หลังจากที่ทั้งสองคนขับรถเล่นจนเหนื่อยก็กลับมาที่ไร่เพื่ออาบน้ำพักผ่อน ตอนนี้ดิวแช่น้ำอุ่นอยู่ในอ่างอาบน้ำกับน้ำเหนือ เขานอนพิงกับขอบอ่างโดยมีหญิงสาวกำลังนั่งตะไบเล็บให้อยู่
"เล็บมีแต่ดินเต็มไปหมดเลยค่ะ พี่น้ำเหนือต้องล้างทุกครั้งนะไม่งั้นมันจะสะสมเป็นเชื้อโรค"
"ไม่มีคนทำให้อ่ะ อีกอย่างทำไร่ทำสวนทุกวันจะให้สะอาดเหมือนทำงานออฟฟิศได้ยังไงล่ะ ถ้าว่างงั้นทำให้ทุกวันแล้วกัน"
เขาเอ่ยออกมาก่อนจะลูบผมหญิงสาวเล่น ดิวหันไปมองชายหนุ่มก่อนจะพยักหน้าเล็กน้อย
"ได้ค่ะ งั้นต่อไปนี้ดิวจะขัดเล็บให้ค่ะ"
"อืม โอเคว่าง่ายค่อยน่ารักหน่อย"
เขาเอ่ยเพียงแค่นั้นก่อนจะหลับตาลงอย่างสบายตัว นอนแช่น้ำอุ่นก็สบายตัวดี นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนมาเปิดน้ำอุ่นให้แช่นั่งขัดเล็บขัดตัวให้โดยที่เขาไม่ต้องทำอะไร ก็สบายดีนะ...
"เสร็จแล้วค่ะ สะอาดแล้ว"
เขาลืมตาขึ้นมองหญิงสาวแผ่นหลังขาวนวลชวนหลงไหล เป็นผู้หญิงที่สวยมากจริงๆสวยไปทั้งตัวเลยก็ว่าได้
"นี่ยัยเตี้ย"
"เรียกดิวสิคะ เตี้ยมันเหมือนบูลลี่กันเลยอ่ะ"
หญิงสาวทำหน้ายู่ซะก่อนจะถูสบู่ให้ตัวเอง ทำใจนานมากกว่าจะเข้ามาอาบน้ำกับเขาได้ มันไม่ชินและยังรู้สึกเขินที่ต้องแก้ผ้าต่อหน้าเขา แต่เขาก็อ้างสิทธิ์ความเป็นผัวเมียจนเธอต้องยอมแพ้เพราะตอนนี้เธออยู่ในสถานะเป็นรองเขา ให้ทำอะไรก็ต้องยอมหลีกเลี่ยงไม่ได้
"เรียกเตี้ยนั่นแหละน่ารักดีออก ขึ้นได้แล้วแช่นานไปละ"
อยู่ๆเขาก็ลุกขึ้นยืน ดิวเบิกตากว้างอย่างตกใจก่อนจะรีบเบือนหน้าไปทางอื่นอย่างรู้สึกเขิน ก็เพราะความเป็นชายของเขามันโชว์หราอยู่ตรงหน้าเธอแถมยังแข็งตัวจนเธอเริ่มกลัวอีกครั้ง
"ทำอย่างไม่เคยเห็นไปได้"
เขาดึงเธอให้ลุกขึ้นยืนก่อนจะโอบเอวไว้หลวมๆ
"ไปสนุกกันบนเตียงดีกว่า ผ่อนคลายไง"
เขายิ้มมุมปากก่อนจะล้างเนื้อล้างตัวแล้วลากหญิงสาวไปจัดหนักบนเตียงต่อ เธอร้องลั่นออกมาแต่ก็ไม่สามารถขัดอะไรเขาได้ บอกแล้วไงว่าอยู่ที่นี่ต้องทำตัวน่ารักถ้าเขาอยากก็ต้องยอม... มันหลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ
ตกเย็น...
"ดิวช่วยนะคะคุณแม่"
ตอนนี้เธอออกมาช่วยคุณแม่จัดโต๊ะอาหารเย็น เมื่อเห็นหญิงสาวในเวลานี้ก็คิดว่าลูกชายน่าจะเคลียร์เรื่องทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว แต่ว่าจะต้องแอบถามอีกที
"จ้ะ หนูไปหยิบน้ำเย็นในครัวมาสิลูก"
"ได้ค่ะ"
ดิวเดินออกไปทันที ลูกชายเธอก็เดินเข้ามาพร้อมกับนั่งลงบนเก้าอี้ในสภาพเหนื่อยล้า จัดหนักไปหน่อยปวดตัวไปหมดเลย
"มีอะไรกินบ้างครับแม่"
"เยอะแยะ ว่าแต่เรื่องน้องจัดการยังไงบ้าง จะให้ไปทำงานอยู่เหรอเราจะใจร้ายเกินไปรึเปล่า"
คนเป็นแม่เอ่ยถามอย่างเป็นห่วงเด็กสาว ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกเอ็นดูและสงสารเด็กคนนี้มากเป็นพิเศษ หรือเพราะว่าตกอยู่ในสถานะเดียวกันมาก่อนล่ะมั่ง
"ไม่ต้องห่วงครับแม่ ผมจะไปรับไปส่งน้องเอง แล้วก็จ่ายเงินเดือนทุกเดือนไม่ให้ไปลำบากทำงานหรอกครับ พอใจแม่นะ"
เขาเอ่ยประชดเล็กน้อย เพิ่งเจอกันไม่นานแต่เอ็นดูดิวมากกว่าเขาที่เป็นลูกอีก ไม่รู้ไปรักไปหลงอะไรกันนักหนาก็ไม่รู้
"จ้ะให้มันจริงเถอะ"
"มาแล้วค่ะ"
เด็กสาววางเหยือกน้ำเย็นลงที่โต๊ะ พ่อเลี้ยงคาวีเดินออกมาจากห้องก่อนจะนั่งลงตรงข้ามลูกชาย
"พ่อไม่เจอเราเลย ไปส่งน้องแล้วไปแวะไหน"
"ส่งแล้วรอรับกลับมาครับพ่อ ไปเดินห้างด้วยแล้วก็ช่วงบ่ายพาน้องไปเก็บองุ่นที่ไร่เพิ่งจะกลับมาก็หลับเพิ่งตื่นเนี่ยครับ"
พ่อเลี้ยงคาวีพยักหน้าอย่างเข้าใจ นึกว่าลูกชายไปธุระที่ไหนแล้วปล่อยให้เมียกลับบ้านคนเดียวซะอีก
"พ่อนึกว่าเราปล่อยน้องกลับคนเดียวซะอีก"
"ผมรับกลับมาด้วยครับพ่อ ทั้งคู่เลยเห้อ! เตี้ยมานั่งนี่มา"
เขากวักมือเรียกเด็กสาว คุณแม่ที่ได้ยินแบบนั้นก็ตีแขนลูกชายทันที
"ไปเรียกน้องแบบนั้นลูกคนนี้"
เขายิ้มขำก่อนจะดึงดิวมานั่งลงข้างๆ
"น่ารักดีออก เนาะ"
หญิงสาวยิ้มเขินก่อนจะตักกับข้าวให้ชายหนุ่มอย่างเอาใจ คุณแม่กับคุณพ่อเห็นสองคนดูเข้ากันได้ดีก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ ท่าทางลูกชายตัวดีจะมีความสุขเมื่อมีเด็กสาวคนนี้เข้ามาในชีวิต
"เราก็กินบ้างสิ อ่ะตักให้"
"ขอบคุณค่ะ"
ทั้งสองคนตักนั่นตักนี่ให้กัน คนเป็นแม่เห็นเด็กสาวยิ้มได้ก็รู้สึกสบายใจขึ้นอย่างประหลาด เพราะเวลาถามอะไรเธอจะมีใบหน้าเศร้าแสดงออกมาตลอดเหมือนคนอมทุกข์
"หนูดิวลูกพรุ่งนี้ไปเรียนมั้ยจ๊ะ"
"ไปค่ะ มีเรียนทั้งวันเลย"
