ยี่สิบห้านาทีต่อมา... Orianna Condo
หลังจากรถจอดสนิท คนที่เตรียมจะชิ่งก็รีบเปิดประตูรถออกแล้ววิ่งตรงไปยังประตูทางเข้าคอนโดทันทีทันใด
“อลิซ!” ปริณร้องเสียงหลงอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาว่าตนจะถูกสาวเจ้าหลอก
“ขอบคุณนะคะที่มาส่ง” อลิชาวิ่งไปจนถึงประตูทางเข้า แล้วหันกลับไปตะโกนบอกอีกฝ่ายด้วยสีหน้าขบขัน
“อลิซ!”เขาตะโกนเรียกด้วยน้ำเสียงบึ้งตึง ‘หึ...ได้ เดี๋ยวจะรู้กันว่าใครเป็นใคร!’ ปริณลงจากรถรีบเดินแกมวิ่งตามเข้าไปติดๆ
หน้าล็อบบี...
“พี่ป้อง ไปไงมาไงครับ” จอห์น...เจ้าของวีคอนโดเอ่ยทักทายพร้อมกับยกมือไหว้พันเอกปริณ พี่ชายของเพื่อนรักด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“จอห์น” ปริณยกมือขึ้นรับไหว้ก่อนจะยิ้มบางๆ ให้อีกฝ่ายที่เคยไปดื่มด้วยกันบ่อยๆ
“รียาอยู่ที่ห้องของอลิซเหรอครับ?” จอห์นถามอย่างสงสัย คิดว่า อีกฝ่ายมารับน้องสาว
“เอ่อ...รียากำลังจะตามมา เราช่วยพาพี่ขึ้นไปรอที่ห้องอลิซทีได้ไหม พอดีพี่มีเรื่องสำคัญจะต้องคุยกับอลิซก่อนที่รียาจะมาถึงน่ะ”
“ได้ครับ เชิญที่ลิฟต์ทางนั้นเลย” จอห์นบอกพร้อมกับเดินนำทาง ไปยังลิฟต์ส่วนตัว
ห้านาทีต่อมา...
ก๊อกๆ ก๊อกๆ
คนที่กำลังแก้ผ้าออกเตรียมจะอาบน้ำได้ยินเสียงที่ประตูห้องดังขึ้นก็ถึงกับผวา ‘บ้าจริง! หรือว่ายามปล่อยให้พี่ป้องขึ้นมา’
อลิชารีบหยิบเสื้อคลุมขึ้นมาสวม ก่อนจะเดินไปที่ประตู แล้วส่องดูที่ตาแมวด้วยหัวใจสั่นๆ
“อลิซ! แกอยู่ไหม เปิดประตูให้ฉันหน่อย” จอห์นบอกหลังจากที่ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินเข้ามาใกล้ประตู
“จอห์น!” อลิชาถอนหายใจอย่างโล่งอกที่รู้ว่าไม่ใช่ปริณ จึงรีบเปิดประตูให้เพื่อนรัก
“หล่อนคิดว่าเป็นหนุ่มคนไหนล่ะ?” จอห์นกลอกตากับอาการของเพื่อนสาว
“บ้า! ตกใจหมดเลย” อลิชาต่อว่า ก่อนจะตกใจเมื่อเห็นใครบางคนยืนซ้อนอยู่ด้านหลังของเพื่อน
“ไง...อลิซ” ปริณยิ้มให้คนที่กำลังเบิกตากว้างอย่างขำๆ
“พะ...พี่ป้อง!” อลิชาสั่นขึ้นมาทันทีทันใดเมื่อเห็นอีกฝ่ายส่งยิ้มที่เคลือบอาบยาพิษมาให้
“ใช่พี่เอง” ปริณจ้องมองเรือนร่างบอบบางในชุดเสื้อคลุมด้วยสายตาแวววาว
“พี่ป้องครับ ผมขอตัวก่อนนะครับพี่ พอดีต้องรีบเอาของไปให้เพื่อน” จอห์นรีบบอกเมื่อเห็นข้อความไลน์เด้งขึ้นมาบนหน้าจอมือถือ
“โอเค ขอบใจมากจอห์น” ปริณหันไปพยักหน้าให้เบาๆ
“ดะ...เดี๋ยวจอห์น นี่แกจะทิ้งฉันให้อยู่กับพี่ป้องงั้นเหรอ?” อลิชาถามเพื่อนรักด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ
“แกมีปัญหางั้นเหรอ? เดี๋ยวรียาก็ตามมาแล้วนี่” จอห์นถามก่อนจะยกนาฬิกาขึ้นมาอีกครั้ง
“รีบไปเถอะจอห์น” ปริณบอกราวกับเข้าใจ
“ไว้เจอกันครับพี่ป้อง” จอห์นยกมือไหว้ ก่อนจะรีบเดินตรงไปที่ลิฟต์ โดยไม่ได้หันมองใบหน้าของเพื่อนสาวแต่อย่างใด
“พะ...พี่ป้องหลอกจอห์นให้พามา” อลิชาต่อว่าคนเจ้าเล่ห์
“ใช่!” ปริณบอกก่อนจะดันร่างบางเข้าไปด้านในห้อง แล้วรีบกดล็อกประตู
“หนูจะโทรหารียา” อลิชารีบเดินตรงไปหามือถือที่วางหน้ากระจกในห้องนอนด้วยสีหน้าตื่นๆ
“พี่บอกแล้วไง...ว่าเราจะคุยกัน” ปริณบอกพร้อมกับดันประตูห้องนอนที่สาวเจ้ากำลังจะปิด ดันเข้าไปด้านใน
“เรื่องอะไร?” อลิชาถามก่อนจะขยับหนีไปอยู่อีกมุมของห้องอย่างไม่ไว้ใจสายตาที่มองมา
“หลายเรื่อง” ปริณบอกพร้อมกับนั่งลงบนเตียงสีชมพูหวานของสาวเจ้าด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“พรุ่งนี้ค่อยคุยได้ไหมคะ นะ...หนูง่วงแล้ว” เธอทั้งกลัวทั้งใจสั่นกับท่าทีของอีกฝ่าย
“งั้นก็มานอนคุยกันที่เตียงสิ” ปริณบอกพลางตบที่หมอนหนุนเบาๆ สองสามทีอย่างเชิญชวน
“บ้า! พี่ป้องเป็นบ้าอะไรเนี่ย” คนที่กลัวจนแทบจะสติแตกต่อว่าด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด
“เราไม่รู้จริงๆ เหรอ ว่าพี่เป็นอะไร?” ปริณถามพลางจ้องมองใบหน้างามอย่างสื่อความหมาย
“มะ...ไม่ค่ะ”
“หึ เรารู้ดี เชื่อสิ” ปริณเอ่ยย้ำพร้อมกับยกยิ้มที่มุมปากนิดๆ
“หนูไม่รู้” อลิชาปฏิเสธเสียงแข็ง พลางคิดหาทางหนีอีกฝ่าย
“งั้นหนูก็รู้ไว้...ว่าพี่ชอบ” ปริณบอกพลางขยิบตาส่งให้
“ชะ...ชอบอะไร?” อลิชาถามขณะที่หัวใจเต้นแทบไม่เป็นจังหวะ
“ก็ชอบเราไง” ปริณบอกพร้อมกับลุกจากเตียง
“แต่หนูไม่ได้ชอบพี่ป้อง” อลิชาตอบก่อนจะรีบวิ่งไปที่ประตูห้องนอน แต่ก็ถูกอีกฝ่ายคว้าแขนแล้วดึงเข้ามากอดจากด้านหลัง
“พี่ดูออกว่าเราชอบพี่” ปริณก้มลงกระซิบพลางสูดดมกลิ่นหอมอ่อนๆ จากตัวของสาวเจ้าอย่างห้ามใจไม่อยู่
“ไม่จริง! หนูไม่ได้ชอบพี่ป้อง” อลิชาบอกพร้อมกับพยายามแกะมือหนาออกจากเอว
“หึๆ แต่สายตาของเราไม่ได้บอกพี่อย่างนั้นนะ” ปริณหัวเราะในลำคอเบาๆ เมื่อสาวเจ้ามีอาการดิ้นพล่าน
“พอเถอะ! พี่ป้องอย่ามาพูดจาแบบนี้ ตัวเองมีคนรักอยู่แล้วพี่ไม่กลัวคุณมิ้งจะเสียใจเลยหรือไงฮะ” อลิชาตวาด เพราะหลายเดือนก่อนตอนวันปาร์ตี้วันเกิดของมารียา เธอกำลังเดินไปเข้าห้องน้ำ แต่อยู่ๆ ก็ถูกปริณลากไปจูบ เธอตกใจมากรีบผลักเขาออก แล้ววิ่งหนีออกไปอยู่กับกลุ่มเพื่อนๆ จากนั้นเธอก็คอยหลบหน้าหลบตาเขามาตลอด
“มิ้งไม่ใช่คนรัก เธอเป็นคู่ขา เราคบกันภายใต้เงื่อนไข พี่จ่ายค่าตอบแทนให้เธอ เหมือนนายจ้างกับลูกจ้าง” ปริณบอกราวกับไม่ใช่เรื่องใหญ่โตที่จะต้องใส่ใจ
“เป็นคำพูดที่เห็นแก่ตัวที่สุดที่หนูเคยได้ยินมาเลย” เธอบอกอย่างรู้สึกรับไม่ได้
“เราจะคิดยังไงก็แล้วแต่ แต่วิธีนี้คือทางออกที่ดีแล้ว เชื่อสิ”
“งั้นเราก็ไม่มีเรื่องต้องคุยกันอีก”
“ตั้งแต่ที่จูบกับเราเมื่อสามเดือนก่อน พี่ก็ไม่ได้ยุ่งกับมิ้งอีกเลย แล้ววันนี้พี่ก็ตั้งใจจะบอกยกเลิกข้อตกลงต่างๆ แต่ก็มาเจอเราเข้าซะก่อน” ปริณบอกสิ่งที่อยู่ในใจ
“ไม่จริง!” อลิชาส่ายหน้าอย่างไม่เชื่อในคำพูดของอีกฝ่าย ‘ผู้ชายนี่เห็นแก่ตัวทุกคนสินะ!’
“จริง พี่อยากจะคบกับเราแบบคนรัก” ปริณเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงอบอุ่น เพราะเขาเอาแต่วาดฝันถึงอนาคตที่มีร่วมกับสาวในอ้อมกอดมานาน ตั้งแต่ที่เธอเรียนอยู่ปีหนึ่ง
“แต่หนูไม่อยากคบกับคนที่มีอายุเยอะกว่า” อลิชาบอกเสียงแข็งไม่อยากเกี่ยวข้องกับชายหนุ่มไปเกินกว่า ‘คนรู้จัก’ ที่เป็นพี่ชายของเพื่อน
“อลิซ!” ปริณหน้าตึงขึ้นมาทันใดกับคำว่า อายุเยอะกว่า...
“ก็มันจริงนี่ พี่ป้องแก่กว่าหนูตั้งสิบเอ็ดปีแน่ะ” สาวเจ้าเถียงต่ออย่างไม่ยอม
“อลิซ! มันแค่สิบเอ็ดปีเอง” ปริณเอ่ยเตือนเสียงเย็น ทั้งที่ภายในใจกำลังเดือดพล่าน อยากจะจับร่างบางอ้อนแอ้นกดลงบนเตียงแล้วทำการเผด็จศึกซะให้รู้แล้วรู้รอด
“หนูไม่อยากมีแฟนที่อายุน้อยกว่าพ่อของตัวเองสิบสองปี” อลิชาหยิบยกเหตุผลอีกข้อขึ้นมาอ้าง
“ให้ตายเถอะ หยุดพูดจาทำร้ายความรู้สึกของพี่สักที!” ปริณโกรธจนหน้าแดงก่ำ เมื่อสาวเจ้าไม่หยุดเอ่ยถ้อยคำแสลงหู
“หนูพูดเรื่องจริงต่างหาก อ๊ะ! อื้อ...”
ปริณก้มลงบดขยี้จูบริมฝีปากจิ้มลิ้มอย่างไม่เปิดโอกาสให้สาวเจ้าได้เอื้อนเอ่ยประโยคใดๆ ต่อ
“อืม...” อลิชาดิ้นต่อต้านได้เพียงครู่ก็คล้อยตามอย่างหลงลืมตัว
ปริณยิ้มกริ่มในใจ ก่อนจะลูบไล้ไปทั่วทั้งเรือนร่างบอบบางที่เขาเฝ้าแต่ถวิลหาในทุกๆ ค่ำคืน
“อ๊ะ...พะ...พี่ป้อง จะ...จะทำอะไรหนู” อลิชาถามเสียงสั่นหลังจากที่เขาถอนจูบที่ยาวนานออกและวางเธอลงบนเตียง
“พิสูจน์ความแก่ไง!” ปริณบอกด้วยสายตากรุ้มกริ่ม ก่อนจะรีบขึ้นไปคร่อมทับร่างบางเอาไว้ไม่ให้ดิ้นหนี
“ไม่เอานะ ยะ...อย่าเล่นบ้าๆ สิ” อลิชาบอกพลางหลบสายตา ที่มองจ้องมาซะจนทำให้เธอรู้สึกกลัว
“ไม่ได้เล่น! พี่เอาจริง” ปริณก้มลงหอมแก้มนวลที่กำลังแดงปลั่งนั้นอย่างอดใจไม่ไหว
“พี่ป้อง!” อลิชาต่อว่าขณะที่หัวใจเต้นสั่นระรัวกับสัมผัสของชายที่เธอแอบหลงรักตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอหน้า
“เราหลบหน้าพี่ทำไม...อยากให้พี่ขาดใจตายหรือไง หืม...”
“มะ...ไม่ได้หลบสักหน่อย” อลิชาบอกพร้อมกับพยายามผลักใบหน้าของอีกฝ่ายให้ออกห่าง
“อลิซ...อย่าขัดใจพี่” ปริณบอกก่อนจะก้มหน้าลงซุกไซ้ที่ซอกคอระหง ขณะที่ความต้องการเริ่มทวีคูณขึ้นเรื่อยๆ
“พี่ป้อง!” อลิชาร้องเสียงหลงเมื่ออีกฝ่ายกระตุกเชือกของเสื้อคลุมออก เผยให้เห็นหน้าอกและเรือนร่างที่เปลือยเปล่าของเธอ
“ว้าว!” ปริณมองดอกบัวขนาดเกินตัวของสาวเจ้าอย่างตกตะลึงในความงดงาม
“กรี๊ดดด พะ...พี่ป้อง ยะ...อย่านะ!” อลิชาร้องห้ามเสียงดังเมื่อเห็นชายหนุ่มก้มลงดูดกลืนปลายถันสีแดงอมส้มของเธอ
“อืม...หวานจัง” ปริณครางเบาๆ พร้อมกับรวบข้อมือบางที่ทั้งผลักทั้งทุบหัวของเขาอย่างไม่เกรงใจอายุ เอาไว้เหนือศีรษะ
“อ๊ะ...อื้อ...อะ...อะ...” อลิชามองการกระทำของเขาได้เพียงครู่ ก่อนจะหลับตาลงอย่างรู้สึกอายและเสียวซ่านอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“อืม...” ปริณดูดกลืนและหยอกล้อดอกบัวงามทั้งสองข้างสลับกันไปมาอย่างเมามัน ก่อนจะแอบยิ้มในใจที่ได้ยินเสียงครวญครางของสาวเจ้า
“พะ...พี่ป้อง” อลิชาลืมตาขึ้นมองใบหน้าคนที่กำลังปลุกเร้าอารมณ์ของเธอด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป
“ว่าไงคะคนดี” ปริณเงยหน้าขึ้นมอง พร้อมกับปล่อยมือบางให้เป็นอิสระ
“พี่รู้ตัวไหมว่ากำลังทำอะไรอยู่?” เธอถามขณะจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาคมคายของเขาอย่างค้นหา
“รู้สิ พี่รู้ดีว่าเรากำลังจะสร้างอนาคตร่วมกัน” ปริณมอบจูบอ่อนโยนให้กับคนที่กำลังจะเอื้อนเอ่ยคำถาม
“อะ...อืม...” อลิชาหูอื้อตาลายไปชั่วขณะกับสัมผัสที่วาบหวาม และลิ้นอุ่นๆ ที่กำลังร่ายมนตร์ให้เธอเคลิบเคลิ้มไปอย่างหลงลืมตัว
เขาถอนจูบออกแล้วซุกไซ้ต้นคอระหง ลงมาจนถึงหน้าอกที่ขนาดเกินมาตรฐานอีกครั้งอย่างติดอดติดใจ
“อื้อ...อะ...” สาวเจ้าหายใจติดขัดเมื่อลิ้นหนาดูดและขบเบาๆ สลับกันไปมาที่ปลายถัน
ปริณไล้ริมฝีปากต่ำลงไปยังเนินเนื้อที่อวบอูมด้วยหัวใจที่เต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ เพราะมันแตกต่างจากทุกๆ ครั้งที่เขามีความสัมพันธ์ทางกายกับสาวคนอื่นๆ ที่เพียงแค่ปลดปล่อยความต้องการ แต่กับเธอ... ผู้หญิงที่เขาหลงรักและเฝ้าถนอมอยู่ห่างๆ มาหลายปี โดยได้มองแล้วจินตนาการถึงวันที่จะได้ร่วมรัก มันช่างเป็นอะไรที่พิเศษและมีความหมาย จนบรรยายไม่ถูก
“พี่ป้อง!” คนที่กำลังเคลิบเคลิ้มร้องเสียงหลงเมื่อลิ้นอุ่นๆ จูบสัมผัสที่ต้นขาด้านในทั้งสองของเธอและกำลังจะเลยไปถึง...
“ได้โปรด...คนดี” ปริณอ้อนวอนเสียงแหบพร่าขณะจ้องมองความงดงามของอิสตรี ก่อนจะก้มลงลิ้มลองความหวานจากเกสรดอกไม้ที่เฝ้ารอวันจะได้ครอบครองด้วยหัวใจสั่นๆ
“อะ...อ่า...อืม...” อลิชาหลับตาลง รับรู้ถึงลิ้นอุ่นๆ ที่ตวัดไปมาช้าๆ และเร็ว เป็นพักๆ มันทำให้เธอเสียวซ่านจนแทบจะขาดใจตายเสียให้ได้
ทุกอย่างดำเนินต่อไปตามความต้องการและความโหยหาที่มีมานานจนกระทั่ง... เวลาล่วงเลยเข้าสู่เช้าของวันใหม่
ปริณจ้องมองใบหน้าจิ้มลิ้มที่เพิ่งจะหลับใหลไปอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา ว่าในที่สุดแล้วเขาก็ได้เธอมาอิงแอบแนบกายเหมือนที่เคยฝันมาตลอด
เสียงกรีดร้องที่ดังขึ้นเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา มันยังคงตราตรึงไปทุกๆ อณูของหัวใจ... เมื่อได้รับรู้ว่าเขาคือชายคนแรกของเธอ มันยิ่งทำให้เขารักและหวงแหนเธอมากกว่าเดิมอีกเป็นร้อยเท่าพันเท่า
“พี่รักเรานะรู้ไหม...อลิซ” ปริณเอ่ยกระซิบ พร้อมกับก้มลงหอมแก้มนวลทั้งสองข้าง จากนั้นก็ค่อยๆ หลับตา เข้าสู่ห้วงนิทราตามคนในอ้อมกอดด้วยสีหน้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
โรงแรมมะลิฉัตร แกรนด์ (ห้องผู้จัดการ)
‘ฉลาดมากรียา!’ อีเดนนั่งดูกล้องด้วยสีหน้าตึงๆ เมื่อรู้ว่าสาวเจ้าออกทางที่พนักงานใช้เข้าออกด้านหลัง ซึ่ง…ไม่มีกล้องวงจรปิด
“เอ่อ... เดี๋ยวผมไปตามเมดมาพบนะครับ” ผู้จัดการหนุ่มรีบบอก
“ขอบคุณครับ” อีเดนพยักหน้าเบาๆ ก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาโทรสั่งบอดี้การ์ดที่อยู่หน้าล็อบบีให้เตรียมรถรอ
สิบนาทีต่อมา...
“นี่คุณเอื้อง เมดที่ท่านเห็นในกล้องครับ” ผู้จัดการหนุ่มเอ่ยแนะนำ
“สวัสดีค่ะ” เมดวัยสี่สิบปีเอ่ยทักทายด้วยสีหน้าเจื่อนๆ
“สวัสดีครับ ผมอยากจะทราบว่า... ผู้หญิงที่คุณพาเดินออกไปทางด้านหลัง เธอไปที่ไหนครับ” อีเดนยกมือไหว้ตอบ ก่อนจะถามเข้าเรื่อง
“เอ่อ...ดิฉันไม่รู้ค่ะท่าน เธอบอกว่ากลัวเจอคนรู้จักเข้าถ้าหากว่าเดินผ่านหน้าล็อบบีไปขึ้นรถแท็กซี่กลับ ดิฉันก็เลย...”
“เธอบอกไหมว่าจะไปที่ไหนครับ?” อีเดนถามขัดขึ้นอย่างร้อนใจ
“ไม่ค่ะ” เมดวัยสี่สิบส่ายหน้าปฏิเสธ
“คุณจำป้ายทะเบียนแท็กซี่คันนั้นได้ไหม?”
“เอ่อ...คนขับเป็นสามีของดิฉันเองค่ะ”
“เยี่ยม! งั้นโทรไปถามสามีคุณว่าขับรถไปส่งเธอที่ไหน” อีเดน ยิ้มกว้างขึ้นมาทันใดที่ได้ยินคำตอบ
“ดะ...ได้ค่ะ” เมดวัยสี่สิบรีบล้วงมือถือขึ้นมาต่อสายหาสามี ด้วย มือไม้สั่นๆ
Orianna Condo... สี่สิบนาทีต่อมาหลังจากทราบว่าสาวเจ้าไปที่ไหนอีเดนก็จ่ายค่าตอบแทนให้เมดวัยสี่สิบกับผู้จัดการของโรงแรมมะลิฉัตร แกรนด์ จากนั้นก็ขับรถตรงไปยังจุดหมายปลายทางอย่างเร่งรีบ
ร่างสูงภูมิฐานในสูทสีเทาเข้มยืนอยู่ด้านหน้าของคอนโดหรูใจกลางเมืองหลวง ที่มีราคาแพงถึงห้องละยี่สิบล้านบาท โดยจะมีแต่เหล่าบรรดาลูกหลานไฮโซซื้อเข้าอยู่ และหนึ่งในนั้นก็คือ เซน! น้องชายของเขา
“พวกนายดูรูป แล้วเฝ้าที่ด้านหน้าคอนโดเอาไว้ เจอเธอเมื่อไหร่ โทรแจ้งฉันทันที” อีเดนสั่งการขณะมองไปรอบๆ อย่างประเมินสถานการณ์ ‘ถ้าเธอพักอยู่ที่นี่จริง ก็แสดงว่าฐานะทางบ้านร่ำรวย หึ! งั้นก็หาตัวได้ไม่ยากสินะ!’
“ครับท่าน!” การ์ดพยักหน้าก่อนจะเข้าไปนั่งสั่งอะไรทานที่ด้านหน้าล็อบบีเพื่อจับตามองคนที่เดินเข้าออก
อีเดนมองประตูทางเข้าอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดใจเดินกลับไปที่รถสปอร์ต แล้วขับกลับคอนโดของตนที่อยู่ห่างออกไปไม่กี่ช่วงตึก
Orianna Condo (ชั้นบนสุด ห้องพักของจอห์น)
“รียา! แกไหวหรือเปล่า?” จอห์นถามหลังจากที่เห็นเพื่อนสาวเดินหน้าซีดเซียวออกมาหาตนที่ห้องนั่งเล่น
“ฉันรู้สึกปวดหัวเหมือนจะเป็นไข้ยังไงไม่รู้” มารียาบอกก่อนจะนั่งลงข้างๆ อีกฝ่าย
“งั้นโทรสั่งอาหารขึ้นมากินที่ข้างบนนี้ไหม” จอห์นเสนอ
“แกอยากออกไปทานข้างนอกไหมล่ะ?” มารียาถามอย่างเกรงใจ
“ไม่อ่ะ! อยากนั่งทานที่ห้องชิลล์ๆ มากกว่า” จอห์นบอกยิ้มๆ
“อืม...เป็นความคิดที่ดีมาก งั้นเดี๋ยวฉันลงไปชวนอลิซนะ” มารียาบอกพลางทำท่าจะลุกขึ้น
“จะดีเหรอ? นี่แกเพิ่งขึ้นมาได้ไม่ถึงชั่วโมงนะ” จอห์นรีบเอ่ยท้วง กลัวว่าเพื่อนสาวจะไปเจอบทเลิฟซีนของพี่ชายเข้า
“ฉันว่าป่านนี้พี่ป้องน่าจะคุยกับอลิซเสร็จแล้ว” มารียาบอกด้วยท่าทีมั่นใจ
“ฮ่าๆๆ ไม่หรอก เชื่อสิ” จอห์นหัวเราะเบาๆ อย่างเข้าใจผู้ชายด้วยกัน
“ทำไมอ่ะ!” มารียาถามอย่างไม่เข้าใจ
“เอ่อน่า แกอย่าถามมากเลย” จอห์นบอกปัดอย่างรู้สึกรำคาญนิดๆ
“ไอ้จอห์น!” มารียาขึ้นเสียงด้วยสีหน้าตึงๆ
“เฮ้ย เป็นสาวเป็นนางพูดจาไม่น่ารักเลย” จอห์นต่อว่าด้วยสีหน้าขบขัน รับรู้อาการของขึ้นจากเพื่อนสาว
“คุณจอห์นคะ ได้โปรด...” มารียาเอ่ยประชดด้วยสายตาขวางๆ
“แหม...เรียกซะขนลุกเชียว” จอห์นบอกพร้อมกับยกมือขึ้นลูบที่แขนไปมาเบาๆ
“จอห์น อย่าลีลา” มารียาเอ่ยด้วยน้ำเสียงตึงๆ บ่งบอกว่าหมดอารมณ์จะเล่นด้วยกับอีกฝ่าย
“เฮ้อ...คนเราไม่ได้สื่อแค่ภาษาพูดกับภาษาเขียนเท่านั้นนะรียายังมีภาษากายอีกภาษาหนึ่ง ซึ่งบางครั้งมันอาจต้องใช้เวลานานเข้าใจป่ะ?” จอห์นพยายามอธิบายอ้อมๆ
“ไม่!” มารียาส่ายหน้าปฏิเสธทันทีทันใด
“ช่างหัวแกเถอะ ฉันขอโทรสั่งอาหารก่อนแล้วกัน” จอห์นกลอกตาก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมากดโทรสั่งอาหารด้วยสีหน้าเซ็งๆ