“ผมหวังว่าจะได้งานก่อนอาทิตย์หน้า” เสียงเข้มเอ่ยจบก็เดินออกจากแผนกไป ทิ้งไว้เพียงความคุกกรุ่นของอารมณ์ให้ลูกน้องในแผนกได้ซึมซับ ทุกคนต่างทอดถอนหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่ายที่ต้องมารองรับอารมณ์ของหัวหน้างานคนใหม่คนนี้
“จ้า จ้าจ้าจ้า” พนักงานสาวคนหนึ่งพูดออกมาทั้งทำท่าเหมือนจะตามไปต่อยหัวหน้าจนเพื่อนชายต้องรีบไปห้ามเช่นทุกครั้ง
“เดี๋ยวหัวหน้าก็ได้ยินหรอก” ผิงหันมองเพื่อนด้วยความหงุดหงิด อยากต่อยหน้าคนจนตัวสั่น ถ้าไอ้รินไม่ห้ามวันนี้คงได้ไปจบกันที่โรงพักแน่ คีรินมองแขนเพื่อนที่สะบัดออกจากกอบกุมอย่างไม่สบอารมณ์ หันมองคนอื่นที่ทำหน้าไม่ต่างกัน ตั้งแต่หัวหน้าคนใหม่ย้ายมาที่นี่ดูเหมือนสุขภาพจิตคนทั้งแผนกจะย่ำแย่ลงมาก รู้เหอะว่าในใจแอบเชียร์ไอ้ผิงต่อยหน้าอีกฝ่ายสักทีสองที
“หมั่นไส้ กลับเถอะ วันนี้อยากเดินตลาดนัด งานช่างมันก่อน” หว่าผิงกลับไปที่โต๊ะทำงานเพื่อเก็บของกลับบ้าน ตอนนี้ถึงเวลาเลิกงานแล้ว เรื่องงานเอาไว้ก่อน เลิกงานแล้วก็ต้องเลิกคิดถึงงาน วันนี้มีตลาดนัดเธอจะพาเพื่อนไปเดินเล่นสักหน่อย ไอ้รินไม่ค่อยไปไหน จะมีก็แต่ตลาดนัดเนี่ยแหละที่เธอลากไปด้วยได้
“เออ ๆ” ชายหนุ่มพยักหน้ารับขณะเก็บข้าวของใส่กระเป๋า พี่ ๆ ในแผนกหอบงานกลับออกไปก่อนแล้วเพราะเดินทางกลับด้วยรถไฟฟ้า แต่เขามากับผิงเพราะมันมีรถเราสองคนจึงยังลีลาอยู่ที่นี่ได้ เก็บของเสร็จก็ปิดห้องเดินตามกันออกไป
หนึ่งทุ่มตอนนี้คนพลุกพล่านจนเดินไม่สะดวก ตลาดนัดมีทุกวันศุกร์และเป็นตลาดที่ค่อนข้างใหญ่ร้านเยอะ ทำงานเหนื่อย ๆ ก็ยังพอมีที่ให้เดินเล่นผ่อนคลายสมองบ้าง มีร้านรวงมากมายให้เลือกซื้อ ทั้งสองเดินเล่นไปเรื่อย ๆ ไม่ได้คิดอะไร เห็นอะไรน่ากินค่อยซื้อ ไม่รู้ทำไมการเดินผ่านผู้คนที่ไม่รู้จักกันถึงเป็นกิจกรรมคลายเครียดของพวกเราไปได้
คีรินเดินตามเพื่อนสาวซื้อของ ผู้ชายร่างบางในมือมีเพียงอาหารถุงสองอย่างกับข้าวหนึ่งห่อเท่านั้น อยู่หอคนเดียวไม่รู้จะซื้ออะไรกิน แต่มือผิงนั้นเต็มไปด้วยของกินจนเขาต้องถือช่วย เพราะที่บ้านคนเยอะ ซื้อไปก็มีคนกินหมดแน่นอน
ซื้อของเสร็จเพื่อนก็มาหยุดที่หนึ่งก่อนออกจากตลาด เป็นที่ขอพรบนบานศาลกล่าวยอดฮิต ผิงฝากของไว้กับเพื่อนก่อนจะเดินไปพร้อมของไหว้เจ้าแม่ เห็นว่ากันว่าเจ้าแม่มอบคู่ให้ตรงปกที่สุดและเร็วมาก ตอนนี้เธอก็อายุยี่สิบห้าแล้ว บางทีก็อยากรู้ซึ้งการมีแฟนบ้างว่ามันเป็นยังไง
