บทที่ 11

1649 คำ
"พี่ภูขา ~ ~" เสียงหวานแหลมเล็กดังขึ้นพร้อมๆ กับเสียงประตูห้องที่ถูกเปิดออก จนฉันสะดุ้งจากความคิดในหัวรีบหันขวับมองเจ้าของเสียงด้วยความสงสัย เด็กสาวผมยาวใบหน้าหวานซ่อนเปรี้ยวโผเข้าสวมกอดพี่ภูผา ถ้าให้เดาเธอคงยังไม่ทนสังเกตเห็นฉันที่ยืนอยู่ด้วยภายในห้องแน่ๆ "ไรลาคิดถึงพี่ภูจังเลยค่ะ ไรลาแทบทนไม่ไหวที่จะบินจากอังกฤษมาหาพี่ที่นี่ ♥" "โตขึ้นเยอะเลยนะภู" เสียงเข้มของใครอีกคนดังขึ้นทันทีที่ยัยเสียงแหลม ซึ่งแทนตัวว่าไรลาพูดจบ ท่าทางของพี่ภูผาในตอนนี้เปลี่ยนไปจากครั้งแรกอย่างกับพลิกหน้ามือเป็นหลังมือ "กลับมาแล้วเหรอ?" เขาเค้นเสียงย้อนถามบุคคลที่สามกลับไปแบบไม่เต็มเสียงเท่าไหร่นัก "ใช่ กลับมาแล้ว มีคนตามตัวให้กลับมาช่วยดูบริษัทของคุณน้า เห็นว่าเด็กแถวนี้ไม่คอยเข้าไปดูงานที่บริษัทเลย..." “…” "ขอพี่เข้าไปได้ไหม?" "ตามสบาย..." ฉันกลืนน้ำลายลงคอเล็กน้อยเมื่อเริ่มรู้สึกว่าบรรยากาศในตอนนี้ มันคือบรรยากาศชวนทะเลาะของคนในครอบครัวที่คนนอกแบบฉันไม่ควรจะบังเอิญผ่านมาได้ยินหรือวุ่นวาย ชายหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้องด้วยท่าทางสุขุม ก่อนที่สายตาของเขาจะหยุดลงที่ฉันที่กำลังยืนลังเลมองเหตุการณ์ตรงหน้าแบบหวั่นๆ "นั่นใครเหรอภู?" คำถามของผู้ชายคนนั้นทำให้สายตาของทุกคนในห้องหันมามองทางฉันด้วยความสงสัย ส่วนฉันได้แต่ยิ้มแหยๆ ก้มหัวลงเล็กน้อยแทนคำทักทาย "ฉันชื่ออัญชันค่ะ เป็นรุ่นน้องพี่ภูผาที่มหา’ลัย" เด็กสาวที่ชื่อไรลาจ้องจิกฉันด้วยสายตาและกอดคล้องแขนกับพี่ภูผาแน่นคล้ายกับแสดงความเป็นเจ้าของ ต่างจากผู้ชายอีกคนที่ยิ้มรับคำพูดแนะนำตัวและดูจะเป็นมิตรที่สุด "พี่ชื่อกวินครับ เป็นลูกพี่ลูกน้องกับภูผา ส่วนเด็กคนนี้ไรลาน้องสาวของพี่เอง" "คะ...ค่ะ!" สถานการณ์ในตอนนี้ดูเปลี่ยนไป พี่ภูผาจอมแถแสนเจ้าเล่ห์ดูสงบปากสงบคำผิดหูผิดตา เขาปิดประตูห้องโดยมีน้องไรลาเป็นปลิงเกาะแขนทั้งๆ แบบนั้นโดยไม่พูดไม่จาสักคำ ทั้งที่ปกติเขาต้องขัดคำพูดฉันออกมาบ้างแล้ว แต่มันกลับไม่ใช่ในตอนนี้ เวลานี้ "น้องอัญหน้าตาสวยขนาดนี้ พี่เห็นแวบแรกพี่คิดว่าเป็นเด็กไอ้ภูเสียอีก" พี่กวินพูดยิ้มๆ ขณะเดินสำรวจไปรอบๆ ห้องสลับกับใช้สายตามองฉันเป็นพักๆ และก็เหมือนเคยที่พี่ภูผายังคงเงียบไม่พูดอะไร เขาเป็นอะไร? เดียวก่อนนะยัยอัญ! มันสำคัญอะไรด้วยล่ะว่าอีตาบ้าพี่ภูผาเขาจะเป็นอะไร ทำไมต้องอยากรู้อะไรแบบนั้นด้วย -_- ให้ตายเถอะ ฉันอยากจะทึ้งหัวตัวเองลงกับพื้นมันเสียตอนนี้จริงๆ บรรยากาศภายในห้องตกอยู่ในความเงียบ มีเพียงเสียงออดอ้อนเบาๆ ของน้องไรลาที่ดูจะสนิทสนมกับพี่ภูผาเสียเหลือเกิน ทว่า...