ตอนที่8 เป็นแฟนกันนะ

2008 คำ
อัญญา “อร้าย!!!” ตุบ! “อัญ!” เสียงเรียกของพี่แทนไทยดังขึ้นพร้อมกับร่างสูงที่ดูตกใจและรีบลุกมาหาฉันที่ตอนนี้นั่งอยู่บนพื้นจนแทบดูไม่ได้ จะอะไรล่ะ ก็ฉันออกจากห้องน้ำมาแล้วหางตาเหลือบไปเห็นร่างหนานั่งอยู่ในห้อง ฉันตกใจเพราะคิดว่าไม่ใช่คนจนก้าวถอยหลังอย่างไม่ทันตั้งตัว และด้วยที่ขาฉันยังไม่แห้งดีทำให้ฉันลื่นล้มก้นจ้ำกับพื้นอย่างแรง แต่พอได้ยินเสียงและตั้งสติได้นั่นแหละ ถึงได้จำได้ว่าตอนนี้ฉันอยู่บ้านกับพี่แทนไทย และก็เป็นเขาที่นั่งอยู่ในห้องฉันนั่นเอง แต่ใครจะคิดว่าอยู่ๆพี่แทนไทยจะมาอยู่ในห้องฉันได้ ฉันก็ไม่ได้ล็อกห้องด้วย เพราะปกติฉันอยู่คนเดียวฉันจะยังไม่ล็อกห้อง จะรอก่อนนอนแล้วออกไปเช็คบ้านอีกรอบถึงได้ล็อกทุกอย่าง “เป็นอะไรไหม เจ็บตรงไหนหรือเปล่า” พี่แทนไทยถามขึ้นพร้อมนั่งยองๆอยู่ข้างๆฉันแล้วถามออกมาพร้อมกับมองสำรวจฉัน “อะ...เอ่อ ไม่เป็นไรค่ะ” ถึงแม้จะเจ็บก้นก็เถอะ แต่ก็อดที่จะอายไม่ได้ ทั้งล้มไม่เป็นท่าต่อหน้าผู้ชาย แล้วไหนจะสภาพที่มีเพียงผ้าขนหนูผืนเดียวพันร่างไว้อีก “เดี๋ยวพี่ช่วยนะ” พี่แทนไทยพูดขึ้นพร้อมกับช้อนฉันขึ้นอุ้มในท่าเจ้าสาวทันทีโดยที่ฉันไม่ทันตั้งตัวและแย้งไม่ทัน จนต้องเบิกตากว้างอย่างตกใจ “พี่แทน...” ฮือ ทั้งเขินทั้งอายเลย นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ใกล้ชิดผู้ชาย(แมนๆ)แบบนี้ แถมยังเป็นผู้ชายที่ฉันปลื้มมากๆด้วยอีก ทำไมกันนะ ทำไมฟ้าต้องมาแกล้งให้ฉันซุ่มซ่ามต่อหน้าเข้าด้วย ฉันอุตส่าห์อยากให้เขาเห็นและจดจำสิ่งดีๆของฉันทุกอย่าง “เป็นไงบ้าง ยังเจ็บอยู่ไหม” หลังจากพี่แทนไทยวางฉันลงบนเตียง พี่แทนไทยก็ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงอบอุ่น แต่ประเด็นคือเขาไม่ได้ขยับออกห่างจากฉัน “หะ...หายแล้วค่ะ” ทำไมเสียงฉันต้องสั่นแบบนี้ด้วยล่ะ แบบนี้พี่แทนไทยก็รู้หมดสิว่าฉันกำลังเขินเขา “หายแล้วจริงหรอ ทำไมน่ายังแดงอยู่ล่ะ ไม่ใช่ว่าเจ็บมากหรอกนะ” ไม่ว่าเปล่า แต่กลับขยับหน้าเข้ามาใกล้ฉันมากขึ้นเหมือนกับกำลังจับผิดฉันอยู่ หรือว่าเขาแกล้งฉันมากกว่านะ “หะ...หายแล้วจริงๆค่ะ” ฉันตอบกลับเสียงเบาพร้อมกับย่นคอหนีเขา ขืนใกล้กว่านี้ฉันว่าหัวใจฉันได้วายตายแน่เลย “ถ้าหายแล้ว ทำไมไม่มองหน้าพี่ หลบหน้าแบบนี้โกหกกันหรือเปล่า” ฮือ บางทีฉันก็คิดว่าเขาแกล้งฉันมากกว่านะ เหมือนพอเห็นฉันยิ่งเขิน เขาก็ยิ่งใกล้ “ว่าไงครับ หายจริงหรือเปล่า” “หะ...หายแล้วค่ะ” ฉันตอบกลับพร้อมกับหันหน้าไปมองหน้าพี่แทนไทยให้เขารู้ว่าฉันพูดจริง ไม่ได้โกหก เพื่อที่เขาจะได้รีบขยับหน้าออกห่างจากฉัน เพราะตอนนี้หัวใจฉันเต้นแรงจนจะทะลุออกมาแล้ว แต่... หลังจากที่ฉันหันกลับมามองเขากระทันหัน ทำให้ปลายจมูกของเราชนกันเพราะหน้าเขาที่ใกล้อยู่ตอนแรกนั้นไม่ได้ขยับห่างไป และตอนนี้ ทั้งฉันและพี่แทนไทยก็ยังคงมองหน้ากันอยู่แบบนั้น ฉันไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ รู้เพียงแต่ว่าสำหรับฉันตอนนี้ เขาดึงดูดมาก ฉันอยากมองเขาแบบนี้นานๆ มองตลอดไปโดยไม่แบ่งใคร ใกล้จนฉันไม่อยากเชื่อว่าฉันจะได้ใกล้กับผู้ชายที่อยู่ในฝันของฉันแบบนี้ และตอนนี้ฉันรู้สึกถึงความใกล้ที่มากขึ้น ใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนๆของพี่แทนไทยที่ตอนนี้กำลังเป่ารดหน้าฉัน และ... “อื้อ!!!” ฉันร้องขึ้นด้วยความตกใจ และเหมือนกับสติกลับมาทันทีหลังจากที่ถูกพี่แทนไทย จูบ! ใช่ฟังไม่ผิด จูบนั่นแหละ ฉันไม่คิดว่าพี่แทนไทยจะจูบฉัน ไม่คิดเลยจริงๆ และนั่นก็ทำให้ฉันตกใจทั้งเรื่องที่พี่แทนไทยจูบ และตกใจที่นี่มันเป็นจูบแรกของฉัน ฉันสัมผัสได้ว่าร่างกายของฉันตอนนี้มันกำลังเอนตัวลงไปเรื่อยๆตามแรงบังคับจากคนด้านบน จนหลังฉันสัมผัสกับที่นอน พี่แทนไทยจึงผละออก แต่ไม่ได้ขยับหน้าไปไหน เพราะว่าหน้าของเขายังคงอยู่ใกล้ฉันเพียงเซนเดียวได้ “พี่แทน...” ฉันรีบดึงสติตัวเองกลับมาก่อนจะยกมือดันอกพี่แทนไทยไว้ ฉันชอบเขาฉันรู้ ฉันปลื้มเขามากฉันรู้ และที่สำคัญ ฉันก็คงจะหลงรักเขามากกว่าแฟนคลับกับศิลปินตั้งแต่ที่ฉันได้คุยกับเขาบ่อยๆไปแล้ว เพียงแต่ว่า เรื่องของฉันกับเขา มันจะเป็นแบบนี้ไม่ได้ เขากับฉันมันอยู่คนละโลกกัน อยู่ไกลกัน และเขาเองก็คงจะไม่สนใจผู้หญิงอย่างฉัน “ทำแบบนี้ไม่ได้นะคะ” ต่อให้ฉันจะรู้สึกดีกับเขาแค่ไหน แต่ฉันก็จะปล่อยตัวให้เขาโดยที่เราไม่ได้เป็นอะไรกันไม่ได้ “รังเกียจพี่หรอ” น้ำเสียงแหบพร่าดังขึ้นเบาๆใกล้ฉัน แต่ถ้าฉันรู้สึกไม่ผิด มันเหมือนกับว่ามันแฝงมาด้วยความน้อยใจ “ปะ เปล่าค่ะ...” “แต่ เราไม่ได้เป็นอะไรกัน ทำแบบนี้มันไม่เหมาะ” ถ้าเป็นแฟนกันฉันก็ยังพอเข้าใจและปล่อยไปตามธรรมชาติได้ แต่นี่เราไม่ได้เป็นอะไร และฉันกับเขาก็คงไม่มีสิทธิ์เป็นอะไรกันได้มากกว่าแฟนคลับและศิลปิน “ก็เป็นสิ” พี่แทนไทยตอบกลับพร้อมกับจมูกโด่งที่ไล้แก้มฉันเบาๆจนฉันขนลุกไปทั้งตัว แต่เดี๋ยวนะ ที่เขาพูดเมื่อกี้มันหมายความว่ายังไงกัน “พะ...พี่แทน พูดอะไรคะ” ฉันไม่เข้าใจคำว่า ก็เป็นสิ ของเขามันคืออะไร และอยู่ๆพี่แทนไทยก็ผละออกจากหน้าฉันแต่ก็ไม่ได้ถอยห่างออกไป “ก็เป็นแฟนกันไง” และสิ่งที่พี่แทนไทยพูดออกมา มันก็ทำให้ฉันอ้าปากค้างด้วยความตกใจ “.....” มันคืออะไร เป็นแฟนกันหรอ ฉันกับพี่แทนไทยเนี่ยหรอ เป็นไปไม่ได้ ตอนนี้ฉันกำลังฝันอยู่ใช่ไหม ทำไมฝันถึงเหมือนจริงๆแบบนี้นะ แต่เมื่อกี้ที่ฉันล้มก็เจ็บนะ ถ้าอยู่ในฝันจะเจ็บได้ยังไง แต่จะบอกว่าเป็นความจริงหรอ ไม่มีทาง มันไม่น่าเชื่อเลย “ว่าไง” เสียงเข้มดังขึ้นทำให้ฉันได้สติ และชัดเจนแล้ว ว่ามันไม่ใช่ความฝัน “อัญ ไม่เข้าใจ” ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงได้พูดแบบนี้ แล้วทำไมพูดมันออกมาง่ายแบบนี้ เขาจะชอบคนอย่างฉันหรอถึงได้มาขอเป็นแฟนกัน “ไม่เข้าใจตรงไหน ก็พี่กำลังขออัญเป็นแฟนอยู่นี่ไง” “แต่เราพึ่งรู้จักกันนะคะ” “แล้วหลายเดือนที่เราคุยกันมา อัญไม่มีความรู้สึกอะไรเลยงั้นหรอ” พี่แทนไทยพูดขึ้น นั่นทำให้ฉันเงียบ รู้สึกซิ รู้สึกมากด้วย ฉันเคยบอกแล้วว่าฉันกับพี่แทนไทยคุยกันเกือบทุกวัน และการคุยกันมันก็ทำให้ฉันรู้สึก ถ้าเกิดฉันลบความรู้สึกที่เขาเป็นดาราออกไปจากใจได้ ความรู้สึกฉันก็คงจะรักเขาได้อย่างเต็มร้อยแน่ “สำหรับอัญพี่ไม่รู้ แต่สำหรับพี่ ตลอดที่เราคุยกันมา มันมากกว่าเรื่องงาน เพราะถ้ามันมีแค่นั้น พี่คงไม่โทรหาเราเกือบทุกวัน...” ฉันมองหน้าพี่แทนไทยนิ่งหลังจากได้ยินสิ่งที่เขาพูด “แล้วอัญล่ะ ไม่รู้สึกอะไรเลยสักนิดหรอ” “อัญ...” “อัญ ก็รู้สึกค่ะ” จะผิดไหมนะถ้าฉันจะบอกออกไปตรงๆ แต่จะให้ทำยังไง ก็คนมันรู้สึกจริงๆ รู้สึกมากๆ เขาแทบจะเป็นเหมือนส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันไปแล้ว ยิ่งได้มาฟังความรู้สึกจากเขา ว่าเขาเองก็รู้สึกเหมือนกันด้วยแบบนี้ มันเลยทำให้ฉันกล้าที่จะบอกความรู้สึกของฉันออกไปอย่างไม่อาย “ถ้ารู้สึก แล้วอัญไม่อยากคบกับพี่หรอ” อยากสิคะ แต่... “แต่งานของพี่...” มันไม่ใช่ว่าเราจะทำอะไรได้ตามใจชอบทุกอย่าง ยิ่งมีแฟนคลับเยอะแค่ไหน ก็ยิ่งยาก พวกแฟนคลับที่ดีก็มีเยอะ แต่แฟนคลับที่ไม่แยกแยะอะไรก็มีเยอะเหมือนกัน บางคนเห็นไอดอลเรามีความรักก็ยินดี แต่บางคนหวงไอดอลจนเกินเหตุ ทำให้เกิดเรื่องแอนตี้ขึ้นได้อย่างไร้เหตุผล “งานก็ส่วนงาน ไม่เกี่ยวเรื่องส่วนตัวของพี่ เป็นแฟนคลับพี่ก็ต้องยอมรับการตัดสินใจของพี่ แต่ถ้าไม่ยอมรับ ก็คงอยู่ร่วมกันไม่ได้” ใช่ที่ผ่านมาพี่แทนไทยเป็นคนที่อบอุ่นมาก แต่เขาก็มีสิ่งที่เข้มงวดเหมือนกัน นั่นก็คือเหตุผลของการเป็นแฟนคลับเขา ถ้าไม่ยอมรับอะไรเขาก็ไม่สนใจเหมือนกัน “ไม่ต้องห่วงเรื่องงานของพี่ ถามใจอัญเองก็พอ ว่าอยากคบกับพี่ไหม” เจอแบบนี้ไปฉันก็ไปไม่เป็นสิ อยากตอบกลับไปว่าเดี๋ยวนี้เลยว่าใจอัญอยากคบกับพี่มาก และจะผิดไหมถ้าฉันจะตอบตกลงไปเลย “อัญ...อยากคบกับพี่ค่ะ” ฮือ พูดไปแล้วอ่ะ เขาจะมองฉันใจง่ายไปไหมนะแบบนี้ “อัญพูดจริงหรอ” พี่แทนไทยถามออกมาด้วยรอยยิ้ม และรอยยิ้มของเขาก็ทำให้ฉันเบาใจได้ ว่าเขาคงไม่เห็นสิ่งที่ฉันพูดเป็นเรื่องตลก “พูดจริงสิคะ พี่แทนก็รู้ว่าอัญปลื้มพี่แค่ไหน” พูดเองก็อายเอง แต่ก็อยากให้เขารู้ว่าเขาคือสามีในมโนของฉัน และเป็นสามีในฝันของผู้หญิงหลายๆคน “ถ้าอยากคบ ก็คบสิ” “ก็ถ้าพี่แทนขออัญคบจริงๆ อัญก็...ตกลงค่ะ” ฉันไม่ได้ใจง่ายนะ แต่ฉันรักเขาแล้วนี่ ใช่รัก มันไม่เร็วเกินไปหรอกสำหรับเวลาสองเดือนที่ฉันคุยกับเขาเกือบทุกวัน และมันมีความชอบเดิมเป็นทุนอยู่แล้ว ใจของฉันมันก็หวั่นไหวไปง่ายๆกับเขา พอเขามาขอคบแบบนี้ ฉันก็ขอรับโอกาสนี้ของฉันไว้ดีกว่า “งั้นตอนนี้อัญก็เป็นแฟนพี่แล้วนะ” “ค่ะ” ตอบไปก็เขินไป ได้แต่หลบตาแล้วยิ้มออกมาอย่างหุบไม่อยู่ ฟอด!!! “ชื่นใจจัง” พี่แทนไทยหอมแก้มฉันแล้วพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม ฉันจึงหันไปมองหน้าเขาพร้อมกับยิ้มเขินๆ “อ๊ะ พี่แทน” ฉันร้องขึ้นอีกครั้งหลังจากอยู่ๆพี่แทนไทยก็ก้มลงมาใช้ปลายจมูกไซ้ตามโครงหน้าฉันอีกครั้ง “หืม” เสียงครางตอบออกจากลำคอ โดยที่เขาไม่ผละออกมา “พี่แทน จะ...จะทำอะไรคะ” ฉันถามออกไป เพราะท่าทางของเขาตอนนี้เหมือนกับกำลังจะ... “ก็เราเป็นแฟนกันแล้ว พี่ก็ทำในสิ่งที่คนเป็นแฟนกันเขาทำกันไง” และฉันไม่ได้โง่พอที่จะไม่รู้ว่าเขาหมายถึงอะไร “แต่เรา....อื้อ!”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม