อาจได้พบพักตร์อีกครา

979 คำ
“แหม... ถ้าเห็นดีเห็นงามแต่งกายตามแหม่มเยี่ยงนี้ แล้วทำไมไม่ใส่กระโปรงสุ่มไปด้วยเล่าคะ จะใส่ซิ่นทำไมกัน” ประยงค์ยังอดประชดไม่ได้ แม้จะพินิจแล้วว่าตัวเสื้อตัดเย็บเรียบร้อย ผ้าซิ่นก็ทอลายงดงาม ทว่าเสื้อผ้าที่หล่อนจัดเตรียมไว้เล่าจะทำเยี่ยงไร “โถ... คุณพี่อย่างอนสิคะ เราไม่ได้แต่งกายตามแหม่มทุกอย่างดอกค่ะ คุณครูท่านว่า เรารับความนิยมนำมาปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม แบบเสื้อผ้าของเขาเมื่อนำมาตัดเย็บประยุกต์ก็เหมาะกับผ้าซิ่นของเราค่ะ” บุษบาอธิบายก่อนจะเหลือบมองพิกุลที่พยักหน้าส่งยิ้มเชิงให้หล่อนพูดต่อ เพราะเห็นว่าประยงค์ดูจะอ่อนลงแล้ว “แค่ยามออกนอกเรือนหรือไปยังสถานที่อันควรเท่านั้นแหละค่ะ เราจึงแต่งกายเยี่ยงนี้ แต่อยู่ในเรือนหรือละแวกเรือนเรา เราก็ยังแต่งกายเยี่ยงเดิมค่ะ เคยใส่โจงเยี่ยงไร ก็ยังคงใส่เยี่ยงนั้น” “จริงรึแม่บุษ ไม่ต้องเปลี่ยนไปใส่แบบนั้นทุกวันใช่รึไม่” “จริงค่ะคุณพี่” “เฮ้อ! ค่อยโล่งอกหน่อย พี่รึก็คิดว่าต้องเปลี่ยนทั้งหมด เสียดายอุตส่าห์ตัดเย็บอบร่ำไว้เสียดิบดี” “อย่างนั้นไปลองชุดกันเถอะ เผื่อตรงไหนหลวมไป แม่ประยงค์จะได้เก็บเนาได้ทัน เพราะแม่ประยงค์ต้องไม่ลืมนะว่า ค่ำนี้นางบุษบาของเรา อาจได้พบพักตร์อิเหนาอีกครา” “คุณพี่! ล้อน้องเล่นอีกแล้ว น้องไม่คุยด้วยแล้วค่ะ ไปลองชุดดีกว่า” บุษบาเขินอายเกินทนฉวยถุงผ้าแล้วรีบหลบเข้าห้องปล่อยให้พิกุลกับประยงค์หันมองหน้ากัน ก่อนจะยิ้มขันกับท่าทีเอียงอายของน้องสาว “คุณพี่มั่นใจหรือคะ ว่าค่ำนี้นางบุษบาของเราจะได้พบพักตร์อิเหนา” “มั่นใจสิแม่ประยงค์ เพราะอิเหนารูปงามน่ะร่วมแสดงด้วยนะค่ำนี้ เพียงแต่อิเหนาจะเห็นแม่บุษบาของเรารึเปล่าก็เท่านั้น” “อ้าว... เหตุใดจะไม่เห็นเล่าคะ” “โธ่... แม่ประยงค์ ก็ไม่ใช่แค่แม่บุษบาที่หลงพักตร์อิเหนาน่ะสิ แต่สาวๆ แทบทั่วพระนครก็ต่างหลงพักตร์อิเหนากันทั้งนั้น ติดแค่ว่าพ่ออิเหนาไม่เคยมองหญิงใด แม่สื่อแม่ชักถึงได้ทำงานกันให้วุ่น ทั้งชักทั้งพา อิเหนาก็ยังเฉย...” ประยงค์ยิ้มกับเสียง ‘เฉย’ ที่พิกุลลากยาว “แหม... คุณพี่พูดเยี่ยงนี้ น้องใคร่ยลโฉมพ่ออิเหนาเสียเร็วๆ อยากจะรู้นักว่าจะงามสมกับแม่บุษบาของเรา ดั่งที่คุณพี่เปรียบเปรยว่าเป็นระเด่นมนตรีรึเปล่า” “เชื่อสายตาพี่สิแม่ประยงค์ รูปงามนามเพราะ อนาคตไกลเยี่ยงนั้น สมกับแม่บุษบาของเราที่สุด” พี่สาวทั้งสองคนที่พูดคุยกันกระหนุงกระหนิงแม้จะเบา แต่คนที่ลอบฟังอยู่ด้านหลังบานประตูก็ได้ยินชัด จนไม่อาจสั่งใบหน้าให้หยุดยิ้มได้ บุษบาเดินมานั่งบนตั่งหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ทาบฝ่ามือกุมแก้มที่ร้อนผ่าวของตนเอง ด้วยเหตุครั้งแรกที่ได้พบหน้ายังชัดเจนในใจ บุรุษเรือนกายสูงใหญ่มีใบหน้าละม้ายชายยุโรป ทว่าก็ไม่ชัดเสียจนจะบ่งชี้ว่าเป็นยุโรปชาติใดได้ ผิวละเอียดขาวราวหยวก ผมตัดสั้น ใบหน้ารูปไข่ คิ้วเข้ม ดวงตาคม จมูกโด่ง ริมฝีปากสีแดงสด โดยเฉพาะรอยยิ้มใจดีบนใบหน้าหล่อเหลานั้นหล่อนยังจำได้ หากให้คิดหวังตามใจตน หล่อนก็หวังว่าค่ำคืนนี้จะได้พบพักตร์อิเหนาสักครา แม้พิกุลจะบอกว่ารู้จักบุรุษนั้นแล้วเพราะอยู่ในสังกัดกรมเดียวกัน แต่หล่อนกลับไม่กล้าสอบถามหรือแสดงตนว่าอยากรู้เรื่องราวของเขา คิดเพียงว่าหากมีวาสนาคงได้พบกันอีก และค่ำคืนนี้เมื่อพิกุลบอกว่าเขาเป็นหนึ่งในเจ้าพนักงานดนตรี หัวใจหล่อนก็สั่นไหวนัก หล่อนอยากรู้ว่า 3 ปีที่ผ่านมา เขาเปลี่ยนไปเช่นไรบ้าง ดวงตาสวยหวานเพ่งพิศใบหน้าตนเองที่สะท้อนจากกระจกเงา หากเขาเห็นหล่อนในค่ำคืนนี้ รอยยิ้มนั้น... หล่อนยังจะได้รับอีกหรือไม่ ตึกฝรั่ง 2 ชั้นสีขาวที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้าสร้างความไม่ชอบใจให้กับ ‘คุณหญิงสร้อย’ ทุกครั้งที่มาเยือน แม้ตึกฝรั่งนี้จะสร้างอยู่ในที่ดินผืนเดียวกับเรือนปั้นหยาของหล่อน ทว่าหล่อนกลับไม่อยากมาเยือนหากไม่จำเป็น เพราะตึกนี้บุตรชายสร้างขึ้นเพื่อเป็นเรือนหอ ทว่าเรือนหอนี้กลับกลายเป็นเรือนรอ เมื่อหญิงคนรักของลูกชายจำต้องวิวาห์กับคนอื่นไป “คุณพระลงมารึยังเจ้าเข้ม” คุณหญิงหันไปถาม เมื่อเจ้าเข้มคนสนิทของลูกชายเดินเข้ามาหาในทันทีที่เห็นหล่อนก้าวเข้ามาในตัวตึก แต่ก่อนเจ้าเข้มจะเปิดปากพูด เสียงร้องทักจากลูกชายก็ดังขึ้น “ผมอยู่นี่ครับคุณแม่” คุณหญิงสร้อยแหงนหน้ามองที่มาของเสียงและก็เห็นลูกชายที่แต่งตัวเสร็จเรียบร้อยกำลังก้าวลงบันไดมา รอยยิ้มระบายบนใบหน้าผู้เป็นแม่ ด้วยเจ้าของร่างสูงใหญ่นั้นละม้ายคล้ายสามีผู้ล่วงลับ ทว่าลูกชายนั้นงามกว่าผู้เป็นพ่อนัก เพราะได้เชื้อสายแขกขาวจากพ่อและได้เชื้อจีนจากหล่อน บุตรชายของหล่อนจึงดูคมเข้มทว่าผิวขาวงามราวเทวดา จนคุณท้าวฝ่ายในที่เคยคุ้นกับหล่อนยังเคยเปรียบว่า ‘พ่อศรนั้นงามปานอิเหนา’ ทว่าอิเหนาของแม่นี้กลับยังไม่มีนางบุษบามาเป็นคู่ตุนาหงัน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม