เมื่อมาถึงที่บ้านก็เป็นเวลาเที่ยงคืนกว่า ทั้งสองคนก็อาบน้ำชำระร่างกายตัวเอง เล้าโลมกันอยู่นานกว่าจะออกมาสานต่อกันบนเตียง วันนี้หญิงสาวเป็นฝ่ายรุกชายหนุ่มเอง เพราะเขาน่ารักและใจดีกับเธอมากเป็นพิเศษจึงอยากให้รางวัล
"อ๊ะ! อื้อออ"
"ดีจังชอบอ่ะ"
เขานอนราบอยู่บนเตียงมองหญิงสาวที่ขยับตัวขึ้นลงอยู่บนตัวของเขาอย่างเพลินสุดๆ นานๆดิวจะยอมทำให้เขามีความสุขด้วยความเต็มใจ ปกติต้องมีบังคับกันบ้างถึงจะยอมทำ
"เสียวจังค่ะ อ้าาา"
เขาดึงหญิงสาวมากอดไว้ก่อนจะขยับสะโพกช่วยเธอไปพร้อมกัน คืนนี้ยังอีกยาวไกลและเขามีแรงเหลือเฟือที่จะทำให้เธอมีความสุขในคืนนี้ ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปเท่าไหร่หญิงสาวถึงกับสลบไปลุกแทบไม่ขึ้น เพราะเธอเป็นฝ่ายออกแรงมากกว่านี่คือคลานลงเตียงอย่างที่เขาบอกสินะ
"โอ๊ย! ขาสั่นหมดแล้ว"
ดิวร้องลั่นออกมาก่อนจะนั่งอยู่บนเตียงกอดอกใบหน้างอง้ำ น้ำเหนือที่กำลังเช็ดหัวตัวเองอยู่ก็หัวเราะออกมาอย่างตลกกับท่าทีของหญิงสาวตอนนี้
"ตื่นแล้วเหรอคะ"
"พี่น้ำเหนือมาอุ้มดิวไปอาบน้ำเลยค่ะ ลุกไม่ขึ้นแล้ว ชิ!"
หญิงสาวอ้าแขนเพื่อให้ชายหนุ่มมาอุ้มเธอตามที่ขอ เขาเดินเข้ามาก่อนจะอุ้มเธอไปส่งที่อ่างอาบน้ำอย่างเต็มใจ ไม่ลืมที่จะเปิดน้ำอุ่นให้ด้วย
"เมื่อคืนทำดีเดี๋ยวพี่อาบน้ำให้"
หญิงสาวยิ้มเขินเมื่อนึกถึงสิ่งที่เธอได้ทำลงไปในช่วงกลางคืนที่ผ่านมา ใจกล้ามากจริงๆไม่คิดว่าตัวเองจะทำอะไรแบบนั้นเลย
"พี่น้ำเหนือคะ"
"หืม ว่าไงเอ่ย"
เขาเอ่ยถามพร้อมกับหยิบสบู่มาถูตัวให้เธอ ดิวนั่งนิ่งอย่างว่าง่ายปล่อยให้เขาทำให้ทุกอย่าง นานๆจะได้รับโอกาสแบบนี้ดีจะตายไป
"วันนี้พี่น้ำเหนือจะอยู่กับดิวทั้งวันใช่มั้ยคะ"
"อืม ทั้งวันเลยพี่ไม่มีงานที่ไหน อยากไปเที่ยวไหนเหรอพี่พาไปได้นะ"
"ไม่ได้อยากไปไหนค่ะ อยากอยู่กับพี่น้ำเหนือเฉยๆ"
หญิงสาวเอ่ยออกมาเสียงอ้อนก่อนจะกอดแขนเขาพร้อมกับซบใบหน้าลงกับไหล่กว้าง เขายิ้มออกมาก่อนจะล้างเนื้อล้างตัวให้เธอ
"ยัยเตี้ยจอมขี้อ้อนเอ้ย"
เธอยิ้มออกมาอย่างมีความสุข เขาคือทุกสิ่งทุกอย่างของเธอในตอนนี้ ถ้าวันหนึ่งไม่มีเขาอยู่เคียงข้างเธอคงรู้สึกเหมือนโลกมันหยุดหมุนไปเลย
"รักพี่น้ำเหนือจัง"
เขาได้ยินแบบนั้นก็อดยิ้มไม่ได้จริงๆ ทำไมเด็กมันน่ารักขนาดนี้เนี่ย ไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าตอนนี้ยังใช้ชีวิตโสดและเที่ยวไปเรื่อยๆแบบนั้นเขาจะได้มีความสุขแบบนี้รึเปล่า
