แทนไทย
“ไง สนใจหรือไง” เสียงไอ้เจไดถามออกมา
“งั้นมั้ง” ผมตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจเท่าไหร่ แต่ก็เลือกจะนั่งเลื่อนดูรูปไกด์ส่วนตัวของผมต่อ
ไม่ต้องสงสัยหรอกว่าทำไมผมถึงได้มานั่งดูรูปใครที่ไหนก็ไม่รู้ พอดีวันนี้ผมเบื่อๆผมเลยนั่งเล่นไอจี และได้เห็นไอจีของแฟนคลับคนหนึ่งที่ผมคุ้นมาก เพราะจะเห็นเธอมากดถูกใจและคอมเมนท์ผมทุกโพสเลย ทำให้เห็นแค่รูปโปรไฟล์ก็จำได้
ผมว่างๆอยู่ด้วย และก็อย่างที่บอกว่าเบื่อๆ เลยเข้าไปดูไทม์ไลน์ของแฟนคลับสักหน่อย และน้องคนนี้ก็เป็นหนึ่งในคนที่ผมเลือกดูแล้วเธอก็เปิดเป็นสาธารณะทำให้ได้เห็นทุกโพสของเธอ แต่สิ่งที่ผมไม่อยากเชื่อก็คือ หน้าตาของเธอที่ผมยอมรับเลยว่าเป็นสวยมาก สวยกว่านางเอกหลายๆคนในวงการเลยก็ว่าได้ ถ้าเธอจะมาเข้าวงการนี่ผมว่าคงรุ่งแน่นอน
และก็นั่นแหละ ดูๆไปผมถึงได้เห็นข้อมูลของเธอบอกว่าเป็นไกด์อิสระ แล้วไหนจะแท็กจากลูกค้าของเธอ และจากข้อมูลหลายๆอย่างทำให้ผมได้รู้ว่าเธออยู่ทางภาคเหนือ และอีกไม่กี่เดือนก็จะเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว ผมคิดว่าช่วงนี้จะเคลียร์ตารางให้เรียบร้อยและไปพักผ่อนสักหน่อย ซึ่งมันเป็นจังหวะที่ลงล็อกกันพอดี มันก็เลยเป็นอย่างที่พวกคุณเห็นนั่นแหละ
แล้วถามว่าทำไมต้องให้เธอไปเป็นไกด์น่ะหรอ อันนี้ผมก็ตอบไม่ได้ว่ะ รู้แค่ว่าเห็นรูปเธอแล้วอยากลองเจอตัวจริง ยิ่งเห็นเธอเป็นแฟนคลับที่เหมือนจะคลั่งผมแบบนี้ด้วยแล้ว มันยิ่งเลยมีความรู้สึกหนึ่งขึ้นมาว่าให้เธอมาเป็นไกด์ส่วนตัว หรือถ้าจะพูดให้ถูก ก็เหมือนกับหาเพื่อนเที่ยวนั่นแหละ ถึงจะอยากไปคนเดียว แต่ก็ไม่ได้อยากไปอยู่เงียบๆคนเดียวเท่าไหร่
“เลือกดีๆนะมึง เอาที่แบบพูดกันง่ายๆ” แล้วไอ้เจไดก็พูดขึ้น และสิ่งที่มันพูดก็มีเพียงพวกผมนั่นแหละที่รู้กันดี
ก็ธรรมดาของผู้ชายนั่นแหละ ไม่ว่าจะเป็นดารานักร้อง หรืออาชีพอะไร มันก็ต้องมีเรื่องอย่างว่าเข้ามาเกี่ยวข้องอยู่แล้ว ยิ่งถ้าไม่มีคนรักเป็นตัวเป็นตนหรือยังไม่มีครอบครัว ทางที่จะทำให้ได้ปลดปล่อยก็คือการซื้อผู้หญิงที่พร้อมจะขาย
มันไม่ใช่เรื่องผิดนี่ มันเป็นเรื่องของธรรมชาติที่เราไม่สามารถเอาชนะได้ และอีกอย่างผมก็ไม่ได้ไปบังคับข่มขู่ใคร ผมก็เลือกที่ความพอใจทั้งสองฝ่ายด้วย ถ้าเขาไม่ตกลงผมจะทำอะไรได้ แต่ส่วนมากคนที่ต้องการเหมือนกัน แค่มองตากันก็รู้แล้วว่าต้องการอะไร
“เออ”
อัญญา
Tan Thai : น้องครับ
Anya : สวัสดีค่ะ
Tan Thai : พอดีพี่ยังไม่แน่ใจว่าพี่ว่างวันไหน
Tan Thai : แต่ช่วงเป็นช่วงเดือนพฤศจิกา น้องสะดวกวันไหนบ้างครับ
Anya :ถ้าพี่แทนไทยยังไม่แน่ใจ เดี๋ยวอัญล๊อกให้ทั้งเดือนก็ได้ค่ะ
Tan Thai : มันจะดี พี่เกรงใจ
Anya :ไม่เป็นไรค่ะ เพื่อพี่แทนไทยไม่มีปัญหา
Anya :อีกอย่างอัญทำอิสระค่ะ ไม่ได้ตายตัวอยู่แล้ว
Tan Thai : ขอบคุณน้องมากจริงๆนะ
Tan Thai : ยังไงถ้าพี่ได้วันที่ชัดเจนแล้วพี่จะรีบแจ้งน้อง
Anya :โอเคค่ะ
“ฮือ สุดหล่อ ทำไมน่ารักแบบนี้ มีเกรงใจกันด้วย ต่อให้รอทั้งปีก็รอได้ค่ะที่รัก” ว่าแต่ อยากให้ถึงวันนั้นเร็วๆจัง คิกๆ ฉันนี่ก็แรดเนอะ ไม่รู้ว่าพี่แทนไทยจะมองฉันยังไงแล้วเนี่ย
หลายอาทิตย์ต่อมา...
