ตอนที่8. ถ้าเจ้ามีที่ที่อยากไป

1194 คำ
เด็กสาววัยสิบสี่สวมชุดแบบบัณฑิตหนุ่มแต่ดวงหน้าหวานสวยดูอย่างไรก็รู้ว่าเป็นสตรี แม่นมหวงมองแล้วก็อดเป็นห่วงไม่ได้ ดูอย่างไรก็เป็นหญิง “วันนี้ข้าจะไปเรียนฝังเข็มกับท่านหมอจู จางลี่ช่วยเอาตำราที่ข้าคัดลอกไว้ไปส่งร้านหนังสือก็แล้วกัน” “คุณหนูจะไปคนเดียวหรือเจ้าคะ” จางลี่อดเป็นห่วงไม่ได้ “ข้าส่งหนังสือแล้วตามไปพบคุณหนูที่โรงหมอดีกว่านะเจ้าคะ” “เจ้าก็ต้องหอบงานไปที่โรงหมออีกนะสิ เจ้าเอากลับมาบ้านนี่แหละ” ฟู่เซียงเซียงหัวเราะเสียงใส “ข้าไปไหนมาไหนคนเดียวจนชินแล้ว เหตุใดต้องทำเป็นเรื่องใหญ่” นางพึมพำแล้วหันไปหยิบกล่องใส่อุปกรณ์ของตน เป็นจังหวะเดียวกับที่ทาสหนุ่มเดินเข้ามาหลังจากหาบน้ำใส่ตุ่มแล้ว “อี้เฉิน! ข้าบอกแล้วว่าไม่ต้องทำงานพวกนี้ รอให้แข็งแรงกว่านี้ค่อยทำก็ได้” ฟู่เซียงเซียงพูดพลางเดินวนรอบตัวทาสหนุ่ม “ดูดีขึ้นจริงๆ แสดงว่าการรักษาของข้ายอดเยี่ยมเลยสินะ” ‘นั้นเป็นเพราะข้าเดินลมปราณขับพิษออกต่างหากล่ะ’ เขาถูกเรียกด้วยชื่ออี้เฉินจนชิน ทำเพียงผงกศีรษะยอมรับคำพูดของเด็กสาวที่สูงยังไม่ถึงปลายคาง ในสายตาของเขา นางดูผอมเกินไป ตัวเล็กเกินไป ส่วนที่ควรมีก็ราบเรียบจนมองแทบไม่เห็น แต่กลับไม่อาจละสายตาจากนางได้เลย “คุณหนูจะไปโรงหมอก็ให้อี้เฉินติดตามไปด้วยสิเจ้าคะ” แม่นมหวงเสนอแล้วยิ้มออกมา แม้ไม่ค่อยไว้ใจทาสหนุ่มผู้นี้ แต่ให้คุณหนูไปไหนมาไหนเพียงลำพังก็ไม่ดีนัก ฟู่เซียงเซียงเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยแล้วจ้องหน้าอี้เฉิน นางเผลอกัดริมฝีปากครุ่นคิดแล้วเอ่ยถาม “เจ้าหายดีแน่แล้วหรือ? ออกไปข้างนอกได้ไหม” ทาสหนุ่มพยักหน้าแทนคำตอบ เขาเองก็อยากสำรวจด้านนอกเช่นกัน “ดี เช่นนั้นเจ้าไป...เอ่อ...เปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน” ฟู่เซียงเซียงหันไปถามแม่นมหวง “เรามีเสื้อผ้าชุดใหม่ให้อี้เฉินใช่ไหม” “เจ้าค่ะ” แม่นมตอบ “อี้เฉินรูปร่างสูงใหญ่ เสื้อผ้าสำเร็จที่ซื้อมาดูแล้วไม่พอดี ข้าเย็บให้ใหม่แล้ว จางลี่ไปเอามาให้อี้เฉินสิ” จางลี่พยักหน้าหงึกหงักแล้วเดินลากขาเร็วๆ ไปหยิบเสื้อผ้าผู้ชายออกมาหนึ่งชุดแล้วยื่นให้อี้เฉินที่ทุกคนเข้าใจว่าเป็นใบ้ ฟู่เซียง เซียงโบกมือไล่ให้เขารีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ชายหนุ่มรับเสื้อชุดนั้นแล้วเดินผลุบหายไปด้านหลัง หลายวันมานี้ หลังจากฟื้นแล้วก็อาศัยหลับนอนที่ห้องเก็บฟืน “คุณหนู...” จางลี่จับมือฟู่เซียงเซียง “ข้าเสร็จธุระแล้วจะรีบไปหาท่านที่โรงหมอนะเจ้าคะ” “เจ้ากลับมาก็อยู่ช่วยงานกับแม่นมหวงนี่แหละ วันนี้ท่านหมอจูจะสอนข้าฝังเข็ม ข้าคงไม่ได้กลับเร็วนัก” “ท่านหมอจูรับคุณหนูเป็นศิษย์แล้วหรือเจ้าคะ” จางลี่ถามอย่างตื่นเต้น “ข้าเฉลียวฉลาดถึงเพียงนี้ ท่านหมอจูต้องรับข้าเป็นศิษย์อยู่แล้ว” ถ้อยคำของนางเรียกเสียงหัวเราะจากจางลี่และแม่นมหวง