รู้ใช่ไหม..ว่าฉันยังรักเธอ

1165 คำ
ตอนที่ 3 เธอพยายามที่จะรวบรวมสติให้มากที่สุดเมื่อสบตาเขา ชายหนุ่มจ้องเธอเขม็ง เหมือนว่าเขากำลังประเมินหญิงสาวตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า พลอยนภัสหน้าแดง เหงื่อในมือเธอชุ่มไปด้วยความประหม่า “คุณอยากให้ฉันช่วยเรื่องอะไรคะ” “เรื่องที่เธอทำได้ดีน่ะสิ” เขาเดินเข้ามาหาเธออย่างช้าๆ หญิงสาวพยายามตั้งใจฟังในสิ่งที่เขาจะพูดมากกว่าจะรับรู้ถึงความใกล้ชิดกับเขา แต่ชายหนุ่มก็เดินเข้ามาใกล้มากเกินไป จนเธอตั้งตัวไม่ทัน “ที่นี่ในสถานศึกษานะคะ” เธอเตือนสติเขา “ใช่” ร่างสูงของเขาค้ำตัวเธอไว้ “คุณจะทำอะไร” เธอพูดออกมาอย่างไม่รู้ตัว “ทำเหมือนเมื่อสามปีก่อนไง” “สามปีก่อน” เธอทวนคำนั้นซ้ำ ไม่อาจละสายตาจากใบหน้าที่หล่อเข้มนั้นได้ ตลอดระยะเวลาสามปีที่ผ่านมา เธอยอมรับว่าไม่สามารถลืมผู้ชายตรงหน้าได้ สามปีที่ผ่านมาพลอยนภัสทุ่มให้กับการเรียนเพื่อลืมเรื่องราวในอดีต หญิงสาวพยายามฝืนยิ้มให้เป็นธรรมชาติมากที่สุด เมื่อสติกลับคืนเธอจึงเอ่ยขึ้นก่อนที่เขาจะทำในแบบเดิม ๆ “อย่าค่ะ” “ใจเย็น ๆ สิ..สาวน้อย ฉันเพียงแค่จะเช็ดหมึกที่ติดอยู่ตรงคางเธอ” เขาเอื้อมเอาผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดรอยหมึกออกให้ แล้วโชว์ให้ดูว่าบนผ้าเช็ดหน้ามีสีดำติดด้วยรอยหมึกจริง ๆ “ขอบคุณค่ะ” เธอกล่าวขอบคุณที่เขาไม่ทำรุ่มร่ามในห้องนี้ “คุณบอกหน่อยสิคะ ...ว่าฉันจะช่วยอะไรคุณได้” “งานนี้เธอถนัดอยู่แล้ว” เขาตอบด้วยน้ำเสียงธรรมดา เธอรู้สึกถึงความน้อยใจในคำพูดของเขา และอารมณ์ที่อยู่ระหว่างความโกรธที่ไร้เหตุผลกับน้ำตาที่เอ่อขึ้นในใจ ทำให้เธอโพล่งออกมา “แล้วงานมันคืออะไรล่ะคะ” ดวงตาสีน้ำตาลเข้มของปรเมศวร์จ้องเธอนิ่ง ยากที่จะอ่านความรู้สึกของเขาได้ ดวงตาของเขาเป็นประกาย ความเครียดปะทุขึ้นรอบ ๆ “เธอจะรับข้อเสนอของฉันหรือเปล่า” เหมือนกับทั้งคู่กำลังต่อสู้กัน ต่างอยู่กันคนละด้านของกำแพงที่ไม่สามารถเอาชนะกันได้ “ฉันยังไม่รู้งานของคุณ” เธอพูดผ่านไรฟัน ความโกรธทำให้เธอทั้งร้อนและหายใจติดขัด ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขามันเป็นประวัติศาสตร์ไปแล้ว มันนานจนไม่มีประโยชน์ที่จะรื้อฟื้นมันขึ้นมาอีก ความจริงก็คือ การพูดเรื่องที่ผ่านมา ทำให้เธอต้องเผชิญกับความเจ็บปวดอีกครั้ง “อีกอย่างนะคะ...อะไรทำให้คุณมาที่นี่. คุณปรเมศวร์!!” เธอเรียกชื่อจริงของเขา เพื่อบ่งบอกถึงความห่างเหิน ชายหนุ่มกัดกรามจนเป็นสันนูน พร้อมกับหรี่ตามองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า “ก็ฉันบอกไปแล้วไง เธอก็ได้ยิน ฉันมาที่นี่เพื่อเสนองานให้เธอทำ” เขายังยืนยันถึงจุดประสงค์ที่เป็นเรื่องของงานเท่านั้น ไม่มีความหมายอื่นแอบแฝง หญิงสาวร้อนไปทั้งร่าง เธอตัวสั่นเทาพยายามระงับความรู้สึกตัวเองก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมองเขา “ฉันไม่ว่างค่ะ” เธอยืนกราน “เธอแบ่งเวลาเก่งอยู่แล้ว เรียนไปด้วยทำงานไปด้วย เหมือนแต่ก่อนไง” เขาบอก เธอจะไม่ยอมปล่อยให้ตัวเองถูกเย้ยหยัน ถูกข่มเหงหรือวิพากษ์วิจารณ์ “ขอบคุณค่ะ ..แต่ฉันขออนุญาตไม่รับ” “ฉันจะโอนเงินเข้าบัญชีเธอทันทีหากเธอรับข้อเสนอ..ฉันได้ข่าวว่าแม่เธอไม่สบาย” เธอเชิดคางขึ้นเหมือนกับจะท้าทาย “ไม่ค่ะ” หญิงสาวที่กำลังทำท่าจะลุกขึ้น ปรเมศวร์พลางมองกระเป๋าที่เธอเริ่มกระชับขึ้นบ่า “ทำไม” ปรเมศวร์ฉวยโอกาสคว้ากระเป๋าสะพายพร้อมเอกสารในมือของหญิงสาว มาถือไว้เพื่อกันเธอเดินหนี “ไปกันเถอะ” ชายหนุ่มฉุดข้อมือบางของเธอ แล้วจูงไปที่รถของเขาที่จอดอยู่ “ปล่อย...ฉันนั่งรถเมล์กลับบ้านเองได้ค่ะ” “ไหนเมื่อกี้บอกมีเรียน เธอกล้าโกหกฉันเหรอ” ชายหนุ่มมองใบหน้ารูปไข่สีซีดตรงหน้า ไล่สายตาจากคิ้วสีเข้มลงไปยังดวงตาที่กำลังร้อนจัด จนถึงคางที่เชิดขึ้นอย่างดื้อรั้น เขาไม่เคยสังเกตเห็นคางของเธอมาก่อนเลย จนกระทั่งวันนี้ ที่ได้เช็ดหมึกออกให้เธอ และเขาก็ไม่เคยสังเกตท่าทางของเธอมาก่อน “.....” “รถของฉันจอดอยู่ตรงนั้น” พลอยนภัสมองเห็นรถสีดำคันหรูติดแผ่นป้ายที่ประมูลจอดอยู่ แต่เธอไม่คิดที่จะโดยสารมันไป “ฉันอยากไปรถเมล์มากกว่าค่ะ” เธอตอบ ก่อนที่จะพลิกข้อมือดูนาฬิกา “และถ้าหากว่าฉันไปตอนนี้ ฉันก็จะเลี่ยงกับรถติดช่วงบ่ายได้ค่ะปรเมศวร์รู้สึกเหมือนกับกำลังถูกไม้ตีเข้าที่หัว แต่มันเป็นอย่างนั้นจริง ๆ หรืออาจพูดได้ว่าเป็นบางสิ่งที่เรียกว่า ‘ความเสียใจ’ เพียงแต่เขาพยายามโกหกว่าตัวเองไม่ได้เสียใจ ความจริงแล้วตอนนี้เขามั่นใจว่าตนกำลังได้รับความพอใจอย่างเหลือล้นต่างหาก หากสามารถพาพลอยนภัสกลับที่พักได้ “ฉันจะพาเธอกลับเอง” เขาทวนคำพูดของตนอีกครั้ง รอยยิ้มผุดขึ้นบนใบหน้าที่ดูเหมือนคนเถื่อนนั่น “.....” เธอเลิกคิ้วขึ้น แล้วหันกลับไปสบตากับเขา “ฉันขอยืนกราน” ชายหนุ่มมองริมฝีปากอิ่มของเธอที่เม้มแน่น เรียวปากของเธอเป็นสีกุหลาบเข้ม ดวงตาของเธอเป็นประกายร้อนจัด ก่อนที่หญิงสาวจะโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย แล้วกระซิบเพื่อให้เขาได้ยินเพียงคนเดียวเท่านั้น “ฉันไม่จำเป็นต้องทำตามที่คุณสั่ง แล้วฉันก็ไม่ได้เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของคุณด้วย” นี่เป็นอีกครั้งที่เธอปฏิเสธเขาอย่างเรียบง่าย ชายหนุ่มนิ่วหน้า ก่อนหน้านี้เมื่อสามปีที่แล้วเธอที่ไม่เคยมีใครปฏิเสธเขาโดยสิ้นเชิงแบบนี้ ไม่มีใครพูดคำว่า ‘ไม่’ กับเขา ชายหนุ่มมองใบหน้ารูปไข่สีซีดตรงหน้า ไล่สายตาจากคิ้วสีเข้มลงไปยังดวงตาที่กำลังร้อนจัด จนถึงคางที่เชิดขึ้นอย่างดื้อรั้น เขารู้จักเธอครั้งแรก เธอเป็นเด็กผู้หญิงที่น่าสงสาร อยู่กับแม่ตามลำพังเพียงสองคน หาเงินส่งตัวเองเรียน จนเขาต้องยื่นมือเข้าไปช่วย แล้วก็เลยหลงรักเธอขึ้นมา ตอนนั้นเธออยู่เพียงแค่มัธยมปลาย เธอได้ทุน AFS ซึ่งเธอก็ไม่มีเงินที่จะไป ตอนนั้นเขาและเธอคบกันแล้ว เขาช่วยเหลือเธอได้ แต่เขาก็ไม่ช่วยเพราะไม่อยากให้เธอจากไปไหน เหมือนตัวเองทำลายอนาคตของเธอด้วยความรัก
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม