EP.3 พินัยกรรมโลกแตก
“สวัสดีครับคุณเอ็ดการ์ด”
ทั้งสามหนุ่มยืนขึ้นทักทายผู้อาวุโสกว่า เพราะทนายเอ็ดการ์ดนอกจากจะเป็นทนายประจำตระกูลแล้ว ยังสนิทสนมกับบิดาราวกับเพื่อนสนิท ทนายสูงวัยได้เห็นการเจริญเติบโตของสามหนุ่มมาตั้งแต่ยังแบเบาะ สามหนุ่มทริสตันจึงให้ความเคารพทนายเอ็ดการ์ดประหนึ่งญาติผู้ใหญ่ที่นับถือ
“ขาดอีกคนครับ รอสักครู่แล้วผมจะเปิดพินัยกรรมต่อหน้าทุกคนพร้อมกัน”
ทั้งสามหนุ่มนิ่งอึ้งเมื่อได้ยินดังนั้น ก่อนที่คุนไซต์จะเอ่ยถามด้วยความแปลกใจว่า “‘อีกคน’ ที่คุณเอ็ดการ์ดเอ่ยถึง เป็นลูกของคุณพ่ออีกคนเหรอครับ”
“หามิได้ครับคุณคุนไซต์ อีกคนจะมาช่วยทำให้พินัยกรรมฉบับนี้สำเร็จสมบูรณ์ขึ้นต่างหากล่ะครับ” เอ็ดการ์ดยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ สามหนุ่มทริสตันมองทนายประจำตระกูลอย่างระวัง ด้วยรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลบางอย่าง
คุณหมอหนุ่มยังคงนั่งนิ่ง อาจเพราะเขาไม่ได้กลับมาเหยียบคฤหาสน์หลังนี้ถึงหกปีกว่าแล้ว เมื่อกลับมาอีกครั้งนั่นย่อมหมายความว่า คลื่นแห่งความทรงจำแต่หนหลังกำลังสาดซัดหัวใจของเขาจนบอบช้ำสะบักสะบอม เขาอยากออกไปจากสถานที่อึดอัดแห่งนี้เสียเหลือเกิน
“สวัสดีค่ะ ดิฉันมาถึงแล้วค่ะคุณเอ็ดการ์ด มีอะไรให้ดิฉันรับใช้หรือคะ”
หญิงสาวสวมแว่นหนา รวบผมเป็นมวยไว้ด้านหลัง สวมสูทสีเข้มกระโปรงยาวคลุมเข่า ตามด้วยคัตชูส์สีดำสนิท ไม่ใช่ว่าเธอกำลังไว้ทุกข์ให้กับบานเนอร์เจ้านายที่มาด่วนจากไป แต่เพราะเธอมีรสนิยมเรียบเชยและมักสวมใส่เสื้อผ้าด้วยสีดำ หรือไม่ก็สีน้ำเงินกรมท่าอยู่เป็นนิจ
“เชิญนั่งครับคุณช่อทับทิม” เอ็ดการ์ดยิ้มให้หญิงสาว ผู้หญิงเก่งมากความสามารถ เธอคือเลขาคนเก่งของบานเนอร์ แน่นอนว่าหลังจากบานเนอร์เสียชีวิตทางบริษัททริสตันได้เสนอให้เธอรับตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายการตลาด แต่เธอกลับขอเวลาพักร้อนไม่มีกำหนด และยังไม่รับปากว่าจะยอมรับตำแหน่งที่ทางบริษัททริสตันเสนอหรือไม่
“นี่มันเรื่องอะไรกันครับคุณเอ็ดการ์ด” นายแพทย์หนุ่มเอ่ยถามด้วยไม่เข้าใจว่าช่อทับทิมมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเปิดพินัยกรรมได้อย่างไร หรือว่าช่อทับทิมจะเป็นภรรยาลับของบิดาอีกคน...
ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าบิดาจะมีรสนิยมชอบเด็กสาวคราวลูกเช่นนี้ คราวก่อนก็หยกทิพย์ คราวนี้ช่อทับทิมงั้นหรือ!
“เป็นเมียน้อยคุณพ่อฉันสินะ ทำไมคุณพ่อถึงรสนิยมแย่แบบนี้นะ ผู้หญิงสวยๆ ก็มีตั้งมากแต่กลับ...”
ฮิดเดนไนต์โพล่งขึ้นตามที่ใจคิดหวังก่อนจะส่ายหน้าแล้วถอนหายใจช้าๆ “ออดอ้อนขอสมบัติท่านไว้เท่าไหร่ล่ะ ที่ถลุงไปก่อนหน้านี้คงยังไม่พอสินะ แน่ล่ะผู้หญิงแบบนี้ไม่รู้จักคำว่าพออยู่แล้ว” เขาต่อว่าหมายจะได้เห็นอาการร้อนรนและกระดากอายจากหญิงสาวนักฉวยโอกาสทว่าเธอกลับนั่งเฉยก่อนจะหันมาส่งยิ้มเยือกเย็นให้เขา
“กรุณาให้เกียรติดิฉันและตัวคุณเองด้วยค่ะคุณฮิดเดนไนต์ การสำรอกถ้อยคำดูถูกคนอื่นทำให้ตัวคุณดูด้อยค่าและน่าสมเพชอย่างที่สุด” เลขามากความสามารถพูดพร้อมกับยิ้มกว้างเชือดเฉือนอีกฝ่าย ก่อนจะเมินหน้าไปทางอื่น
“ไงล่ะแก ปากหาเรื่องดีนัก”
คุนไซต์หันมาตำหนิน้องชายคนเล็ก เขารู้จักช่อทับทิมดีเธอเป็นผู้หญิงทำงานเก่ง คล่องแคล่ว มีความสามารถพูดได้หลายภาษา มีวาจาทูตที่สามารถเจรจาต่อรองกับคู่ค้าได้ผลมานักต่อนัก แล้ววันนี้เขาก็ได้รู้ว่านอกจากความสามารถมากมายที่เขาจาระไนออกมาไม่หมด เธอยังมีวาจาเชือดเฉือนเป็นเลิศอีกด้วย
“ปากร้าย!”
ฮิดเดนไนต์สบถก่อนจะคิดในใจว่า ต่อให้เหลือแม่เลขาช่อทับทิมเป็นผู้หญิงคนเดียวในโลก เขาก็ไม่คิดจะชายตาแลเป็นอันขาด
ส่วนทริบเฟนยังคงนั่งนิ่งแม้คำพูดของผู้หญิงที่ดูเรียบเชยคนนี้จะเหมือนด่าเขาด้วยก็ตาม นั่นเพราะเขาก็คิดไม่ต่างจากน้องชายคนสุดท้อง เพียงแต่ไม่ได้พูดออกไปเท่านั้นเอง จะทำอย่างไรได้ล่ะในเมื่อเขาพบเจอผู้หญิงที่เข้าหาบิดาเพราะหวังใช้เต้าไต่ ใช้จริตมารยาทอดสะพานไปหาเงินทองมากมายที่ใช้ทั้งชาติก็ไม่มีวันหมด เขาจึงอดคิดไปในทางอคติไม่ได้ว่าเธออาจเป็นภรรยาน้อยของบิดาอีกคน
แต่เมื่อเธอตอบได้ฉะฉาน ใบหน้าฉายแววหยิ่งทะนงในศักดิ์ศรี ทริบเฟนก็นึกนิยมความเด็ดเดี่ยวของหญิงสาวอยู่ในใจ แตกต่างจากน้องชายคนสุดท้องที่แสดงชัดว่าไม่ปลื้มผู้หญิงคนนี้เอาเสียเลย
“เอาละครับเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาผมจะเปิดอ่านพินัยกรรมของคุณบานเนอร์แล้วนะครับ” เอ็ดการ์ดกระแอมเบาๆ ก่อนจะหยิบซองสีน้ำตาลออกมาจากกระเป๋าหนังสีดำ
“ครับ” สามหนุ่มขานรับพร้อมกัน
เอ็ดการ์ดหยิบจดหมายออกมาแล้วอ่านออกเสียงเพื่อให้ทุกคนได้ยินโดยทั่วกัน
‘ถึงลูกๆ ของฉัน
ในที่สุดความตายก็มาถึงฉันจนได้ ฉันไม่รู้หรอกนะว่าชีวิตหลังความตายของฉันต่อจากนี้จะเป็นยังไง แต่ฉันรู้ว่าชีวิตของพวกแกมันขาดอะไรไปบางอย่าง มันไม่สมบูรณ์พอที่จะทำให้ฉันนอนตายตาหลับได้ ที่ฉันบอกว่าไม่สมบูรณ์นั่นก็เพราะว่าฉันเป็นคนทำให้มันขาด ฉันเอาแต่ทำงานโดยลืมใส่ใจพวกแก ฉันรู้ตัวว่าฉันไม่ใช่พ่อที่ดีนัก แต่ฉันก็อยากมอบสิ่งดีๆ ที่ฉันได้คิดทบทวนมาเป็นอย่างดีให้พวกแกทั้งสามคน
ฉันมีภารกิจให้พวกแกทั้งสามคนทำ เป็นการเดิมพันครั้งใหญ่ระหว่างฉันกับพวกแก เพราะถ้าหากว่าใครทำไม่สำเร็จ นั่นหมายความว่าคนนั้นจะถูกตัดสิทธิ์ออกจากกองมรดกทันที แกจะไม่ได้อะไรจากฉันแม้แต่เซนต์เดียว’
เมื่อเอ็ดการ์ดอ่านมาถึงตรงนี้สามหนุ่มก็ถึงกับนิ่งอึ้ง เพราะตอนต้นของจดหมายนั้นเกือบจะทำให้พวกเขาซาบซึ้งใจอยู่แล้วเชียว แต่พอทนายอ่านมาถึงประโยคล่าสุด ทั้งสามก็ถึงกับขมวดคิ้วเข้าหากันด้วยความงุนงง
“เดี๋ยวครับนี่มันหมายความว่ายังไง คุณพ่อต้องการอะไรกันแน่ครับคุณเอ็ดการ์ด” คุนไซต์เอ่ยถามขึ้นทันที นี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นใช่มั้ย ทำไมบิดาของเขาจึงคิดพินัยกรรมแปลกๆ ออกมา
“นั่นสิครับ นี่ผมงงไปหมดแล้ว” ทริบเฟนเอ่ยขึ้นก่อนจะดูเวลาที่ข้อมือเพราะเขามีนัดผ่าตัดเคสสำคัญช่วงสองทุ่มไม่ว่างพอที่จะมาเล่นเกมกับบิดา ในขณะที่ฮิดเดนไนต์ไม่ได้โวยวายอะไรแต่กลับขมวดคิ้วมุ่นแล้วจ้องไปยังช่อทับทิมอย่างจับผิด เขาเดาว่าผู้หญิงคนนี้ต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับพินัยกรรมประหลาดของบิดาอย่างไม่ต้องสงสัย