"แม่ว่าให้คนขับรถไปส่งมั้ยน้ำเหนือ วันไหนเราต้องทำงานเช้าจะไม่สะดวกไปส่งน้องเอานะ"
คุณแม่หันไปมองลูกชายอย่างมีคำถาม เขานิ่งคิดซักพักก่อนจะหันไปมองหญิงสาวอย่างเป็นห่วง เขาไม่อยากทิ้งให้เธออยู่คนเดียวเท่าไหร่ อย่างน้อยถ้าเขาไปรับและไปส่งเธอจะได้รู้สึกดีขึ้นบ้าง จากเมื่อกลางวันที่เขาเห็นเธอร้องไห้คงจะโดดเดี่ยวมากพอสมควร
"พรุ่งนี้ผมจะไปเก็บของที่หอพักของดิวครับแม่ ไหนๆก็มาอยู่ที่นี่แล้วจะเช่าทำไมให้เสียเงิน เอาเป็นว่าต่อจากนี้ถ้าผมว่างจะไปส่งเองถ้าไม่ว่างก็ให้คนขับรถไปแล้วกัน"
คุณแม่พยักหน้าอย่างเข้าใจที่ลูกกำลังจะสื่อ เอาแบบนี้ก็ได้อย่างน้อยก็ไม่ต้องไปทำงานให้เหนื่อย ไม่ต้องนั่งรถไปเองแค่นี้ก็พอแล้ว
"อืม เอาแบบนั้นก็ได้ ถ้าหนูเบื่ออยากทำงานมาอยู่คาเฟ่กับแม่นะลูก"
"ได้ค่ะคุณแม่ หนูจะไปช่วยวันหยุดนะคะ"
"จ้ะ ทานข้าวเถอะตัวเล็กมากเลยเรานะกินเยอะๆ"
คุณแม่ตักนั่นนี่ให้เด็กสาวไม่หยุด น้ำเหนือมองทั้งสองคนคุยกันอย่างถูกคอโดยเฉพาะดิวที่ยิ้มสดใสมากเป็นพิเศษ แสดงว่าครอบครัวของเขาคงจะทำให้เธอรู้สึกไม่ขาดซึ่งถือว่าเขาคิดถูกที่รับเธอไว้ในฐานะเมียและให้มาอยู่ตรงนี้ เด็กคนหนึ่งที่ต้องโดดเดี่ยวไร้ที่พึ่งพิงอย่างดิว น่าจะมีสถานะเดียวกับแม่เขาในอดีตจึงทำให้คุณแม่ของเขาเอ็นดูเธอมากกว่าคนอื่น พอรู้จักกันไปเรื่อยไปเธอเด็กที่น่ารักคนหนึ่งเลยแหละ แถมยังพูดจาน่ารักน่าเอ็นดูขนาดพ่อเขายังเอ่ยปากชมเลย หลังจากทานข้าวเสร็จน้ำเหนือก็ไปนั่งเล่นหน้าทีวีในห้องนอนของตัวเอง ส่วนดิวมาปอกผลไม้ให้ชายหนุ่ม เมื่อเรียบร้อยก็ถือจานเดินเข้ามาพร้อมกับน้ำผลไม้คั้นสดๆ
"มาแล้วค่ะ"
"นานจัง ทำอะไรเยอะแยะ"
หญิงสาวนั่งลงข้างๆชายหนุ่ม เธอส่งแก้วน้ำผลไม้ไปให้เขาชิมก่อนจะเอ่ยถามเสียงหวาน
"อร่อยมั้ยคะ"
"อืม อร่อยดีทำเองเหรอ"
"ค่ะ นี่เมล่อนค่ะปอกเรียบร้อยเย็นชื่นใจเลยด้วย"
หญิงสาวยื่นจานไปตรงหน้าชายหนุ่ม เขาหยิบรีโมททีวีมาถือไว้ก่อนจะเอ่ยออกมาหน้ามึน
"มือไม่ว่างจับรีโมทอยู่"
เขากดเปลี่ยนช่องไปเรื่อยๆยังตีมึนไม่ยอมกินเองอีก หญิงสาวส่ายหน้ายิ้มๆก่อนจะป้อนเขาเอาถึงปาก
"บอกว่าป้อนหน่อยก็ได้ค่ะ ไม่ต้องอ้อมค้อมขนาดนั้นก็ได้ ดิวเข้าใจอะไรง่าย"
เขาอ้าปากงับเมล่อนก่อนจะเคี้ยวแก้มตุ่ย ใช้มือหยีผมหญิงสาวอย่างหมั่นไส้สุดขีด
"พูดมากเด็กเตี้ย ป้อนมาเร็วๆ"
"ค่าาาา รับทราบค่ะนายท่าน"
"หึ! เดี๋ยวจะโดน"