ขณะที่อีกฟากหนึ่ง ธามเพิ่งจะลุกจากโต๊ะทำงานหลังจากตื่นแต่เช้าก็นั่งทำงานในทันที เขาเพิ่งรู้สึกหิวในตอนนี้ มองเวลาที่นาฬิกาติดผนังบอกว่าหกโมงเย็นแล้ว เขาดื่มกาแฟแทนอาหารมาสองมื้อ เพิ่งรู้สึกหิวจัดขึ้นมา
ร่างสูงโปร่งในชุดลำลองอย่างดีลุกไปเปิดตู้เย็น มองไปริมฝีปากก็จุดยิ้มขึ้น ในตู้เย็นมีอาหารใส่กล่องเตรียมไว้อย่างดี เป็นฝีมือของวิรินคนเดียวที่ทำแบบนี้ กล่องซูเปอร์แวร์มีกระดาษโน้ตสีม่วงอ่อนติดอยู่
“แซนด์วิชทูน่าอาหารเช้า สลัดกับเสต็กปลาอาหารกลางวัน”
ธามยิ้มเมื่อเห็นอาหารที่ดูรู้ว่าถูกตั้งใจทำมาอย่างดี วิรินไม่ได้ทำมื้อเย็นไว้ให้ เพราะเขามักออกไปสังสรรค์กับเพื่อน ธามหยิบแซนด์วิชมาอุ่นในไมโครเวฟแล้วยืนเหม่อลอยสักพัก แล้วเหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้
...นรกแล้ว
วันนี้วันที่1พฤษภาคม วันแรงงาน ธามหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูบ้าฉิบ วันนี้วันศุกร์ หมายความว่าเขาจะไม่ได้เจอวิรินสามวัน แล้วเขาไปรับปากเธอให้กลับบ้านไปทำไมวะเนี่ย
วิรินกำลังคุยกับเพื่อนในกลุ่มคนหนึ่งที่มีปัญหาระหองระแหงกับแฟน เพื่อนของเธอคนนี้เป็นสาวเรียบร้อย มีแฟนเป็นนักธุรกิจหนุ่ม วันดีคืนดีไปออกรอบแล้วเจอกับสาวคนนหนึ่งมีอาชีพเป็นเซลส์ขายเครื่องจักรไปหัดเล่นกอล์ฟเพื่อจะเข้ากลุ่มไฮโซ เกิดสปาร์คกันขึ้น แฟนของเพื่อนเลยเลี้ยงเซลส์สาวคนนั้นเป็นเมียลับ
“ฉันเสียใจมากเลยนะวิ ทำไมเขาทำแบบนี้กับฉัน นังผู้หญิงคนนั้นก็หน้าด้านหน้าทนมาก ลงรูปอวดฉันทุกวัน ฉันทนไม่ไหวแล้ว ฉันจะเลิกกับเขา”
“ใจเย็นก่อนนะ พี่เขาบอกกับเธอว่ายังไงบ้าง”
“เขาบอกว่าเลือกฉัน จะเลิกกับผู้หญิงคนนั้น แต่ฉันมาคิดดูแล้ว ทำไมฉันต้องเป็นฝ่ายให้เขาเลือก ในเมื่อเขาทำผิด ฉันต่างหากสิ ที่ควรเป็นฝ่ายได้เลือก เลือกว่าจะคบต่อหรือไม่คบต่อ”
มาถึงคำพูดนี้ของเพื่อน วิรินก็สะอึกเบาๆ ในใจ ใช่แล้วเพื่อนเธอคิดถูกต้อง แฟนหนุ่มเป็นคนทำผิดแล้วถือสิทธิ์อะไรเป็นคนเลือกที่จะจบหรือไปต่อในความสัมพันธ์นี้ ในอีกมุมหนึ่งหัวใจของวิรินก็หนาวสะท้านเพราะเธอก็อยู่ในสถานะเมียลับของธาม แต่ดีที่ว่าธามไม่มีแฟน เรื่องนี้เธอเชื่อเขาได้ เขาเป็นคนพูดจาตรงไปตรงมา อีกทั้งห้าเดือนที่ผ่านมาเธอไม่เคยเห็นแฟนเขาเลยสักครั้ง เพราะไม่มีความจำเป็นที่เขาจะต้องปกปิดเธอ ในเมื่อเธอเป็นแค่เมียลับที่เขาจ่ายเงินให้ จึงไม่ต้องเกรงใจที่จะบอกว่าเขามีแฟนแล้ว
อีกทั้งเธอก็ถามเขาแล้วก่อนตกลงเป็นเมียเก็บ เพราะถ้าเขาบอกว่ามีแฟนหรือภรรยาแล้วก็ตามเธอจะไม่มีวันยอมเป็นเมียลับของเขาเด็ดขาด อย่างน้อยเธอก็มีศีลธรรมในใจอยู่
“เธอจะเลือกยังไงล่ะ ตัดใจได้เหรอ” วิรินถามเพื่อน
“ตอนนี้ไม่ได้หรอก แต่ว่าถ้าให้เขากลับมาง่ายๆ ฉันก็รู้สึกเสียศักดิ์ศรีอยู่ อย่างน้อยฉันก็รักตัวเองมากพอ แค่นี้ก่อนนะวิ เขามาหาฉันที่บ้านอีกแล้ว ฉันจะไปคุยกับเขาก่อนแล้วจะมาเล่าให้ฟัง”
วิรินเลยหยุดคุยแค่นั้น ปิดไลน์แล้วถอนใจเฮือก นอนขดตัวบนโซฟา ครุ่นคิดเรื่องของตัวเอง เธอยังต้องเป็นเมียลับธาม อีกหลายเดือน ไม่รู้ว่าต่อไปจากนี้จะเป็นยังไงต่อไป การเป็นนกน้อยในกรงทองไม่ได้ทำให้มีความสุข เพราะมันเหมือนคนไร้ค่า เสียศักดิ์ศรี ดังนั้นเธอจึงบอกตัวเองว่ายังต้องรีบเรียนรู้งานให้เร็วเพื่อจะไว้ใช้เลี้ยงตัวเองหลังจากพ้นสภาพเมียลับของธาม
วิรินเผลอหลับไป เมื่อตื่นขึ้นมาอีกทีก็พบว่าเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น หญิงสาวงัวเงียหยิบเครื่องมือสื่อสารขึ้นมาดูก็พบว่าคนที่โทร.มาคือธาม เขาโทร.มาทำไมตอนนี้ วิรินมุ่นหัวคิ้วแต่ก็รับสายเขาในทันท่วงที
“ค่ะ คุณธาม”
“วิ ทำอะไรอยู่ ฉันลืมไปเรื่องหนึ่งที่ให้วิหยุดวันนี้”
“ลืมอะไรหรือคะ” วิรินกำลังคิดว่าเขาคงลืมของหรือว่าหาอะไรไม่เจอเลยโทร.มาถามเธอหรือเปล่า แต่สิ่งที่ได้ยินกลับมาทำให้เธอสมองเบลอว่างเปล่า
“ลืมไปว่าวันนี้วันศุกร์ วิขอกลับบ้าน แต่ว่าพรุ่งนี้ก็เสาร์ อาทิตย์ ฉันไม่ได้เจอวิสามวัน”
“ค่ะ” ความหมายของวิรินแล้วคือยังไงต่อ ปกติก็เสาร์อาทิตย์เธอก็กลับบ้านอยู่แล้วนี่นา
“ฉันคิดว่าตอนที่วิขอลาหยุดวันนี้ มันไม่สมเหตุสมผล ฉันไม่ทันมีสติตอนอนุมัติวันลาหยุด”
“แต่ว่าคุณธามบอกให้วิกลับบ้านได้ อีกอย่างวันนี้วันแรงงานนะคะ”
“ใช่ ข้อนี้ฉันไม่เถียงแต่ว่าพูดตามหลักความเป็นจริง ฉันให้วิหยุดในฐานะเลขา แต่ว่าไม่รวมหน้าที่เมีย ฉันอาจจะพูดไม่เคลียร์ไปหน่อยแต่ต่อไปไม่รวมวันหยุดนักขัตฤกษ์อีก”
“คะ” วิรินค่อนข้างตกใจ กะพริบตาปริบ “เอ่อ...ค่ะ งั้นต่อไปวิจะไม่ลาอีก”
เกิดความเงียบขึ้นหลายอึดใจ วิรินไม่กล้าวางก่อน แต่เขาก็ไม่พูดอะไรมาอีกจนทำให้เธองุนงง เขาไม่พอใจหรือเปล่า หรือว่าเป็นอะไร
“คุณธามคะ ยังอยู่หรือเปล่า”
“อืม ฉันอยู่หน้าบ้านวิ”
วิรินตกตะลึง กระเด้งลุกจากโซฟาที่นั่งอยู่ออกมาดูที่หน้าบ้าน เธอไม่เห็นรถของเขาแต่ว่าพอเดินมาชะโงกหน้าที่หน้ารั้วก็พบว่ามีรถเฟอรารี่สีแดงเพลิงคันหนึ่งจอดแอบอยู่ตรงที่ดินว่างข้างบ้านเธอ
มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ เท้าเรียวก็ก้าวยาวๆ ไปด้วย
“มาหาฉันหน่อย”
วิรินอยากรู้ว่าเขามาหาเธอทำไมที่บ้าน ปกติเขาไม่เคยมาเลยนับแต่วันที่มาทันช่วยบิดาไปส่งโรงพยาบาล ด้วยความสงสัยจึงเปิดประตูรั้วแล้วเดินไปหาเขา
เมื่อมาถึงรถของเขากระจกไฟฟ้ากดลงมา สายตาคู่คมมองสะท้อนมาในความมืดสลัวโพล้เพล้ของเวลาหนึ่งทุ่มตรง กระนั้นสายตาเขายังสาดประกายแรงกล้าบางอย่าง บางอย่างที่วิรินเข้าใจดีว่ามันคืออะไร
“ขึ้นมาบนรถ”
เขาลดมือที่ถือโทรศัพท์ลง คำสั่งเรียบง่าย ห้วนสั้น ไม่ต้องให้ตีความมาก เป็นอะไรที่วิรินเข้าใจได้รวดเร็วเสมอนับแต่วันแรกที่พบกันจนถึงวันนี้ หญิงสาวหลุบตาเดินอ้อมไปหน้ารถ เปิดประตูฝั่งคนนั่งข้างแล้วสอดตัวเข้าไปนั่ง
“คุณธามให้วิมาหามีอะไรคะ” เมื่อปิดประตูเรียบร้อยแล้วจึงหันหน้าไปถามเขา
“วันนี้ฉันไม่ได้ไปไหน คิดถึงเลยมาหา”
“คิดถึง” วิรินทวนคำพร้อมกะพริบตาปริบ แต่แล้วก็นึกขึ้นได้ คำว่าคิดถึงของเขามีความหมายเดียวคือคิดถึงเรือนร่างของเธอเสียมากกว่า คงไม่ใช่คิดถึงแบบที่เธอเข้าใจ อีกอย่างก็ไม่ควรคิดแบบนั้นด้วย ความสัมพันธ์ของเธอกับเขาไม่ใช่คู่รักกัน เมื่อคิดได้แบบนี้จึงถามเขาด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ปกติคุณธามก็ไปดื่มกับเพื่อนนี่คะ ทำไมไม่ไปหาเพื่อน”
ธามเองก็สงสัยเหมือนกันว่าทำไมเขาไม่ทำอย่างที่วิรินพูด แต่กลับขับรถมาหาหญิงสาวถึงบ้าน เขาเองก็ไม่เข้าใจและไม่อยากเข้าใจด้วย ถ้าจะให้ตอบคำถามนี้ก็มีเหตุผลเดียวคงเป็นเพราะว่าวิรินเป็นผู้หญิงของเขา สมบัติส่วนตัวที่เขาเป็นเจ้าของจะมาหาเมื่อไรก็ได้
“ไม่อยากไป” ธามตอบ อดหงุดหงิดไม่ได้ที่ไม่เห็นสีหน้ายินดีบนใบหน้าของวิริน นี่เขาหวังด้วยเหรอว่าเธอจะต้องดีใจเมื่อเห็นเขา แต่ช่างเถอะ ธามใช้นิ้วมือเกลี่ยแก้มใส ไล้มาถึงกลีบปากอิ่ม “ไม่ชอบหรือไงที่ฉันมาหา”
วิรินถูไถแก้มกับนิ้วเขา สร้างความกระสันรัญจวนให้ธามอย่างมาก เขาต้องข่มกลั้นความคิดอยากกดเธอลงกับเบาะเสียเดี๋ยวนี้แต่ต้องบอกตัวเองให้ใจเย็น
“วิแปลกใจมากกว่าค่ะ ว่าแต่วิคุยนานไม่ได้นะคะ คุณธามเองก็เหมือนกันกลับได้แล้ว”
ถึงบิดาจะเข้าห้องนอนแล้วแต่ว่ายังมีเพื่อนบ้านใกล้เคียงอยู่ในบริเวณนี้เธอไม่อยากให้ใครเห็นแล้วเอาไปพูดไม่ดีจนรู้ไปถึงหูของบิดาจนท่านไม่สบายใจได้
“กลัวใครเห็นว่าอยู่กับฉันเหรอ”
“วิมาคุยกับคุณธามในรถแบบนี้ เพื่อนบ้านจะมองไม่ดีค่ะ หรือว่าจะเข้าบ้านก่อนไหมคะ”
“ไม่ล่ะ”
วิรินหน้าชาเล็กน้อยที่เขาไม่อยากเข้าบ้านเธอ แต่ใบหน้าสวยก็ยังเรียบเฉยเป็นปกติ ธามหงุดหงิดกับความรู้สึกของตัวเองที่ควบคุมไม่ได้ เขามองหน้าหญิงสาวแล้วเอื้อมมือไปจับกรอบหน้าสวยเข้ามาใกล้ ขณะที่วิรินไม่ทันตั้งตัวก็ถูกเขาประกบจูบลงมา