ตอนที่ 9 เพื่อนใหม่
"นักเรียนขอให้ไปจับกลุ่ม 4 คนทำรายงานเรื่องนี้ด้วยนะ "ผมยกหัวอันหนักอึ้งขึ้นจากโต๊ะเรียน รู้สึกสมองเบลอไปหมดอะไรกันแกเพิ่งพูดอะไรไม่รู้พึมพำอยู่คนเดียวท้ายชั่วโมงก็มาสั่งรายงานแบบนี้แกจะเอาเปรียบเกินไปแล้ว!! ผมมองไปรอบห้องเพื่อนๆที่เรียนกันมานานเริ่มสนิทกันแล้วแต่ละคนมีกลุ่มกันเรียบร้อยมีผมกับฟ้าที่ยังยืนเคว้งคว้างอยู่
" เอาไงดีฟ้าเรายังไม่มีกลุ่มเลย"ผมหันไปหาถามเพื่อนสาวอย่างวิตกกังวล
"มันคงต้องมีเศษเหลือสักคนสองคนหน้าแล้วค่อยดึงเข้ากลุ่มก็ได้ "เพื่อนสาวปลอบ การทำงานกลุ่มเป็นอะไรที่ผมไม่ชอบมากคนเยอะทำให้ยุ่งยาก
"เฮ! พวกมึงมีกลุ่มยัง"เสียงทุ้มต่ำที่ดังจากด้านหลังทำให้ผมกับฟ้าหันไปหาเป็นชายร่างสูงผิวติดคล้ำๆดั้งโด่งเป็นสันคิ้วเข้มหนาตาเรียวคมริมฝีปากคล้ำเล็กน้อย กล้ามเนื้อที่โผล่ออกมาจากแขนเสื้อทำให้รู้ว่าอีกคนเป็นคนชอบออกกำลังกายขนาดไหน ข้างๆชายผิวคล้ำเป็นชายผิวขาวเหมือนเจ้าสำอางค์หน้าตาหล่อเหลาเหมือนเทพบุตรชวนให้สาวๆกรี๊ดสลบ
"ยังเลยๆพวกมายังไม่มีกลุ่มหรอมารวมกลุ่มกับพวกเราสิพวกเรากำลังขาดคนพอดี "ผมไม่รอช้าที่จะพูดตอบ
"โอเค กูชื่อไต้ฝุ่น "ชายผิวคล้ำแนะนำตัวเป็นคนแรกก่อนจะใช้มือหยาบจับข้อมือน้อยน้อยของผมทางขยับไปมาเหมือนดีใจ
"ฮ่าๆๆ เราชื่อไผ่ยินดีที่ได้รู้จัก "ผมแนะนำตัวกลับอดยิ้มฮ่าๆไม่ได้กับท่าทีเด็กๆของร่างสูงซึ่งไม่เข้ากับรูปร่างใหญ่ๆผิวเข็มๆอย่างนั้นเลย
" กูชินยินดีที่ได้รู้จัก ไม่ต้องพูดเพราะก็ได้กูมึงไปเลยตอนนี้เราเป็นเพื่อนกันแล้ว "ชินเอาแขนมากอดคอผมอยากเป็นกันเอง
"พวกนายดูสนิทกันไวนะ"เสียงหวานพูดขัดขึ้นหน้าสวยบึ้งบูดเมื่อรู้สึกว่าถูกลืมว่ามีตัวตนอยู่ตรงนี้ด้วย
"อ้าว!สวัสดีคิดว่าใครแม่ดาวคณะนี้เอง "ไต้ฝุ่นพูดเสียงดังอย่างล้อเล่น
"ใครจะไปลืมเพื่อนคนสวยคนนี้ได้ละ "
