เช้านี้พิมพ์มาดาทำหน้าที่เจ้าบ้านพาพาขวัญเดินชมรอบบริเวณบ้านและทำความรู้จักกับพื้นที่ใช้สอยในบ้านและห้องต่างๆ ก่อนที่จะมาหยุดอยู่ที่ห้องรับแขกที่แสนโอ่อ่าเป็นห้องสุดท้าย
เด็กสาวยืนนิ่งตกตะลึงตาค้าง ไม่ใช่เพราะความหรูหราของเฟอร์นิเจอร์ในห้องรับแขกและของตกแต่งราคาแพงในห้องนี้หรอกนะที่ทำให้เธออยู่ในอาการนั้น แต่เป็นเพราะภาพถ่ายครอบครัวใบใหญ่ที่ติดไว้ที่ฝาผนังของห้องต่างหากที่ทำให้เธอตกอยู่ในอาการนี้
เธอมองผู้ชายที่อยู่ในรูปที่ยืนเคียงข้างกับพอลสามีของพิมพ์มาดาที่เธอเคยเห็นหน้าบ่อยๆ แต่ชายหนุ่มลูกครึ่งคนนั้น เธอไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน เขามีรูปร่างสูงใหญ่ ผิวพรรณขาวสะอาด ใบหน้าหล่อเหลาสไตล์ลูกครึ่ง โดยเฉพาะดวงตาคมกริบมีเสน่ห์คู่นั้นยิ่งดึงดูดเธอให้ตกอยู่ในภวังค์ จนเสียงของผู้หญิงที่เธอเคารพรักดังขึ้น เธอถึงได้สติกลับคืน
“นี่ไง ลูกๆของป้า ป้าก็ได้แต่เคยเล่าให้พี่ๆเขาฟังว่ามีเพื่อนสนิทและมีลูกสาวน่ารัก เด็กๆไม่เคยเห็นหน้ากันเลย ที่ยืนข้างป้านี่พี่แพท ลูกชายคนที่สอง กับพี่พลอยลูกสาวคนเล็ก ส่วนที่ยืนข้างลุงพอลคือพี่พีท ลูกชายคนโตของป้า ตอนนี้พี่ๆเขากำลังเรียนมหาวิทยาลัยอยู่ที่อเมริกา พี่พลอยอยู่ปีสอง พี่แพทเรียนโทปีหนึ่ง ส่วนพี่พีทเพิ่งจบโทหมาดๆเลย เห็นว่าจะอยู่พาแฟนเที่ยวก่อนค่อยกลับไทยนะ อีกไม่นานคงได้เจอกัน”
“ค่ะ”
เธอตอบรับคำพูดของผู้มีพระคุณ ในใจวูบโหวงอย่างประหลาดเพียงเพราะรู้ว่าผู้ชายคนนั้นมีแฟนแล้ว แต่มันก็ไม่เห็นจะเกี่ยวอะไรกับเธอเลยนี่ คนหล่อและดูเพอร์เฟคขนาดนี้ แถมอายุยังพร้อมแล้วที่จะทำงานมีครอบครัวก็ไม่เห็นจะแปลกที่เขาจะมีคนรัก ในเมื่อเขาเป็นลูกป้าพิมพ์ ก็ต้องมีศักดิ์เป็นพี่ชายของเธอด้วยนับจากนี้
“ไปดูที่สวนกุหลาบกับแปลงผักสวนครัวของป้าดีกว่า พั้นช์ต้องชอบแน่ๆ ปกติป้าก็ไม่ค่อยมีเวลาดูแลหรอก ให้เด็กๆในบ้านนี่แหละเป็นธุระให้ ถ้าพั้นช์อยากปลูกอะไรก็จัดการได้เลยนะ ไม่ต้องเกรงใจ คิดซะว่าบ้านนี้คือบ้านของพั้นช์เหมือนกัน”
ด้วยรู้ดีว่าสาวน้อยตรงหน้าชอบปลูกต้นไม้เป็นชีวิตจิตใจเหมือนตัวเอง จึงรีบเปิดโอกาสให้สาวน้อยได้หางานอดิเรกทำแก้เหงาทันที
“ค่ะป้าพิมพ์”
“พรุ่งนี้ป้าก็ต้องไปทำงานแล้ว จะเกเรอีกวันก็คงไม่ได้ เพราะมีประชุมผู้ถือหุ้น เอาไว้วันหลังป้าพาไปซื้อต้นไม้มาปลูกกันนะ ป้าไม่ได้มีเพื่อนไปเดินดูต้นไม้มานานแล้ว ตั้งแต่พี่พีทไปเรียนโทนั่นแหละ”
เพราะพิมพ์มาดามีตำแหน่งเป็นถึงประธานบริษัทของบริษัทอังสหาริมทรัพย์ชื่อดัง ที่เป็นเจ้าของทั้งบ้านจัดสรร รวมไปถึงคอนโดมิเนียมทั่วประเทศ จึงไม่ค่อยมีเวลาว่างมากนัก ตอนนี้ก็รอเพียงลูกชายคนโตกลับมารับช่วงบริหารต่อจากเธอ เพื่อที่เธอจะได้มีเวลาว่างปลูกต้นไม้และเดินทางท่องเที่ยวใช้ชีวิตวัยเกษียณกับสามีเสียที
“ได้ค่ะป้าพิมพ์”
แล้วครึ่งวันเช้า สาวๆก็ขลุกตัวอยู่ในสวนกุหลาบ โรงเรือนกล้วยไม้ และแปลงผักสวนครัวจนใกล้จะถึงเวลาอาหารกลางวันจึงได้แยกย้ายกันไปอาบน้ำ แล้วลงมาเจอกันที่ห้องอาหารเหมือนเดิม
ช่วงบ่ายของวัน สองสาวใช้เวลาในการเสิร์ชหาข้อมูลการปลูกต้นไฮเดรนเยีย เพราะลงมติกันแล้วว่าจะทำแปลงปลูกรอบรั้วบริเวณด้านหน้าบ้าน แล้วในสวนหน้าบ้านอีกหลายจุด
“แม่ครับ ผมกลับมาแล้ว”
เสียงทุ้มนุ่มดังขึ้น เรียกให้สองสาวที่กำลังก้มหน้าก้มตาหาข้อมูลจากโทรศัพท์มือถือมองไปยังต้นเสียงทันที
“พีท กลับมาแล้วหรอลูก”
พิรัชย์ คลาร์ก หรือ พีท หนุ่มลูกครึ่งไทยอเมริกันที่มีใบหน้าหล่อเหลาราวเทพเจ้าปั้น คิ้วหนาเข้ม ดวงตาคมกริบสีน้ำตาลเข้มเกือบดำ จมูกโด่งตามเชื้อสายของบิดา ริมฝีปากหยักได้รูปสีแดงสดสุขภาพดี รูปร่างสูงใหญ่ ผิวขาวจัด ผมรองทรงไถข้างสั้นปล่อยด้านหน้ายาวปกหน้าผากเซ็ททรงยุ่งนิดๆ ยิ่งทำให้เขาดูหล่อเหลาอ่อนกว่าวัย
เขาตรงเข้าสวมกอดมารดาที่ลุกขึ้นยืนแล้วอ้าแขนรอลูกชายคนโตของบ้าน
“ไหนว่าจะอยู่พาแฟนเที่ยวต่อไงลูก ทำไมรีบกลับมา”
“ค่อยกลับมาเที่ยวที่ไทยก็ได้ครับ ไปเรียนที่นั่นหลายปีแล้ว เที่ยวกันจนเบื่อแล้วครับ”
ทั้งสองผละออกจากกัน มารดาของเขาจึงมองไปที่ด้านหลังของลูกชาย ที่มีสาวสวยแต่งกายเปรี้ยวจัดโชว์สัดส่วน ยกมือไหว้เธอ
“คุณแม่ สวัสดีค่ะ”
“สวัสดีจ้ะ ชัญญ่า”
เธอรับไหว้ผู้หญิงที่ขึ้นชื่อว่าเป็นคนรักของลูกชาย แม้ว่าในใจจะไม่ค่อยชอบใจว่าที่สะใภ้คนนี้สักเท่าไหร่ แต่เธอกับสามีถือคติที่ว่าปลูกเรือนตามใจผู้อยู่ ผูกอู่ตามใจผู้นอน ไม่ว่าอย่างไร คู่ครองของลูกทั้งสามก็จะให้อิสระกับพวกเขาทุกคนในการเลือกกันเอาเอง แม้ว่าคนๆนั้น จะไม่ค่อยถูกตาต้องใจแม่สามีอย่างเธอเลยก็ตาม
