“ที่โรงแรมใหญ่โตขนาดนี้ ต้องมีแผนกซักรีด ฉันจะส่งไปซัก คุณขึ้นไปถอดแล้วให้ลูกน้องนำลงมาให้ฉันด้านล่าง คงดีกว่าให้ฉันขึ้นไปกับคุณ” ในที่รโหฐานพ้นสายตาคนอื่นแบบนั้นความน่ากลัวอาจแฝงอยู่ ความเร่าร้อนในดวงตาเขาบ่งบอกบางอย่างไม่ปลอดภัย
“เสียใจ ใครทำคนนั้นต้องนำมันลงมาเอง”
เขายื่นคำขาด ไร้ท่าทียอมอ่อนข้อแก่หญิงสาว เรื่องที่คิดไว้ควรจะง่าย บัดนี้ไม่ใช่อย่างที่ธัญชนกแอบวาดหวังไว้ซะแล้ว แม่สาวน้อยจอมซุกซน เกิดมาเพิ่งกลัวคนหล่อจับจิตก็วันนี้เอง เมื่อกี้เจอเทพนิธิหัวใจบางกระตุกไปครั้งหนึ่ง ตอนนี้ว่ารุนแรงแล้วครั้งนี้รุนแรงยิ่งกว่า ภาพภายนอกเหมือนผู้ชายใจดีน้ำใจงามว่าง่าย เพราะหล่อลากบาดใจเสียขนาดนั้น แววตาคมกริบกระชากความคิดจากหัวสมองหญิงสาวไร้เดียงสาเช่นเธอไปได้ง่ายดายเมื่อได้พบสบประสานนัยน์ตาซ่อนพลังทางเพศสูงคู่นั้น
“คุณผู้หญิงอย่าทำให้เจ้านายผมโกรธ ไม่อย่างนั้นคุณอาจจะไม่ได้ไถ่โทษแค่จ่ายค่าซักแห้ง อาจต้องเป็นชีวิตคุณทั้งชีวิต” มาซาเจโลขู่คนตัวเล็กราวกับขู่เด็กตัวน้อยๆที่ไร้ทางสู้ เกิดมาพวกเขาก็ไม่เคยกระทำเยี่ยงนี้ต่อสตรี ดูเหมือนแม่จอมซนจะได้รับสิทธิ์จากพวกเขาเป็นคนแรก หน้าหวานอมชมพูผุดผาดไร้สีเลือดผาดในทันตา มือบางยกขึ้นทาบอกอวบอิ่ม ราวกับจะกันความเย้ายวนที่ห่อหุ้มไว้ด้วยชุดเดรสน่ารักเรียบร้อยให้พ้นจากสายตาชาวต่างชาติทั้งสาม
“ตกลงกันแถวนี้ไม่ได้หรือคะ” ความคิดจะจับเขาไปอวดอ้างกับบิดา เป็นอันถูกโค่นกลางอากาศ เมื่อเขาไม่ใช่หมู ที่เธอจะหามไปนั่งปั้นหน้าหลอกบิดาได้
“ดูสิทั้งเสื้อผ้า หน้าของผมมอมแมมขนาดนี้ ยังจะให้ผมคุยกับคุณตรงนี้อีกหรือแม่ตัวเล็ก” เขากล่าวหาเธออย่างกับเขาแก่กว่าเธอนับสิบๆปี ทว่าคำเรียกขานกลับเรียกสีเลือดฝาดบนแก้มเนียนได้ชั้นยอด แม้แต่มารดาที่เสียไปรวมทั้งบิดาผู้เข้มงวดยังไม่เคยเรียกเธออย่างเป็นลูกหนูตัวน้อยแบบนี้ เขาเป็นใครกันกะแค่เธอสนใจนิดเดียวทำกร่าง เขาเป็นใคร เธอรู้เห็นเต็มสองตา จากนิตยสารเล่มหนาพิมพ์ด้วยภาษาต่างประเทศนั้นดีทีเดียว บ้าเอ้ยดันไปหลงชอบคนผิด คิดว่าจะพอกล้อมแกล้มพาไปหลอกบิดาได้ เขามันพวกหมูหินมากกว่าหมูในอวย ธัญชนกคิดอย่างปวดร้าวในใจ เผลอก้าวตามสามชายหนุ่มร่างยักษ์ใหญ่ เข้าไปในลิฟต์ รู้ตัวอีกทีก็เมื่อมองตัวเลขดิจิตอลสีแดงที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งมาหยุดอยู่ที่ชั้น 109 เสียงติ้งปลุกร่างบางที่ถอดจิตให้กลับสู่กายได้เหมือนเดิม แต่ไม่เต็มที่นัก เมื่อร่างบางถูกประกบล้อมหน้าหลังจมมิดไปกับสามร่างสูงใหญ่ที่ล้อมกรอบ ตายแน่...ยัยจอมซนเอ๋ย