"เชอะ! กูชื่อฟ้าต่อจากนี้ก็ฝากตัวด้วย "เสียงหวานพูดขึ้นอย่างงอนงอน หลังจากนั้นเราก็พากันหัวเราะไม่คิดว่าการมีเพื่อนเป็นกลุ่มแบบนี้จะทำให้มันสนุกขนาดนี้
"เอาละ! ไหนๆก็เป็นเพื่อนแล้ววันนี้กูจะพาไปเลี้ยงหมูกะทะหน้า มอ!! แต่กูไม่ได้รวยพวกมึงอย่าแดกเยอะนะ "เมื่อพูดถึงท้องฟรีของผมก็สั่นกระดิกทันทีหันไปมองเอ้ยไต้ฝุ่นด้วยสายตาเป็นประกายเหมือนกับมันเป็นพระเจ้า สิ่งที่ผมชอบมากที่สุดรองจากพี่เพทายคือของฟรีนี่แหละ!!! พูดถึงพี่เพทายแล้วคิดถึงจังเมื่อเช้ามาส่งผมที่มหาลัยก็ไม่ได้คุยกันอีกเลยเดี๋ยวค่อยทักไปก็แล้วกัน
ร้านหมูกระทะแซบจริง
ภายในร้านไม่ได้หรูหรามากมายตกแต่งแบบสบายๆภายในร้านมีคนไม่มากเท่าไหร่คงเพราะตอนนี้เป็นช่วงกลางวัน ส่วนใหญ่คนจะแน่นร้านในช่วงเย็น
"ไปๆจะนั่งตรงไหนพวกมึงเลือกเลส "หลังจากที่ตะลึงบรรยากาศของงานพักหนึ่งหาที่นั่งที่ระบายอากาศได้ดีผมว่าตรงนั้นโอเคสุด
"กูว่าไปนั่งตรงโน้นดีกว่า "
" แล้วแต่มึงเถอะ" เมื่อผมพูดเสนอขึ้นพวกมันก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไรเดินตามผมที่เดินไปที่โต๊ะที่ผมเลือก โดยที่ผมนั่งข้างฟ้าตรงข้ามกับไอ้ชิน ส่วนไต้ฝุ่นนั่งตรงข้ามกับฟ้าเรานั่งกันไม่นานก็มีพนักงานเดินมาทัก
"รับกี่ชุดดีคะ "พนักงานถามเสียงหวานสายตาจับจ้อง 2 หนุ่มที่อยู่ตรงข้ามผมแบบไม่ปิดบัง
"ขอ 4 ชุดครับ "เมื่อผมพูดเสร็จพวกไอ้ชินก็อ้าปากหวอ
"ไอ้ไผ่มึงสั่งมาแดกหรือสั่งมาเลี้ยงทั้งร้าน มึงจะให้แรกคนละชุดเลยรึไง "ไอ้ไต้ฝุ่นมันแทบจะแดกหัวผมเมื่อผมพูดจบ
"สั่งขนาดนี้กินให้หมดนะไผ่ "เสียงหวานของผู้หญิงคนเดียวในกลุ่มพูดขึ้นอย่างดุดุผมก็ทำเป็นลอยนวลเหมือนไม่ได้ยินเสียงอีกคน
Rrrrrrrrrrrrrrr
ผมอมยิ้มเมื่อรู้ว่าใครเป็นคนโทรมา
" ฮัลโฮล โทรมาแบบนี้คิดถึงผมใช่ไหม "ผมพูดเสียงหวานอยากอารมณ์ดี
[อื้ม คิดถึงเมียอยากกดว่ะ]ปลายสายพูดเสียงเจ้าเล่ห์ ผมหน้าแดงระเรื่องกับคำพูดนั้นทำไมพี่ เพทายเป็นคนหน้าด้านแบบนี้!
"ไม่ต้องมาพูดเลยตั้งแต่คืนนั้นผมยังระบมไม่หาย "ผมพูดออกมาอย่างงอนๆไม่น่าไปหลงคารมหมาป่าเจ้าเล่ห์อย่างพี่เพทายเลย
[หึหึ อยู่ไหนเรียนเสร็จยังเดี๋ยวพาไปเดินห้าง ]ผมอมยิ้มกับคำถามแสดงว่าจะพาไปเดทสินะ
"อยู่ร้านหมูกะทะหน้ามอเพื่อนใหม่พามาเลี้ยง"ฝนตกแต่สายตามองตามพนักงานที่กำลังยกเตากระทะแบบไฟฟ้ามาให้กินหมูหมักลอยถึงจนผมแทบจะกลั้นน้ำลายไว้ไม่อยู่
[งั้นเดี๋ยวไปหารอแป๊บนึง ]
"ครับผมมม"ผมตอบกลับอย่างอารมณ์ดีแล้วอีกคนก็ตัดสายไปผมเอาโทรศัพท์ไว้บนตักก่อนจะจับตะเกียบอย่างเตรียมพร้อม
"ยิ้มน้อยยิ้มได้แบบนี้แสดงว่าผัวโทรมาสินะ "ผมหันไปมองให้ชินแบบตกตะลึงอย่าบอกนะว่าไอ้นี่มันเล่นของมันรู้ได้ยังไงว่าผมคุยกับผัวแบบนี้คงต้องเอาของไปเซ่นไหว้มันไหมสุดยอดมาก!!!
" มันสุดยอดมากเลยชินมึงรู้ได้ยังไงอย่าบอกนะว่ามึงเล่นของมึงไปทำที่ไหนบอกกูหน่อยเดี๋ยวกูจะไปทำบ้างเวลาผัวมีเมียน้อยกูจะได้ตามไปถูก !"
" ปัญญาอ่อนว่ะไอ้ไผ่ทำไมกูจะไม่รู้มึงตัวบางขนาดนี้คงจะไม่มีผู้หญิงเอามึงหรอก "ไม่ชินมันพูดพลางใช้ตาสำรวจร่างกายผมทางสายหน้าแล้วส่งสายตาน่าสมเพชมาให้อะไรร่างกายกูออกจะดีขนาดนี้พี่เพทายก็ชอบมึงอย่ามาส่งสายตาดูถูกแบบนี้ ไอ้ห่า!
"มึงพูดถูกใจกูมากๆชิน "ฟ้าที่นั่งเงียบมาซักพักพยักหน้าเห็นด้วยสุดขีด ทำไมฟ้าถึงเข้าข้างพวกมันไอ้พวกเพื่อนทรยศ!!!
"พอๆพวกมึงรีบเอาหมูลงกระทะได้แล้วเดี๋ยวก็ไม่ได้กินกันพอดี "ไต้ฝุ่นพูดขัดก่อนที่เราจะเกิดสงครามกลางโต๊ะเราเริ่มทยอยเอาหมูลงกะทะอย่างรวดเร็ว รอไม่นานหมู่ที่สุขส่งกลิ่นหอมโชยเรียกน้ำย่อยได้ดี
"ใครแดกไม่ทันอย่าบ่นนะโว้ย!!"ผมลงมือสวาทตามเนื้อเข้าปากยังไม่รอช้า หลังจากนั้นก็เกิดศึกชิงเนื้อ เนื้อนุ่มนุ่มๆที่กัดทีไขมันละลายในปากทำเอาผมอร่อยจนแทบขึ้นสวรรค์!!
"ไง"เสียงทักดังขึ้นพร้อมกับมีมือมาวางบนหัวผม ผมยิ้มกว้างเมื่อรู้ว่าเป็นใครวางตะเกียบลงก่อนจะกอดเอวหน้าซุกหน้าลงใส่
"อ้าว ไม่คิดว่าไอ้ไผ่มันจะชวนพี่เพทายมาด้วย"ฟ้าพูดทักย้ายตัวเองไปนั่งหัวโต๊ะเสียสละให้ทิ้งนั่งข้างผมเป็นพี่เพทายแทน พี่เพทายนั่งลงอย่างว่าง่าย ผมหันไปมองให้ฉันกลับไปไต้ฝุ่นพวกมันสองคนทำหน้าเหวอจมูกหมูที่อยู่ในปากร่วงลงบนจาน
" อี๋ พวกมึงซกมกมาก "ผมขยับหนีพวกมันยานยังเกลียดถึงแม้จะอยู่คนละฝั่งก็เถอะ
"เวอร์ว่ะมึงไอ้ไผ่ก็ใครคิดว่าผัวมึงจะเป็นรุ่นพี่เพทาย "ไอ้ใต้ฝุ่นมันพูดเสียงเบาก่อนจะส่งสายตาหวาดๆมาให้พี่เพทาย
"อื้มๆ"ไอ้ชินก็อีกคนพยักหน้าพร้อมทำหน้าจริงจัง
" ถ้าพวกมึงยังเกรงระวังพวกมึงจะแดกไม่ทันไอ้ไผ่มันนะ"ฟ้าพูดขึ้นก่อนที่พวกมันสองคนจะรีบกินเงินผมและแรกพวกมันก็เกรงๆแต่หลังจากนั้นพวกมันก็สวาปามไม่สนพระอิฐพระปูนคงลืมไปแล้วมั้งว่าพี่เพทายนั่งอยู่ตรงข้าม
"ค่อยๆกินก็ได้ไม่มีใครมาแย่งหรอก "ร่างสูงพูดดุคนตัวเล็กหน้าอีกคนตั้งหน้าตั้งตากินไม่ได้สนใจตัวเอง
"ใครบอกไม่มีไอ้ชินกับไอ้ใต้ฝนไง "ผมเงยหน้ามองพี่เพทายอย่างบูดๆบู่หน้าไปทางสองคนนั้นที่มันกำลังตั้งหน้าตั้งตากินกัน
"หึ แล้วแต่มึงเถอะ "พวกเรานั่งจากการหมูกะทะ 4 ชุดที่สั่งมาทั้งหมดผมรู้สึกแน่นท้องจนขยับไม่ได้ หัวพิงอยู่กับไหล่แกร่งของพี่เพทาย
"อิ่มมากเลยทำไมพี่เพทายกินน้อยจังน่าจะกินเยอะๆนานๆทีที่กินข้าวอร่อยแบบนี้นะแต่รวยแบบพี่เพทายคงจะไปกินสเต็กในภัตตาคารมากกว่าจะกินหมูกระทะร้านข้างถนนแบบนี้ "ผมอดพูดกับอีกคนไม่ได้ก็ไม่เป็นไรไม่ค่อยกินเลยนะ
"เปล่า แค่กูเห็นเมียแดกอร่อยกูก็อร่อยตามแล้ว "ผมหน้าแดงระรื่นเมื่อพี่เพทายก้มลงมากระซิบให้ได้ยินกันแค่สองคน
"โอ้ย อิ่มจนกูลุกไม่ขึ้นแล้ว "ฟ้าพูดขึ้นพลางลูบท้องตัวเอง
"มึงเป็นผู้หญิงนะฟ้าดูแลรูปร่างตัวเองซะบ้างสิ "ผมพูดฟ้าเป็นคนที่กินค่อนข้างเยอะแต่ไม่มีไขมันส่วนเกินผู้มาให้เห็นเลยเพราะแบบนี้ไงผู้ชายเลยตามติดเป็นขบวน
"พออิ่มแล้วมึงก็ต้องเป็นคนจ่ายนะไอ้ไต้ฝุ่น ฮ่าๆ"ไอ้ชินหัวเราะอย่างสบายใจไอ้นี่มันถึงจะเหมือนคุณชายแต่ก็เป็นคนชอบของฟรีสินะ
" กระเป๋ากูฉีกแน่ๆ" ไอ้ไต้ฝุ่นมันทำหน้าเหมือนโลกแตกเมื่อไอ้ชินพูดจบ
"เดี๋ยวกูเลี้ยงเอง "ผมหันหน้ามองพี่เพทาย ไอ้ไต้ฝุ่นนี่แทบจะกระโดดไปกราบตีนพี่แกอย่างเทิดทูน ผมส่ายหน้าให้กับคนอวดรวยแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรไม่นานพนักงานเข้ามาเช็คบิลเราแยกย้ายกันส่วนผมกับพี่เพทายก็เดินทางไปที่ห้างไม่ไกลจากมอ มาก
หลังจากที่เจอกับอากาศร้อนๆ พอมาเดินในห้างที่มีแอร์ทำเอาผมแทบจะขึ้นสวรรค์
"พี่เพทายจะชวนผมมาซื้ออะไรหรอ พี่เพทายชวนผมมาซื้ออะไรหรอทำไมไม่ไปซื้อที่ตลาดล่ะที่นั่นของถูกมากแล้วก็มีให้เลือกเยอะแยะ ในนี้มีแต่ของแพงแพงพี่เพทายอย่าเอาทั้งหลายพันไปทิ้งให้กับสิ่งที่ไม่มีประโยชน์และรู้ไหมว่าแต่มันหายากกก"ถึงผมจะชอบที่นี่แต่ราคาสินค้าแต่ละอย่างแพงจนผมแทบจะเดินออกจากร้านทันทีที่เห็นป้ายราคา
"ตามมา" ผมมองมือหนาที่จับข้อมือขาวผมไว้ก่อนจะพาไป ร่างสูงมายืนอยู่ที่นั้นเครื่องประดับแห่งหนึ่งผมชะโงกหน้าเข้าไปดูภายในร้านระยิบระยับเต็มไปด้วยเพชรนิลจินดาที่ราคาน่าจะแสนแพง
"ยินดีต้อนรับค่ะคุณลูกค้าเชิญเลือกได้ตามสบาย "พนักงานพูดทักทายยิ้มให้อย่างสดใส พี่เพทายไม่ได้พูดอะไรเดินพาผมไปยังโซนกำไลข้อมือ
"เลือกเอาสิ "ผมดึงมือตัวเองออกจากมือ ของพี่เพทายสายตาระยิบระยับถูกส่งไปให้กับข้อมือหลากหลายรูปแบบ คนที่สายตาผมจะไปหยุดอยู่ที่กำไลสีเงินเป็นรูปกุญแจซอล 2 อันคล่องกันมันไม่ได้มีความหมายแต่ผมว่ามันสวยดีแต่เมื่อเลือบสายตาลงไปเห็นราคาผมแทบจะปล่อยมันไว้ที่เดิมทันที
"ไม่เอาหรอ"เสียงทุ้มถามผมจากด้านหลัง
"ไม่เอาหรอกมันแพงผมไม่กล้าใส่ของแพงขนาดนั้นหรอก "ผมตอบเสียงเบา
"หึหึ กูรวยกูเลี้ยงมึงได้ "มือหนาเอื้อมไปหยิบกำไรอันนั้นก่อนจะถึงมือผมไปที่เคาน์เตอร์
"ทั้งหมด 7500 บาทค่ะ"ผมทำงานกี่วันกันนะถึงจะได้ตังเยอะขนาดนี้ร่างสูงยื่นบัตรสีทองให้พนักงาน
" ขอบคุณที่ใช้บริการโอกาสหน้าเชิญใหม่นะคะ "อย่าหวัง!! หลังจากนี้ผมจะไม่ยอมให้พี่เพทายใช้เงินเยอะขนาดนี้แน่!!
"พี่เพทายไม่น่าซื้อเลยมันแพง "ผมบ่นคนเดียวเบาเบาร่างสูงหยุดเดินก่อนจะหันหลังกลับข้อมือผมพร้อมกับใส่กำไลกุญแจซอลอันนั้นให้เรียบร้อย ริมฝีปากน่าจูบลงบนข้อมือจนผมหน้าแดงระรื่นอย่างเขินอาย
"มึงคนเดียวกูจะเลี้ยงทั้งชีวิตเลย " ผมหลบตาอีกคนอย่างเขินๆมองไปรอบรอบรู้สึกว่าคนทั้งห้างกำลังหันมามองพวกเราสองคนผมพึ่งนึกได้ว่าตอนนี้เราไม่ได้อยู่ในที่ส่วนตัว....
อายโว้ย!!!