ดวงตาคมกริบจ้องมองไปที่สาวน้อยร่างผอมบางผิวขาวจัดที่นั่งอยู่ด้านหลังมารดา
“นี่หรือครับ เด็กที่แม่บอกว่าเป็นลูกเพื่อนรักที่เสียไป”
“ใช่จ้ะ นี่ลูกชายคนโตของป้า พี่พีทไงลูก ส่วนนั่นก็แฟนของพี่พี่ทเขา ชื่อชัญญ่า ส่วนนี่น้องพั้นช์ ต่อไปนี้น้องจะมาอยู่กับเรา ในฐานะลูกสาวอีกคนของแม่”
“สวัสดีค่ะ”
พาขวัญยืนขึ้นแล้วพนมมือไหว้หนุ่มสาวคู่นั้นด้วยความนอบน้อม
“สวัสดีจ้ะ น้องพั้นช์”
ชัญญาภัคเอ่ยทักทายคนที่เป็นลูกสาวอีกคนของว่าที่แม่สามีเสียงหวาน แม้จะรู้สึกไม่ค่อยถูกชะตากับสาวน้อยผิวขาวผ่อง หน้าตาสวยหวานน่ารักราวตุ๊กตาคนนี้ก็ตาม
ดวงตาคมกริบจ้องมองสาวน้อยตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้า สาวน้อยรูปร่างผอมเพรียว เอวบางร่างเล็กในชุดเดรสกระโปรงสั้นสีหวาน ผมยาวสีน้ำตาลเข้มมีผมหน้าม้าน่ารัก ใบหน้าเรียวรูปไข่ คิ้วเข้มถูกกันตกแต่งรับกับรูปหน้า ดวงตากลมโตหวานสีน้ำตาลเข้ม จมูกโด่งปลายเชิดรั้น รับกับริมฝีปากรูปกระจับอวบอิ่มสีแดงสด ใบหน้าสวยหวานน่ารักจนชวนใจแกว่งแม้ไม่ได้แต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางเลยก็ตาม
แต่เมื่อดวงตาคมกริบประสานกับดวงตากลมโตของเธอ สาวน้อยก็หลบตาเขาวูบ ไม่ยอมมองหน้าเขาอีก ทำเหมือนกับว่าเกรงกลัวเขาเสียเต็มประดา คิ้วเข้มจึงขมวดเป็นปม รู้สึกไม่ค่อยพอใจเธอนิดหน่อย
“มากันเหนื่อยๆ ไปพักก่อนไหม ค่อยลงมากินข้าวเย็นกันก็ได้ แล้วชัญญ่าจะค้างที่นี่หรือกลับบ้านตัวเองจ๊ะ”
“ขอรบกวนพักผ่อนที่นี่และทานข้าวเย็นก่อนนะคะ ชัญญ่าเหนื่อยๆค่ะ เดี๋ยวค่ำๆค่อยกลับบ้านค่ะ ชัญญ่าบอกพ่อกับแม่ไว้แล้วว่าจะถึงบ้านค่ำๆ”
เพราะปกติหนุ่มสาวคู่นี้ก็ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันเป็นประจำที่คอนโดของลูกชายเธอที่อเมริกา เธอจึงไม่ได้รู้สึกตะขิดตะขวงใจที่จะให้ว่าที่ลูกสะใภ้คนนี้อยู่ร่วมบ้าน
“งั้นผมพาชัญญ่าขึ้นไปพักก่อนนะครับแม่ เดี๋ยวมื้อเย็นเจอกันครับ”
“จ้ะ”
ดวงตาคมกริบเหลือบไปมองสาวน้อยคนนั้นอีกครั้ง และครั้งนี้เธอก็หลบตาเขาวูบเหมือนเดิม ยิ่งทำให้เขารู้สึกขัดหูขัดตาและไม่พอใจมากยิ่งขึ้น คนหล่อๆอย่างเขามีแต่คนอยากมองและอยากสบตาเพื่อเรียกร้องความสนใจจากเขา มีแต่ยัยเด็กผอมกะหร่องนี่คนเดียว ที่ทำเหมือนเขาเป็นยักษ์เป็นมาร