อยากจะฟัดให้หายอยากเสียตรงนี้นัก...
หนุ่มหล่อคิดอย่างเข่นเขี้ยว ก่อนจะกัดฟันยอมแยกออกห่างแม่สาวน้อยคนงามที่นอนระทดระทวยอยู่ใต้ร่างด้วยความยากลำบาก เขาต้องสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ครั้งแล้วครั้งเล่า ต้องขยับหนีจากกลิ่นหอมๆ ของหล่อนหลายก้าว กว่าจะควบคุมความต้องการเซ็กซ์เอาไว้ได้
“ผมขอโทษ... คุณทำให้ผมควบคุมตัวเองไม่ได้...”
สาวน้อยหน้าแดงก่ำ รีบผุดลุกขึ้นยืนด้วยความอับอาย นี่หล่อนเป็นบ้าไปแล้วหรือไงนะ ถึงได้ยอมนอนทอดกายให้ผู้ชายที่ไม่รู้จักแม้แต่ชื่อจูบเอาแบบนี้ ขนาดเดนนิสผู้ชายที่หล่อนแอบปลื้มยังไม่เคยทำแบบนี้เลย หรือว่าหล่อนกำลังตกหลุมรักผู้ชายแปลกหน้าคนนี้
พเยียคิดอย่างตกใจ พยายามจะหันหลังและวิ่งหนี แต่คนตัวโตก็หันกลับมาเห็นเข้าพอดี ชายหนุ่มจึงคว้าร่างอรชรที่เขามั่นใจว่าสัดส่วนของแม่คุณทรมานใจหนุ่มๆ ยิ่งนักเอาไว้ได้ทันเวลา
“ผมขอโทษ... จะตบผมก็เชิญ...” เขาเอียงแก้มให้ แต่หล่อนไม่ได้กล้าตบ
“ได้โปรด ปล่อยฉันไปเถอะค่ะ...” พยายามอ้อนวอน แต่คนตัวโตก็ไม่ยอมปล่อย
มาร์คอสรู้ดีว่าหากเขาใช้อำนาจในตอนนี้เจ้าหล่อนจะต้องตื่นตกใจและหวาดกลัวเขาขึ้นสมองอย่างแน่นอน และนั่นมันก็จะทำให้แผนการแก้เผ็ดที่เขาเตรียมไว้ให้กับเจ้าเดนนิส โอซิลไม่สำเร็จอย่างที่ตั้งใจเอาไว้ เขาต้องเป็นสุภาพบุรุษสิ เพื่อให้หล่อนตายใจ
“ผมขอโทษ... จะให้ก้มคุกเข่าขอโทษก็ได้นะครับ”
เมื่อเห็นคนตัวโตทำท่าจะคุกเข่าลงไปตรงหน้าจริงๆ พเยียก็อดใจอ่อนไม่ได้ ความจริงหล่อนไม่ได้โกรธเขาสักหน่อย แต่โกรธตัวเองต่างหากที่ทำตัวเป็นผู้หญิงใจง่ายยอมให้เขาจูบแบบนั้น
“อย่าค่ะอย่าทำแบบนี้...” สาวน้อยรีบร้องห้ามเอาไว้
“ฉันไม่ได้โกรธคุณหรอกค่ะ แค่รู้สึกไม่ดีเท่านั้นเอง”
“ถ้าไม่โกรธก็อย่าหนีผมสิครับ คุณสัญญาแล้วนะว่าจะไปดินเนอร์กับผมเย็นนี้...”
รอยยิ้มสดใส กับท่าทางอบอุ่นที่หล่อนไม่รู้หรอกว่าเขาแสร้งทำมันขึ้นมาหรือว่ามันเป็นบุคลิกจริงๆ ของเขาทำให้หล่อนไม่สามารถต้านทานเขาได้อีกครั้ง
“ฉันพึ่งนึกได้ว่ามีธุระสำคัญ ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ค่ะ...”
