เสี่ยวหงฮวานั้นติดอยู่ในความฝันอย่างทรมานในยามแรก ก่อนที่นางจะรู้สึกเสียวสะท้านและต้องคว้าจับบางสิ่งที่นุ่มลื่นกำเอาไว้ในมือของนาง
“อรื้อ อรื้อ”
ร่างบางเริ่มดิ้นรนอย่างมิอาจจะทานไหว นางรู้สึกประหลาดจนต้องฝืนกายลืมดวงตาขึ้นมาให้จงได้ ก่อนที่นางจะพยายามผลักดันคนออกไปอย่างตื่นตกใจในที่สุด
” อรื้อ “
“อร่า เจ้าตื่นแล้ว เสี่ยวหงฮวา”
บุรุษหน้าทนถอดถอนแผ่นลิ้นออกมาจากร่างนุ่มช้าๆ และทำท่าทางยั่วยวนนางอย่างตั้งใจ ร่างบางตื่นตกใจขึ้นมานางพยายามจะขยับกายหนี แต่ทว่าร่างหนาหนักก็เคลื่อนกายขึ้นมาทาบทับนางแล้ว กอดรัดนางจนแน่น ก้มลงจุมพิตนางที่แก้มขาว เอ่ยเสียงแหบพร่าไต่ถามนางออกไป
“กลัวมากหรือไม่เด็กดี ท่านย่าไปจัดการนางให้เจ้าแล้ว นางถูกโบยไปหลายคราและมิให้นางเข้าใกล้เจ้าได้อีก สตรีชั่วร้ายเช่นนั้นช่างน่ารังเกียจมากเสียจริงเลย ท่านย่าผิดหวังในตัวนางนัก นางเกือบจะสังหารเจ้าลงไปแล้ว หากมิมีคนของข้าไปพบเข้า เจ้าย่อมต้องอยู่ในใต้ผืนน้ำไปตลอดกาล ข้าจะรังแกผู้ใดได้อีกกัน “
ใบหน้าหวานแดงขึ้นมา และพยายามผลักดันร่างกายแกร่งให้ห่างนางออกไป แต่ทว่าริมฝีปากร้อนๆ กลับก้มลงไปดูดดึงลำคอขาว ลากลิ้นจนนางสั่นสะท้านไหวไปทั้งกายและขบผิวของนางลงไปจนแดงเรื่อขึ้นมาเป็นร่องรอยขนาดใหญ่
” เสี่ยวหงฮวา ท่านย่าตกลงจะแต่งเจ้าให้กับข้าแล้ว อย่างไรกินมิกินเจ้าก็เป็นของข้า เช่นนั้นอย่ากลัวไปเลยนะ เด็กดี เจ้าต้องให้ข้าผู้เดียวนั้นรังแกเจ้า มิให้ผู้ใดทำได้อีก “
เสี่ยวหงฮวายกมือจะทุบตีคนออกไป ใบหน้าคมแย้มรอยยิ้มบานและดึงหลังมือของนางขึ้นมาจุมพิตแล้วบังคับนางให้กอบกุมแก่นกายของตนเองลงไป เสี่ยวหงฮวาพยายามดิ้น นางตื่นตกใจนัก สิ่งนั้นมันทั้งร้อนทั้งนุ่มทั้งยังคล้ายแข็งแกร่งอยู่ภายใน มันร้อนลวกฝ่ามือของนางจนนางเสียวสะท้านไปหมด
” ฮร่า ทรมานนัก มือน้อยๆของเจ้า อึ่ก อร่า นุ่มนวลยิ่ง “
ฉูปินไห่แทบจะขาดใจตาย อยากกินนางแทบขาดใจแล้ว แต่อีกมินานแล้วที่จะได้กราบไหวฟ้าดินกับนางแน่ๆ เช่นนี้ย่อมต้องให้นางได้แต่งงานก่อน มิเช่นนั้นนางจะมิมีเกียรติยศได้ เดี๋ยวบรรพบุรุษสกุลฉูบนสวรรค์นั้นจะลงทัณฑ์ได้อีกครา เท่านี้ก็ติดอยู่กับเรือพิลึกมานานหลายร้อยปีแล้ว
” อรือ กายข้าใหญ่โตนัก หากถึงยามคืนวันเข้าหอนั้น เสี่ยวหงฮวาจะต้องอดทนให้มากๆ คราแรกเจ็บปวดหน่อยจึงจะดี ต่อไปในคราถัดๆ ไป ย่อมมีแต่ความหฤหรรษ์ มิเจ็บปวดต่อไปอีก อร่า เสี่ยวหงฮวา “
ฉูปินไห่ร้องครวญครางออกมาอย่างหน้าทนต่อหน้าสตรีใบ้แสนงดงาม และบังคับฝ่ามือนุ่มของนาง ให้ดึงรั้งกายตนจนปลดปล่อยน้ำหวานออกมาและหัวเราะนางขึ้นมา
” อรืม เสี่ยวหงฮวาน่ารักนัก นางช่างบังอาจเสียจริงที่จะทำร้ายเสี่ยวหงฮวาของข้าได้ “
บุรุษดึงผ้าออกมาเช็ดมือของนาง และดึงนางกอดนอนในอกแกร่ง ลูบไล้เอวบางและลูบลงไปตามหน้าท้องขาวของนางมิหยุดใบหน้าหวานแดงขึ้นมา และชักมือหนีก่อนจะมุดผ้าห่มม้วนพันตนเองลงไป บุรุษหน้าทนกอดรัดนางและจุมพิตนางลงไปหนักๆ
“กลัวมากใช่หรือไม่ ตกน้ำผู้เดียวเช่นนั้น ยามนั้นคงตื่นตกใจกลัวจนมิอาจจะทนไหว”
เสี่ยวหงฮวาได้ยินเช่นนั้น นางก็น้ำตารินออกมา นางเบะปากร่ำไห้ขึ้นมาในที่สุด เสียงร้องของนางดังเฉกเช่นคนใบ้ที่มิอาจควบคุมน้ำเสียงของตนเองได้ ฉูปินไห่กอดรัดนางลงไปจนแน่นและลูบหลังนางลงไปมิหยุด
“เด็กดี ต่อไปอย่าห่างข้า ไปที่ใดล้วนต้องมีข้ารับใช้ติดตามไปให้มาก เจ้าร้องบอกผู้ใดมิได้ยิ่งลำบากนัก ครานี้นางผลักเจ้าตกน้ำหวังสังหารแล้ว คราต่อไปมิรู้ว่าจะมีผู้ใดลอบเข้ามา เช่นนั้นอย่าห่างข้า เข้าใจใช่หรือไม่”
“อรื้อ อรื้อ”
เสี่ยวหงฮวากายสั่นระริกตกหลุมพรางคนบ้าราคะลงไป ฉูปินไห่จึงหยุดรังแกนางและขยับตัวลุกขึ้นไปหยิบเสื้อผ้าที่พับไว้อย่างดีบนถาดไม้มาให้นาง ก้มลงจุมพิตนางลงไปที่แก้มนุ่ม
“ข้าจะให้อาหยวนไปตามนั่วนั่วและหนีหนี่มาให้เจ้า พวกนางถูกลงทัณฑ์ให้คุกเข่าอยู่ที่ลานหิน ต่อไปหากเป็นเช่นนี้อีก ข้าจะตีพวกนางให้ขาหักไปเสียเลย โทษฐานที่มิดูแลเสี่ยวหงฮวาเอาไว้ให้ดี “
“อรื้อ อรื้อ อรื้อ”
นางตื่นตกใจคว้าเอวแกร่งเอาไว้จนแน่น ส่ายหน้าไปมาน่ารักน่าชังยิ่ง ฉูปินไห่หัวเราะออกมาดังๆ และตีมือนางเบาๆ หัวเราะดังออกไปอีกครั้ง
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
ในยามราตรีเรือปีศาจไปรับบุรุษชายหญิงมาจากหน้าหอคณิกา ยามที่คนขึ้นไปได้ สตรีข้างกายบุรุษผู้นั้นก็ซัดผงควันใส่คนพายเรือ คนพายเรือตกน้ำลงไปและบุรุษข้างกายนางก็สลบลงไปบนเรือนั้น สตรีดวงตาวับวาวแล้วออกแรงบีบคอคนแรงๆ จนคนนั้นแน่นิ่งลงไป นางจึงพยายามบังคับเรือไปตามลำน้ำและเร่งลงจากเรือไปในที่สุด
ก่อนที่ควันสีดำร่างหนึ่งจะหายเข้าไปเป็นกลุ่มควันที่เข้าไปในปากของชายเคราะห์ร้ายนั้น แล้วดวงตาคู่คมก็ค่อยๆ ลืมดวงตาขึ้นมาช้าๆ
“ฮร่า ชายผู้นี้ชื่อว่ากังเอ้าฉาย บุตรชายของคหบดีค้าผ้าผู้เสเพล ปีนี้จะสมัครสอบเข้าในกองทัพแล้ว น่าสนใจยิ่ง ฮ่า ฮ่า ฮ่า “
เงาร่างสีดำบนเรือนั้นหัวเราะขึ้นมาอีกครั้ง ที่มีเรื่องมหัศจรรย์เช่นนี้ด้วย เช่นนั้นจึงปล่อยให้เรือปีศาจล่องลอยไปและค่อยๆ รอคอยร่างกายที่จะได้รับมาอีกคราหนึ่ง และแน่นอนว่ายามนี้กังเอ้าฉายมาอยู่ในห้องอักษรของคุณชายฉูแล้วในที่สุด
“อรืม เป็นดั่งเช่นที่ข้านั้นคาดคิดไว้จริงๆ เรือปีศาจนี้บันดาลโชคให้พวกเราได้ แต่ทว่าในภายหน้าจะแลกกับสิ่งใดมิมีทางรู้ พวกเจ้ารู้หรือไม่ว่าข้านั้นหวนคืนกลับมาในสามชาติภพแล้ว ในคราก่อนนั้นคือชาติภพที่สองของข้าที่กว่าจะรู้ตนเองได้ก็ทำเรื่องที่ผิดพลาดลงไปอีกครา ในชาติภพแรกนั้นข้าทำลายเมืองท่าหวยเหอและสังหารคุณหนูเซี่ยลงไปพร้อมกับข้ารับใช้ของนางสิ้น บิดาของนางถูกข้าสังหารเพราะความริษยา มิคาดบุรุษข้างกายนางนั้นจะเป็นจุดเปลี่ยนผันบนบัลลังค์ของสกุลฉู การกลับคืนมาในอีกคราข้านั้นจึงมิถูกเลือกอีกต่อไป แต่บัดนี้บัลลังค์ของสกุลฉูล่มสลายลงไปแล้ว ฟ้าดินจะต้องการสิ่งใดข้ามิอาจรู้อีกต่อไป คำสาปนี้จะไปจบที่ใดกัน พวกเราที่เป็นปีศาจย่อมคาดเดาเรื่องราวต่อไปมิได้อีก “
” เฮ่อ หากเป็นดั่งที่หวางเย่ทรงตรัส บางทีฟ้าดินคงกลั่นแกล้งพวกเราให้ทำความดีเป็นแน่แล้วขอรับ “
” ต่อไปมิต้องเรียกขานนามเดิมของข้าอีก ต่อไปนี้ข้านั้นคือฉูปินไห่ เจ้าเองในยามนี้ก็เป็นบุตรชายของสกุลกังย่อมมีหน้าตาที่ทัดเทียมกัน ในเมื่อสวรรค์เล่นตลกแล้ว โรงงิ้วของพวกเรายิ่งใหญ่นัก เหตุใดจึงมิหลงเลือนทุกสิ่งไปแล้วโลดแล่นไปในชีวิตใหม่ให้พอเพียง มีสิ่งใดที่คิดค้างคาเอาไว้อีกหรือไม่ เร่งรีบไปทำเสีย “
“มิมีเลยขอรับ ในยามนั้นสิ่งสุดท้ายคืออยากปกป้องหวางเย่ให้จงได้ นึกเสียดายตนเองที่มิอาจต้านทานผู้อื่นได้เลยจริงๆ คิดเพียงว่าขอให้พระองค์รอดไปให้ได้ อื่นใดจึงมิมีแล้วขอรับ”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า พวกเจ้านี่มันตลกนัก เจ้าติดตามรับใช้กบฎเช่นข้า แต่ทว่ากลับภักดีไปจนวันตาย น่าสนใจยิ่ง เช่นนั้นต่อไปทดลองใช้ชีวิตในคราบของเจ้าสกุลกังนี้ให้ดี บางคราเจ้าคนผู้นี้อาจเปลี่ยนแปลงบางสิ่งที่สวรรค์ต้องการได้ พวกเราอาจต้องแลกชีวิตไปเพื่อปกป้องสกุลฉูเอาไว้อีกคราอย่างแน่นอน ข้าเชื่อเช่นนั้น “
” ขอรับ ข้าน้อยจะลองดู “
” ต่อไปเจ้ากับข้าคือสหายกัน ดังนั้นการเรียกขานยามเก่าจงลืมเลือนไปเสีย”