“นั่นแกจะกลับแล้วจริงๆหรือรุ้ง อยู่ดิ้นต่อกันอีกหน่อยเถอะน่า ยังไม่ถึงเที่ยงคืนเลย จะรีบกลับไปไหน...” เจ้าของเสียงพูดลุกขึ้นมารั้งข้อมือคนจะกลับเอาไว้ คะยั้นคะยอให้อยู่เต้นกันต่อ ไม่ยอมให้รีบกลับบ้านง่ายๆ นัยน์ตาหวานฉ่ำมองเพื่อนสาวเหตุเพราะดื่มเข้าไปอยู่หลายแก้วอย่างเว้าวอน รุ้งแก้วถอนหายใจหนัก ไอ้ที่ไม่อยากให้เธอกลับไม่ใช่อะไร คงกลัวไม่มีคนจ่ายค่าเครื่องดื่มราคาแพงลิบลิ่วที่ตั้งเกลื่อนบนโต๊ะนี้มากกว่า...ถึงเหล่าเพื่อนเที่ยวพวกนี้พื้นฐานเป็นพวกมีอันจะกินก็จริง หากทว่าบางคนก็ดูเหมือนจะถูกทางบ้านตัดขาดจากนิสัยส่วนตัว...
“ไม่ละ...พวกแกอยู่ดื่มกันต่อเถอะนะ ฉันเบื่อคน ตามตื๊อจนน่ารำคาญชะมัด”
“ใคร? คนนี้หล่อไหม” เป็นหญิงสาวอีกคนที่ส่งเสียงถาม อิริยาบถดูกระตือรือร้นขึ้นมาได้ทันตาจนรุ้งแก้วต้องค้อนควัก เจ้าตัวขยับท่านั่งให้ดูเย้ายวนใจเสียใหม่ ก็พอดีเหลือบสายตาเห็นหนุ่มหล่อโต๊ะฝั่งตรงข้ามกำลังเมียงมองมาทางกลุ่มของตัวเองเข้า การโปรยเสน่ห์เล็กๆน้อยๆถือเป็นความชอบส่วนตัว ผลลัพธ์จะได้หรือไม่ได้หนุ่มหล่อผู้นั้นมาสนุกด้วยถือเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ก็ใครใช่ให้เธอดันเกิดมาสวยน้อยกว่ายายรุ้งแก้วเล่า รายนั้นไม่ต้องทำอะไรเลยด้วยซ้ำก็มีแต่ชายหนุ่มเสนอตัวให้ทุกที...
“ก็พอได้...ถามนี่คือแกอยากได้เหรอ?”
“ก็น่าสนใจอยู่ สรุปว่าแกไม่เอาอีกใช่ไหม งั้น...ฉันขอนะ”
“ยายบ้า! ไอ้ที่แกขอน่ะคนนะไม่ใช่สิ่งของสักหน่อย แต่ถ้าแกอยากได้จริง ถ้าหมอนั่นเตร็ดเตร่มาแถวโต๊ะนี้เมื่อไหร่ แกก็ลงมือจัดการเองเลยแล้วกัน ฉันไม่อยากยุ่งด้วยหรอก” คนไม่อยากยุ่งกวักมือเรียกพนักงานบริการ พร้อมกับหันมาทางเพื่อนเที่ยวในกลุ่ม
“พวกแกมีใครอยากสั่งอะไรเพิ่มไหม ฉันจะได้จัดการทีเดียว”
รุ้งแก้วคว้ากระเป๋าถือมาจัดการเปิดออกพร้อมกรีดนิ้วหยิบบัตรเครดิตสีดำระบุตัวอักษรพีตัวใหญ่ยื่นส่งให้พนักงานบริการไนต์คลับ รอจนกระทั่งบัตรถูกยื่นส่งกลับมาหาเจ้าของอีกครั้ง รุ้งแก้วจึงขยับตัวลุกขึ้นยืน รอบนี้ไม่มีใครทักท้วงหญิงสาวเอาไว้ เหตุเพราะคนหนึ่งกำลังเล่นสงครามสายตากับหนุ่มหล่อแน่นอนว่าคงไปจบกันที่คอนโดกลางกรุงสักแห่ง อีกคนกำลังยักย้ายส่ายสะโพกกลมกลึงอยู่กลางฟลอร์ ส่วนอีกคนเอาแต่นั่งดื่มไม่พูดไม่จากับใคร...
ดังนั้นรุ้งแก้วเลยเดินสะพายกระเป๋าข้างหลีกนักเที่ยวที่ต่างทยอยเข้ามาใช้บริการหนาตามากขึ้น โดยเจ้าตัวไม่รู้ ถัดห่างมาทางด้านหลังพอประมาณ มีเจ้าของร่างสูงใหญ่ลุกขึ้นแล้วเดินตามออกมาจากไนต์คลับโดยสงบ เป็นอีกคืนที่แดนดินถอนลมหายใจโล่งอก แต่ก็เพียงเดียวเดี๋ยวตอนสายตาคมกริบบังเอิญเห็นแผ่นหลังของใครบางคนเข้าอย่างไม่ได้ตั้งใจ...
ใบหน้าหล่อราวนายแบบตึงเครียดขึ้นมาทันตา...หัวคิ้วเข้มดกหนาถูกกดให้ลงต่ำ สายตาวาวโรจน์ฉุนกึก...ไอ้หน้าปลาจรวดมันยังไม่ยอมรามือ แบบนี้มันต้องสั่งสอนให้รู้กันบ้าง ของใครเป็นของใคร...
และเขามันก็คนห่วงของมากเสียด้วย...
ด้วยเหตุนั้นรุ้งแก้วจึงขับรถกลับบ้านโดยสวัสดิภาพครบสมบูรณ์...ต่างจากภูวนาท สภาพร่างกายชายหนุ่มสะบักสะบอมจนต้องนอนหยอดน้ำเกลือเป็นสัปดาห์ ตอนถูกกระชากให้เดินตามไอ้บ้าที่ไหนก็ไม่รู้มาจนถึงมุมลับสายตา ตอนนั้นสติเขาหาใช่เต็มร้อยสักเท่าไรมัวแต่เมาหมัดที่เสยเข้าปลายคางอย่างจังตั้งแต่หมัดแรก เขาไม่เห็นหน้าตามันด้วยซ้ำว่าขาวสูงต่ำหรือเตี้ย มาได้สติอีกทีตอนถูกเข็นเข้ามารักษาตัวในโรงพยาบาล แน่นอนภูวนาทไม่กล้าแจ้งความกับตำรวจ ด้วยเพราะไม่อยากตกเป็นข่าวที่ไม่ใช่ในทางที่ดีนักนั่นเอง...
-----------------------------------------------