สิบนาทีผ่านไป
“ผิง เสร็จยัง” คีรินยืนรอเพื่อนขอพรอยู่นานจึงเอ่ยเร่ง นี่ไม่ใช่นับเส้นผมบอกเจ้าแม่นะถึงนานขนาดนั้น หญิงสาวผู้ครองโสดหันมามองเพื่อนก่อนจะรีบขอพรต่อ เสร็จแล้วกำลังจะนำธูปไปปักกระถางก็ชะงัก ใบหน้างดงามหันมองคีรินเพื่อนสุดที่รักครู่หนึ่ง
“เจ้าแม่ ขอเผื่อได้มั้ยเจ้าคะ ให้อีนี่มีผัวด้วย หนูกลัวตัวเองมีผัวแล้วมันเหงา”
"ขอหล่อกว่าผัวมันนะครับเจ้าแม่” คีรินเอ่ยเสริมเพื่อนไป ไม่นานก็ถูกกระเป๋าเงินราคาเฉียดแสนโยนใส่ ร่างบางรับเอาไว้ได้ทันพร้อมหัวเราะเบา ๆ ที่ได้กลั่นแกล้งหญิงสาวคืนบ้าง
“กูเจ้าของน้ำแดงกูต้องได้หล่อกว่าสิ” หญิงสาวเอ่ยแย้งก่อนจะป้องปากกระซิบกระซาบขอพรกับท่านแม่ต่ออย่างไม่ยอม ธูปที่จุดไว้แทบจะหมดดอกกว่าจะขอเสร็จ ก่อนจะปักธูปยังย้ำอีกรอบว่าขอหล่อกว่าเพื่อนตัวเอง
“หึ” ชายหนุ่มหัวเราะเบา ๆ ในลำคอไม่ได้แกล้งเพื่อนต่อ ปกติเราสองคนก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว ผิงคือเพื่อนผู้หญิงที่คบกันมาตั้งแต่มอปลาย จนตอนนี้ยี่สิบห้าปีแล้วก็ยังไม่มีใครมีแฟนสักคน
หญิงสาวมาจากบ้านที่มีฐานะดี ส่วนเขามาจากบ้านเด็กกำพร้า เจ้าตัวมาสมัครทำงานบริษัทเพราะไม่มีเพื่อน เพื่อนมีอยู่คนเดียวเลยมาทำด้วยซะเลย มันบอกทำงานเล่น ๆ วันแรกขับรถหรูมาที่บริษัทจนคนคิดว่าเป็นลูกเจ้าของบริษัทปลอมตัวมาทดสอบสังคม กว่าคีรินจะอธิบายให้ทุกคนเข้าใจได้ก็หลายวัน
หลังขอหนุ่มจากเจ้าแม่เสร็จทั้งสองก็เดินออกจากตลาดเพื่อกลับหอ ผิงจะไปส่งเพื่อนที่หอพักค่อยกลับคอนโดเช่นเดิม ทางเข้าหอรินมันเปลี่ยว เพื่อนเธอแม้จะเป็นผู้ชายแต่ตัวเล็กเท่าไม้จิ้มฟันจะไปสู้ได้ยังไง เวลาขับรถเข้าซอยส่วนมากจะมีคนมานั่งกินเหล้าอยู่หน้าห้อง น่ากลัวจะตาย
“เดือนนี้พอใช้มั้ย ทำไมเห็นซื้อของน้อยจัง” หญิงสาวเอ่ยถามเพื่อนขณะเดินไปที่รถ รินเป็นคนตัวเล็ก กินน้อยกว่าเธอที่เป็นผู้หญิงอีกแต่ปกติไม่ได้ซื้อของน้อยขนาดนี้เลยอดถามไม่ได้ เราสองคนตัวเท่า ๆ กัน แต่รินจะดูตัวเล็กกว่า น่ารักขนาดนี้แต่ก็ไม่เคยมีแฟนเพราะทำแต่งาน บางทีเธอก็ไปเจอเพื่อนแอบไปทำพาร์ทไทม์ที่ร้านสะดวกซื้อ ผิงกลัวเพื่อนตายไม่ใช่อะไร ทำงานที่บริษัทก็หนักแล้ว เอาเวลาที่ไหนไปพักผ่อน พอสังเกตุเห็นว่าเพื่อนซื้อของน้อยเลยกลัวมันจะช็อตแล้วไปแอบทำงานอีก
