ห้าชั่วโมงต่อมาฉันเลี้ยวรถเข้าจอดที่ลานจอดรถบ้านแม่เฟิงหวง ทุกอย่างที่เฟิงพูดเป็นความจริง เกรดสินค้ามันต่ำ พี่สาวฉันต้องการอะไร เงินเหรอ หรือยังไง ฉันไม่เข้าใจความคิดเธอเลย จะว่าพ่อให้ไม่พอใช้ก็ไม่น่าจะใช่ ฉันต้องหาคำตอบนั้นให้เจอ
“หายแล้วเจอกันนะ” ฉันบอกหลังจากที่ป้อนจูบ แถมสอดลิ้นเข้าไปในโพรงปากของเฟิงด้วย
“…” ไม่มีการตอบสนองใด ๆ ทั้งนั้น ก็แน่ล่ะ เขาไม่พอใจที่ฉันพามาส่งบ้านแม่ แต่จะทำไงได้ฉันมีสิ่งสำคัญหลายอย่างต้องทำ ให้มาคอยดูแลเอาใจฉันทำได้ไม่นานหรอก
เห็นว่าเฟิงนิ่งเงียบฉันจึงโน้มใบหน้าไปหอมแก้มเขาเป็นของแถม เผื่อจะอารมณ์ดีขึ้น “เค้าแถมให้”
ก็ยังนิ่ง ประท้วงเงียบอยู่ดี ฉันจึงลงจากรถแล้วเดินมาเปิดประตูให้เขา พร้อมเปิดประตูเบาะหลังหยิบไม้เท้ามาให้ ง้อแล้วนะไม่หายงอนก็เรื่องของเขาเถอะ
“เฟิงอย่าทำตัวเป็นเด็ก นิรีบจริง ๆ” เมื่อเห็นเฟิงนิ่ง ฉันจึงต้องพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง เขาจึงยอมลงจากรถ ดึงไม้เท้าไปใช้พยุงตัวเอง ฉันควรช่วยเขาสักหน่อยเดี๋ยวจะหาว่าใจดำเกิน “มา เดี๋ยวเค้าช่วย”
ก็ยอมให้ช่วยนะ อาจจะเชิดหน่อย ๆ ก็ตาม
เพียงแค่ก้าวเท้าเหยียบประตูบ้านน้ำเสียงขุ่นมัวก็ดังมาแต่ไกล “มาทำอะไรกัน”
“เฟิงจะกลับมาอยู่บ้านสักพักค่ะ หนูไม่ว่างดูแล” แม่เขาไง แม่เขาไม่ชอบฉัน ไม่ชอบเอามาก ๆ
“ทุเรศ นี่หรือคู่ชีวิต มีสุขร่วมมีทุกข์เอามาทิ้ง ลูกชายคนเดียวของฉันต้องแต่งกับผู้หญิงอย่างเธอ…”
“เฟิงอยากกลับมาเองแม่ เฟิงเห็นนิยุ่ง ไม่อยากให้นิเหนื่อย” ก็จะเป็นเฟิงหวงที่คอยปรามเวลาที่แม่เขาจิกกัดฉัน
สำหรับคุณหญิงเอื้องดาว เฟิงจะยอมเป็นคนผิดเพื่อฉันเสมอ เป็นแบบนี้มาตลอด และยิ่งเฟิงออกตัวแทนฉันมากเท่าไหร่แม่เขายิ่งไม่ชอบฉันหนักเข้าทุกที
“คนจะเป็นผัวเมียกัน ถ้าแค่นี้ดูแลกันไม่ได้ ควรปรับปรุงตัวไหม อย่างอื่นจะมาสำคัญกว่าคู่ชีวิตได้ยังไง”
“…” สอนฉันเหมือนชีวิตแต่งงานของเธอสุขสมหวังอะ ครอบครัวเฟิงก็เน่าพอ ๆ กับครอบครัวฉันเหอะ
ครอบครัวที่มันไม่รอดตั้งแต่พ่อแม่ จะมาหวังให้ลูกครองชีวิตคู่ให้ดีได้ไง ต้นแบบเป็นอีกแบบ ทว่าอยากได้ดั่งใจ มันมีที่ไหนกัน
“เพราะเฟิงสำคัญกับนิไงแม่ นิถึงพามาที่นี่ นิมีอย่างอื่นต้องไปทำ” นี่ก็ช่วยและเหน็บฉันด้วย
“เก่งทุกเรื่อง โง่เรื่องผู้หญิงเนี่ยนะเฟิง แม่ควรจะด่าอะไรแกดี เมื่อไหร่จะเลิกหลงมันสักที ดูไม่ออกหรือไงว่ามันไม่เคยรักแกเลย เลิกโง่สักที”
“แม่ครับ”
“ทำไม ฉันแตะต้องมันไม่ได้หรือว่าแกไม่รับความจริง” แม่ลูกกำลังฟาดฟันกันทางสายตา แล้วฉันที่เป็นคนก่อปัญหาไม่มีสิทธิ์พูดแทรกด้วยนะ บ้านนี้เขาค่อนข้างเป็นใหญ่ ตัวฉันต้องเงียบเท่านั้น
วิธีจบปัญหาที่ง่ายที่สุดของเฟิงหวงก็... หันมายิ้มให้ฉันทั้งที่ในใจยังน้อยใจกันอยู่ “ที่รักคะ ที่รักไม่ต้องคิดมากนะ กลับไปทำธุระให้เสร็จ เค้าหายแล้วเค้าจะรีบกลับไปหา เค้ารักเธอนะ”
นี่ไงวิธีจบทุกอย่างของเฟิง ให้ฉันออกจากปัญหาตรงนี้ไปซะ ปล่อยให้เขาจัดการทุกอย่างเอง เจอปัญหาทีไรก็เป็นแบบนี้ตลอด
ฉันยกมือไหว้แม่เขาแล้วก็เดินออกมาจากบ้าน หลังจากนั้นปล่อยให้แม่ลูกจัดการอารมณ์ตัวเองไป แม่เฟิงหวงไม่ชอบฉัน ไม่ชอบด้วยเหตุผลอะไรไม่รู้ อาจจะเพราะฉันเป็นตัวเอง ตัวเองที่ไม่ปั้นหน้า ไม่สนใจใคร บางทีก็ไร้ความรู้สึก จึงทำให้ดูเหมือนหยิ่ง หรืออาจจะดูออกว่าฉันไม่มีความรักให้ลูกชายเธอ แล้วยังชอบทำให้ลูกชายเธอเจ็บตัวบ่อย ๆ คงเรื่องพวกนั้นมั้ง แต่เรื่องเจ็บตัวเฟิงหาเรื่องเองทั้งนั้นจะมาโทษฉันทั้งหมดได้ยังไง
“นี่โดนมันบังคับมาส่งที่นี่ใช่ไหม อย่างแกที่ตามติดมันยิ่งกว่าอะไรไม่มีทางห่างมันแน่ ๆ” ว่าที่ลูกสะใภ้ขับรถออกไปแม่ผัวก็เริ่มพูดอีกครั้งด้วยความโมโห
“อย่าเรียกนิแบบนั้นแม่”
“แม่จะว่ามากกว่านี้อีก จะโง่ไปถึงไหน คิดว่าแม่ไม่รู้เหรอว่าที่ลูกเจ็บเพราะอะไร” หลังจากที่สืบจนรู้สาเหตุที่ลูกต้องเข้าเฝือก หัวอกแม่คนที่รู้ว่าลูกเจ็บเพราะอะไรก็ยิ่งจงเกลียดจงชังว่าที่ลูกสะใภ้ที่ไม่น่าเอ็นดู
“ใคร ๆ ก็มีอารมณ์เดือดกันครับแม่ เฟิงผิดเองที่ท้านิ”
“ขนาดมันทำแกเจ็บจนอยู่สภาพนี้แกก็ยังโง่นะเฟิง มันไม่มีผู้หญิงอื่นให้รักแล้วหรือไง จะบ้าอะไรกับมันนัก”
“แล้วทำไมแม่ไม่เลิกกับพ่อ?” เฟิงหวงย้อนกลับพร้อมสายตาเรียบเฉยจ้องที่แม่ของเขา
“…”
“ว่าไงครับ ทั้งที่พ่อไม่รักแม่เลย ทำไมแม่ไม่เลิก ทนทำไมครับ”
“แกจะไปไหนจะทำอะไรก็เรื่องของแก ฉันไม่ยุ่งกับแกแล้ว เจ็บแล้วอย่าซมซานมาแล้วกัน” คุณหญิงเอื้องดาวเดินหนีลูกชาย พูดเรื่องว่าที่ลูกสะใภ้ทีไรได้ทะเลาะกันทุกที
“...” แล้วแบบนี้ไอ้เฟิงจะทำอะไรได้นอกจากยืนมองแม่เดินหายไป แม่ไม่คิดช่วยพยุงลูกชายเพียงคนเดียวเข้าบ้านด้วย ใจร้ายพอกันกับเมียไอ้เฟิง
แรก ๆ ก็นึกสนุกอยากแกล้ง แต่พออยู่ด้วยกันนานเข้าก็เริ่มเป็นความคุ้นชินที่ขาดซานิไม่ได้ ต้องคอยตามหวงตามหึงทั้งที่รู้ว่าอีกคนยังไงก็ไม่มีทางสนใจผู้ชายหน้าไหนก็ตาม
“ไอ้ขาเวร ไม่หายสักที” ก็ได้แต่บ่นให้ตัวเองที่ท้าทายอะไรไม่เข้าท่า เมียก็บ้ากล้าขับรถชนผัว รู้ว่าไม่รักแต่ไม่ห่วงกันบ้างเลยหรือไง อยากให้ผัวตายเหรอแล้วตอนนี้ยังเอาเขามาทิ้งอีก
ครืด ครืด…
“มีไร”
(ไม่ให้เพื่อนไปหา สวีทกับนิถึงไหนแล้ว)
“เอากูมาส่งบ้านแม่ สวีทไหมมึงว่า” คนกำลังโมโหโทรมาได้จังหวะพอดี
(อ่อ น่าสงสารเพื่อนจังครับ)
“นิแม่งไม่รักกูเลย”
(แล้วมึงรักนิหรือไง)
“กูแค่อยากสำคัญกับนิบ้าง”
(มึงอยากให้เพื่อนอย่างกูพูดตามความจริงไหมไอ้เฟิง)
“อะไร มึงจะว่ากูไม่รักนิเหรอ ไอ้เรื่องรัก ๆ อะไรเนี่ยนิพูดกับกูละ”
(มึงมันเด็กขาดความอบอุ่น ก็เลยเรียกร้องความสนใจโดยการเลือกใครสักคนมาไว้คอยแกล้ง บังเอิญคนที่มึงเลือกมาเป็นซานิที่ไม่เชื่อเรื่องความรัก ไม่สนใจอะไรที่ไร้สาระ มึงก็เลยเหนื่อยหน่อย เพราะเรียกร้องเท่าไหร่นิก็ไม่สนใจ)
“มึงอย่ามาบำบัดกู โทรมามีไร”
(หนึ่งเหตุผลที่กูเรียนจิตแพทย์ก็เพื่อมึงกับนิเลยนะ อนาคตคิดว่าชีวิตคู่พวกมึงน่าจะมีปัญหาแน่)
“ไอ้ธีร์ถ้าไม่มีอะไรก็ไปไกล ๆ กูจะนอน”
(มึงนอนหลับ?)
“ไม่ต้องยุ่งกับกู กูจะอยู่คนเดียว”
(น่าสงสารอีกแล้ว นี่นิจะมารับมึงตอนไหน)
“...” มันไม่ได้สงสาร ไม่ได้สงสารไอ้เฟิงคนนี้สักนิด ที่มันถามแค่อยากเสือกเรื่องเพื่อนไง
(ไอ้เฟิง)
“กูหายเมื่อไหร่ก็ตอนนั้น”
(อ่อ งั้นก็ขอให้เพื่อนชักว่าวจนมือหงิกไปนะครับ)
“ไอ้เพื่อนเหี้ย แค่นี้กูเกลียดพวกมึง”
ตายแน่ ๆ มีแบบพรุ่งนี้ตื่นมาแล้วหายเลยไหมวะ อยากเจอซานิ อยากอยู่ใกล้ ๆ ไม่อยากจะห่างโว้ย หรือจะหน้าด้านกลับไปที่คอนโดดี ปกติก็หน้าด้านตีเนียนบ่อย ๆ อยู่แล้ว