ฝ่ายที่ถูกอ้อนแบบเขากับดูนิ่งขรึมไม่หือไม่อือตอบโต้ และถ้าฉันไม่คิดไปเองดูเหมือนพี่ภูผาจะเอาแต่จ้องมาที่ฉันเหมือนไม่คิดจะมองไปทางอื่นเลย "ที่บ้านน้องอัญทำงานอะไรครับ?" พี่กวินยิงคำถามใส่ฉันในทันทีที่เขาหยุดฝีเท้าลงตรงหน้า ทำฉันสะดุ้งเบาๆ เงยหน้าสบตากลับไปเล็กน้อยแบบเป็นมิตร "คุณพ่อเป็นหุ้นส่วนใหญ่กับบริษัทสายการบิน ASR ค่ะ ส่วนคุณแม่เปิดร้านอาหารนานาชาติอยู่ในเมือง" พี่กวินดูนิ่งลงเล็กน้อย เขาหรี่ตาจ้องหน้าฉันคล้ายกับคิดอะไร "เราสองคนเคยเจอกันที่ไหนมาก่อนหรือเปล่าครับ?" คำถามสั้นๆ แต่ชวนให้คิดยาวๆ ทำฉันย่นคิ้วจ้องตาตอบกลับไปด้วยความสงสัย "ทำไมพี่รู้สึกคุ้นหน้าน้องอัญชันเหลือเกิน" พี่กวินพึมพำลางเอือมมือแตะแก้มฉันอย่างอ่อนโยนและแผ่วเบาทำฉันสะดุ้งเล็กน้อย แต่ยังไม่วายที่จะละสายตาไปจากคนตรงหน้าเพื่อนึก "หน้าตาแบบนี้...สวยๆ แบบนี้...." เขาพึมพำ "พี่กวิน ผมว่าพี่เลิกยุ่งกับเธอได้แล้ว ผมคิดว่าผมจะพาเธอไปส่งที่มหา’ลัย" พี่ภูผาพูดขัดสิ่งที่พี่กวินกำลังกระทำใส่ฉัน จนเขาต้องรีบลดมือลงพร้อมเหลียวหลังมองน้องชายตัวเองที่ดูมีท่าทีไม่คอยพอใจ พี่ภูผาแกะแขนเรียวเล็กของน้องไรลาออกแบบรีบๆ โดยไม่พูดอะไร พร้อมทั้งรีบจำเท้าเดินตรงมาที่ฉันก่อนจะคว้าตัวดึงออกห่างจากพี่กวินพร้อมด้วยคำพูดสั้นๆ "เดี๋ยวผมขอตัวไปส่งยัยนี่ก่อนแล้วจะรีบกลับมา พวกพี่รอที่นี่นะ" "ไรลาอยากไปกับพี่ภูด้วย ให้ไรลาไปด้วยนะ" เด็กสาวพูดเสียงออดอ้อน พุ่งตัวเข้ากอดแขนพี่ภูผาอีกครั้ง แต่ทว่าคราวนี้เขากลับสะบัดกอดนั้นออกทันที พร้อมทั้งดึงตัวฉันเดินออกจากห้องทั้งๆ อย่างนั้นโดยไม่มีคำพูดใดๆ เล็ดลอดออกมาอีก มือหน้าที่จับแขนฉันแน่น ดูเหมือนมันจะแน่นขึ้นในทุกๆ ครั้งที่พี่ภูผาพาฉันเดินไปยังประตูลิฟต์ จนฉันชักเริ่มทนไม่ไหว "ฉันเจ็บนะพี่!" “…” "ปล่อยแขนฉันได้แล้ว!!" ฟึบ!! พี่ภูผาปล่อยมือที่จับแขนฉันออกอย่างว่าง่ายทำเอาฉันรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เขาไม่แม้แต่จะพูดขู่หรืองัดไม้ตายแรงๆ ออกมาใช้กับฉัน ไม่มีแม้แต่คำพูดล้อเล่นเสี่ยวๆ เหมือนทุกที จนฉันเริ่มรู้สึกแปลกใจ “…” “…” เราทั้งคู่ไม่พูดอะไรกันจนกระทั่งลิฟต์มาถึง แม้ว่าตอนนี้เราสองคนจะยืนอยู่ภายในกล่องสี่เหลี่ยมแคบๆ ของลิฟต์แล้วก็ตาม แต่มันก็ยังไม่มีทีท่าว่าพี่ภูผาจะชวนฉันคุยเหมือนกับทุกๆ ที “…” “…” "พี่จะไปส่งฉันที่มหา’ลัยจริงๆ น่ะเหรอ?" “…” "ไม่คิดจะพูดอะไรกับฉันใช่ไหม? ฉันจะได้เงียบ" ฉันรู้ตัวนะว่าคำพูดของตัวเองในตอนนี้คือฉันกำลังให้ความสนใจเขา แต่มันก็ไม่แปลกไม่ใช่เหรอ? ถ้าหากฉันจะทำเพราะไม่เข้าใจสถานการณ์ของตัวเองในตอนนี้ "พี่ไม่รู้จะพูดอะไร..." คำพูดคำจาแบบขวานผ่าซากซึ่งฉันคิดว่าไม่ได้ยินมาสักพักหนึ่งแล้วหลุดออกจากปากของพี่ภูผา จนต้องเหลียวมองใบหน้าด้านข้างของเขาที่ยังคงนิ่งเฉยคล้ายกับไม่รู้สึกอะไร "พูดจาแย่ ไร้หางเสียง..." ฉันจงใจพูดเหน็บเขากลับไปเบาๆ "..." "อย่าหาว่าฉันยุ่งเรื่องส่วนตัวของพี่เลยนะ แต่ท่าทางของพี่มันเปลี่ยนไป ไม่ใช่ว่าฉันไม่ชอบท่าทางของพี่แบบนี้ ไม่ใช่ว่าไม่ชินแต่ฉันแค่สงสัย พูดง่ายๆคือฉันอยากเสือก พี่มีอะไรไหนลองบอกฉันสิ?" "น้องอัญรู้จักไหมคะ?..." “…” "อาการหึงเมียน่ะ..." เขาเหลือบมองฉันเล็กน้อยด้วยสีหน้าที่ไม่ต่างไปจากเดิมนัก ก่อนจะเริ่มพูดต่อ "ผู้หญิงของภูผา เมียของภูผา พี่ไม่ต้องการให้ใครมาแตะต้อง..." หึง... นี่พี่ภูผาหึงฉันเหรอ? หรือว่าจะเป็นตอนที่พี่กวินจับแก้มฉัน??? "ไม่ว่าจะมือ แขน ขา หรือว่าแก้ม... พี่ก็ไม่อยากให้ใครแตะต้องผู้หญิงของพี่ทั้งนั้นนั่นแหละ" เขาเสริมด้วยน้ำเสียงเดิม ให้ตายสิ! หมอนี่หึงเพราะพี่ชายตัวเองจับแก้มฉันงั้นเหรอ... เด็กชะมัด …แต่ว่า ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าเขาน่ารักขึ้นมาได้ล่ะเนี่ย... ฉันหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะคว้ามือหนาที่ฉันเกลียดนักเกลียดหนาขึ้นมาไว้กับตัว ทำเอาพี่ภูผารีบหันมองฉันด้วยท่าทางแปลกใจ "พี่ไม่ต้องไปส่งฉันถึงมหา’ลัยหรอกนะ พี่รีบกลับขึ้นไปคุยธุระกับพี่ชายของพี่เถอะ" ฉันจงใจฉีกยิ้มหวานให้กับคนแก่ขี้สงสัยตรงหน้า จนเขาขมวดคิ้วเป็นปมแบบไม่เข้าใจ "และสิ่งที่ฉันทำต่อไปนี้ ฉันทำเพราะฉันไม่อยากเห็นพี่ทำท่าเหมือนเด็กอมมือ มันไม่เข้ากับลุคนักแถของพี่เอาเสียเลย" สิ้นเสียงฉันรีบยกมือของพี่ภูผาขึ้นแตะที่แก้มของตัวเองเบาๆ พร้อมกับเสียงเตือนของลิฟต์ที่ดังขึ้นทันทีที่มาหยุดอยู่ที่ชั้นล่างสุด โดยไม่ลืมทิ้งท้ายสั้นๆ "ถือว่าล้างพิษไปก็แล้วกัน..." พี่ภูผาเริ่มมีสีหน้าไม่คงที่ เขารีบหันมองไปทางอื่นด้วยท่าทีเคอะเขิน ซึ่งถ้าฉันมองไม่ผิดดูเหมือนที่แก้มของเขาจะเริ่มมีสีแดงจางๆ ด้วยสิ ฉันรีบปล่อยมือพี่ภูผาก่อนจะจ้ำเท้าเดินออกจากลิฟต์โดยไม่มีคำล่ำลาอื่นๆ ต่อท้าย และหวังว่าสิ่งที่ฉันทำเมือกี้กับพี่ภูผาในลิฟต์จะทำให้เขาอารมณ์ดีขึ้น "น้องอัญชัน!!!" เสียงตะโกนของพี่ภูผาจากในลิฟต์ทำให้ฉันและคนรอบๆ ข้างหันมองมองเจ้าของเสียงในลิฟต์ด้วยความสงสัย "เมียของพี่น่ารักที่สุดในโลกเลยนะคะ ซารางเฮโย~" น้ำเสียงและท่าทางของเขาทำให้คนที่ได้เห็นก่อนที่ประตูลิฟต์จะปิดลงหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ ซึ่งนั่นรวมไปถึงฉันด้วยเช่นกัน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม