วิรินสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงม่านบังตาปิดลง เมื่อมองไปที่คนตรงหน้าก็เห็นว่ารีโมตอยู่ในมือของธาม เขาเป็นคนที่ปิดมันเพื่อบังสายตาจากคนภายนอก วิรินตัวสั่นเล็กน้อย เม้มปากแน่นเมื่อเขาลุกจากโต๊ะทำงานตัวใหญ่ เดินอาดๆ ตรงมาทางเธอ เขาพิงสะโพกกับขอบโต๊ะทำงาน ใช้สายตาคมดุมอง แล้วกระดิกนิ้วเข้าหาตัว
วิรินเดินเข้าไปอย่างเชื่องช้าก่อนจะถูกเขาดึงร่างเข้าไปหาอย่างแรง หน้าอกอวบหยุ่นปะทะกับแผงอกแกร่ง วิรินไม่ทันตั้งตัวก็ถูกเขาประกบจูบลงมาอย่างเร่งร้อน รุนแรงเสียแล้ว ข้าวของในมือตกลงไปกองกับพื้นแต่ไม่มีใครสนใจ เมื่อทั้งคู่ต่างนัวเนียพัวพันกันอยู่
“อื้อ” วิรินอยากประท้วงแต่ว่าเมื่อนึกถึงสถานะของตัวเองก็ไม่กล้าได้แต่ปล่อยให้เขาลุกไล่ บดบี้ทำอะไรก็ได้บนเนื้อตัวอย่างเอาแต่ใจ
“เด็กดี”
วิรินเผยอปากตอบรับเขาอย่างงกๆ เงิ่นๆ ยังไม่ชินเท่าไรกับพายุอารมณ์ของเขา มือไม้แกร่งลูบไล้ไปตามชายโครง เลื่อนลงไปและบีบอย่างแรงที่สะโพกกลมมน
“อื้อ” วิรินครางประท้วง เมื่อปากร้อนจูบไม่หยุด ลิ้นเขาก็ไล่ดูดกลืน ขบเม้มปากของเธออย่างเมามัน วิรินต้องพยายามประคองตัวเองไม่ให้แข้งขาอ่อน ค่อยๆ จูบตอบเขาจนได้ยินเสียงครางพอใจ
“เก่งมาก”
วิรินได้ยินเสียงเขาชมแต่ว่าเธอก็พยายามจะเตือนสติเขาเพื่อไม่ให้ลืมว่าเขามีงานรออยู่
“คุณธามมีประชุมในอีกห้านาทีนี้นะคะ”
“อืม รู้แล้ว” เขาครางชิดปากอิ่ม ขบเม้มดูดดึงอย่างเมามัน เมื่อครู่ตอนที่เธอก้มลงเก็บปากกา เขาเห็นว่าคอเสื้อเธอมันเปิดกว้างจนเห็นหน้าอกทำให้เขาเกิดอารมณ์ขึ้นมาทันที
“ต่อไปอย่าใส่เสื้อคอกว้าง ฉันเห็นไปถึงไหนต่อไหนแล้ว”
“ขะ ขอโทษค่ะ”
“ไม่ต้องขอโทษ แต่ที่บอกคือต้องการให้ระวัง”
“ค่ะ”
“ฉันไม่อยากให้ใครเห็น เหมือนที่ฉันเห็นเข้าใจไหม วิเป็นสมบัติส่วนตัวของฉัน”
“ค่ะ” เธอตอบเขาเสียงสั่นเพราะธามก้มมาดูดดึงปากเธออย่างเอาแต่ใจ เขาจับมือบางให้สวมกอดเขาไว้แล้วดันร่างบอบบางไปที่โซฟา เมื่อเธอนอนลงเขาก็ตามมาคร่อมทับมอบจูบเร่าร้อน มือสอดเข้าไปใต้กระโปรงตัวสวย ลูบไล้ไปทั่วเนินขาอ่อน แล้วลากไล้ไปที่แพนตี้ที่ปกปิดความเป็นหญิงไว้
“อ๊ะ” วิรินห้ามเสียงสั่น “คะ คุณธามคะ มีประชุมนะคะอย่าลืม”
“อีกแป๊ปเดียว”
เขาบดจูบลงมาขยี้กลีบปากอิ่มจนบวมเจ่อมือหนายังวนเวียนอยู่ตรงความเป็นหญิงทำให้วิรินใจเต้นไม่เป็นส่ำ เขาจูบจนเธอหัวหมุนแต่มือเขาที่เกี่ยวเข้าไปในแพนตี้กำลังทำให้เธอหัวหมุนยิ่งกว่า
