ริคคาโด้กับเอริกพากันมานั่งบนรถตู้พร้อมกับหนูน้อยโรซี่ โดยมีนายพัชรตาของเด็กหญิงเป็นสารถี รถเคลื่อนตัวออกจากท่าเรือไปตามถนนของหมู่บ้าน เมืองเซริตาน่าเป็นเมืองท่องเที่ยวจึงมีร้านค้าและโรงแรม ตลอดจนรีสอร์ทและร้านอาหารหลายแห่ง แต่ทางเมืองควบคุมไม่ให้หนาแน่นเกินไป โฮมสเตย์ของอลิชาอยู่ไม่ไกลจากท่าเรือ ใช้เวลาเดินทางเพียงไม่กี่นาที ระหว่างทางผ่านรีสอร์ทที่เอริกได้จองที่พักไว้ให้เจ้านาย เขาจึงขอให้นายพัชรหยุดรถเพื่อเข้าไปจัดการยกเลิก และต้องเรียกบอดีการ์ดที่ส่งมาดูแล ให้ตามไปอารักขาเจ้านายยังที่พักแห่งใหม่ด้วย
“จอดตรงนี้ด้วยครับ คุณท่านครับผมขอไปจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย แล้วจะตามท่านไปนะครับ”
เอริกหันมาบอกผู้เป็นนาย ก่อนจะพาตัวเองลงจากรถไป ปล่อยให้ริคคาโด้เดินทางต่อไปพร้อมแม่หนูและตา
“เมื่อกี้หนูเก่งมาก ที่ไม่ยอมให้เจ้าเด็กสองคนนั่นรังแก” ริคคาโด้ชวนแม่หนูคุย
“แม่ลิชสอนโรซี่ว่า อย่าไปทำร้ายคนอื่นแต่อย่ายอมให้ใครรังแก การเป็นคนดีไม่ใช่การเป็นคนอ่อนแอ โรซี่เลยต้องสู้ค่ะ”
หนูน้อยจดจำทุกคำสอนของมารดา เชื่อฟังและทำตาม ปรารถนาจะเป็นลูกสาวที่ผู้เป็นแม่ภูมิใจ
“แม่ของหนูเป็นผู้หญิงน่าทึ่งจริงๆ แล้วคุณพ่อของหนูล่ะ เป็นยังไงบ้าง”
ริคคาโด้เอ่ยถามถึงพ่อแม่หนู เมื่อครู่เขาได้ยินเด็กชายสองคนนั้น ล้อเลียนว่าโรซี่น้อยไม่มีพ่อ จึงอยากรู้ความจริง
“พ่อไม่ได้อยู่กับโรซี่ค่ะ แม่บอกว่าพ่ออยู่ไกลมาก วันหนึ่งพ่อจะมาหาโรซี่”
เด็กหญิงบอกเล่าถึงบิดาด้วยน้ำเสียงสดใส แม้จะรอคอยการมาของพ่อนานมาก พ่อก็ไม่มาสักที แม่หนูมองหน้าคนถามเห็นนัยน์ตาของอีกฝ่ายสีเดียวกับตนเองก็จ้องมองเพลิน ในใจแอบคิดว่าถ้าเขาเป็นพ่อของเธอก็คงจะดี เขาเป็นฮีโร่เข้ามาช่วยปกป้องเธอ ท่าทางยังใจดี ดูอบอุ่น ชวนให้อยากพูดคุยด้วย มีแรงดึงดูดบางอย่างที่โรซี่น้อยไม่เข้าใจ ทำให้แม่หนูอยากอยู่ใกล้ๆ กับผู้ชายที่เธอเพิ่งพบหน้าคนนี้
“โรซี่ยังไม่รู้จักชื่อของคุณลุงเลยค่ะ” แม่หนูเอ่ยถาม
“ลุงชื่อริคคาโด้ เรียกว่าลุงริคกี้ก็ได้นะ หลานของลุงก็เรียกลุงแบบนี้”
ริคคาโด้มีหลานคนหนึ่งซึ่งเป็นลูกของราฟาเอล หลานของเขาเรียกเขาว่าคุณลุงริคกี้ ทำให้เขาเคยชินกับการถูกเด็กเล็กๆ เรียกว่าลุง ทั้งที่เขาเพิ่งอายุสามสิบห้าปี
“ลุงริคกี้ หนูชื่อ โรสิตา หรือโรซี่ค่ะ ใครๆ ก็เรียกหนูว่าโรซี่น้อย”
โรซี่น้อยบอกชื่อของตัวเองให้อีกฝ่ายรับรู้ แม่หนูน้อยมีชื่อจริงว่า โรสิตา กิตติอำไพ แต่ผู้คนต่างเรียกเธอด้วยความเอ็นดูว่า โรซี่น้อย จนเรียกกันติดปาก
“โรซี่น้อย ลุงขอเรียกหนูแบบนี้นะ”
ริคคาโด้บอก ขณะยื่นมือมาลูบศีรษะแม่หนูด้วยความเอ็นดู เขามีลูกชายอายุเท่าๆ กับแม่หนู แต่ลูกชายของเขาถูกเลี้ยงดูจากคนเป็นปู่และครอบครัวของน้องชาย เดือนหนึ่งเขาแวะไปหาลูกเพียงสองครั้ง จึงทำให้ไม่ค่อยมีเวลาได้อยู่ใกล้ชิดกันมากนัก เขารักลูกแต่ไม่ได้เอาใจใส่แกมากเท่าที่พ่อคนหนึ่งจะทำ มาเฟียหนุ่มเริ่มรู้สึกว่าเขาละเลยหน้าที่พ่อที่ดีต่อลูกมานานเหลือเกิน บางทีกลับบ้านคราวนี้เขาจะไปพักที่บ้านของผู้เป็นปู่สักพัก ลูกคงจะดีใจ
“ถึงแล้วครับ เชิญครับ ไฮบิสคัสบีช โฮมสเตย์ ยินดีต้อนรับครับ”
นายพัชรจอดรถตรงหน้าร้านอาหาร เขาเปิดประตูให้แขกผู้มาเยือนได้ลงไป ริคคาโด้เดินลงมายืนข้างรถ ก่อนจะยื่นมือไปอุ้มแม่หนูน้อยไว้
“ผมจะไปรอด้านในนะครับ เดี๋ยวเอริกจะมาจัดการทุกอย่างเอง”
เขาพาหนูน้อยเดินเข้าไปในร้านอาหาร ท่ามกลางสายตาแปลกใจของนายพัชร ปกติโรซี่ไม่เคยสนิทสนมกับผู้ชายคนไหนจนยอมให้อุ้ม แต่ผู้ชายคนนี้กับทำให้หลานสาวของเขาเปิดใจ
“ท่าทางโรซี่น้อยของตา จะชอบพ่อหนุ่มคนนี้จริงๆ”
คนเป็นตามองตามทั้งสองด้วยรอยยิ้ม ไม่รู้ว่าอลิชาจะคิดยังไง ตอนได้เห็นโรซี่น้อยกับผู้ชายคนนั้น
“แม่ลิชขา...” โรซี่น้อยตะโกนเรียกมารดาเสียงแจ้ว
ทำให้อลิชาที่กำลังง่วนอยู่หลังเคาน์เตอร์เงยหน้าขึ้นมอง ก่อนจะขมวดคิ้วเมื่อพบว่าลูกสาวถูกผู้ชายคนหนึ่งอุ้มไว้ ผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ใบหน้าคมคาย ดวงตาของเขาเข้มดุจนทำให้เธอรู้สึกแปลกๆ โรซี่ไปรู้จักผู้ชายคนนี้ได้อย่างไร สนิทสนมจนยอมให้เขาอุ้ม ผิดวิสัยของแกมาก
“โรซี่ หนูบาดเจ็บหรือเปล่าคะ ทำไมไม่เดินมาหาแม่”
คนเป็นแม่เดินมาหาลูกสาวทันที จับขาลูกสำรวจหาร่องรอยบาดเจ็บ ไม่ได้สนใจผู้ชายตัวโตหน้าคมเข้มที่ยืนอยู่สักนิด ทำเอาริคคาโด้รู้สึกเก้อ ปกติผู้หญิงคนไหนพบเจอเขา มักจะมีท่าทีสนใจและหาทางทอดสะพานให้ แต่แม่ของหนูน้อยโรซี่ กลับมองเขาเหมือนมองตอไม้ตอหนึ่ง มันทำคนที่เชื่อมั่นในตัวเองสูงเกิดสะดุดใจขึ้นมา เขาลอบมองใบหน้าของแม่เด็กหญิง เธอเป็นสาวลูกครึ่งไทยหน้าตาสวยน่ารัก หากไม่แต่งหน้าจัดจ้านต่างจากผู้หญิงสาวสวยที่เขาเคยพบ ความงามของเธอเป็นธรรมชาติชวนให้เย็นตาเย็นใจยามทอดมอง หัวใจของมาเฟียหนุ่มวูบโหวงขึ้นมาอย่างแปลกๆ อยากทำความรู้จักแม่ของหนูน้อยขึ้นมา
“โรซี่สบายดีค่ะแม่ลิช ลุงริคกี้เขาจะมาเป็นลูกค้าของเราค่ะ ลุงริคกี้คะนี่แม่ลิชแม่ของโรซี่”
แม่หนูรีบบอกมารดาว่าเธอปลอดภัยดี ก่อนจะแนะนำคุณลุงใจดีให้รู้จักกับมารดา
“ยินดีต้อนรับค่ะคุณริคกี้ โรซี่หนูหิวรึเปล่าคะลูก แม่จะทำข้าวผัดให้นะ”
อลิชาทักทายตอบตามมารยาท เธอสบตาคมกริบที่จ้องมองมาหัวใจกระตุกเล็กน้อย ผู้ชายคนนี้มีเสน่ห์อย่างเหลือร้าย หากเป็นผู้หญิงคนอื่นคงมีเข่าอ่อน แต่อลิชากลับไม่ใส่ใจ หญิงสาวหันไปถามลูกสาว แทนการสนใจผู้ชายมากเสน่ห์คนนี้
“หิวมากๆ ค่ะ แม่ลิชขาทำข้าวผัดให้ลุงริคกี้ด้วยนะคะ ลุงริคกี้ก็หิวเหมือนกัน ใช่ไหมคะ”
แม่หนูน้อยร้องขอให้มารดาทำอาหารจานโปรด เผื่อคุณลุงใจดีของแกด้วย นั่นทำให้อลิชาแปลกใจเป็นคำรบที่สอง ลูกสาวของเธอดูเหมือนจะติดใจลุงริคกี้จนเกินเหตุ อะไรทำให้โรซี่น้อยชอบผู้ชายท่าทางดุดันคนนี้
"ได้จ้า โรซี่พาคุณลุงไปนั่งรอแม่ที่ตรงโน้นนะคะ เดี๋ยวแม่ทำข้าวผัดไปให้”
อลิชาบอกลูกสาวให้พาริคคาโด้ไปหาที่นั่ง ตัวเธอเดินเข้าไปในครัว จัดการทำข้าวผัดสับปะรดใส่กุ้งมาสองจาน และนำมะพร้าวสองลูกมาด้วย หญิงสาวมองผ่านช่องหน้าต่างไปยังโต๊ะที่โรซี่กับชายหนุ่มคนนั้นนั่งอยู่ แม่หนูกำลังพูดคุยกับเขาอย่างร่าเริง อลิชามองดูอยู่ครู่หนึ่งจึงยกอาหารไปให้ทั้งสอง
“ลุงริคกี้ลองกินดูสิคะ แม่ลิชทำข้าวผัดอร่อยที่สุดในโลก”
แม่หนูชวนชิม แถมยังชมแม่ตัวเองจนคนฟังยิ้มขำ เขามองหน้าแม่ลิชของโรซี่น้อยพบว่าหญิงสาวทำหน้านิ่งขรึม เหมือนกำลังคุ่นคิดอะไรบางอย่าง สายตาที่มองเขามีความระแวงราวกับแม่เสือหวงลูก นี่เจ้าหล่อนคงไม่คิดว่าเขากำลังคิดไม่ดีกับลูกน้อยของเธอหรอกนะ มาเฟียหนุ่มจำต้องหันมาสนใจอาหารตรงหน้า
“อืม อร่อยจริงๆ ด้วย รสชาติคล้ายแม่ของลุงทำเลย”
ริคคาโด้ตักข้าวผัดเข้าปากไปคำหนึ่ง ก็เอ่ยปากชม รสชาติฝีมือของแม่หนูน้อย คล้ายกับที่มารดาเขาเคยทำให้รับประทานแทบไม่ผิดเพี้ยน นั่นทำให้เขาเพิ่มความสนใจแม่ของหนูน้อยยิ่งกว่าเดิม อลิชาทำอาหารได้รสชาติคล้ายมารดาของเขา แล้วนิสัยของเธอจะคล้ายท่านหรือเปล่า นั่นเป็นสิ่งที่เขาอยากรู้