“งั้นเหรอ” ชายหนุ่มลากเสียงตอบ พร้อมทั้งขยับร่างเข้าใกล้ นำกระเป๋าที่แย่งมาวางไว้กรอบหน้าต่าง ริมฝีปากได้รูปกระตุกยิ้มเยือกเย็น ตาคมกริบจับจ้องไปยังดอกไม้คู่งามที่สะท้านขึ้นลงอย่างน่ามองและน่าลิ้มลอง เขาคาดว่ามันคงให้ความรู้สึกดีเหมือนได้ดื่มนมสดเลยเชียวแหละ แพรนภัสมองตามสายตาคู่คมแล้วรีบยกมือปิดอกอวบเกินตัวของตน ถลึงตาใส่จนได้รับรอยยิ้มบาดใจจากเขาจนตาหวานใสชักจะพร่ามัว พลางสาวเท้าถอยหลังพรืดอย่างระวัง แต่ช้ากว่ามือใหญ่ซึ่งคว้าหมับเข้าที่ต้นแขนของเธอ
“คุณ...คุณจะทำอะไร” หญิงสาวละล่ำละลักถามตาโต มองอย่างระแวดระวัง สะบัดแขนออกจากมือใหญ่แต่ไม่หลุด แถมผู้ชายบ้าแต่ดูดียังใช้ความสงบนิ่งและยิ้มเย็นทำให้เธอชักหวาดกลัว
“นี่! ปล่อยฉันนะ” เสียงแหลมเล็กสั่งเพราะอดทนกับท่าทีคุกคามด้วยความนิ่งเฉยของเขาไม่ไหวอีกต่อไป เธอใช้มืออีกข้างข่วน หยิกไปตามท่อนแขนกำยำ พร้อมเสียงสบถของเขา
“หยุดนะ! แล้วอย่าหาว่าไม่เตือน” เขาขู่เสียงห้วนและเจ็บไม่น้อยตรงรอยโดนข่วนก่อนรวบมือเล็กของหญิงสาวเอาไว้
“จะ...จะทำอะไรฉัน” แพรนภัสเอ่ยถามปากคอเริ่มสั่น เริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าตัวเองจะหนีรอดได้ไหม แข้งขาทำไมมันพานอ่อนเปลี้ยแบบนี้ล่ะ ใจก็ไม่กล้าคิดภาวนาขอให้เทพบุตรมาช่วยอีกเพราะกลัวเจอแบบผู้ชายบ้าๆ คนนี้
“แล้วคิดว่าผมจะทำอะไรล่ะ” เขาโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ แพรนภัสหลับตาปี๋แล้วเอียงหน้าหลบลมหายใจอุ่นที่แนบชิดลงมา ริมฝีปากบางเม้มแน่น เธอไม่มีวันเสียจูบแรกให้ไอ้โจรบ้าแน่ๆ แต่ไม่ทันได้ปกป้องริมฝีปากตัวเอง เขาก็กดเรียวปากเข้ามาครอบครองริมฝีปากหวานของเธอทันที เพียงเสี้ยวนาทีต่อมาบวกกับประสบการณ์ที่มากกว่าทำให้หนุ่มหล่อตักตวงหาน้ำหวานจากเรียวปากจิ้มลิ้มได้สมใจ จวบจนร่างสาวเริ่มจะระทวยเพราะไม่เคยถูกจู่โจมแบบถึงเนื้อถึงตัวเช่นนี้มาก่อน
“อื้อ...” เสียงหวานครางประท้วงอยู่ในลำคอ เมื่อจู่โจมแบบไม่ยอมปล่อยง่ายๆ อีกทั้งมือใหญ่ยังกดรั้งท้ายทอยของหญิงสาวไว้มั่น บดเคล้ารสจูบจนกลีบปากหวานเริ่มแดงช้ำ
“ถึงกับระทวยเลยหรือไงสาวน้อย” ชายหนุ่มกระซิบเสียงเย็นหลังละริมฝีปากห่าง เผยยิ้มพอใจกับปฏิกิริยาโต้ตอบของหญิงสาวไม่น้อย ก่อนประทับจุมพิตดุดันลงโทษหญิงสาวให้สาสมอีกครั้งที่เธอมีตาหามีแววไม่ คิดมาปรักปรำว่าทายาทของตระกูลกัลลาสเป็นจอมโจรได้ยังไงกัน ยายหัวขโมยตัวแสบ
แพรนภัสยกกำปั้นกระหน่ำรัวไม่ยั้งบนแผงอกกว้าง แล้วต้องสะดุ้งเมื่อริมฝีปากจอมฉกฉวยเลื่อนไปแตะซอกคอขาวเนียน ปากร้อนรุ่มดูดเม้มจนเกิดเป็นร่องรอยฝากรัก หญิงสาวยืนนิ่งเป็นหุ่นชั่วครู่กับการถูกจู่โจมถึงเนื้อถึงตัว เธอไม่ได้แค่เสียจูบแรกเท่านั้น ผู้ชายคนนี้ยังหน้าด้าน สำรวจร่างกายเธออย่างจวบจ้วง
“ชอบจูบผมหรือไง ถึงกับอึ้งไปเลย” กล่าวจบชายหนุ่มก็กดปากร้อนๆ เม้มฝากรอยแดงทั่วซอกคอหอมกรุ่นของหญิงสาว ปากลิ้นก็พลิกพลิ้วจนกายสาวที่ไม่เคยต้องมือชายสั่นสะท้านด้วยความวาบหวิว
“ยะ...อย่า พอแล้ว อย่าทำฉัน” หญิงสาวร้องห้ามปากคอสั่นๆ ตาหวานใสเบิกกว้างเมื่อเขาใช้ฟันขาวขบเม้มใบหูนุ่มของเธอ พร้อมด้วยเสียงหวีดร้องของแพรนภัส เธอไม่ชอบเลยหากใครจะมาสัมผัสในส่วนนี้ มือไม้ของหญิงสาวทั้งผลักทั้งทุบและอีกสารพัดที่มือพอทำได้ ขอเพียงให้เขาหยุด แต่ทว่ายิ่งรู้จุดอ่อน วิลเลียมก็ยิ่งรุกเร้าให้มากขึ้น คนสาแก่ใจที่ได้กลั่นแกล้งแม่หัวขโมยหน้าหวานก็ละใบหน้าหล่อมาสบตาแล้วเผยรอยยิ้มอย่างสุขใจ
“ไอ้บ้า! ปละ... ” พูดได้เท่านั้นริมฝีปากร้อนรุ่มก็ประกบบดเบียดปิดกั้นเสียงห้ามปรามลงสู่ลำคอหนาจนหมดสิ้น จนเมื่ออิ่มเอมกับรสหวานจากริมฝีปากเล็กน่ารักชายหนุ่มจึงยอมละห่างอย่างเสียดาย แพรนภัสได้แต่ยืนหอบ พยายามสูดเอาอากาศเข้าปอดให้ได้มากที่สุด รวบรวมพละกำลังเพื่อให้ตัวเองยืนหยัดและหาทางเอาคืนผู้ชายฉวยโอกาสคนนี้ เขากล้าดียังไงมาแตะเนื้อต้องตัวเธอ แต่ทำไมใจมันเต้นตึกตักรุนแรงแบบนี้นะ ยกมือถูไถร่องรอยประทับจูบอย่างขัดเคือง
“จูบไม่เป็นสับปะรดเอาซะเลยนะ สาวน้อย” เสียงทุ้มกล่าวเยาะเย้ยแต่ความไม่เป็นสับปะรดของเธอกลับทำให้เขาชักอย่างรุกเร้าและอยากเอาตัวเธอมาเป็นของเขาเสียจริง ดูท่าคงยังบริสุทธิ์ผุดผ่องอยู่อีกด้วย
เผียะ!
ฝ่ามือของแพรนภัสสะบัดลงบนใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่มเต็มแรง ก่อนที่เขาจะหันกลับมาอย่างช้าๆ วิลเลียมตกใจไม่น้อยที่แค่จูบผู้หญิงถึงกับโดนตบและไม่เคยมีใครกล้าทำกับเขาเช่นนี้เลย
‘ให้ตายเถอะ เธอบังอาจเกินไปแล้ว สาวน้อย’ วิลเลียมคิดคาดโทษหญิงสาว ด้วยใบหน้าเครียดขึง ทว่ายังไม่ทันลงมือทำอะไรใบหน้าของเขาก็ต้องหันไปมาตามแรงตบที่สะบัดใส่ไม่ยั้ง คนถูกตบถึงกับมึนและอึ้งไปชั่วขณะ
“ไอ้โจรบ้า ลามก ไปตายซะ ไป๊!” แพรนภัสตะโกนด่าลั่นออกแรงผลักผู้ชายร่างใหญ่ที่บังอาจมาเอาจูบแรกของเธอไปแล้วรีบวิ่งตรงไปยังประตูแบบไม่เหลียวหลัง ทั้งโกรธทั้งอายทั้งอยากแก้แค้น แต่ต้องพาตนเองออกไปจากที่นี่เสียก่อน เธอขอสาบานหากเจอผู้ชายบ้ากามคนนี้อีกจะต้องเอาจูบแรกของเธอคืนให้ได้ ตบแค่ไม่กี่ครั้งยังไม่สาแก่ใจเธอหรอก
ส่วนคนที่ยังมึนเพราะโดนตบจนหน้าสะบัด รีบคว้ากระเป๋าแล้ววิ่งตามไปหวังจับแม่หัวขโมยมาลงโทษให้หลาบจำ ‘มันน่าจับไปขังลืมที่เกาะเสียจริง เธอกล้าดียังไงมาตบหน้าเขาแล้วชิ่งหนีไปแบบนี้’ แต่ร่างของแพรนภัสก็หายไปกับความมืดมิด ตาคมกริบกวาดมองรอบๆ แต่ไม่พบวิลเลียมจึงได้แต่ยืนสบถอย่างหัวเสีย แต่อย่าให้เจออีกก็แล้วกันเธอไม่ได้แค่จูบแน่ แม่หัวขโมย!