“เหนื่อยไหมคะ” ฉันถามปลายสายออกไป
(ตอนแรกก็เหนื่อยครับ แต่คุยกับอัญแล้วดีขึ้นเลย) พี่แทนไทยตอบกลับมาด้วยเสียงที่ฟังแล้วชวนหลง
อ๊ะๆ อย่าพึ่งตกใจหรือคิดว่าฉันกำลังละเมอนะ เพราะนี่มันคือเรื่องจริงค่ะ เรื่องจริงที่ฉันเองก็แทบไม่อยากเชื่อเหมือนกัน
เรื่องก็คือว่า หลังจากที่ฉันกับพี่แทนไทยคุยเรื่องนัดหมายที่ยังไม่แน่นอนไม่นาน หลังจากนั้น เขาก็ถามนั่นนี่เกี่ยวกับงานที่ฉันทำ และฉันก็ได้พูดคุยบอกเขาไปตามตรง และคุยไปคุยมา ก็กลายเป็นฉันที่ถามเขากลับไปบ้าง และพี่แทนไทยก็ตอบกลับทั้งหมดอย่างไม่ถือตัว
เท่านั้นไม่พอ เขาบอกว่าเขาขี้เกียจพิมพ์แล้ว เวลามีอะไรโทรคุยสะดวกกว่า เลยขอเบอร์ฉัน และด้วยความรักที่ฉันมีให้เขาอย่างไม่มีใครมาแทนที่ได้ ฉันก็ให้สิคะ ให้อย่างไม่ลังเลเลยด้วย และหลังจากให้ไปแล้วไม่เกินสามวันได้ พี่แทนไทยก็โทรมาหาฉัน และได้โทรมาคุยเรื่องงานนิดๆหน่อยๆเท่านั้น แล้วหลังจกนั้นที่เขาโทรมาอีก กลับไม่ได้โทรมาคุยเรื่องงานแล้วจ้า เขากลับชวนฉันคุยไปเรื่อย พอรู้ตัวอีกที กลายเป็นว่าฉันกับเขาก็คุยกันเหมือนเพื่อน เหมือนแฟนกันไปแล้วอย่างไม่รู้ตัว
และมันก็คือความสุขของฉันมาก จากที่รักที่ชอบเขาอยู่แล้ว มันยิ่งเพิ่มความรักไปอีกนับไม่ถ้วน ไม่คิดว่าตัวจริงจะน่ารักและเป็นกันเองกว่าในทีวี และฉันรู้แค่ว่าตอนนี้ฉันแทบจะหลงรักพี่แทนไทยในแบบหนุ่มสาวที่ไม่ใช่แฟนคลับแล้ว
ไม่รู้สิ ฉันคิดว่าหลายคนเคยเป็นนะ การที่เราคุยกับใครสักคนที่แทบไม่ต้องเจอหน้าก็ได้ เพียงแต่คุยกันเกือบทุกวัน รับฟังกันได้เกือบทุกเรื่อง จนมันเกิดความอบอุ่นขึ้นในใจ และกลายเป็นความรู้สึกดีๆตามมา แล้วยิ่งพี่แทนไทยที่ฉันปลื้มเขามาก ติดตามเขามาตลอดและเขาก็คือสามีมโนของฉัน นั่นยิ่งทำให้ฉัน...