เพียงไม่ถึงครึ่งเค่ออี้เฉินก็เดินกลับมา จางลี่ถึงกับอ้าปากค้างแล้วก้มหน้าลงซ่อมแก้มที่แดงเรื่อ “ตอนนี้ข้ามีเงินแค่ซื้อชุดผ้าฝ้ายเนื้อหยาบ เอาไว้ข้าเป็นหมอที่เก่งกาจมีรายได้มากกว่านี้ จะซื้อเสื้อผ้าไหมให้ทุกคนได้ใส่กัน” ฟู่เซียงเซียงฉีกยิ้มกว้างแล้วพยักหน้าให้อี้เฉินเดินตามนางไป โดยปกติหากไม่ต้องขนสมุนไพรไปนางมักเดินไปเอง บางครั้งจางลี่ก็ไปเป็นเพื่อน แต่คราวนี้มีชายหนุ่มร่างสูงใหญ่เดินตามหลัง นางคิดว่าอี้เฉินยังบาดเจ็บอยู่จึงเดินช้าลง ในขณะที่ทาสหนุ่มเกรงว่าตนเองจะเดินนำหน้าจึงรักษาความเร็วไม่ให้ใกล้นางเกินไปนัก “ไม่ต้องกลัวนะ ท่านหมอจูใจดีมาก” ฟู่เซียงเซียงในชุดเด็กหนุ่มหันมาคุยกับอี้เฉิน “เจ้าลองดูก่อนก็ได้ ถ้าอยากทำงานที่โรงหมอกับท่านหมอจู ข้าจะช่วยพูดให้ท่านหมอจูรับเจ้าไว้” ชายหนุ่มเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม ยังไม่ทันจะอ้าปากส่งเสียง เด็กสาวก็ชิงพูดขึ้นก่อน “แต่ถ้าเจ้ามีที่ที่อยากไป หรือมีครอบครัวที่ต้องการกลับไปหา ข้าก็ไม่ห้ามเช่นกัน” นางเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “แต่ถ้าเจ้าจะไป อย่างไรก็รอให้บาดแผลหายดีเสียก่อน ถึงร่างกายเจ้าจะฟื้นฟูได้รวดเร็วแต่บาดแผลก็ยังไม่สมานกัน หากเคลื่อนไหวมากก็อาจปริแตกได้อีก อย่างไรก็ทนอีกสักหน่อยเถอะนะ” ชายหนุ่มรู้สึกแปลกใจที่ได้ยินนางพูดเช่นนั้น บางครางนางก็ไม่เหมือนเด็กอายุสิบสี่เอาเสียเลย บางครั้งนางก็ไร้เดียงสาราวเด็กน้อย เขาได้แต่เดินตามนางไปเงียบๆ จนถึงโรงหมอแห่งหนึ่ง ดูท่าทางนางมาที่นี่เป็นประจำจึงคุ้นเคยกับทุกคนดี เพียงแค่สายตาของผู้อื่นที่มองมาทางเขาไม่สู้ดีนัก ซึ่งเขาชาชินกับสายตาเช่นนี้แล้ว “มาแล้วหรือเซียงเซียง” ชายหนุ่มอายุราวยี่สิบใบหน้าดูอ่อนโยนเปี่ยมเมตตาเอ่ยกับเด็กสาวด้วยรอยยิ้มพลางปรายตามองผู้ติดตาม “นี่นะหรือเจ้าก้อนเงินสองตำลึงของเจ้า” “พี่ลี่เฉี่ยวอย่าล้อคนของข้าสิ” ฟู่เซียงเซียงขึงตาใส่แต่อีกฝ่ายกลับหัวเราะร่วนไม่ได้ใส่ใจกับท่าทางของนาง “เรียกข้าศิษย์พี่ได้แล้ว” “จริงด้วย! คารวะศิษย์พี่!” “ใครรับเจ้าเป็นศิษย์กัน” เสียงหมอจูซีห่าวดังก่อนที่เจ้าของโรงหมอจะเดินมาถึง ในมือถือพัดด้ามหนึ่ง พอเห็นหน้าทะเล้นของว่าที่ลูกศิษย์คนใหม่ก็อดส่ายหน้าไม่ได้ “ยกน้ำชา” “เจ้าค่ะ อาจารย์!” แม้ฐานะการเงินไม่ดีนัก แต่ฟู่เซียงเซียงเตรียมใบชาชั้นเลิศไว้เพื่อการนี้โดยเฉพาะ นางรีบร้อนจะไปชงชา แต่เสื้อที่สวมไม่พอดีตัวนัก นางเกือบสะดุดล้มหน้าคะมำ ทว่ามือใหญ่ของอี้เฉินคว้าเอวนางไว้ได้ทัน ฟู่เซียงเซียงเป่าปากโล่งอก เมื่อยืนได้มั่นคงแล้วก็หันมายิ้มให้แล้วเดินเร็วๆ หายไปเตรียมน้ำชา แม้มุมปากจะยกยิ้มแต่สายของลี่เฉี่ยวไม่ค่อยพอใจนัก จึงอดตำหนิไม่ได้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม