บ้านของเรนนี่
“เรนนี่!!”
“คะแม่?!” ฉันตกใจเมื่อแม่เรียกฉันเสียงดัง
“เป็นอะไรเหม่ออยู่ได้เดี๋ยวก็ไปทำงานสายหรอกลูกคนนี้นิ!” แม่ของฉันเรียกสติเพราะว่าฉันเอาแต่เหม่อ ฉันเป็นแบบนี้ตั้งแต่ได้ยินคำถามนั้นจากคุณเพ้นท์เจ้านายของตัวเอง
“งั้น...คุณเคยมีเพศสัมพันธ์หรือเปล่า?”
“เป็นอะไรของเขากันนะ?” ฉันงงนิดหน่อยและมันก็ทำให้ฉันไม่กล้าไปทำงานสักทีเพราะกลัวว่าจะมองหน้าของเขาไม่ติดแค่เมื่อวานก็ทำเอาอึดอัดแทบบ้าแล้ว
“ใครเป็นอะไรก็ช่างเถอะ! แต่ตอนนี้แกควรไปทำงานได้แล้วเรนนี่!”
“จ้าแม่เรนไปก่อนนะสวัสดีค่ะ!” ฉันยกไหว้แม่ก่อนจะคว้ากุญแจรถออกมาซึ่งเป็นมันรถสวัสดิการที่คุณเพ้นท์ให้ฉันมาเพราะงั้นฉันเลยไม่ต้องออกรถเองและเก็บเงินเอาไว้
สวัสดีค่ะก่อนอื่นขอแนะนำตัวเล็กน้อยนะคะ ฉันชื่อเรนนี่อายุปีนี้ก็ 27 ปีแล้ว
ไม่เคยมีแฟน
ไม่เคยคบใคร
ไม่เคยชอบใคร
และแน่นอนว่าไม่เคยมีความสมัพันธ์หรือเพศสัมพันธ์กับใครทั้งนั้นเพราะงั้นตอนที่ได้ยินคุณเพ้นท์ถามแบบนั้นเมื่อวานฉันเลยดุเขาไปนิดหน่อยเหมือนกันที่ถามอะไรแบบนั้นออกมา แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรหรอกก็ฉันทำงานอยู่กับเขามาตั้งนานยังไม่เคยมีแฟนให้เขาเห็นเป็นตัวตนสักทีนิ เฮ้อออ
อ่อ เสียงเมื่อกี้นี้คือแม่ฉันเองเมื่อคืนนี้ฉันแวะมาที่บ้านความจริงฉันอยู่คอนโดติดกับของคุณเพ้นท์เพราะว่าเขาจะได้เรียกใช้งานฉันง่าย ๆ นั่นแหละ ที่จริงตั้งแต่รู้จักคุณเพ้นท์มาฉันก็ยังไม่เคยเขามีแฟนหรือผู้หญิงแต่ตัวตนเหมือนกัน
และดีที่เขาไม่มีเรื่องผู้หญิงมาให้ฉันปวดหัว ฉันมีคนรู้จักเป็นเลขาเวลาไปออกงานกับคุณเพ้นท์บางครั้งพวกเธอต้องเป็นไม้กันหมาเพื่อไม่ให้รถไฟของเจ้านายชนกัน ถ้าเป็นแบบนั้นฉันปวดหัวตายแน่เพราะแค่เรื่องงานก็ปวดหัวแล้ว
“จะว่าไปเพื่อนของเขาก็แต่งงานกันหมดแล้วสินะ” ทั้งคุณเปลวและหมอเคนได้ยินว่าพวกตกลงปลงใจกับแฟนที่อายุน้อยกว่าหลายปี ตอนนี้ในกลุ่มก็เหลือเพียงคุณเพ้นท์คนเดียวเท่านั้น เขาออกไปเที่ยวเกือบทุกวันไม่เจอผู้หญิงที่ต้องการบางหรือไงนะ?
บริษัท PP
“เฮ้อออ!!” เมื่อถึงบริษัทฉันก็ต้องถอนหายใจออกมาเพราะว่าสลัดคำถามของเขาไปไม่ได้เลยอะไรดลใจให้เขาพูดแบบนั้นออกมานะ แต่ช่างเถอะวันนี้เขาคงไม่พูดอะไรแบบนั้นแล้วละมั้ง
ปึก! ปึก! ฉันลงจากรถก็พบว่าคุณเพ้นท์เองก็พึ่งมาถึงบริษัทเหมือนกัน
“สวัสดีค่ะคุณเพ้นท์”
“ครับคุณเรนนี่” เราทักทายกันเหมือนทุกวันแต่วันนี้มันแปลก ๆ แหะ
ตึก..ตึก..ตึก...
เราทั้งคู่เดินมาที่ลิฟท์เพื่อขึ้นไปชั้นทำงานของเขาท่านประธานบริษัท PP ที่เป็นบริษัทเกี่ยวกับการท่องเที่ยวและขนส่งมากมายเพราะงั้นเลยทำให้งานของเขาเยอะและงานฉันก็เยอะไปด้วย
ติ๊ง!
“เชิญครับ...” เขาผายมือให้ฉันเดินเข้าลิฟท์ก่อนแม้ว่าเขาจะเป็นเจ้านายแต่เขาก็ให้เกียรติฉันเสมอเพราะว่าเป็นผู้หญิงนั่นเอง
“ขอบคุณค่ะ” ฉันเดินเข้าไปในลิฟท์
“เรื่องเมื่อวานผมขอโทษที่ถามออกไปแบบนั้น” ฉันอุตส่าห์พยายามลืมนะ!
“ไม่เป็นไรค่ะ”
“แต่ผมแค่เห็นว่าเพื่อนตัวเองไปมีครอบครัวกันหมดแล้ว เลยอยากรู้ว่ามันดียังไงแค่นั้นแหละ” แล้วมันเกี่ยวอะไรกับการมีเพศสัมพันธ์มาก่อนด้วยละ?
“ก็ควรถามว่าการมีครอบครัวเป็นยังไงสิคะไม่ใช่ถามว่าเคยมี...อะไรแบบนั้นหรือยัง?”
“คุณโกรธผมเหรอ?” เขาหันมามองหน้าของฉัน
“เปล่าคะ ฉันแค่บอกเฉย ๆ ว่าคุณใช้คำถามผิดไปหน่อย ฉันเข้าใจค่ะว่าตอนนี้คุณอาจจะโดดเดียวเพราะเพื่อน ๆ ออกไปมีครอบครัวกันหมดแล้ว”
“เฮ้อออ ทำไมต้องรีบมีกันด้วยวะ?”
“รีบมี?”
“ฉันว่าไม่นะคะเพราะพวกเขาก็สามสิบแล้ว คุณนั่นแหละค่ะถ้าช้าไม่ทันเพื่อนระวังแก่จนไม่มีแรงทำอะไรนะคะ” ฉันแค่แกล้งแซวไปอย่างนั้น
พรึ่บ!!
“อ๊ะ!” อยู่ ๆ เขาก็เบียดตัวเข้ามาใกล้ฉันและใช้แขนขวางเอาไว้
“ไม่มีแรงทำอะไรเนี่ยคุณเรนนี้หมายถึงเรื่องอะไรเหรอครับ?” เขาถามแต่ทำไมต้องเอาหน้าเข้ามาใกล้ด้วยเนี่ย?!
“ก็หมายถึงแรงเลี้ยงลูกไงคะตอนนี้คุณยังแข็งแรงอยู่สามารถวิ่งตามเด็ก ๆ ได้ ถ้าแกกว่านี้จะวิ่งตามไม่ทันเอานะคะ” ฉันพูดโดยไม่หลบสายตาและไม่มีอาการเขินอายอะไรเพราะชินแล้วแหละกับหน้าหล่อ ๆ ของเจ้านายตัวเองก็นะ 5 ปีแล้วนิที่ฉันทำงานกับเขามา
“อ่อ แรงเลี้ยงลูกสินะ..” เขาพูดเบา ๆ ก่อนจะถอยออกไปและลิฟท์ก็เปิดออกเขาเดินออกไปก่อนเลยแหะ แต่ทำไมหูของเขามันแดง ๆ อ่ะ
หลายชั่วโมงต่อมา
เลิกงาน...
ก๊อก ๆ
“เข้ามา” ฉันเคาะประตูห้องเพื่อจะบอกลาเขากลับก่อนเพราะว่าได้เวลาเลิกงานแล้ว ฉันเลิกงานห้าโมงเย็นแต่ถ้าวันไหนคุณเพ้นท์อยากให้อยู่ต่อก็จะบอกอีกครั้งแต่วันนี้ไม่ได้บอกฉันเลยจะกลับก่อนเพราะว่ามีนัดกับเพื่อนสมัยมหาลัย
“คุณเพ้นท์คะวันนี้ฉันกลับก่อนนะคะ”
“เดี๋ยวสิ” เขาเรียกฉันเอาไว้และมีสีหน้าเคร่งเครียดมาก
“คุณเพ้นท์มีอะไรหรือเปล่าคะหรือว่างานมีปัญหาตรงไหน?” ฉันรีบเดินเข้าไปหาเขาอย่างร้อนฉันเพราะกลัวว่าตัวเองจะทำงานผิดพลาดแม้ว่าจะไม่มีค่อยมีนานแล้วก็ตาม
“ไม่ใช่เรื่องงานแต่ร้ายแรงพอกัน” เขาก้มหน้านิ่งฉันจนเริ่มกลัว
“คุณเพ้นท์เป็นโรคร้ายเหรอคะ?”
“ไม่ใช่แบบนั้น..แต่ก็คงไม่ต่างเท่าไหร่” เขาทำเสียงเข้มมากจนฉันเริ่มทนไม่ไหว
“คุณเพ้นท์ค่ะ!” ปึก! ฉันเท้าโต๊ะทำงานของเขาและเรียกเขาเสียงดัง
“มีอะไรก็พูดเถอะค่ะแบบนี้ฉันเครียดไปด้วยนะคะ ไม่รู้ว่าคุณกำลังเป็นอะไรและต้องอะไรเอาแต่พูดอะไรแบบนี้อยู่ได้...”
“ผมอยากลองมีความสัมพันธ์อ่ะ”
“คะ?!”
“บอกตรง ๆ เลยนะตั้งแต่เกิดมาผมยังไม่เคยมีเลยทั้งความสัมพันธ์และเพศสัมพันธ์” เขาทำหน้าจริงจังมาก
“ละแล้วฉันจะช่วยยังไงละคะ?!” เพราะฉันเองก็ไม่ยังเคยเหมือนกัน T^T
แต่ว่า...เขายังไม่เคยมีเรื่องอย่างว่าเลยมันเป็นไปได้เหรอ???
“ช่วยมาเป็น Friend with benefit ให้ผมหน่อยสิ”
“Friend with...อะไรนะคะ?!” ไอ้ความสัมพันธ์มากกว่าเพื่อนแต่ไม่ใช่แฟนนั่นน่ะเหรอ?!
โอ๊ยยยยย!!ฉันปวดหัวมากนะ!!