“พอ ปกติกูก็ไม่ค่อยใช้เงินอยู่แล้ว”
“เออ ๆ แต่ถ้าไม่พอก็บอก เวลาเดือดร้อนปากอมอะไรไว้ไม่พูดตลอดเลยมึง อมขี้ไว้หรอ”
“ได้ครับ ๆ ผมจะรีบบอกคุณหนู”
“มึงมันดื้อ” คีรินยิ้มแหยเมื่อเพื่อนรู้ทัน ผิงบ่นแบบนี้มาหลายปีแล้ว บางทีรุ่นพี่บอกว่าไม่กล้าจีบผิงเพราะเห็นตอนบ่นเขาแล้วกลัว บ่นแต่ปากไม่พอ สีหน้าก็ออกด้วย
สองทุ่มกว่าชายหนุ่มก็ถึงหอพักเก่า ๆ ในซอย ขึ้นมาถึงห้องก็วางของที่ซื้อมาไว้ก่อนตรงเข้าไปอาบน้ำ เขาต้องรีบโทรหาแม่ครู คนแก่นอนไวเขาจึงต้องรีบ
“รินส่งเงินมาให้แม่เยอะเกินไปแล้วลูก เก็บไว้ใช้บ้าง” น้ำเสียงใจดีดังขึ้นจากมือถือทันทีที่กดรับสาย คีรินยิ้มเดินไปหยิบจานข้าวมาวางที่โต๊ะ ปลายสายมีเสียงเด็ก ๆ ที่นอนกับแม่ครูเรียกเขาพี่ริน ๆ ไม่นานก็ถูกดุจนร่างบางหลุดยิ้มออกมา
“รินไม่ค่อยใช้ครับแม่”
“แล้วกินข้าวกินปลาหรือยัง”
“กำลังกินครับ”
“อ้าว งั้นกินข้าวเถอะ หรือจะคุยกับเด็ก ๆ มั้ย แม่จะปลุกให้ หลับไปแล้ว”
“งั้นไม่เป็นไรครับ แม่นอนเถอะ” ดวงตางดงามเหลือบมองนาฬิกาบนผนังพบว่าตอนนี้ก็เกือบสามทุ่มแล้ว
“รักษาสุขภาพด้วยนะริน”
“ครับ” มือถือวางลงบนเตียงเมื่อสายถูกตัดไป รอยยิ้มบางเบาประดับใบหน้าบ่งบอกว่าความขุ่นมัวในใจตลอดทั้งวันเลือนหายไปหมดแล้วเมื่อได้พูดคุยกับคนที่เลี้ยงดูมาตั้งแต่ถูกนำมาทิ้งไว้ที่บ้านเด็กกำพร้า คีรินจึงกินข้าวไปยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไปอย่างผ่อนคลาย
กินข้าวเสร็จก็เปิดคอมขึ้นมาทำงานต่อ เขารับจ้างทำสื่อการสอนทั่วไป หาข้อมูลเพิ่มนิดหน่อยแต่รายได้ดีพอสมควร อย่างน้อยซื้อรองเท้าใหม่ให้เด็กๆ ได้หลายคู่ จะได้ไม่ต้องรอเงินบริจาคที่ซื้ออาหารก็แทบไม่พอ รู้สึกว่าทำงานไปได้ไม่นานแต่เงยหน้าขึ้นอีกทีก็ตีสามแล้ว คอมถูกปิดเครื่องก่อนผู้เป็นเจ้าของจะลุกขึ้นเดินโอนเอนไปนอนบนเตียงไม่นานก็หลับไป
ทุกวันก็เป็นเช่นนี้
แสงแดดยามเช้าส่องสว่างผ่านผ้าม่านสีขาวเข้ามาด้านใน ปลายปีหนึ่งเริ่มเข้ายามหนาวแล้วช่างอากาศดีน่าหลับนอนต่อไม่ต้องตื่น หากแต่งานมากมายที่รั้งรออยู่ปล่อยไว้นานกว่านี้ไม่ได้แล้ว
ใบหน้าคมคายหันมองคนที่กำลังนอนหันหลังให้ตนอยู่ด้วยรอยยิ้ม แผ่นหลังขาวเนียนเต็มไปด้วยรอยรักที่เขาเป็นคนทำ ครู่หนึ่งร่างกายก็ขยับเข้าไปใกล้มากขึ้น กดจูบลงบนลาดไหล่ขาวก่อนจะผละออกลุกจากเตียงไป
วันนี้ต้องเข้าบริษัท ใกล้จะสิ้นปีแล้วมีงานแทบล้นมือ ขุนเขาวัยสามสิบห้าปีใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำครู่หนึ่งก็ออกมา ร่างกายสูงใหญ่มองคนหลับบนเตียงไม่ได้เอ่ยสิ่งใดออกมาก็เดินไปแต่งตัวต่อ ก่อนหยิบมือถือเดินออกจากห้องไปหลังเลขาโทรตามสามสายแล้ว
เสียงเดินและเสียงฝักบัวปลุกให้คนหลับใหลอีกคนบนเตียงตื่นแล้วเช่นกัน แต่เขายังไม่อยากสนทนาพาทีกับร่างสูงที่ออกจากห้องไปเมื่อครู่นี้ อีกฝ่ายตัวใหญ่กลัวโดนต่อยเอา คีรินลุกขึ้นนั่งพร้อมถอนหายใจหนัก ๆ ออกมาอย่างโล่งใจทั้งยังสับสนจนเหมือนฝัน
ก่อนหลับตานอนอยู่ในห้องเช่าเท่ารูหนู ลืมตาตื่นขึ้นมาทำไมเป็นคอนโดหรูหราไปได้ คอนโดไม่ว่า บุรุษหล่อเหลาปานเทพบุตรเมื่อกี๊นี้เป็นไผ ไม่นานก็ได้รับความทรงจำที่ไม่คุ้นเคยเข้ามาในหัว อ๋อ เราเข้ามาอยู่ในนิยายเรื่องพานพบที่เคยอ่านไปเมื่อสองอาทิตย์ก่อน
ถามว่าใครแต่ง อีผิงจ้า
เนื้อเรื่องไม่มีอะไรมาก ก็แค่นายเอกเป็นดารา แสดงหนังแสดงละครแต่ยังไม่ดังจึงเข้าร่วมรายการวาไรตี้ เป็นรายการทำกิจกรรมโดยมีการถ่ายทอดสดให้ชมด้วย จากนั้นก็มีพระเอกหนุนหลังอยู่ในเงาให้นายเอกสงสัยเล่น ๆ มีตัวร้ายที่ชอบนายเอก พระรองที่เป็นดาราเหมือนกันคอยหนุนหลังช่วยเหลืออีกแรง และมีตัวร้ายอีกคนหน้าตาน่ารักก็ชอบพระเอก ทั้งสองร่วมรายการวาไรตี้ด้วยกัน มีตัวร้ายช่วยเพิ่มความสนุกของเรื่องให้นายเอกได้แสดงความฉลาดเอาตัวรอด
สุดท้ายพระเอกนายเอกก็ครองรักกัน เหมือนชาติที่แล้วเคยรักกันมั้งแต่ไม่สมหวัง ตามชื่อเรื่อง ชาตินี้เลยได้กลับมารักกัน ตัวร้ายดาราหมดอนาคตเพราะถูกแฉที่ทำร้ายเพื่อนร่วมวงการ พระรองก็เป็นพระรอง ถูกสาปให้ไม่สมหวังแต่ก็ยังยิ้มได้
ส่วนตัวร้ายที่พึ่งเดินออกไปไม่รู้ว่าตายมั้ย คีรินจำไม่ได้แล้ว เขารับจ้อบเบต้ารี้ดให้เพื่อน คืออ่านนิยายแล้วแสดงความคิดเห็นว่าเป็นยังไงก่อนผิงมันจะอัพโหลดลงในเว็บ อ่านรอบเดียวเอง แต่ตอนนี้กลับเป็นตัวเองที่ทะลุมิติเข้ามาอยู่ที่นี่ จำได้ว่าเมื่อวานนี้ยังทำงานอยู่เลย คงเพราะทำงานหนักไป คราวนี้ได้นอนยาวของจริง
“ไอ้ผิงจะจุดธูปตามมาด่ากูมั้ยวะ” มือบางทึ้งผมตัวเองคิดหนัก ปวดหัว งานก็ยังไม่เสร็จ อยู่ดี ๆ ก็มาอยู่ที่นี่ไม่ใช่ว่าเขาตายไปแล้วหรอ
คีรินชีวิตก่อนเป็นเด็กกำพร้า ใช้ชีวิตวนเวียนอยู่ที่บ้านเด็กกำพร้า มหาลัย และที่ทำงาน พอจบออกมาก็ทำงานที่เดิมต่อยาวจนถึงปัจจุบันพร้อมผิง เงินที่หามาได้ก็ส่งให้แม่ครูเอาไว้ใช้จ่าย ไม่คิดว่าอยู่ดี ๆ จะตายแล้วมาอยู่ในร่างคนอื่นแบบนี้ เหลือเชื่อจนตอนนี้เขาก็ยังคิดว่าตัวเองกำลังฝันอยู่
เรื่องเป็นเกย์นั้นไม่ยุ่งยากเพราะเขาก็เป็นเกย์อยู่แล้วเพียงแต่ไม่เคยมีแฟนเพราะเวลาทั้งหมดทุ่มกับงาน จะเอาเวลาที่ไหนไปมี พอมีเวลาว่างก็หางานทำเสริมจะได้ไม่มีเวลาว่าง ที่เป็นปัญหาตอนนี้คือคีรินเป็นเด็กเสี่ย และเสี่ยคนนั้นดันเป็นตัวร้าย กลัวจะเป็นคนอารมณ์ร้อนชอบทำร้ายร่างกายเทือกนั้นมากกว่า
ระหว่างหัวคิดไปสายตาก็มองสำรวจห้องไป ห้องกว้างมาก ห้องนอนใหญ่กว่าห้องเช่าทั้งห้องที่เขาอยู่เสียอีก ห้องสีขาวสะอาดตา เตียงก็สีขาว โต๊ะก็สีขาว ห้องนี้ขุนเขาซื้อเอาไว้แล้วพาคีรินมานอนกกอยู่ที่นี่ก่อนจะยกให้อีกฝ่ายไปตอนเฉดหัวทิ้ง
แล้วจะทำยังไงต่อกับชีวิตดี
จำได้ว่าหลังจากนายเอกรู้จักมักจี่กับพระเอกแล้ว แต่ก็เหมือนยังไม่คบกัน ตัวร้ายก็วอแวเขาอยู่ พอนายเอกมาให้ความหวังคุณขุนเขา จากนั้นอีกฝ่ายก็เฉดเด็กตัวเองทิ้งนั่นคือคีรินคนนี้เพราะอยากรักนายเอกคนเดียว ของที่ได้คือคอนโดแห่งนี้ รถหรูหนึ่งคันและเงินสามล้านบาท
“สามล้านใช้ได้จนแก่” ปากเล็กพึมพำเบา ๆ ปกติก็ไม่ค่อยใช้เงินอยู่แล้ว สามล้านใช้เดือนละหมื่นอยู่ได้สบายอย่างที่บอก ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องทำอะไรแล้ว ใช้ชีวิตรอเขามาเฉดหัวก็แล้วกัน ได้เงินแล้วค่อยไปอยู่ที่อื่น ค่อยคิดว่าจะทำยังไงกับชีวิตต่อหลังจากนี้ ตัวเอกตัวร้ายจะทำอะไรก็ทำเถอะ เขาไม่ขอยุ่งเกี่ยว
“แบ่งให้แม่ครูได้คงดี เอ๊ะ” มือถือบนหัวเตียงถูกคว้ามาแสกนใบหน้าทันที กดเข้าเพจเฟสบุ๊คก่อนจะพิมพ์ชื่อบ้านเด็กกำพร้าไป ไม่นานบ้านเพียงรักก็ปรากฏสู่สายตา ภาพล่าสุดที่เพจลงคือรูปงานศพเขา มีแม่ครูและเด็ก ๆ ยืนส่ง ด้านหลังเป็นโบสถ์ มือขาวเนียนสั่นเทาจนเห็นได้ชัด มือถือที่จับอยู่หลุดลงไปบนเตียงในที่สุด
ทุกคนยังอยู่ มีแต่เขาที่ตายไป
“ดีแล้ว เขาตายคนเดียวดีแล้ว” ปากพึมพำเสียงเบาเหมือนคนละเมอ ร่างเก่าจะตกตายก็ไม่เสียใจแล้ว ขอแค่ยังอยู่บนโลกใบเดิม ทุกคนไม่หายไปเหมือนเป็นความฝัน อย่างน้อยเงินมากมายขนาดนั้นแบ่งให้แม่ครูใช้จ่ายได้หลายปีแน่ ๆ คีรินเหมือนหัวโล่งเบาสบายขึ้นมา เหมือนปลดล็อกอะไรสักอย่าง
เมื่อไม่มีอะไรให้กังวลแล้วเขาก็จะเริ่มต้นชีวิตใหม่ของตัวเอง ไม่รู้ว่าเจ้าของร่างนี้ไปไหนแล้ว อย่าบอกนะว่าบะฮึ่มกับตัวร้ายจนตาย คิดได้แบบนั้นก็พูดไม่ออก จะให้บอกว่า ไปดีนะ ไว้จะบะฮึ่มกับหมอนี่ต่อแทนนายเองก็กลัวถูกผีมาหักคอ
ร่างบางลุกออกจากเตียงอย่างทุลักทุเล ใครจะบะฮึ่มก็บะฮึ่มไป เขาจะรอเงินฟาดหัวแล้วหอบเงินหอบเสื้อผ้าหนีไปอยู่ที่อื่น ตอนนี้ก็ใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยไปก่อนละกัน รอเนื้อเรื่องในนิยายดำเนินไปตามที่นักเขียนผิงผิงแต่งเอาไว้ แต่ตอนนี้ขออาบน้ำก่อน หิวข้าว
เข้ามาในห้องน้ำโอ่อ่าสิ่งแรกที่เห็นคืออ่างแช่ ดีเลย เกิดมาไม่เคยอาบน้ำแร่แช่น้ำนม ก่อนจะถูกเฉดหัวออกไปเขาจะลงแช่ทุกวันเลยคอยดู มองสำรวจอ่างเสร็จก็หันมาที่กระจก จ้องมองใบหน้าที่ได้เห็น สวย พูดได้คำเดียวว่าสวยจริงๆ ตัวเล็ก ผิวขาว รูปหน้าก็สวยไม่รู้จะอธิบายออกมายังไง เหมือนรูปตัวละครในเทพนิยายหรือนายเอกหน้าหวาน
มองใบหน้าเสร็จก็หันมองตามร่างกาย ผิวขาวเนียนมีแต่รอยรักที่ตัวร้ายทำ ไม่นานใบหน้าก็เห่อร้อนเพราะในหัวยังมีคลิปวิดีโอเก็บเอาไว้ให้เขาดู คีรินพยายามสลัดภาพนั้นออกจากหัวแต่กว่าจะหายไปก็ทำเอาขนลุกไปทั้งตัว เห็นตัวร้ายตอนแผลงฤทธิ์ก็ไม่แปลกใจแล้วว่าทำไมถึงอิ่มอกอิ่มใจจนตาย สำรวจร่างกายจนพอใจก็เริ่มอาบน้ำได้สักทีก่อนจะคิดไปไกลกว่านี้
ตู้เสื้อผ้าถูกเปิดออกหลังจากเจ้าของอาบน้ำเสร็จแล้วในช่วงสายของวัน คีรินเลือกหยิบชุดเข้ากันมาชุดหนึ่ง เปิดดูเงินในกระเป๋าแล้วมีเงินพอสมควร มีบัตรที่ตัวร้ายให้ไว้ใช้จ่ายอีกหนึ่งใบ เขาจะเอาไปซื้อของกินเข้าห้อง ปกติเด็กคนนี้สั่งอาหารมากินเพราะทำเองไม่เป็น แต่เขาทำเป็น ซื้อของมาตุนไว้หน่อยก็ดี เช็คเงินและเสื้อผ้าเรียบร้อยก่อนหยิบคีย์การ์ดเปิดประตูออกจากห้องไป
ชีวิตใหม่ของคีรินได้เริ่มขึ้นแล้ว
ดวงคนจะมีผัวนะคะ
โรงละครเล็ก
ผิง : เจ้าแม่ มันลัดคิวหนูได้ไง น้ำแดงเงินหนูซื้อ
เจ้าแม่ : ผิงรีบมั้ยลูก พอดีแม่ไม่ค่อยรีบ
สวัสดีค่ะ เจอกันอีกแล้ว แต่คราวนี้ยังไม่ใช่เรื่องต่อของเฟิ่งเจี๋ยนะคะ เพราะจักรวาลค่อนข้างเกี่ยวโยงกันต้องใช้เวลาสักพักเลยค่ะ เรื่องนี้สุขนิยมเหมือนเดิม นิยายไรท์ไม่เครียดแน่นอน (สำหรับไรท์55555) ประมาณ 30 40 ตอนจบค่ะ จากนั้นจะได้ฤกษ์แต่งอี้หานแล้ว