วิรินตัวสั่นระริกเมื่อเขาเกี่ยวแพนตี้ลงแล้วเลื่อนมือไปกรีดแยกความเป็นหญิง สะกิดที่เกสรดอกไม้จนมันสั่นไหว คนถูกต้อนให้จนมุมรีบกัดปากกั้นเสียงครางทันที ธามยิ้มพอใจ จูบไม่หยุดมือก็ยังส่งความกระสันไม่ขาดเช่นกัน
วิรินกั้นเสียงครางไม่ไหว เปล่งออกมาเบาๆ “คะ คุณธามขา วิไม่ไหวแล้ว”
“ปล่อยออกมาสิครับคนดี”
วิรินอับอายแต่ว่าความซ่านเสียวที่เขานำมาให้มันทั้งสุขซ่านหวานแหลม จนต้องรีบเกาะเกี่ยวไว้ ธามกระตุ้นเร้าจนเธอปลดปล่อยความสุขออกมา เมื่อนั้นธามจึงพอใจ เขาลุกขึ้นมามองคนที่นอนหน้าแดง ตัวอ่อนระทวยบนโซฟาด้วยรอยยิ้มพึงพอใจ
“วันนี้ฉันไปดื่มกับเพื่อนๆ วินอนไปก่อนเลย”
วิรินรีบลุกขึ้นมาจับกระโปรงให้เข้าที่หลังจากเขาส่งเธอไปถึงไคล์แม็กซ์ จับเสื้อติดกระดุมให้เรียบร้อย จากนั้นก็พยักหน้ารับเขา “ค่ะ”
มือหนาเลื่อนมาจับปอยผมที่หลุดลุ่ยมาอยู่ข้างแก้มให้ไปทัดหู วิรินมองความนุ่มนวลของเขาก็หัวใจสั่นสะท้าน เมื่อเขาเห็นว่าวิรินจัดการตัวเองเรียบร้อยดีแล้วก็ลุกขึ้น
“ฉันจะไปประชุมแล้ว”
ธามเดินออกไปแล้ว วิรินจึงเดินตามไป สีหน้าหวาดๆ ของเธอตอนที่มาถึงโต๊ะทำงานทำให้มายาทที่นั่งทำงานอยู่รีบเดินเข้ามาหา มองอย่างเห็นใจ
“ถูกนายด่ามาอีกแล้วล่ะสิ ยายวินะยายวิ ทนถึกเก่งจริงๆ พวกพี่ถ้าถูกด่าแบบนี้ลาออกไปแล้ว”
วิรินก้มหน้าไม่เอ่ยอะไร รีบโทร.นัดอรรถพลให้เขาก่อน ไม่งั้นถ้าลืมต้องถูกเขาเอ็ดอีกแน่ เธอทำงานมาได้ห้าเดือน นับวันที่ถูกเขาตำหนินั้นมีทุกวัน แต่ว่าเธอก็อดทนเพราะคิดว่างานที่นี่มีเงินเดือนสูง และอีกอย่างเธอก็อยากมีงานทำเพื่อไม่ให้ตัวเองดูด้อยค่ามากไปกว่านี้ แค่ยอมเป็นผู้หญิงของเขาก็รู้สึกว่าไร้ศักดิ์ศรีพอแล้ว ซึ่งถ้าไม่จำเป็นจริงๆ เธอก็ไม่ทำหรอกและเธอเองก็ไม่เข้าใจว่าทั้งที่เธอโดนเขาดุทุกวันแต่เขาก็ไม่เคยพูดถึงเรื่องที่จะให้เธอออกจากงานเลย
ย้อนไปเมื่อหกเดือนก่อนตอนที่เธอเรียนจบ ตอนนั้นเธอก็สมัครงานออนไลน์ ยื่นเรซูเม่ไปหลายบริษัท จนมีหลายบริษัทเรียกเธอไปสัมภาษณ์ เธอจบการตลาดก็มีหลายที่สนใจเธอแต่ว่าก็ยังไม่ตกลงรับ ในตอนนั้นเองที่วิรินรู้ว่าชีวิตมาถึงช่วงที่ลำบากที่สุด เมื่อบิดาซึ่งมีอาชีพขับรถส่งของ ได้ขับรถไปชนกับรถเบนซ์ของลูกชายนายกอบจ.จอมกร่างซึ่งเป็นผู้มีอิทธิพลในจังหวัด
ในจังหวัดล้วนแล้วแต่ไม่มีใครกล้ามีเรื่องกับคนในตระกูลนี้เพราะผลที่ตามมาหนักหนาเอาการ บางคนต้องตกงาน ไม่มีที่ทำกิน โดนราวีสารพัด จนกว่าคนพวกนี้จะพอใจ หรือได้ในสิ่งที่ต้องการ
ชนใครไม่ชน บิดาของเธอถึงกับชนเข้ากับตอใหญ่ซึ่งมีเส้นสายมากมาย ลูกชายนายกอบจ.คนนั้นรีบแจ้งตำรวจและให้มาตรวจว่าบิดาของเธอนั้นเมาแล้วขับหรือเปล่า เมื่อตรวจว่าไม่มีแอลกอฮอล์เกินกว่าค่ามาตรฐานที่กำหนด ทางประกันก็จะชดเชยค่าเสียหายให้ ทว่าลูกชายนายกอบจ.คนนั้นไม่ยอมรับแค่ค่าเสียหายตามประกัน หากแต่เรียกร้องให้ซื้อรถคันใหม่ให้ โดยมีการขู่ว่าเขาสามารถยัดคดีความให้พ่อของเธอได้ ถ้าหากว่าไม่ทำตามที่เขาต้องการ
และด้วยอำนาจของลูกชายนายกอบจ.คนนั้นทำให้บริษัทที่บิดาของเธอทำงานด้วยถึงกับกุมขมับ หัวหน้างานของบิดาไม่ยอมช่วยเหลืออีก ถึงกับไล่บิดาออกจากงาน และให้หาเงินไปชดใช้เอง
ตำรวจเมื่อรับแจ้งความแล้วก็มาแจ้งข้อกล่าวหากับบิดาของเธอ ถ้าไม่สามารถหาเงินมาชดใช้ให้ก็ต้องติดคุก เธอไม่มีเงินจำนวนห้าล้านตามที่ลูกชายนายกอบจ.คนนั้นต้องการ ตอนนั้นเธอถึงกับแอบร้องไห้ แต่ว่าน้ำตาไม่ช่วยอะไร เธอจึงทำสิ่งที่ตัวเองไม่เคยคิดว่าจะกล้าทำมาก่อน ในเมื่อไม่มีสมบัติอื่นใดให้ขายก็เหลือเพียงทางเลือกเดียว เธอตัดสินใจไปสมัครงานเป็นพริตตี้ในคลับหรูย่านทองหล่อซึ่งเพื่อนของเธอเคยทำและให้นามบัตรเอาไว้ คลับนี้มีแต่ลูกค้าระดับวีไอพี กระเป๋าหนัก ทิปก็หนักตาม และที่นั่นเองที่ได้พบกับธาม
เขามากับเพื่อนๆ ของเขา ผู้จัดการร้านเสนอเธอให้เขา ตอนนั้นจำได้ว่าเขามองเธอด้วยดวงตาสีน้ำตาลเข้มลึกล้ำน่าหลงใหล จนกายสาวสั่นระริก ฮอร์โมนในร่างพลุ่งพล่านราวกับถูกเขาปลุก ถ้าต้องขายก็ขอให้เป็นเขาที่เลือกเธอ และเหมือนเขาจะถูกใจเธอ
ธามเลือกเธอให้ไปนั่งด้วย จากนั้นเขาก็ต้องการพิสูจน์ว่าเธอเวอร์จิ้นจริงๆ อย่างที่ผู้จัดการบอกหรือเปล่า แต่ว่าในตอนนั้นที่เธอก็เกิดใจไม่กล้าพอ เลยวิ่งหนีเขาไป
แต่เมื่อชะตาถูกลิขิตไว้แล้ว เธอก็ต้องเป็นสมบัติของเขาอยู่วันยังค่ำ
เมื่อเขาตามหาเธอถูก จากบัตรประชาชนที่เธอทำหล่นไว้ตรงโต๊ะที่เธอให้บริการเขา
“คุณตามมาถูกได้ยังไงคะ”
“เธอทิ้งไว้ให้ฉันตามมาไม่ใช่เหรอ” เขาชูบัตรประชาชนของเธอขึ้นมา วิรินถึงกับหน้าถอดสีเพราะไม่ได้ตั้งใจทำหล่นเพื่ออ่อยเขา ใบหน้าหวานสวยรีบส่ายไปมา
“ขอบคุณที่เอามาคืนค่ะ” เธอคว้าบัตรไว้แล้วหันหลังเข้าบ้าน...