"เสร็จแล้วขึ้นมาได้ล่ะเรา"
เขาดึงตัวหญิงสาวขึ้นก่อนจะใช้ผ้าขนหนูพันรอบตัวแล้วอุ้มเธอขึ้นมาพาไปยังเตียงนอน เขาเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าหาชุดที่ใส่สบายไปสวมให้เธอ จากนั้นทั้งสองคนก็ออกมาหาอะไรกินในตอนเช้า คุณแม่กับคุณพ่อกำลังนั่งทานกันอยู่พอดี
"อรุณสวัสดิ์ครับทั้งสองคนเลย"
"ไงลูก แม่นึกว่านอนค้างในเมืองซะอีก กลับมากันตอนไหนจ้ะ หนูดิวมานั่งตรงนี้ลูก"
"ค่ะคุณแม่"
คุณแม่พาดิวไปนั่งลงข้างก่อนจะตักข้าวใส่จานให้หญิงสาว เธอยกมือไหว้ขอบคุณท่านก่อนจะใช้ช้อนตักต้มจืดทาน
"กลับมาประมาณเที่ยงคืนกว่าแล้วครับแม่ ผมไม่ได้ดื่มเยอะอีกอย่างมีเพื่อนกลับมาด้วยก็เลยว่ามานอนที่บ้านดีกว่า"
"งั้นทานข้าวก่อน แล้วกลับไปนอนพักผ่อนต่อวันนี้พ่อจะไปดูที่ไร่ให้ แม่จะไปเก็บผลไม้ด้วยที่บ้านใกล้หมดแล้ว มะรืนพี่สาวเรากับพี่เขยจะมาเที่ยวที่บ้าน หนูดิวช่วยแม่จัดอาหารในวันนั้นนะลูก ทำเค้กด้วยน้ำหวานพี่สาวของน้ำเหนือเขาชอบทานเค้กจ้ะ"
"ได้ค่ะคุณแม่"
ดิวยิ้มออกมาทันที จะได้เจอพี่สาวของเขาแล้วตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ไม่เคยเจอเลยซักครั้ง แต่พอได้คุยบ้างเพราะพี่น้ำเหนือพูดให้ฟังอยู่บ่อยๆ ตอนที่เขาสองคนคุยกันพี่น้ำหวานก็ขอคุยกับเธอไถ่ถามเรื่องเรียนทั่วไป
"ทานเยอะๆเรานะ มีน้ำมีนวลขึ้นเยอะเลย"
คุณพ่อเอ่ยออกมาอย่างเอ็นดูเด็กสาว ตอนมาแรกๆตัวเล็กนิดเดียวด้วยซ้ำตอนนี้ถูกชายกับภรรยาของเขาบังคับให้กินนั่นนี่จนตอนนี้ดูมีน้ำมีนวลขึ้นเยอะเลย
"คุณแม่ให้กินเยอะมากเลยค่ะ สงสัยดิวจะต้องไปออกกำลังกายบ้างแล้ว อึดอัดมากเลยค่ะ"
หญิงสาวยิ้มแห้งออกมาก่อนจะลูบท้องตัวเองป้อยๆ ถึงแม้ว่าจะกินเยอะขึ้นแต่พี่น้ำเหนือชวนทำกิจกรรมบนเตียงแทบทุกวันทำให้เธอได้ใช้ร่างกายของตัวเองอยู่ตลอด
"แม่ไม่ได้ให้หนูกินเยอะซะหน่อย กินน้อยกว่าคนอื่นอีก"
"แหะๆ"
หญิงสาวยิ้มออกมาก่อนจะตักกินข้าวต่ออย่างหิวโหย เมื่อคืนใช้แรงไปเยอะเลยเช้ามาจึงหิวมากเป็นพิเศษ หลังจากที่ทานข้าวเรียบร้อย น้ำเหนือพาหญิงสาวมานอนพักผ่อนส่วนคุณพ่อคุณแม่เข้าไปในไร่เพื่อนดูความเรียบร้อยให้
"นอนเถอะค่ะพี่ว่าเราดูไม่สดชื่นเลย"
"ก็ตัวเองนั้นแหละที่ไม่หลับไม่นอนนะ"
ดิวยื่นมือไปบีบแก้มชายหนุ่มอย่างหมั่นไส้ เพราะเขาคนเดียวที่ทำให้เธอมีสภาพแบบนี้
"ก็ใครมันท้าทายก่อนล่ะ หึหึ แสบนัก"
เขาอมยิ้มก่อนจะดึงหญิงสาวให้นอนลงบนเตียงทั้งสองคนหยอกล้อกันไม่นานก็เผลอหลับไปพร้อมกัน เวลาผ่านไปไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงเสียงโทรศัพท์ของดิวก็ดังขึ้น หญิงสาวควานหามากดดูหน้าจอก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยใจ
"แม่อีกแล้ว"
เธอขยับตัวออกจากอ้อมกอดของชายคนรักก่อนจะเดินออกไปยังระเบียงเพื่อคุยกับท่าน ถึงจะรู้ว่าโทรมาทำไมแต่เธอก็อยากคุย กลัวว่าท่านจะเดือดร้อนต้องการที่พึ่ง
"ว่าไงคะแม่"
(ดิวว่างมั้ยลูกแม่อยากคุยธุระด้วยหน่อย)
"ค่ะ มีอะไรเหรอคะ"
(พอดีว่าแม่จะยืมเงินลูกซักห้าแสนนะ แม่จะไปลงทุนเปิดร้านอาหารกับเพื่อน แม่ตกงานไม่มีอะไรทำอยากจะหาธุรกิจเล็กๆทำนะ ลูกช่วยแม่ได้มั้ย)
ดิวอึ้งไปเลยเมื่อเจอประโยคนี้ เงินตั้งห้าแสนคนที่เรียนหนังสืออยู่อย่างเธอแถมงานก็ไม่ได้ทำจะเอาจากไหนมาให้เยอะแยะ
"ดิวจะไปเอามาจากไหนคะแม่เงินตั้งห้าแสน"
(แกก็ขอผัวแกสิ มีผัวรวยแล้วนี่)
ดิวตาโตอย่างตกใจ ไม่คิดว่าแม่จะรู้ว่าเธอมาอยู่กับพี่น้ำเหนือที่ไร่ แล้วแม่ไปเอามาจากไหน... แล้วรู้ได้ยังไงว่าพี่น้ำเหนือรวย
"แม่รู้ได้ยังไงคะ เอามาจากไหน"
(มันไม่สำคัญหรอก ตอนนี้แกก็ได้ดีแล้วไม่คิดจะช่วยแม่ช่วยน้องบ้างเหรอไง อย่างน้อยแม่ก็เคยเลี้ยงแกมาจนโตนะ)
การทวงบุญคุณเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง และเหมือนว่าครั้งนี้จะรุนแรงขึ้นกว่าครั้งอื่นที่ผ่านมา ถ้าแม่รู้แบบนี้จะต้องไม่จบแค่ขอเงินห้าแสนแน่นอน จะต้องมาขออีกเรื่อยๆและซักวันจะต้องเดือดร้อนถึงพี่น้ำเหนือ ซึ่งเธอไม่ยอมแน่นอน
"เงินมันไม่ใช่ของหนูค่ะแม่ แค่เขาจ่ายค่าเทอมให้ส่งเสียให้เรียนหนังสือก็เป็นพระคุณมากแล้ว ถ้าต้องเอาเงินเขามาขนาดนั้นหนูคงให้แม่ไม่ได้ค่ะ หนูให้ได้แค่ห้าหมื่น ถ้าแม่จะเอาก็ทักมานะคะ"
ดิวกดวางสายก่อนจะทรุดลงกับพื้นอย่างเหนื่อยใจ เมื่อไหร่เธอจะพ้นไปจากสภาพนี้ซักที ตอนไม่มีไม่คิดจะมาเหลียวแลแต่พอเริ่มตั้งตัวได้กลับมาหาแล้วขอเงิน นานวันยิ่งเยอะขึ้นๆ คนเป็นพ่อก็ยังรบเร้าจะให้ไปเป็นเมียของลูกเลี้ยง แต่ละคนไม่มีใครนึกถึงความรู้สึกของคนเป็นลูกอย่างเธอเลย...
'ทำไมต้องเกิดมาเจอครอบครัวแบบนี้ด้วย'