ธารลอบกลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคอ เขาไม่กล้าขัดใจบุตรสาวเพราะภรรยาที่ล่วงลับสั่งไว้ก่อนตาย เนื่องด้วยกลัวน้ำเหนือจะคิดมากว่าพ่อไม่รัก น้อยอกน้อยใจจนคิดสั้นได้
ดังนั้นอะไรที่ให้ได้ก็ให้ อย่าขัดใจลูก!!!
“จดทะเบียนสมรสแล้วเหรอ” ธารทวนคำของบุตรสาวอย่างตกใจมิน้อย ทำไมมันรวดเร็วเช่นนี้
“คุณพ่อจะตกใจทำไมคะ ก็น้ำบอกแล้วไง ตั้งแต่ออกไปเจอพี่ร็อบ” น้ำเหนือมองบิดาก่อนจะยิ้มกว้าง ธารถึงกับยกมือตบหน้าผาก ลูกสาวคนดีเล่นใช้ไม้นี้ คนไม่เคยขัดใจอย่างเขามีหรือจะทำอะไรได้
“ทำอะไรไม่คิด” เมธาที่นั่งฟังอยู่นานแล้วอดไม่ไหว
“น้าเมธน่ะ น้ำทำอะไรคิดเสมอละค่ะ งานแต่งงานไม่ต้องนะคะ แค่แนะนำให้ทุกคนได้รู้จักพี่ร็อบในฐานะสามีของน้ำก็พอ”
น้ำเหนือหันไปยิ้มกับโรเบอร์โต ชายหนุ่มเพียงแค่ยิ้มรับเล็กน้อย ยังนั่งนิ่งเงียบไม่พูดอะไรอีก
“เราทำแบบนี้ได้ยังไง คุณวศินเขามาทาบทามเราให้วสันต์แล้ว”
เมธาแทบนั่งไม่ติด ไม่คิดว่าหลานสาวจะทำอะไรรวดเร็วแบบนี้ เขาน่าจะลงมือให้เร็วกว่านี้ จัดการให้วสันต์รวบหัวรวบหางน้ำเหนือซะก็สิ้นเรื่อง
“ช่างเขาสิคะ วันนี้น้ำเหนื่อยมากๆ เลย ขอตัวก่อนนะคะ พี่ร็อบไปพักผ่อนกันเถอะค่ะ เดี๋ยวน้ำจะพาไปดูห้องของเราสองคน” น้ำเหนือรีบควงแขนว่าที่ ‘สามี’ ทำท่าจะพาเข้าห้องพัก ไม่อยากให้ใครๆ ซักถามอะไรมากมายอีก เธอเบื่อที่จะตอบคำถามอีกแล้ว
“เดี๋ยวก่อนลูก พ่อขอคุยกับสามีหนูหน่อย” ธารรั้งเอาไว้
“ได้เลยค่ะคุณพ่อ”
น้ำเหนือพยักหน้าให้บิดานั่งยิ้มแป้นเคียงข้างสามีหนุ่มดังเดิม
“น้ำครับ ไปรอพี่ในห้องนะครับ เดี๋ยวพี่ตามไป”
โรเบอร์โตเห็นสีหน้าของพ่อตาก็พอจะรู้ว่าอีกฝ่ายต้องการพูดเรื่องสำคัญ จึงหันไปพูดกับภรรยาเสียงทุ้ม
“ก็ได้ค่ะ”
ดูมัน พอผัวมันบอก ทำไมว่านอนสอนง่ายแบบนี้ ทีกับพ่อไม่เชื่อฟัง ธารคิดอย่างน้อยใจบุตรสาวนิดๆ
“เดินดีๆ นะครับน้ำ”
ชักหมั่นไส้มันเสียจริง ฮึ่ม! คืนนี้จะได้แอ้มลูกสาวเราแล้ว อุตส่าห์เลี้ยงมาเหมือนไข่ในหิน ริ้นไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม หุ่นก็อวบอัดสมวัย มีผู้ชายมากหน้าหลายตามาทาบทามน้ำเหนือแทบไม่ขาด
เขาพยายามเกลี้ยกล่อมแต่บุตรสาวอยากจะหาคู่ด้วยตัวเอง เขาจึงตามใจไม่อยากบังคับ แต่ให้เวลาหนึ่งปีในการคบหาดูใจ เพื่อว่าบุตรสาวจะได้เลือกชายหนุ่มที่มาทาบทามสู่ขอเหล่านั้น หากไม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตนจริงๆ
แต่เหลว น้ำเหนือเลือกไอ้หน้าหล่อนี่!
เมธาต้องเลี่ยงออกมาเมื่อพี่เขยขอร้อง แต่อย่างไรเสีย เขาต้องทำให้น้ำเหนือตอบตกใจวสันต์ให้จงได้ น้ำเหนือไม่ประกาศแต่งงานใหญ่โตก็ดีเหมือนกัน เพราะเรื่องนี้จะได้เป็นความลับ เขาคงต้องหาทางคุยกับธารอีกรอบ และเขานี่แหละจะกำจัดโรเบอร์โตออกไปเอง...
เมื่อบุตรสาวลับหายไปแล้ว ธารจึงหันมาคุยกับลูกเขยอย่างจริงจัง เขาเองก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้ไว้ใจชายหนุ่มตรงหน้า อาจเพราะสายตาอ่อนโยน บุคลิกท่าทางที่แสดงออกถึงความห่วงใยในตัวบุตรสาว โดยไม่ได้เสแสร้ง
“ถ้าคุณทำให้ลูกสาวผมเสียใจ ผมไม่เอาคุณไว้แน่”
ธารพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง มองสายตาแน่วนิ่งของชายหนุ่มตรงหน้าเพื่อค้นหาทุกสิ่งที่ซุกซ่อนเอาไว้ แต่เขาได้เห็นเพียงแค่ความจริงใจและจริงจังในแววตาคู่นั้น
“ผมจะไม่มีวันทำให้น้ำเหนือเสียใจเป็นอันขาดครับ ผมรักเธอจริงๆ” โรเบอร์โตพูดด้วยน้ำเสียงมั่นคง
“จำคำพูดของคุณเอาไว้ ถ้าวันไหนคุณทำให้ยัยน้ำเสียใจ คุณจะไม่มีวันได้พูดอีก”
โรเบอร์โตนั่งอึ้งอยู่สักพัก ก่อนจะเข้าใจคำพูดของพ่อตา เขาลุกเข้าห้องตามภรรยาเข้าไป
เมธาที่ยืนมองอยู่อีกด้านกำหมัดแน่น เขาไม่มีวันยอมแน่นอน จะขัดขวางให้ถึงที่สุด คอยดูกันต่อไปสิ นึกเจ็บใจที่ธารไม่ได้มีท่าทีต่อต้านอย่างที่สุดเหมือนที่เขาคิด
แต่เขาไม่ยอมแพ้หรอก เพราะยังไงพี่เขยก็ยังแสดงออกว่าไม่ได้ชอบหน้าไอ้หมอนั่นเท่าที่ควร...
“แกเป็นอะไรของแก”
ชูใจถามแตงโมที่ถอนใจเฮือกๆ ด้วยความสงสัย
“ฉันแค่สงสัยน่ะค่ะป้าใจ”
แตงโมเท้าคางมองแม่บ้านวัยกลางคนที่กำลังหั่นผักอยู่อีกด้าน
“สงสัยอะไรของแก เอาให้กระจ่าง มาถอนใจเฮือกๆ เหมือนคนแก่ จะรู้ไหมนี่” ชูใจพูดอย่างรำคาญ
“เรื่องคุณน้ำไงป้า ฉันสงสัยว่าคนหน้าตาแบบคุณน้ำจะมีสามีหล่อเหลากระชากใจเหมือนพระเอกหนังฮอลลีวูดแบบคุณโรเบอร์โตได้ยังไง เฮ้อ... ชักอยากรู้ว่าคุณน้ำทำบุญมาด้วยอะไร”
“นี่ๆ ๆ น้อยๆ หน่อยแก คุณน้ำของฉันเป็นยังไง ทำไมถึงจะมีสามีหล่อไม่ได้”
ชูใจชักของขึ้น ไม่ชอบให้ใครมาด่าว่าคุณหนูที่นางเลี้ยงมาแต่อ้อนแต่ออก
“คุณน้ำทั้งอ้วน ทั้งดำ กินจุ ไม่เรียบร้อย ไม่เป็นแม่บ้านแม่เรือน ข้าวของในห้องระเกะระกะ แถมยังชอบฉี่ใส่ที่นอนอีก”
“กล้าดียังไงมาว่าคุณหนูของฉัน แกหุบปากเดี๋ยวนี้เลยนะ”
ชูใจสับมีดลงบนเขียงจนแตงโมสะดุ้งโหยง
“อ้าว... ก็จริงไหมล่ะป้า”
“ไม่จริงโว้ย คุณหนูไม่ได้อ้วน แต่อวบอัดมีน้ำมีนวล เวลาไปตลาดผู้ชายมองคุณหนูเหลียวหลังแทบทุกคน”
“ที่มองคือไม่เคยเห็นใครอ้วนขนาดนี้มาก่อนสิป้า”
“ไอ้แตง แกอยากโดนปาดคอหรือไง”
ชูใจหน้าดำหน้าแดงโกรธแทนคุณหนูสุดสวาท แตงโมวิ่งวนไปทั่วห้อง ไม่ยอมให้อีกฝ่ายเข้าถึงตัวง่ายๆ
“กลัวตายแหละป้า” แตงโมทำสีหน้ากวนอารมณ์ชูใจ รู้ว่าอีกฝ่ายไม่มีวันวิ่งทันตัวเอง
“คุณน้ำก็ไม่ได้ดำด้วย แต่ผิวเธอสวยเป็นสีน้ำผึ้ง ส่วนเรื่องกิน เธอก็มีอันจะกิน ไม่เหมือนแกเป็นแค่ขี้ข้าจะได้กินอาหารดีๆ แบบนั้นก็ไม่ ไปอิจฉาเขาอีก”
“โห... ป้า คุณน้ำของป้าดีเสียทุกอย่างเลยเนอะ เชื่อเลย”
แตงโมแสดงสีหน้าเหลือเชื่อใส่ป้าแม่บ้านวัยกลางคน
“ส่วนเสื้อผ้ามันเป็นเรื่องธรรมดาของเจ้านาย เขาเป็นลูกคนมีเงิน จ้างเรามาทำงาน เรามีหน้าที่เก็บ จัดให้เขา ไม่ใช่มีหน้าที่มาบ่น”
“แล้วฉี่ใส่ที่นอนล่ะป้า”
“มันเป็นเรื่องธรรมชาติ เขาเป็นแบบนั้นมานานแล้ว บางคนยังนอนกัดฟัน นอนกรนได้เลย”
“ฉันเชื่อป้าจริงๆ เลยๆ เข้าข้างกันไปเหอะ คุณโรเบอร์โตก็ตาถึงชะมัดที่ได้คุณหนูเป็นภรรยา”
“ไม่ใช่เรื่องของแก เอาเรื่องของเจ้านายมานินทา รีบทำงานเร็วๆ เข้าสิ เดี๋ยวจะได้ตั้งโต๊ะ”
ชูใจดุด้วยน้ำเสียงจริงจัง จนแตงโมหัวหด ไม่กล้าออกความเห็นอะไรอีก
“พี่ร็อบชอบห้องของเราไหมคะ”
น้ำเหนือผายมือไปรอบห้องที่จัดอย่างเรียบร้อย ตอนพาเขาเข้าบ้านมาใหม่ๆ เธอไม่มีเวลาให้เขาได้ชื่นชมกับห้องกว้างเพราะว่าต้องออกไปสนทนากับบิดาและน้าชาย
ห้องของว่าที่ “ภรรยา” เป็นโทนสดใส รอบห้องมีกรอบรูปติดตามฝาผนังในอิริยาบถต่างๆ บนเตียงกว้างมีตุ๊กตามากมายหลากสี ในห้องสะอาดสะอ้าน โปร่งสบายน่าพักผ่อนไม่น้อย แม้จะไม่ใช่สีพื้นๆ อย่างที่เขาชอบ แต่ก็ให้ความรู้สึกสดชื่นไปอีกแบบหนึ่ง
น้ำเหนือแอบพึงพอใจที่เขาชอบ เธอสั่งให้แตงโมจัดการห้องให้เรียบร้อย ก่อนเดินทางมาถึง แม้ไม่ค่อยชอบใจที่ตัวเองจะต้องหาของไม่เจอหากมีใครมายุ่งกับข้าวของของเธอ แต่ไม่อยากให้สามีนึกตำหนิว่าห้องไม่สะอาด รกรุงรังไปหมด อย่างน้อยให้เขารู้สึกดีเมื่อย่างกรายเข้ามาในห้องนอน
“ชอบครับ ไหน มานั่งใกล้ๆ พี่หน่อยสิ”
โรเบอร์โตเดินไปนั่งบนเตียงแล้วตบมือลงข้างๆ เรียกว่าที่ ‘ภรรยา’ มานั่งใกล้ๆ
น้ำเหนือเดินไปทรุดนั่งใกล้ชายหนุ่มอย่างอายๆ กลิ่นกายของเขาช่างหอมเสียจริง เธอหลับตาแล้วค่อยๆ ยื่นใบหน้าไปดมอย่างเผลอไผล พร้อมกับรอยยิ้มชวนฝัน
โรเบอร์โตมองกิริยาของหญิงสาวด้วยความเอ็นดู น้ำเหนือค่อยๆ ลืมตาขึ้น สบตากับเขาที่กำลังมองเธอยิ้มๆ เพิ่งรู้ตัวว่าทำอะไรออกนอกหน้านอกตาไป
... แต่ใครใช้ให้เขาเป็นผู้ชายที่น่าปู้ยี้ปู้ยำแบนี้เล่า
“เอ่อ... ก็พี่ร็อบหอมนี่คะ”
เธอผละห่างหน้าแดงก่ำ บอกความรู้สึกกับเขาตรงๆ กลิ่นโคโลญจน์ผู้ชายและกลิ่นกายที่แปลกใหม่ทำให้เธอลอบกลืนน้ำลายลงคอที่แห้งผากเหมือนรอนแรมอยู่ในทะเลทรายอันแห้งแล้ง