับเคลื่อน
เหม่ยหลินกะพริบตาขึ้นลงเบาๆ เพื่อไล่ม่านน้ำตาให้ตกไป พลางขยับกายมาเปิดผ้าม่านตรงด้านหน้าของรถม้าออก เพื่อมองดูทางด้านนอกของรถม้าในทันที
และแล้วหญิงสาวถึงกับตกตะลึง ร่างบางแข็งค้างในบัดดล เมื่อด้านหน้าของรถม้าของนางพลันปรากฏเงาร่างของบุคคลซึ่งก่อนหน้านั้นไม่มี
บุรุษลึกลับรูปร่างสูงใหญ่ในอาภรณ์สีดำทมิฬกำลังนั่งบังคับม้าอยู่ตรงนั้น ตรงตำแหน่งด้านหน้าของรถม้านั่น เขาเพียงนั่งนิ่งๆ บังคับม้าให้วิ่งเยาะๆ ไปตามทางอย่างใจเย็น บุคลิกเยือกเย็นชวนขนลุกขนชันเหมือนเช่นดังเดิม
เหม่ยหลินถึงกับรีบขยับกายออกมาจากด้านในรถม้าเพื่อเข้าไปใกล้กับบุรุษลึกลับอีกนิด ก่อนจะเอื้อมมือสั่นเทาของตนแตะที่ตรงแผ่นหลังของเขาเบาๆ
และเมื่อบุรุษลึกลับหันใบหน้าคมเข้มพร้อมสายตาคมเฉี่ยวอันเป็นเอกลักษณ์มองตอบกลับมา
“พี่หง”
“...”
เสียงเกือกม้ากระทบพื้นดินถึงกับหยุดเสียงเงียบลง บ่งบอกว่าเจ้าของนามไม่คุ้ยเคยสักเท่าไหร่กับการถูกเรียกขานนามเช่นนี้
เหม่ยหลินหารู้ความนัยของเสียงเกือกม้า นางรีบยกชายเสื้อขึ้นเช็ดน้ำตาให้หมดไปอีกครา เพื่อที่ว่านางจะได้มองบุรุษลึกลับตรงหน้าให้ชัดเจนขึ้นมาอีกครั้ง
นางถึงกับคลี่ยิ้มงดงามส่งให้บุรุษตรงหน้าอย่างโล่งใจ พลางผินใบหน้าไปมองยังทิศทางที่เยื้องออกไปไม่ใกล้ไม่ไกล หางตาของนางพลันเห็นอะไรบางอย่าง
อะไรบางอย่างที่ว่าก็คือเหล่าศพทั้งหลายของบรรดาบ่าวไพร่ของนางที่จัดการกับรถม้าของนางให้วิ่งไปตามทางที่มีหน้าผาเมื่อครู่
ในขณะที่เหม่ยหลินกำลังเหม่อมองซากศพทั้งหลายที่นอนตายกระจัดกระจายกลาดเกลื่อนเสียงทุ้มต่ำพลันดัง
“ข้ายังจำสิ่งใดไม่ได้ ยังไม่มีที่ใดให้ข้าไป”
เหม่ยหลินได้ยินจึงรีบหันใบหน้ากลับมาทางต้นเสียงในทันทีพลางเอ่ยต่อคำ
“พี่หง...ท่านหมายความว่าอย่างไร”
“บ้านเจ้าอยู่ทางใด?”
“...”