ไม่อยากไปกับเขาเพราะกลัวว่าจะเกิดเรื่องน่าละอายแบบนี้ขึ้นอีก ไม่ได้รังเกียจเขาหรอกนะ แต่หล่อนกลัวใจตัวเองมากกว่า เพราะรู้ดีว่าไม่สามารถต้านทานอำนาจลึกลับของผู้ชายตรงหน้าได้เลย
“ผมคงไม่ดีพอที่คุณจะไว้ใจอีกแล้วใช่ไหมครับ”
น้ำเสียงของผู้ชายตรงหน้าช่างออดอ้อนเสียเหลือเกิน พเยียถอนใจออกมา และในที่สุดก็ใจอ่อนยวบยาบลงมาอีกครั้งจนได้
“ก็ได้ค่ะ แต่ต้องไม่ดึกมากนะคะ เพราะว่าฉันต้องรีบกลับบ้าน...”
“คนที่บ้านของคุณอาจจะเป็นห่วงใช่ไหมครับ”
มาร์คอสเจตนาพูดถึงเดนนิส โอซิลที่ตัวเองเข้าใจว่าหญิงสาวเป็นเมียเก็บของเจ้าหมอนั่น แต่พเยียแปรความหมายไม่ออก หล่อนนึกว่าเขาหมายถึงครอบครัวของหล่อน
“ฉันไม่มีครอบครัวหรอกค่ะ ฉันเป็นกำพร้า...”
“ผมหมายถึงคนรักน่ะครับ”
หญิงสาวช้อนตาขึ้นสบสายตากับนัยน์ตาสีทองอร่ามด้วยความประหลาดใจ ก่อนจะรีบส่ายหน้าพร้อมๆ กับยิ้มหวานออกมา ซึ่งรอยยิ้มหวานฉ่ำที่สดใสไม่ต่างจากแสงแดดในฤดูใบไม้ผลิของเจ้าหล่อนมีผลต่อการเต้นของหัวใจของมาร์คอสรุนแรงเลยทีเดียว
เหมือนจะตกหลุมรัก...
ไม่มีทางหรอก ความรัก ความหลง ไม่มีทางได้มาอยู่ในสมองของผู้ชายเลือดเย็นอย่าง มาร์คอส โรเจอริโอ ได้อย่างเด็ดขาด ก็แค่ของใหม่ อยากลองก็เท่านั้น
“ไม่ต้องตอบหรอกครับ ผมก็ถามเล่นๆ”
เมื่อเห็นสาวน้อยตรงหน้าอ้ำอึ้ง เขาจึงตัดบทขึ้นทันที ก็จะรอคำตอบทำไมล่ะในเมื่อเขาก็รู้อยู่เต็มอกไม่ใช่หรือว่าหล่อนเป็นเมียเก็บของใคร
พเยียยิ้มกว้างออกมาอีกครั้งอย่างโล่งอก ไม่รู้ทำไมหล่อนถึงได้แคร์ความคิดที่ผู้ชายตรงหน้ามีต่อตัวเองนัก หากเขารู้ว่าหล่อนยังโสด ยังซิงจวบจนอายุ 24 ปีแบบนี้ เขาต้องคิดว่าหล่อนน่าเบื่อแน่ๆ และนั่นก็จะทำให้เขาจากไปทั้งๆ ที่หล่อนยังไม่รู้จักแม้แต่ชื่อของเขาสักนิด
“เอ่อ... คุณชื่ออะไรคะ”
“เอ่อ ผมนี่แย่จริงๆ คุยกันมาตั้งนานลืมแนะนำตัว”
มาร์คอสแสร้งแสดงท่าทางสำนึกผิด ก่อนจะเปิดเผยชื่อของตัวเองออกไป แต่กระนั้นเขาก็เลือกที่จะปกปิดนามสกุลเขาไว้ เพราะหากแม่สาวน้อยได้ยินเจ้าหล่อนต้องรู้อย่างแน่นอนว่าเขาเป็นใคร และมีสัมพันธภาพเลวร้ายแค่ไหนกับเจ้านายที่พ่วงตำแหน่งชู้รักของเจ้าหล่อน
“ผมมาร์คอสครับ เป็นคนบราซิล... แล้วคุณล่ะ”
แม้จะแปลกใจที่หนุ่มหล่อตรงหน้าไม่ยอมเอ่ยนามสกุล แต่ด้วยเพราะคิดว่าคงไม่ได้เจอเขาอีกแล้วหลังจากจบดินเนอร์เย็นนี้หญิงสาวจึงไม่ได้ถามไถ่ออกไป เลือกที่จะตั้งหน้าตั้งหน้าแนะนำตัวเองแทน
“ฉันชื่อพเยียค่ะ พเยีย ศุภกานต์”
“เป็นเลขาของเดนนิส โอซิลใช่ไหมครับ”
“ทำไมคุณถึงรู้ล่ะคะ คุณเป็นใครกันแน่”
ร้องถามด้วยความประหลาดใจ แต่หนุ่มบราซิลผู้มีเรือนกายและใบหน้ากระชากลมหายใจกลับไม่ยอมตอบคำถามนั้น แต่เลือกที่จะเป็นฝ่ายตั้งคำถามเสียเอง
“เย็นนี้คุณมารอผมที่นี่นะครับ ผมจะมารับ...”
