ฟางเส้นสุดท้าย

1025 คำ
“ถ้าคุณแม่อยากได้หลาน ผมรับรองครับ จะต้องมีคนใดคนหนึ่งตั้งท้องแน่” “พ่อศร! พ่อศรรู้ดีว่าแม่ไม่ได้ต้องการแบบนี้ แต่พ่อศรก็ยังจงใจทำ” คุณหญิงสร้อยโกรธจนสั่น เพราะหาทางจัดการกับลูกชายไม่ได้ ตั้งแต่เมื่อ 2 ปีก่อนที่ยื่นคำขาดให้พ่อศรต้องมีเมียก่อนเดือนยี่ นั่นทำให้ลูกชายไปคว้าบ่าวสาวๆ เข้ามาเป็นเมีย และนังอิ่มกับนังนวลก็ทนทายาด เพราะไม่ว่าจะดุด่าเท่าไร นังสองคนนี่ก็ยังทน และยิ่งอยู่นานก็ยิ่งกร่าง คิดว่าพ่อศรจะยกย่องให้เป็นเมีย หรือไม่ก็คิดว่าจะให้ลูกกับพ่อศรได้ ถึงทำตัววางอำนาจบาตรใหญ่ใส่บ่าวด้วยกัน ศรหันไปมองเข้มที่ถือกระเป๋าใส่เอกสารพร้อมเสื้อสูทของเขาตามเข้ามา ดวงตาสื่อความหมายส่งไป เจ้าเข้มพยักหน้า ค้อมหัวเข้าใจคำสั่ง แม้นายจะไม่พูด แต่ก็รู้ว่านายต้องการอะไร เจ้าเข้มจึงนำกระเป๋าและสูทไปวางบนโต๊ะ จากนั้นตรงเข้าไปต้อนนังอิ่มกับนังนวลให้เดินลงบันไดด้านข้างของตึกใหญ่ นังอิ่มนั้นทำท่ากระฟัดกระเฟียดไม่พอใจที่เจ้าเข้มทำเหมือนสั่ง ผิดกับนังนวลที่ทำหน้าตาน่าสงสาร แต่ทั้งสองก็ต้องหัวหดเมื่อคุณหญิงขึงตาใส่ ก็ใครเล่าจะกล้ากับคุณหญิงสร้อย ในเมื่อคุณศรไม่มีแม่เรือน ดังนั้นอำนาจสิทธิ์ขาดในเรือนก็ยังคงเป็นของคุณหญิงสร้อยแต่เพียงผู้เดียว แม้ลูกชายจะแยกตึกนอนก็ตาม ศรมองเจ้าเข้มที่พานังอิ่มกับนังนวลเดินลับไป ก่อนจะหันมองแม่ที่ใบหน้าฉายอารมณ์กรุ่นโกรธเต็มที่ ใบหน้าอวบตามวัยเชิดขึ้น ยิ่งทำให้ใบหน้าหล่อเคร่งเคียด เพราะท่าทีของแม่แปลกกว่าทุกครั้ง ทุกคราที่คุยเรื่องเมีย แม่ก็แค่ร้องขอให้เขามี ให้เขาหา แต่ไม่เคยมาอาละวาดก้าวก่ายในตึกขาว “คุณแม่ครับ ผมขอร้อง อย่าเพิ่งไล่นังสองคนนั่นออกเลยนะครับ” “ทำไม! รึพ่อศรอาลัยอาวรณ์มัน นี่คิดจะโยกคนใช้ขึ้นเป็นเมียจริงๆ ใช่ไหม พ่อศร! แม่ถาม!” “ไม่ใช่นะครับคุณแม่ ผมก็แค่เวทนามัน” “อย่ามาใช้คำนี้เพื่อต่อรองแม่ เมื่อปีกลายพ่อศรก็พูดแบบนี้ แล้วอย่างไร พ่อศรก็ยังไม่ถูกใจใครสักคน หาจนทั่วพระนครก็ไม่มีลูกสาวบ้านไหนที่พ่อศรพึงใจ เพราะพ่อศรถือว่ามีเมียอยู่ร่วมบ้านด้วยกระมัง พ่อศรจึงไม่เห็นแก่แม่แก่เชื้อ ไม่เห็นหัวแม่ ในเมื่อพ่อศรทำแบบนี้กับแม่ แม่ก็จะไม่เห็นแก่พ่อศรอีก” “คุณแม่ครับ ฟังผมก่อน ผมไม่เคยคิดเยี่ยงนั้นเลย” “แม่ไม่ฟังพ่อศรอีกแล้ว แม่ขอสั่งห้ามพ่อศรไปข้องแวะกับนังพวกคนใช้อีก และต่อแต่นี้ไปพ่อศรต้องตามใจแม่ จะมาโยกมาโย้ไม่ได้ แม่ยอมพ่อศรมานานแล้ว ถึงคราที่พ่อศรต้องทำเพื่อแม่เพื่อครอบครัวบ้าง” “คุณแม่ไม่เข้าใจผมแล้วหรือครับ” สายตาวิงวอนของลูกทำให้คุณหญิงสร้อยชะงักอารมณ์กราดเกรี้ยวลง เพราะหล่อนเข้าใจว่าลูกทุกข์เพียงใด หล่อนจึงได้อดทนรอคอยตามที่ลูกขอผลัดผ่อนทุกอย่าง แต่วันเวลาล่วงเลยมาจนป่านนี้ พ่อศรก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะคลายทุกข์นั้นได้สักครา หากหล่อนไม่จัดการสิ่งใดไป เห็นทีว่าสกุลคงสิ้นสุดที่พ่อศรเป็นแน่ “พ่อศร ฟังแม่นะ แม่เข้าใจพ่อศรทุกอย่าง เพราะหากแม่ไม่เข้าใจ แม่คงหาเมียตบแต่งให้พ่อศรไปตั้งแต่เมื่อห้าปีก่อนโน่นแล้ว คงไม่รอมาจนถึงตอนนี้ พ่อศรตรองดูเถิด คนที่ไม่เข้าใจนั่นน่ะคือพ่อศรเองหรือเปล่า รักก็ส่วนรักนะพ่อศร แต่หน้าที่ก็คือหน้าที่ และหน้าที่ของพ่อศรก็ไม่ใช่แค่หน้าที่ต่อบ้านเมือง แต่พ่อศรมีหน้าที่สืบสกุลด้วย หากพ่อศรจะหาเหตุแค่เรื่องที่พ่อศรไม่รัก หรือพ่อศรแต่งไปแล้วจะไม่มีความสุข แม่ก็เห็นควรว่า พ่อศรควรมองความสุขของแม่และความสุขของบรรพบุรุษบ้าง เพราะหากพ่อศรเอาความสุขของตนเองเป็นที่ตั้ง นั่นคือพ่อศรอกตัญญูโดยแท้ จงตรองดูเถิดว่าที่แม่พูดนั้นจริงรึไม่” น้ำเสียงของแม่ที่เต็มไปด้วยความขื่นขม ศรรู้ดีว่าเขาเป็นต้นเหตุ แต่เรื่องหัวใจใครจะบังคับกันได้ ในเมื่อผ่านมากว่า 5 ปี เขายังไม่เจอหญิงคนไหนที่จะมาแทนที่ได้ และหัวใจก็ยังร่ำร้องถึงคำสัญญานั้น จะเป็นไปได้ไหมที่พระวิจิตรดุริยางค์จะครองเรือนโดยไร้แม่เรือน “แม่ทาบทามลูกสาวคุณพระนาฏกรรมฯ ไว้แล้ว วันพรุ่งน้องจะมาที่โรงละคร แม่หวังว่าพ่อศรจะไปพบน้อง” “คุณแม่!” ดวงตาคมเข้มมองมารดาด้วยความผิดหวัง เพราะแต่ไหนมามารดาไม่เคยก้าวก่ายเรื่องส่วนตัว แต่ครั้งนี้ถึงกับไปทาบทามและหากเขาปฏิเสธเล่า สุภาพสตรีท่านนั้นคงต้องมัวหมอง “พ่อศร อย่ามองแม่ด้วยสายตาเยี่ยงนั้น หากพ่อศรระลึกได้ก็จะรู้ว่าแม่ไม่เคยก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของพ่อศรเลย แต่นี่เป็นสิ่งที่แม่ควรกังวลไม่ใช่รึ พ่อศรไม่ใช่เด็กที่ดื้อดึงจนแม่ต้องลงหวาย แต่พ่อศรเป็นถึงคุณพระ พ่อศรควรรู้ว่าสิ่งใดควรสิ่งใดไม่ควร” “ผมทราบครับคุณแม่ แต่ปลูกเรือนต้องตามใจผู้อยู่ ผูกอู่ก็ต้องตามใจผู้นอน คุณแม่ทำเยี่ยงนี้ผมจะไม่มีความสุข และเธอคนนั้นก็จะพลอยไม่มีความสุขไปด้วยนะครับ” แม้หนทางแพ้เห็นอยู่รอมร่อ แต่ศรก็ยังอยากรั้งไว้ให้นานสุด ฟางเส้นสุดท้ายที่จะทำให้แม่เปลี่ยนใจ เขาจะไม่รั้งรอคว้าไว้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม