ฉันเป็นลูกจ้างไม่ใช่เมีย

1687 คำ
ตอนที่ 9 แม้ว่าเธอจะอยู่ในห้องนอนที่หรูหรา บนเตียงนอนแสนนุ่ม แต่พลอยนภัสก็ยังคงหลับไม่ลง ทุกครั้งที่หลับตา เธอสามารถรับรู้ได้ถึงปลายนิ้วของปรเมศวร์ที่สัมผัสเข้าตรงหลังมือ สัมผัสที่ทำให้ผิวของเธอยังคงรู้สึกอยู่ แต่มันไม่ใช่สัมผัสของเขาเท่านั้นที่ยังคงอยู่กับเธอ แต่เป็นน้ำเสียงต่ำ ๆ น้ำเสียงที่ยังคงก้องอยู่ในหัวของเธออีกด้วย ท่ามกลางความมืดภายในห้อง พลอยนภัสรับรู้ได้ถึงเวลาที่ผ่าน รับรู้ได้ว่าทั้งสองยังคงอยู่ร่วมกัน และยังคงรักกันอยู่หลังจากหลับลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เธอก็สะดุ้งตื่นขึ้นเมื่อตอนเช้ามืด หญิงสาวนั่งตรงขอบเตียงครู่ใหญ่ แล้วพยายามนึกว่าเกิดอะไรขึ้น เธอกำลังอยู่ในห้องของโรงแรมที่เขาจัดให้ พลอยนภัสเกือบจะคลานกลับเข้าไปใต้ผ้าห่มเพื่อซ่อนตัว แต่ก็รู้ว่าไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว จึงลากตัวเองไปอาบน้ำ เปิดก๊อกน้ำให้แรงที่สุดเมื่อซับผมให้แห้ง เธอก็ปล่อยผมสยายให้เป็นธรรมชาติ วันนี้เป็นวันแรกเธอต้องเริ่มฝึกสอนแล้ว เธอจะต้องเตรียมรีดชุดนักศึกษาที่เตรียมมา หญิงสาวกำลังสวมรองเท้าคัชชูสีดำ ปรเมศวร์จะมารับไปโรงเรียนที่ฝึกสอนของเธอ ซึ่งก็อยู่ตรงข้ามกับที่ทำงานของบริษัทของเขา เขาช่างเลือกและจัดสรรได้จริง ๆ นี่จะไม่ยอมให้เธอได้อยู่นอกสายตาเลยหรือไง ภรรยาก็ยังมีอยู่โทนโท่ เธอคงรับไม่ได้ที่จะต้องไปไหนต่อไหนกับเขาโดยที่ผู้หญิงคนนั้นยังถือทะเบียนสมรสอยู่ “วันนี้คุณปรเมศวร์มีประชุมด่วนเลยให้ผมมารับคุณไปโรงเรียนแทนครับ” ชายคนหนึ่งกล่าวพลางเปิดประตูรถให้เธอ พลอยนภัสไม่แปลกใจที่ปรเมศวร์จะมีประชุมด่วน และเธอก็ไม่แปลกใจด้วยที่ต้องเดินทางไปกับคนขับรถของเขา เขาได้ไลน์บอกเธอแล้วว่าวันนี้ไม่สามารถมารับด้วยตัวเองได้ เธอดีใจที่เขาไม่ต้องมาคอยรับส่งเธอทุกวัน จะให้เป็นหน้าที่ของคนขับรถเลยก็ได้ ถึงกระนั้น หญิงสาวก็อดไม่ได้ที่จะผิดหวังอยู่ลึกๆ ความรู้สึกผิดหวังนั้นทำให้เธอกลัว ความรู้สึกนั้น...หมายความว่าเธอยังคงมีความรู้สึกให้กับเขาเป็นอย่างมาก ความรู้สึกนั้น...หมายถึงเธอยังคงแคร์ต่อความคิดของเขา หญิงสาวกลัวว่ามันจะเป็นแรงจูงใจที่ทำให้เธอรับงานนี้ เธอไม่พยายามปฏิเสธที่จะเข้าไปเกี่ยวข้องกับปรเมศวร์ เมื่อยังคงมีความหลังของทั้งสองคนอยู่มากมาย ความจริงก็คือ เธออยากจะเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ไม่มีการปฏิเสธการรับงานจนถึงบัดนี้ หลังจากที่ปรเมศวร์ได้ช่วยเพชรน้องชายของเธอแล้ว เพชรไม่ต้องติดคุก การฝึกสอนวันแรกที่โรงเรียนจบลงไป เธอมาสอนหนูหนาในช่วงเย็นอีกสองชั่วโมงที่บ้านขอปรเมศวร์ เธอไม่ใช่คนรักของเขา ไม่มีอะไรที่เท่าเทียมกับเขาแม้แต่น้อย เธอไม่ใช่เพื่อนร่วมงานของเขา เธอเป็นแค่ครูสอนพิเศษตัวเล็กๆที่ปรเมศวร์จ้างมาเพื่อหลานสาว ของเขาเพียงเท่านั้น เธอต้องสำนึกและไม่เผลอคิดไปเป็นอื่น หญิงสาวรู้สึกแปลกใจ ตั้งแต่ที่เขาเข้าประตูมาแล้ว เขาไม่ได้มองหรือพยายามมองหาเธอ หญิงสาวรู้สึกคล้ายกับตัวเองเป็นเพียงเฟอร์นิเจอร์ในบ้านเท่านนั้น แต่เมื่อเขาหันมาทางประตูกระจก แล้วถอดแว่นกันแดดออก เขาก็ทำให้เธอต้องแปลกใจกับดวงตาที่เป็นประกาย นั่นทำให้หญิงสาวหายใจไม่ออก หัวใจของเธอเหมือนจะเต้นผิดจังหวะ เป็นการผิดจังหวะด้วยอาการเขินอาย นัยน์ตาของเขายังคงเต้นระยับต่อไป ริมฝีปากเผยยิ้มมากขึ้น และใช้สองนิ้วมือกวักเรียกเธอ บอกว่า “พลอยนภัส มาทางนี้” ถ้าเพียงแต่เขาทำอย่างนี้ในวันที่เธอบอกเลิก ถ้าเพียงแต่เขาจะโทรศัพท์หาเธอหรือมาหาเธอ แล้วขอให้เธอกลับไปทุกอย่างคงไม่ลงเอยแบบนั้น “ฝึกสอนวันแรกเป็นยังไงบ้าง” เขาถาม ขณะพาเธอเดินขึ้นบันได “ก็ดีค่ะ” หญิงสาวตอบ เขาเหลือบมอบเธอนิดหนึ่ง จับน้ำเสียงบางอย่างของเธอได้ “วันนี้ยังไม่ต้องสอนหรอก วันนี้ฉันจะพาเธอมารู้จักกับ หนูนาเสียก่อน” เสียงฝีเท้าดังมาตรงประตูทางเดินทำให้พลอยนภัสชะงักฝีเท้าและหันกลับไปมอง เธอเห็นเด็กสาวในเอี๊ยมลายสก็อตติช เธอเดินลงบันไดพร้อมกับแบกถาดหนักอึ้งในมือ “มีของสำหรับคุณครูค่ะ” เด็กสาวพยายามพูดภาษาอังกฤษตะกุกตะกัก ขณะที่เธอถือถาดที่ใส่ขนมหลากหลาย พลอยนภัสรู้สึกเหมือนกับความเครียดในตัวคลายไป “ขอบคุณค่ะ น่ารักจัง” เด็กหญิงผู้นั้นยิ้มอย่างเอียงอาย ขณะที่วางถาดลงบนมุมโต๊ะตัวเตี้ย ข้างโซฟาสีครีมตัวอ้วน มีบางอย่างในตัวเด็กหญิงคนนี้ที่น่ารัก พลอยนภัสเดินไปนั่งที่โซฟา “หนูชื่ออะไรคะ” “หนูเด็กหญิงพิมรภัส ชื่อเล่นหนูนาค่ะ” เธอตอบ คุกเข่าลงแล้วยกมือขึ้นตบหน้าอกตนเองเบาๆ ก่อนที่จะยิ้มอีกครั้ง คราวนี้ อวดลักยิ้มแก้มบุ๋มทั้งสองข้าง พลอยนภัสอดยิ้มตอบไม่ได้ “หนูนา คุณครูชื่อ พลอยนภัสนะ เราชื่อคล้าย ๆ กันเลยน้า..” เด็กสาวพยักหน้าหงึก ๆ “คุณครูพลอยนภัส” เธอพยักหน้าอีกครั้งอย่างกระตือรือร้น พลอยนภัสนึกขัน “เรียกว่าครูพลอยก็ได้ค่ะ” “ค่ะ ครูพลอย ครูพลอยจะมาสอนหนูทุกวันใช่ไหมคะ” เด็กสาวชะโงกหน้ามาข้างหน้าเล็กน้อย “ถูกต้องแล้วค่ะ เราจะเจอกันทุกเย็นนะคะ” “เย้!..” เด็กน้อยยิ้มดีใจที่จะได้มีเพื่อนเล่น หลังจากที่สอนหนูนาเสร็จแล้ว ปรเมศวร์ก็พาไปรู้จักกันคุณแม่ของเขาที่กลับมาจากทำธุระข้างนอกพอดี หลังจากนั้นปรเมศวร์ก็เตรียมจะพาพลอยนภัสไปส่ง แต่คุณหญิงประภาศรีชวนทานข้าวด้วยพลอยนภัสเลยจำเป็นต้องอยู่ต่อ “หนูนา ออกจะดื้อสักหน่อยนะ หนูพลอย” “ก็ตามประสาเด็ก ๆ ค่ะ หนูนาแกอยากมีเพื่อนเล่น” “เธอพักข้างนอกใช่มั้ย” พลอยนภัสหันมองหน้าปรเมศวร์จากนั้นจึงตัดสินใจตอบ “ค่ะ..คุณท่าน” “ทำไมไม่พักซะที่นี่เลยล่ะ หนูนาจะได้มีเพื่อน” “หนูต้องมีฝึกสอนช่วงกลางวันค่ะ เกรงว่าจะไม่สะดวก” “อ๋อ..ถ้าเสาร์ อาทิตย์ ว่าง ๆ ก็แวะมาได้นะ ฉันอยากให้ยัยหนูนาได้มีเพื่อน” “ได้ค่ะ ถ้าอาทิตย์ไหนหนูไม่ได้กลับบ้านจะแวะมานะคะ” “คุณแม่ครับ ถ้ายังไง ผมขอตัวไปส่งพลอยนภัสก่อนนะครับ” “แล้ววันนี้แกจะกลับมานอนที่บ้านหรือโรงแรมล่ะ” “นอนโรงแรมครับ ผมเบื่อรถติด ยังไงฝากแม่พาหนูนาเข้านอนด้วยนะครับ” “คงงั้นแหละยะ” เฮ่อ! คุณหญิงประภาศรีถอนหายใจเพราะรู้ว่าวันนี้ลูกชายคงไม่กลับบ้าน จากหน้าตาที่เคยอมทุกข์ไว้ทุกวัน มาวันนี้คุณหญิงไม่เห็นอีกเลย หวังว่าลูกชายคงจะมีความสุข เพราะเธอเองอยากให้ปรเมศวร์หายโศกเศร้าเสียที เพราะสามปีที่ผ่านมา เธอมัวแต่โทษตัวเองที่ไม่เชื่อลูกชาย เรื่องของนิรนาท ขับรถมาได้สักพัก ปรเมศวร์ก็เอ่ยขึ้นกับหญิงสาวที่นั่งมาด้วยข้าง ๆ เพื่อทำลายความเงียบ “หนูนากับเธอเข้ากันได้ดีมั้ย” “ก็ได้นะคะ หนูนาน่ารักออก ฉันว่าเธออยากได้เพื่อนเล่นมากกว่าคุณครู” “ถ้าอย่างคุณก็มาเล่นกับหนูนาในวันหยุดสิ” “ถ้าเป็นอย่างนั้น จริง ๆ แล้ว คุณอยากให้ฉันทำอะไรกันแน่คะคุณเมศวร์ สอนหนังสือหลานคุณหรือเป็นเพื่อนเธอ คอยสังเกตนิสัยของเธอ...อะไรกันแน่?” เขาเงยหน้าขึ้นมองหญิงสาว ดวงตาสีน้ำตาลเข้มเป็นประกายด้วยสีเงินสว่าง แต่ถึงกระนั้น ตอนนี้ก็ไม่มีแสงอยู่ในดวงตาคู่นั้น “ทุกอย่างที่คุณพูดมา” “ถ้าอย่างนั้น คุณก็จะต้องหาพี่เลี้ยง” “ไม่ เคยมีแล้ว หนูนาไม่ต้องการ...” น้ำเสียงของเขาขาดหายไป พร้อมกับย่นหน้าผาก “แต่ฉันต้องการเธอ..พลอยนภัส” เธอไม่แน่ใจว่าเขาหมายความถึงอะไร แต่มีบางอย่างในดวงตาคู่สวย มีบางอย่างที่แสดงออกมานั้นทำให้เธอปวดหัวใจ พลอยนภัสเอื้อมมือออกไปแตะเขาโดยสัญชาตญาณ หญิงสาวคิดว่านี่คือการสัมผัสที่อบอุ่นและให้ความมั่นใจแบบเพื่อน แต่เมื่อสัมผัสกับแขนเสื้อของชุดหลวม ๆ ที่เขาสวม นิ้วของเธอก็แตะเข้าที่กล้ามของเขา ผิวของชายหนุ่มอบอุ่นเหมือนดวงอาทิตย์ พลอยนภัสตัวสั่น นิ่งงันไปกับความร้อนที่เหมือนกับมีไฟฟ้าวิ่งอยู่ เธอรีบดึงมือออก แล้วกุมมือทั้งสองข้างไว้ที่หน้าอก หญิงสาวนึกไปถึงเปลวไฟ เธอบอกกับตัวเองอย่างนั้น และนึกไปถึงความรู้สึกร้อนแรงที่วิ่งจากปลายแขนไปยังไหล่ถึงหน้าอก แต่เมื่อมองเข้าไปในดวงตาของปรเมศวร์ เธอก็รู้สึกไม่แน่ใจขึ้นมา “ถึงห้องฉันแล้วค่ะ ขอบคุณที่มาส่งนะคะ” “ฉันยังไม่อยากกลับ อย่าเพิ่งไล่สิ” “จำเรื่องที่เราคุยกันได้หรือเปล่าคะ ฉันเป็นลูกจ้าง ไม่ใช่เมียของคุณ” ชายหนุ่มสบตาเธอ แล้วยิ้มออกมาช้าๆ หญิงสาวรู้สึกเหมือนกับถูกยั่วโทสะ เขากำลังเล่นเกม เกมที่เธอไม่เข้าใจ เกมที่เขาเป็นคนสร้างกฎ ส่วนเธอเป็นเพียงผู้ตามเท่านั้น
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม