SENIORS 30
****************************
เต้ถามกลับมาด้วยน้ำเสียงที่ดูสดใสต่างจากเมื่อกี้ลิบลับเลย ฉันก็งงไปเลยน่ะสิว่าสรุปแล้วเขาเล่นอะไรกับฉัน
พอเต้เห็นฉันทำหน้างงเขาก็หัวเราะออกมาเสียงดังทำให้ฉันรู้ได้เลยว่าเมื่อกี้เขาแกล้งฉัน
เขาไม่ได้เศร้าอะไรจริงๆ ตลกมากมั้งที่มาล้อเล่นแบบนี้อ่ะ จากที่สงสารและเห็นใจตอนนี้คืออยากเลิกคบด้วยมากกว่า
“ไอ้บ้าเต้ ไม่สนุกด้วยนะเป็นห่วงหมดเลย”
“ว้าว เพื่อนเหมยเป็นห่วงด้วยว่ะ”
“อะไร เพื่อนเป็นห่วงเพื่อนไม่ได้เหรอ?”
“ก็ไม่ได้ว่าอะไร”
คนตรงหน้าหัวเราะชอบใจ ฉันมุ่ยหน้าใส่เขาทำให้เขายื่นหน้าเข้ามาใกล้ฉันจนฉันต้องยกมือดันหน้าผากเขาให้ออกไปห่างๆ เนี่ยชอบทำแบบนี้ตลอด
เต้ยอมกลับไปนั่งที่เดิมแล้วเอามือเท้าคางกับโต๊ะทำให้อดไม่ได้ที่จะถามเอ่ยถามเขาว่ามองหน้าฉันทำไม หน้าฉันก็เหมือนเดิมหรือเปล่าล่ะ
“มองอะไร?”
“เฮ้อ เรามีอะไรจะบอก”
“…”
“ที่เราทำแบบนี้เพราะเราอยากให้เธอเห็นว่าความรักที่เธอพยายามปิดเอาไว้น่ะมันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่เธอเข้าใจหรอกนะเหมย”
“...”
“คนเราแม่งเจ็บได้เว้ย และสุดท้ายก็เลิกเจ็บได้เหมือนกัน บางครั้งความเจ็บและความผิดหวังที่มันเกิดขึ้นกับเรามันอาจจะสอนให้เราเข้มแข็งขึ้นมาก็ได้”
ฉันมองหน้าเต้ที่มองหน้าฉันกลับมาเหมือนกัน ฉันคิดตามคำพูดของเขาที่เขาพูดมันก็ไม่ผิดหรอกนะ
คนเรามันก็ต้องเจอความผิดหวังเจอเรื่องเสียใจและมันก็เป็นเรื่องธรรมดาไปแล้วด้วย เพียงแต่ฉันยังไม่พร้อมที่จะมีใครไง
ฉันผิดตรงไหนที่ไม่อยากให้ใครเข้ามาตอนนี้ ฉันชอบที่จะอยู่คนเดียวชอบทำอะไรคนเดียว
ฉันยังไม่อยากแบ่งความรักของตัวเองให้ใคร ทำไมทุกคนถึงอยากให้ฉันมีความรักด้วยในเมื่อฉันเป็นแบบนี้มันก็ดีอยู่แล้วไง
การที่ฉันไม่สนใจผู้ชายคนไหนเลยคือมันผิดปกติเหรอหรือว่าฉันเป็นคนไม่ดี ฉันมองหน้าเต้ที่มองหน้าฉันด้วยรอยยิ้ม
ฉันรู้ว่าเขาอยากให้ฉันเปิดใจลองมองผู้ชายที่เข้ามาจีบบ้าง เพราะผู้ชายไม่ได้เหมือนกันหมดทุกคน
บางคนก็เลวทรามเหมือนพี่แทนแฟนหวานไง บางคนก็แสนดีพร้อมที่จะดูแลเราตลอดไป
ฉันรู้ว่าผู้ชายไม่ได้เหมือนกันหมดทุกคนแต่ฉันยังไม่อยากมีใครเข้าใจมั้ย เฮ้อ พูดไปก็เหนื่อยไม่รู้ว่าตัวเองจะต้องพูดประโยคเดิมอีกสักกี่ครั้งกันนะ
“…”
“เรารู้ว่าที่เธอไม่ยอมเปิดใจคบกับใครเลยมันเป็นเพราะเธอกลัวจะเสียใจใช่ป่ะ กลัวว่าผู้ชายคนนั้นจะทิ้งเธอหรือเปล่า มันเป็นเรื่องปกติของความรักว่ะเหมย เหมือนเรากลับแฟนเก่าไง”
“…”
“ถึงแม้ว่าตอนนี้เราจะเลิกกันแล้วแต่เราสองคนก็เคยมีความสุขด้วยกันและเราก็เก็บความทรงจำเหล่านั้นเอาไว้ให้เป็นเรื่องราวดีๆ เห็นมั้ยว่าความรักมันไม่ได้แย่ไปซะหมดหรอกนะ”
“ฉันก็แค่อยากอยู่คนเดียวอ่ะมันผิดมากหรือไง?”
ฉันถามคนตรงที่หน้าที่บอกให้ฉันเปิดใจ ฉันน่ะจะเปิดใจเมื่อไหร่ก็ได้แต่ที่ฉันยังไม่ยอมเปิดใจมันเป็นเพราะฉันอยากอยู่คนเดียวเข้าใจมั้ย
ทำไมทุกคนถึงอยากจะให้ฉันมีแฟนนักก็ไม่รู้ทั้งที่ฉันก็เป็นแบบนี้ของฉันมาตั้งนานแล้วก็ไม่เห็นจะมีใครว่าอะไรเลย
แล้วถ้าจะต้องมาให้ฉันเปลี่ยนตัวเองเพื่อคนอื่นฉันเองก็ทำไม่ได้เหมือนกัน ฉันคิดว่าตัวเองอยู่แบบนี้มันก็มีความสุขมากแล้วไงอาจจะเหงาบ้างแต่ฉันก็ชอบอยู่แบบนี้
“เฮ้อ เธอนี่น่าไม่เข้าใจอะไรเอาซะเลย”
“แล้วจะให้ฉันเข้าใจอะไรล่ะ?”
ฉันเอ่ยถามเต้ที่ทำหน้าเอือมระอาออกมา ฉันคิดว่าไม่ใช่แค่ฉันหรอกนะที่อยากอยู่คนเดียวไม่อยากมีแฟนอ่ะ
ผู้หญิงหลายคนก็อาจจะคิดแบบเดียวกับฉันก็ได้ ฉันคิดว่ามันไม่ผิดนะถ้าฉันจะคิดแบบนี้
ฉันอยู่แบบนี้แล้วมันทำไมเหรอหรือเสียดายร่างกายฉันงั้นเหรอที่ยังไม่ได้ผ่านการใช้งาน
เหอะ ไม่ต้องมาเป็นห่วงฉันหรอก ฉันคงไม่ปล่อยให้ตัวเองรูตันแน่ มันก็ต้องมีสักวันที่ได้ใช้งานบ้างแหละแต่อาจจะยังไม่ใช่ตอนนี้ไง
“สรุปจะชวนฉันมากินข้าวหรือมาเล่าเรื่องดราม่า?”
“เออ ไม่ดราม่าแล้วก็ได้”
หลังจากนั้นเต้ก็พาฉันขับรถเล่นและเราก็พูดเรื่องนั้นเรื่องนี้ไปเรื่อยๆ ไม่รู้จักเบื่อ เต้มีเรื่องตลกๆ มาเล่าให้ฉันฟังเยอะมากเลย
เขาบอกว่าช่วงนี้เห็นฉันเครียดๆ ก็เลยหาเรื่องตลกมาเล่าให้ฉันฟังมันก็ช่วยได้เยอะเหมือนกันนะ เพราะมันทำให้ฉันหายเครียดไปชั่วขณะเลยล่ะ
เต้ขับรถมาส่งฉันที่หอตอนสามทุ่มครึ่งเพราะเขาต้องไปหาเพื่อนต่อที่ชวนไปร้านเหล้า
ที่จริงเขาก็ชวนฉันไปด้วยนะแต่ฉันต้องทำงานที่อาจารย์สั่งต่อเลยไม่ได้ไป ถึงแม้ไม่มีงานฉันก็ไม่คิดจะไปหรอก
เพราะเพื่อนของเต้เป็นผู้ชายทั้งหมดเลยและฉันก็ไม่รู้จักใครนอกจากเขาคนเดียว ถ้าไปก็คงต้องเหงา
ถามถึงเรื่องเที่ยวผับคงต้องยกให้เป็นไข่มุกแล้วล่ะเพราะรายนั้นอ่ะโคตรชอบเที่ยวกลางคืนเลย
“วันนี้ขอบใจนะที่ไปนั่งกินข้าวเป็นเพื่อน”
“อืม ก็ดีแล้วไงเราไม่ต้องเสียเงินสักบาทเลย”
เต้ยื่นมือมาโยกหัวฉันเบาๆ เราหัวเราะกันก่อนที่ฉันจะลงจากรถแล้วยืนโบกมือให้เขาจนเขาขับรถไปแล้วฉันถึงจะเดินเข้าหอ
และก็ต้องตกใจที่เห็นพี่อาร์มายืนอยู่ด้านหลังฉัน เมื่อกี้ยังไม่เห็นเลยแล้วเขาโผล่มาจากไหนเนี่ยแถมสายตาที่เขามองฉันคือดูน่ากลัวมากด้วย
แล้วนี่ไม่พอใจอะไรฉันอีกล่ะเนี่ย เพราะสายตาของเขาแบบนี้มันบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าเขาโกรธและไม่พอใจหนักมาก
“พี่อาร์?”
“ดูมีความสุขจังเลยนะครับ”
ประโยคนี้คือพูดจากใจจริงหรือพูดประชดกันแน่ ที่จริงแล้วฉันกะว่าจะทักไลน์ไปบอกพี่อาร์นะว่าตัวเองเข้าห้องแล้ว
แต่พอเจอเขาอยู่ตรงหน้าตอนนี้ก็คงไม่ต้องบอกแล้วมั้งเพราะเขาก็เห็นแล้วว่าฉันกลับห้องแล้ว
“รู้หรือเปล่าว่าพี่มารอเราตั้งนาน”
“ก็ไม่ได้บอกให้รอนี่คะ พี่อาร์เองก็บอกว่าเจอกันพรุ่งนี้”
“แล้วพี่คิดถึงเหมยไม่ได้ไงครับ?”
“…”
ฉันเงียบไม่ได้พูดอะไร พี่อาร์ถอนหายใจเขาแล้วเข้าเดินเข้าหอฉันที่มีคนมาเปิดประตูพอดี
ฉันก็เลยต้องพาเขาเข้ามาในห้องด้วย เพราะเขายืนยันที่จะไม่กลับถ้าเกิดว่าไม่ได้คุยกับฉันให้รู้เรื่อง
ฉันเองก็ไม่รู้ว่าเขาจะคุยกับฉันเรื่องอะไรแต่ก็ยอมให้เขาเข้ามาในห้องก่อน
ที่ยอมให้เขาเข้ามาในห้องได้ก็เพราะว่าช่วงนี้เขาทำตัวดีขึ้นและพูดกับฉันดีขึ้น ฉันเลยคิดว่าเขาไม่น่าจะทำอะไรฉันได้หรอก ก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะคิดผิดหรือเปล่านะ
“พี่หวงนะที่เหมยทำแบบนี้”
“หวงเหรอคะ?”
ฉันทวนคำพูดของพี่อาร์ที่เมื่อกี้เขาบอกว่าหวงฉัน ฉันไปกับเพื่อนฉันก็บอกเขาแล้วไง แล้วมีอะไรให้ต้องหวงอีกล่ะ
ถ้าฉันไปกับผู้ชายที่เข้ามาจีบฉันก็ว่าไปอย่างแต่นี่ฉันไปกับเพื่อนไง แล้วอีกอย่างนะเขาจะมาหวงฉันทำไมในเมื่อเราไม่ได้เป็นอะไรกัน
โอเคเข้าใจแหละว่าเขากำลังจีบฉันอยู่ แต่ในเมื่อฉันยังไม่ได้ตกลงคบกับเขาฉันก็มีสิทธิ์ที่จะไปไหนมาไหนก็ได้ไม่ใช่เหรอ ไม่ใช่ให้เขามาบังคับกันแบบนี้ ฉันรู้สึกไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่เลย
“ครับ หวงหนักมาก”
พี่อาร์เดินเข้ามาใกล้ฉันก่อนจะโอบเอวฉันเอาไว้แล้วรั้งเข้าหาตัวเขาทันที ใบหน้าของเขาตอนนี้ไม่มีรอยยิ้มเลยเหมือนว่าเขาโกรธฉันทั้งที่ตอนอยู่มหาลัยก็นึกว่าเข้าใจกันแล้ว
เพราะเขายิ้มให้ฉันและบอกว่าพรุ่งนี้เจอกันใหม่ แต่ตอนนี้เขากลายเป็นอีกคนที่ไม่เข้าใจอะไรเลยสักนิด
“พี่อาร์ทำอะไรคะ ปล่อยเหมยนะอึดอัดค่ะ”
“พี่ให้เหมยไปกินข้าวกับเพื่อนแต่ไม่ได้ให้เหมยไปทำตัวใกล้ชิดกันขนาดนั้น เข้าใจครับว่าพี่ไม่มีสิทธิ์ในตัวเหมยแต่พี่ก็อยากเป็นคนเดียวที่เข้าใกล้เหมยได้แบบนี้”
“...”
ฉันไม่ได้พูดอะไรได้แต่มองหน้าพี่อาร์ที่มองหน้าฉันกลับมาเหมือนกัน ดูเขาจะจริงจังกับฉันมาก
ตอนแรกฉันก็คิดว่าเขามาจีบฉันเล่นๆ เท่านั้น เพราะเขามักจะได้ยินที่ฉันบอกว่าฉันไม่อยากมีแฟนและไม่สนใจผู้ชาย
เขาก็เลยอยากลองเข้ามาจีบว่าจะจีบฉันสำเร็จหรือเปล่าเท่านั้น แต่ตอนนี้มันกลับไม่ได้เป็นอย่างนั้นเพราะเขาดูซีเรียสและจริงจังกับเรื่องของฉันทุกเรื่องจนน่าตกใจเลยล่ะ
เพราะไม่มีผู้ชายคนไหนมาทำเหมือนที่เขาทำและอดทนกับฉันขนาดนี้ เวลาที่มีคนเข้ามาจีบฉัน
ฉันก็จะปฏิเสธไปบางคนก็เลิกมายุ่งกับฉัน แต่บางคนก็ยังตื๊ออยู่แต่พอฉันไม่เล่นด้วยนานๆ เขาก็เลิกไปเอง
แต่ไม่ใช่กับพี่อาร์ที่ยังคงตื๊อฉันอยู่อย่างนั้นและดูจะจริงจังกับเรื่องฉันมากกว่าตัวฉันเองซะอีก
“พี่พอจะมีสิทธิ์ห้ามเหมยได้มั้ยครับ?”
พี่อาร์เอื้อมมือมาลูบแก้มฉันเบาๆ สัมผัสจากเขาแค่นิดเดียวแต่ดูเหมือนว่ามันมีอนุภาครุนแรงต่อฉันมาก
แววตาที่พี่อาร์มองฉันเหมือนว่าเขาอยากอยู่กับฉันให้ได้ ก็ไม่รู้ว่าตัวเองคิดไปเองหรือเปล่า
ฉันเองก็ไม่เคยเห็นพี่อาร์จริงจังอะไรแบบนี้มาก่อนเลยนอกจากเรื่องงานของเขาแล้วเขาก็จะดูขี้เล่นตลอด
แต่พอเห็นว่าเขาดูจริงจังกับเรื่องของฉันมากขนาดนี้เขาเองก็คงจะไม่ได้แกล้งฉันแล้วล่ะ ไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากเปิดใจให้เขานะมันเป็นเพราะว่าฉันยังไม่ได้คิดอะไรกับเขาเท่านั้นเอง
ก็ไม่รู้ว่ามันจะต้องใช้เวลานานแค่ไหน ฉันถึงบอกไงว่าถ้ามันใช่ความรู้สึกของฉันจะมาเอง
พี่อาร์ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ฉันทำให้ฉันต้องดันหน้าอกเขาเอาไว้ไม่อย่างนั้นเขาได้จูบฉันแน่
“ว่าไงพี่พอจะมีสิทธิ์หวงเราได้หรือเปล่า?”
“มะ…ไม่รู้ เอาหน้าออกไปไกลๆ ด้วยหายใจไม่ออกค่ะ”
“ถึงเราไม่ให้พี่หวง พี่ก็หวงเราอยู่ดี”
“…”
“ก็รักไปแล้วนี่คะต้าวเหมย”