“เอ่อ...”
ได้แต่เอ่อออกมาแค่คำเดียวเท่านั้น เพราะคำพูดทุกคำถูกกลืนหายลงไปในลำคอจนหมดสิ้น เมื่อพ่อรูปหล่อก้มลงมาแต้มริมฝีปากของหล่อนเบาๆ และแยกจากไป
“หวังว่าคุณจะไม่ผิดนัดนะครับ บาย...”
และร่างสูงใหญ่ที่ดูกำยำแสนสง่างามก็หมุนตัวเดินหายไปจากสายตา เหมือนกับมันไม่ใช่เรื่องจริง นี่หล่อนกำลังหลับอยู่หรือเปล่านะ
สาวน้อยทั้งหยิกตัวเอง ทั้งกระพริบตาซ้ำหลายๆ ครั้ง แต่ทุกอย่างที่เห็นก็ทำให้หล่อนรู้ว่าตัวเองไม่ได้ฝันไป ทุกอย่างมันคือเรื่องจริง หล่อนได้พบกับมาร์คอส หนุ่มบราซิลผู้แสนลึกลับจริงๆ
“โอ้... หัวใจยังเต้นแรงอยู่เลย ทำไมถึงได้รู้สึกสั่นมากมายเช่นนี้นะ”
พึมพำกับตัวเองด้วยความสับสน ไม่เข้าใจตัวเองเลยว่ากำลังเป็นอะไรกันแน่ ทั้งๆ ที่เคยคิดว่าคงมีแต่เดนนิส โอซิลเพียงคนเดียวเท่านั้น ที่จะสามารถทำให้หัวใจของหล่อนเต้นระรัวรุนแรงได้
แต่ผิดคาดซะงั้น เพราะเพียงแค่แรกสบตาหนุ่มบราซิลสุดหล่ออย่างมาร์คอส หัวใจของหล่อนกลับเต้นระรัวอย่างบ้าคลั่ง มันเต้นแรง เร็ว ยิ่งกว่าตอนที่เผชิญหน้ากับเดนนิสซะอีก แถมหล่อนยังใจง่ายปล่อยให้เขาจูบเอาถึงสองครั้งสองครา
“ทำไมใจง่ายแบบนี้นะ พเยีย...”
แก้มนวลแดงระเรื่อขึ้นมาเป็นริ้วเมื่อความอับอายจู่โจมเข้ามาสู่เนื้อของหัวใจ หญิงสาวรีบก้มหน้าก้าวยาวๆ เพื่อกลับเพ้นเฮ้าส์ของเดนนิสที่ตัวเองมาอาศัยอยู่อย่างรวดเร็ว โดยไม่ทันสังเกตว่ามีสายตาคมกริบคู่หนึ่งเฝ้ามองตามการเคลื่อนไหวของหล่อนทุกฝีก้าว