เมื่อประตูลิฟต์เปิดอ้าตรงชั้นที่มีตัวเลขสีทองขนาดใหญ่ติดอยู่ตรงผนัง 109 ห้องพักสุดหรูและแพงที่สุดในบรรดาห้องพักทุกชั้น ซึ่งชายหนุ่มจากโรมเช่าเหมาทั้งชั้นเพื่อความเป็นส่วนตัว เซบาสเตียนไม่เคยไปพักยังโรงแรมอื่น เมื่อเดินทางมาเยือนเมืองหลวงของประเทศไทย แผ่นหลังบางถูกฝ่ามือหนาผลักให้ก้าวเท้าเดินตามเจ้านายเข้าไปด้านใน สองบอดี้การ์ดก้าวตามเข้าไปรอหญิงสาวปากประตู ยืนตระหง่านราวกับกำแพงสูงใหญ่ตรงด้านหลังโซฟา ที่เซบาสเตียนหย่อนก้นลงนั่ง อ้าแขนทั้งสองข้างกางจนสุดเท้ากับพนักพิง
“ออกไปรอข้างนอกก่อนมาซาจ ซาน” เขากระดิกนิ้วไล่สองบอดี้การ์ดให้ออกไปรอด้านนอก เท่ากับว่าธัญชนกต้องอยู่กับผู้ชายร่างสูงใหญ่มากด้วยความหล่อ ดวงตากระชากวิญญาณให้ออกจากร่างบางได้ง่ายดาย เพียงเขาจ้องมองไม่นะ...ใจละลายแน่ สถานการณ์เริ่มแย่แล้วธัญชนก จะถูกจับกินไหมนี่
“ถอดชุดมาสิคะ ฉันจะรออยู่ที่นี่ คุณเข้าไปถอดในห้องนอนแล้วกัน” เธอไม่อยากอยู่ตามลำพังกับเขานานเกินห้านาที ใจหวิวอย่างไรบอกไม่ถูก เมื่อถูกจ้องมองด้วยสายตาคมกริบคู่นั้น บางทีก็นิ่ง บางทีเร่าร้อน เธอเดาทางอารมณ์เขาไม่ถูก เหมือนที่กำลังเดาอารมณ์ตัวเองในเวลานี้
“ผมพอใจจะถอดที่ไหนย่อมได้ ไม่มีใครกล้าออกคำสั่งกับผมได้” เขาดูใหญ่โต และบ้าตัวเอง เธอหลงชื่นชอบเขาในนิตยสารเล่มนั้นได้อย่างไร
เขาดีดกายใหญ่จากโซฟาตัวนุ่ม หันหน้ายืนจ้องมองส่งแววตาสีทองอล่ามอันน่าเกรงขามมายังเธอ ทว่าเหตุใดธัญชนก จึงได้ชอบมองดวงตาคู่นั้น จนไม่อยากสนใจทัศนียภาพอื่นใดรอบกาย ทั้งที่เวลาจ้องมองลึกลงไปในดวงตาคู่นั้น กายบางรู้สึกได้ถึงอาการร้อนๆหนาวๆราวกับจับไข้ หากแต่ไม่อาจถอนสายตาไปจากความน่าอภิรมย์นั้นได้
ร่างบางแข็งทื่อราวกับถูกแม่มดร้ายร่ายเวทย์มนตร์สาปให้กลายเป็นศิลาแกะสลัก หากแต่วินาทีที่ร่างสูงใหญ่ขยายชัดขึ้นจนเต็มตา เขาขยับปลายเท้าไล่ต้อนหญิงสาวใกล้ทุกที ธัญชนกขยับถอยหนีทีละก้าวโดยอัตโนมัติ กระทั่งสัมผัสได้ถึงแผ่นหลังไร้ทางหนีได้อีกต่อไป เขายังคงไม่ลดละต้อนคนตัวเล็กให้จนมุม
“จริงๆคุณควรเป็นฝ่ายถอดมันเองด้วยซ้ำ” เขาบอกเสียงทุ้มพร้อมส่งสายตากร้าวพานให้ร่างบางกระตุกเกร็ง
“ถะ...ถอดชุดคุณนี่เหรอ” เส้นเสียงหญิงสาวติดอยู่ในลำคอ ราวกับมีก้อนหินขนาดใหญ่จุกอยู่กลางลำคอเมื่อได้ฟังวาจาอันน่าหวาดเสียวจากปากหยักคู่ที่อยู่เหนือศีรษะของเธอ ธัญชนกไม่กล้าเงยหน้ามองใบหน้าหล่อเหลางดงามของเขาด้วยซ้ำ เกรงหัวใจบอบบางที่อ่อนไหวอยู่แล้วอ่อนปวกเปียกยินยอมให้เขาไล่ต้อน กระทั่งจนมุมเช่นตอนนี้
“งั้นสิ ถ้าอยากไถ่โทษที่คุณไว้กับผม” ลมปากของเขายังพ่นไม่ห่างจากศีรษะของเธอ
“ไถ่น่ะไถ่ได้ ฉันยอมรับตัวเองซุ่มซ่าม แต่จะให้ถอดเองคงไม่ไหวมั้งคะ คุณไปถอดเองนะคะ ฉันจะได้รีบเอาชุดไปจัดการซักแห้งให้” ธัญชนกผลุบสายตาหลบดวงตาสีทองอล่าม ดูเหมือนรองเท้าคู่ใหม่ของเธอวันนี้จะเตี้ยไปสักหน่อยหากเทียบกับคนตัวใหญ่ตรงหน้า
“ถอดสิ” เขาขยับร่างสูงใหญ่ชิดร่างเล็กอีกครั้ง ครั้งนี้ราวกับจะหลอมเป็นคนเดียวกันธัญชนก เริ่มมองรอบกายเพื่อหาทางหลบเลี่ยง ทว่าความคิดของเธอกลับโดนสกัดเมื่อร่างบางเบี่ยงหลบ มือหนาเท้ากำแพงกักทางหนีของเธอไว้เสียสิ้น “เริ่มจากเม็ดบน” เขาสั่งน้ำเสียงดุดัน ไม่รู้หรือย่างไรเธอกลัวเขาจนจะมุดลงรูราวกับหนูตัวเล็กๆให้สมกับที่เขาเรียกขานเธอได้อยู่แล้ว
“คุณถอดเองดีกว่านะคะ” คราวนี้มือบางพอมีแรงผลักอกแกร่งหวังให้ห่างจากตัว ทว่าเมื่อวางฝ่ามือลงบนอกแกร่งอันอุดมงดงามไปด้วยกล้ามเนื้อแห่งพลังความเป็นชายอย่างสมบูรณ์แบบ ธัญชนกรู้สึกถึงไอร้อนพันองศาที่กระทบฝ่ามือราวจะลวกไหม้
“เอาล่ะยัยตัวเล็กเรามาคุยกันดีๆ” เขาเปลี่ยนเรื่องคุยเมื่อแกล้งคนตัวเล็กให้หวาดกลัวไม่ต่างกับหนูระวังภัยจากราชสีห์
“ตอนนี้เราสองคนไม่ได้คุยกันดีๆหรือคะ” เธอเถียงนิดหน่อยตามสไตล์สาวน้อยซุกซน
“คุณต้องการอะไรจากผม” เขาถามด้วยน้ำเสียงขรึม
“ต้องการ มะ...หมายความว่ายังไงกันคะ ฉันไม่เข้าใจคำถามของคุณ” ทั้งที่จริงๆเข้าใจมันดี ธัญชนกกรอกลูกตากลิ้งไปมา เพื่อเกลื่อนแผนการ
“ผมรู้คุณฉลาดพอ” เขาเดาจากแววตาของเธอ และภาษาอังกฤษที่เธอใช้สื่อสารกับเขา คนการศึกษาน้อยมีหรือสำเนียงการใช้ภาษาจะสำนวนดีขนาดนี้
“บางทีฉันก็โง่” โดยเฉพาะต้องเผชิญหน้ากับผู้ชายหล่อบาดหัวใจตั้งแต่วินาทีแรกที่ได้สบตาอย่างคุณ ธัญชนกกล่าวทุกประโยคนั้นในใจเงียบๆ บางทีกลัวตัวเองอาจคิดดังจนเขาได้ยินเสียด้วยซ้ำ
“ผมรู้นะ คุณไม่ได้แกล้งทำน้ำหกราดตัวผมแต่จริงๆคุณจงใจ”
“อ๊ายยยย คุณเอาอะไรมาพูดใส่ร้ายกันเห็นๆ” หญิงสาวออกตัวหวีดเสียงสูง พลางผลุบสายตาหนีความรู้มากซึ่งค่อนข้างกล่าวหาได้ตรงประเด็น ผู้ชายคนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆจากที่เธออ่านบทสัมภาษณ์ เกี่ยวกับวิสัยทัศน์ในการบริหารงาน การปกครองคน รวมทั้งแนวคิดกว้างไกลในการทำงานทั้งอดีต ปัจจุบัน อนาคต เขาวางแผนไว้อย่างดีเยี่ยมไร้ช่องโหว่ เธอประมาทเขาเกินไป
“บอกมาคุณต้องการอะไรตัวเล็ก”
“ไม่นี่” ดวงตากลมโต กลอกกลิ้งไปมาส่อแววความจริงผ่านทางสายตา