@Night’s pub
01.20 น.
เสียงดนตรีอัดบีทหนักๆ ดังผ่านช่องประตูทางเข้าออกของผับดัง อย่างNight’s Pub อย่างเช่นทุกคืน เหล่านักท่องราตรีต่างให้การยอมรับว่าผับๆ นี้เป็นผับที่ดีที่สุดในเมือง ไม่ว่าจะเรื่องของเครื่องดื่ม อาหาร หรือดนตรีจังหวะมันส์ๆ
ทุกๆ คืนวันศุกร์และเสาร์ ผู้คนจะแห่กันมาใช้บริการถึงขนาดที่ว่าจับจองที่นั่งข้างในแทบไม่ทัน
ทุกๆ คืนวันศุกร์และเสาร์ ผู้คนจะแห่กันมาใช้บริการถึงขนาดที่ว่าจับจองที่นั่งข้างในแทบไม่ทัน เหล่าสาวๆ ขาเที่ยวกลางคืนจะพากันสวมเสื้อผ้าน้อยชิ้น ฉีดน้ำหอมกลิ่นหอมหวาน และแต่งหน้าแต่งตาเพื่อให้ดูโดดเด่นที่สุดของยามค่ำคืน ต่างจากเหล่านักท่องกลางคืนเพศชาย ที่ต่างพากันหารถหรูๆ แต่งกายด้วยเสื้อผ้าราคาแพงและดูดี เพื่ออวดเงินทองในกระเป๋า สังสรรค์ และสุดท้ายถ้าโชคดี พวกเขาก็จะได้นางฟ้ายามค่ำคืนหิวติดรถกลับบ้านไปด้วย
เฉกเช่นยามค่ำคืน คืนนี้…
ดนตรีอดบีทหนักๆ จังหวะมันส์ๆ ทำให้กลางฟลอร์เต็มไปด้วยขาแดนส์ทั้งชายและหญิง ที่พากันออกโชว์สเต็ปของตัวเอง บ้างก็จับจองที่นั่งบริเวณบาร์น้ำหรือประจำที่โต๊ะของตัวเอง เพื่อดื่มแอลกอฮอลล์
‘คืนนี้เป็นคืนสุดพิเศษ เพราะเป็นวันเกิดของคุณภูผา ลูกค้า VIP ของผับของเรา!’
‘เฮ เฮ!’
‘อย่าเพิ่งรีบส่งเสียงกันขนาดนั้น เพราะเซอร์ไพรส์ของคุณภูผาในค่ำคืนนี้คือ ดื่มฟรี กินฟรี แล้วมันส์กันฟรี สนใจกันไหมม!!’ เสียงดีเจที่ลอดผ่านลําโพงตัวยักษ์ทั่วบริเวณพื้นที่ ทำให้เสียงเฮของเหล่าผีเสื้อราตรีส่งเสียงเฮกระหึ่มด้วยความพอใจ โดยเฉพาะกับโต๊ะที่เป็นเจ้ามือ
‘เรามาส่งเสียงเรียกชื่อของผู้ใจดียามค่ำคืนนี้กันหน่อยเร็ววววว!’
‘เฮ! เฮ!’
‘ภูผา!!’
‘ภูผา! ภูผา!’
‘ภูผา!!’
‘ภูผา! ภูผา!’
เสียงของผู้คนและดีเจที่ขานเรียกชื่อ ‘ภูผา’ ลูกชายคนโตของบริษัทส่งออกยักษ์ใหญ่ที่ครอบคลุมไปทั่วโลก ไม่ว่าจะส่งออกรถยี่ห้อแพง เสื้อผ้าแบรนด์ดัง น้ำหอมขึ้นชื่อ แม้แต่อาหารบางชนิด
ทว่า เสียงโห่ร้องเหล่านั้นไม่อาจจะทำให้ เจ้าตัวรู้สึกเขินอายได้แต่อย่างใด เมื่อเขากำลังหมกมุ่นกระทำเรื่องบางอย่างโดยไม่รับรู้สิ่งรอบตัว
“แฮ่ก ... อะ...อือ”
เสียงหอบเบาๆ จากชายหญิงคู่หนึ่งดังลอดมาจากมุมหนึ่งภายในผับ ซึ่งถูกกลบทับด้วยเสียงของดนตรีจงหวะมันส์ๆ จนหมด แต่ไม่อาจจะทำให้คนฟังหยุดรู้สึกสั่นไหวกับเสียงหวานแหบพร่าเพราะความอ่อนแรงลงได้เลย
แขนเล็กโอบรอบต้นคอชายหนุ่ม ริมฝีปากบดขยี้จนแนบแน่น ขณะละเลงท่วงท่าหลอมรวมเป็นหนึ่งกับชายแปลกหน้าตามจังหวะเสียงดนตรี ขณะที่เจ้าของมือหนาค่อยๆ เลื่อนมือโอบรอบเอวเล็กเพื่อขยับร่างกายส่วนล่างสวนขึ้นตามเป็นจังหวะ
เกาะอกสีดำตัวจิ๋วถูกชายหนุ่มเจ้าของวันเกิดชื่อภูผา ดึงร่นลงมาจนเผยให้ เห็นบราเซียสีอ่อนไร้สายขนาดเหมาะมือ ก่อนจะค่อยๆ ฝังหน้าลงจนหญิงสาวแหงนหน้าสูดปากเล็กน้อยเมื่อถูกสัมผัสอุ่นจากริมฝีปากจากบุคคลตรงหน้าทำเอาสายคาดหัวของหล่อนที่สวมประดับติดตัวมาไหลร่วงลงกับพื้น
“หะ ...อะ...อืออ”
เสียงร้องเบาๆ คล้ายกับเป็นน้ำมันที่เริ่มเทรดใส่กองไฟที่กำลังลุกโชน ให้โหมกระหน่ำรุนแรงขึ้นในทุกๆ วินาที ลมหายใจร้อนเคล้ากลิ่นแอลกอฮอล์ถูกเป่ารดซึ่งกันและกัน ในทุกครั้งทีร่างกายของคนทั้งคู่กระทบกันเป็นจังหวะ หญิงสาวเม้มปากแน่นเมื่อชายหนุ่มตัดสินใจมอบความหฤหรรษ์ โดยการโถมกายรุกเร้ารุนแรงกว่าเก่า
“อะ...อะ...”
“อ่า...ขะ ขยับขาออกหน่อยสิ”
ชายหนุ่มเอ่ยปากขอน้ำเสียงอู้อี้ไม่ได้ศัพท์เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ปนเสียงหอบเบาๆ ทำให้คนฟังขยับขาตามคำขอบนตักของชายหนุ่มอย่างว่าง่าย
ความหฤหรรษ์ดำเนินต่อไปอย่างต่อเนือง จนเวลาผ่านไปครู่ใหญ่ๆ ก่อนที่คลื่นความสุขสมจะหยุดลง เมื่อหญิงสาวฟุบหน้าลงกับหัวไหล่ของร่างสูงเพราะความอ่อนล้าและหมดแรง
“เธอ...เธอชื่ออะไร” ภูผาพยายามรวบรวมสติที่เสียไปกับฤทธิ์ของเครื่องดื่มมึนเมา กระซิบถามเสียงอ่อนโยนข้างหูหญิงสาว โดยยังคงกดลำตัวของหล่อนให้แนบชิดกับแผ่นอกตัวเองค้างไว้แบบนั้น เพื่อซึมซับความอบอุนของกันและกันให้คงนานที่สุด
ทว่า…
ไม่มีเสียงใดๆ เล็ดลอดตอบโต้กลับมา นั่นทำให้ผู้ชายสุดแสนเพอร์เฟคแบบเขากวาดสายตามองไปรอบๆ ตัวก่อนจะพบเข้ากับขวดของเหล้ายี่ห้อดังที่ดื่มค้างเอาไว้
ชายหนุ่มขยับตัวเล็กน้อย ใช้มือประคองร่างบางที่ฟุบหลับบนบ่าขณะโน้มตัวเอื้อมมือคว้าขวดเหล้าที่อยู่ห่างออกไปไม่มากนัก
โครมมม!
ตุ้บ!
ภาพตรงหน้าค่อยๆ เลือนหายไปพร้อมกับร่างเล็กบนตัวจนรอบตัวมืดดับลง
“ภู....”
“...”
“ไอ้ เชี่ยภู!”
เสียงเข้มตะโกนเรียกชื่อเพื่อนรัก ทำเอาคนถูกเรียกสะดุ้งตื่นจากนิมิตอันแสนยาวนาน เขาปรือตาขึ้นเล็กน้อยด้วยอาการมึนๆ ก่อนจะพบเข้ากับเพื่อนรักอย่าง ‘เวหา’ ที่ยืนกระดกเบียร์ในมือก้มมองเขาด้วยท่าทางแปลกๆ
“ไอ้ เว...” เขาพูดงึมงำด้วยน้ำเสียงมึนๆ แล้วค่อยๆ ใช้มือดันตัวเองให้ลุกขึ้นจากพื้นช้าๆ
“มึงลงไปนอนบนพื้นทำไมวะ ถึงจะเป็นวันเกิดก็ไม่ควรจะเมาจนขาดสติแบบนี้นะเว้ย” เวหาเอ็ดเพื่อนรักพร้อมพุ่งมือเข้าช่วยพยุงชายหนุ่มให้กลับมายืนเสมอตนอีกครั้ง “นี่ถ้ากูไม่พาไอ้ธารกับมังกรน้องมึงมาเยี่ยวนี่คงไม่รู้เลย ว่าเจ้าของวันเกิดเสือกมานอนเล่นบนพื้นเหมือนหมาแบบนี้” เขาเสริม
“กูไม่ได้ มานอนเล่น…” ชายหนุ่มขัดเพื่อนรักน้ำเสียงอึนๆ พลางยกมือขึ้นกุมขมับเล็กน้อยเพราะในหัวของเขากำลังเต้นตุบๆ ขึ้นมาแบบแปลกๆ
“นี่อย่าบอกนะว่ามึงเดินมาเยี่ยว แล้วเดินกลับโต๊ะไม่ไหว เลยต้องมานอนเหมือนหมาอยู่ตรงนี้?” เวหาหัวเราะลั่นเมื่อสายตาเฉียบคมของตัวเองดันสังเกตเห็นที่เป้ากางเกงของเพื่อนสนิทที่ถูกปลดตะขอแถมยังไม่ได้รูดซิปจนสนิทเรียบร้อย
“เมียกู…”
คำพูดสั้นๆ ของชายหนุ่มทำเอาคนฟังย่นคิ้วมองหน้าท่าทางสงสัย
“มึงหมายถึงอะไรวะ? มึงเลิกกับแฟนไปหลายเดือนแล้วไม่ใช่หรอ?”
“ไม่ใช่แฟน แต่เป็นเมีย”
เวหาจ้องหน้าเพื่อนรักแบบอึ้งๆ ก่อนจะปล่อยเสียงหัวเราะออกมาดังลั่น เพราะรู้ดีว่าคนอย่างภูผาที่คบเป็นเพื่อนกันมานานเกือบสิบปี ไม่เคยคบกับใครได้รอดนานเกินอาทิตย์ ที่สำคัญเรื่องบนเตียงของภูผามันต่างจากของเขาลิบลับ ชนิดที่ว่าเทียบไม่ติด หรือพูดง่ายๆ ก็คือเพื่อนรักของเขาคนนี้ยังคง ‘ความซิง’ มาได้จนครบ 23 ปี
เวหาทรุดตัวลงนั่งเก้าอี้ตัวเล็กที่อยู่ใกล้ๆ กุมท้องนั่งขำไม่ยอมหยุด แต่ว่านั่นกลับไม่ได้ทำให้ภูผารู้สึกหงุดหงิดหรือไม่พอใจแต่อย่างใด เขาหันมองซ้ายมองขวาเพื่อค้นหาเป้าหมาย ก่อนจะพบเข้ากับสายคาดหัวดอกอัญชันสีม่วงอ่อนซึ่งตกอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลตัวนัก
ชายหนุ่มรีบตรงเข้าไปคว้าสายคาดหัวของผู้หญิงขึ้นมาไว้กับตัว ภาพในหัวเริ่มประมวลผลถึงหญิงสาวที่ตัวเองกำลังนึกถึง ภาพใบหน้าเลือนรางของเธอทำเขาเริ่มรู้สึกปวดจี๊ดที่หัวอีกครั้งเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ แต่ในความปวดนั้นกลับโชคดีที่เขาจำได้ว่าเธอคนนั้นคือเจ้าของสายคาดหัวในมือของเขาจริงๆ
“มีอะไรกันวะ มึงขำอะไรไอ้เว...” น้ำเสียงเรียบนิ่งชวนสงสัยของ ‘ลำธาร’ เอ่ยปากถามเวหาทันทีที่เขาเดินออกจากห้องน้ำมาพร้อม ‘มังกร’ น้องชายแท้ๆ ของภูผาเพื่อนรักของตน และทันสังเกตเห็นเพื่อนรักทั้งสองที่ดูมีท่าทีต่างกัน
“มึงก็ลองถามไอ้ภูแม่งเอาดิ ฮ่าๆๆๆ” เวหาตอบน้ำเสียงปนขำ พลางชี้มือไปที่ภูผาซึงกำลังยืนจับจ้องสายคาดหัวดอกอัญชันในมือท่าทางนิ่งขรึม
“เป็นไรวะพี่?”
เสียงของน้องชายร่วมสายเลือดทำคนถูกถามตัวสั่นคล้ายกับเจ้าเข้า เขารีบตวัดหางตามองเพื่อนรักทั้งสองและน้องชายของตัวเองด้วยแววตาดุดัน และนั่นทำให้ เสียงหัวเราะของเวหาเงียบลงในทันที
“พวกมึงต้องช่วยกู” ชายหนุ่มเค้นเสียงพูดออกมาประโยคสั้นๆ และเริ่มไล่ระดับสายตากวาดมองหน้าเพื่อนรักทั้งสองกับน้องชายช้าๆ คล้ายกับจะสั่งคนทั้งหมดด้วยสายตา
“ช่วยอะไรวะ?”
คำถามที่หลุดออกจากปากของเพื่อนรัก ทำให้เขากระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปากก่อนจะพูดออกมาอีกครั้งเพียงสั้นๆว่า
“กูจะตามหาเมีย!”