ตาลหวานไม่เข้าใจคำสั่งด่วนจากผู้จัดการตรงหน้าเท่าไหร่นัก เธอพยายามทำความเข้าใจกับทุกตัวอักษรบนหน้ากระดาษเอ4ในมือ เหตุใดคุณผกากองถึงมีนโยบายส่งพนักงานบัญชีของทางบริษัท ออกไปทำงานนอกสถานที่โดยที่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันเกี่ยวกับทางสายงานเลยด้วยซ้ำ แถมนี่ยังไม่ใช่หน้าที่โดยตรงของเธออีกด้วย...
“มันเป็นคำสั่งจากทางเบื้องบน” ผู้จัดการสาวขยับปากอธิบายเพิ่มเติม
“แถมยังชี้ตัวลงมาเลยว่าต้องเป็นตาลเท่านั้นด้วยนะ” ผกากรองเอ่ยเสียงเครียด
นี่เป็นข้อสงสัยที่ตัวเธอเองก็อยากรู้เช่นกัน ทำไมบอสของเธอ ต้องเฉพาะเจาะจงชี้ตัวเป็นตาลหวานเท่านั้นด้วยนะ ทั้งที่บริษัทนี้ก็มีพนักงานบัญชีอีกตั้งหลายสิบชีวิต หรือบอสจะเลือกด้วยเหตุผลที่หน้าตา ถ้าหากเป็นแบบนั้นจริงตัวเธอเองก็พอจะเข้าใจดี
ตาลหวานเป็นลูกน้องสาวที่จัดว่าหน้าตาดีมากคนหนึ่ง อีกทั้งรูปร่างทรวงทรงเองเอวก็อรชรอ่อนแอ่น ผิวขาวราวหยวกกล้วย ใครเห็นต่างเป็นต้องเหลียวมองตาละห้อยตามๆกัน และด้วยนิสัยเรียบร้อยอ่อนหวาน มีน้ำใจงดงามชอบช่วยเหลือผู้อื่นอยู่เสมอ ตาลหวานจึงเป็นขวัญใจของเพื่อนร่วมงานในบริษัทนี้ได้ไม่ยากเย็นอะไรนัก
เธอเองยังรู้สึกเอ็นดูตาลหวานเลยด้วยซ้ำ...
“แต่ตาลอย่ามาถามพี่นะว่าทำไม เพราะพี่เองก็ตอบคำถามนี้ไม่ได้เหมือนกัน” ผกากรองส่ายหัวพร้อมคำพูด เธอเป็นเพียงผู้จัดการฝ่ายบัญชี มีหน้าที่รับคำสั่งจากบิ๊กบอสใหญ่มาอีกทีหนึ่งเท่านั้น
“ค่ะ...” ตาลหวานไม่เคยมีปากเสียงกับใครมาก่อนหน้าอยู่แล้ว หญิงสาวจึงทำได้เพียงพยักหน้าพร้อมรับคำ แม้ความสงสัยต่างๆยังคงค้างคาใจของเธออยู่มากล้นก็ตาม ยังดีที่ท้ายประโยคคำสั่งในหน้ากระดาษแผ่นนี้ ระบุระยะเวลาที่เธอต้องไปทำงานที่ไร่ขวัญตาอะไรนั่นเพียงสามเดือนเท่านั้นเอง เธอไม่ได้มีอะไรขัดข้องหรือมีปัญหาเกี่ยวกับการทำงาน แต่ไม่รู้เอกราชแฟนหนุ่มของเธอจะว่าอะไรหรือไม่ เขายิ่งหวงเธอยิ่งกว่าจงอาจหวงไข่เสียอีก
แต่ก็เอาเถอะ เธอจะลงมาหาเขาตอนวันหยุดประจำสัปดาห์ก็ได้นี่นา เจ้าของไร่คงไม่ใจดำถึงขนาดไม่มีวันหยุดประจำสัปดาห์ให้เธอหรอกนะ แล้วอีกอย่างเธอเองยังขึ้นชื่อว่าเป็นพนักงานของบริษัทแห่งนี้อยู่ เขาควรจะเคารพสวัสดิการเดิมของพนักงานที่เธอควรจะได้รับ มากกว่าจะใช้อำนาจความเป็นเจ้าของไร่อะไรนั่นมาบังคับเธอแทน
“หวังว่าเธอคงไม่มีอะไรขัดข้องนะ เอ่อ...” ผกากรองลอบถอนหายใจ พร้อมปรายตามองใบหน้าหวานไม่ต่างจากซื่อของเจ้าตัวนักด้วยความหนักใจไม่เบา
คำสั่งบ้าบออะไรก็ไม่รู้ ให้พนักงานออกไปทำงานนอกสถานที่ ยิ่งเป็นต่างจังหวัดแล้วต้องไปกินนอนอยู่ที่นั่น ตัวเธอเองก็เพิ่งเคยได้ยินวันนี้นี่แหละ ทั้งที่ทำงานที่นี่มาเกือบสิบปี จากตำแหน่งพนักงานบัญชีธรรมดาต๊อกต๋อย จวบจนกระทั่งขึ้นตำแหน่งผู้จัดการ วันนี้ละเธอถึงได้ยินคำสั่งแบบนี้
“ทางไร่ขวัญตาเขาเจาะจงเลือกเธอมา พี่เองก็จนใจจะปฏิเสธ ยิ่งเป็นคำสั่งโดยตรงจากบอส เลยได้แต่พยักหน้าทำตามคำสั่งลูกเดียว”
“ตาลเข้าใจพี่นะคะ แค่ตาลไม่เข้าใจคำสั่งของบอสมากกว่า ทำไมเขาถึงไม่ยอมเปิดรับสมัครหาคนงานคนใหม่ให้ทางนั้นไปเลย จะมาขอพนักงานที่บริษัทนี้ไปช่วยทำไม ของเราก็ใช่ว่างานจะไม่ยุ่งเสียหน่อย” ตาลหวานเอ่ยถึงเหตุผล
“บอสเรากับทางเจ้าของไร่ขวัญตาเขาเป็นเพื่อนสนิทกันมาก่อนมั้ง พี่ก็ไม่กล้าซักถามรายละเอียดอะไรมากเสียด้วย กลัวบอสจะหงุดหงิดแล้วหันมาเล่นงานพี่แทนนะสิ อารมณ์เจ้านายของพวกเราเธอเองก็รู้ ผีเข้าผีออกอย่างกับอะไรดี” เพราะก่อนที่เธอจะผลักบานประตูเข้าไป แม่เลขาหน้าขาววอกเพิ่งถูกไล่ตะเพิดหน้าบูดบึ้งออกมา
ไม่ต้องเดาเสียให้ยากเลย แม่เลขาคนงาม ที่ใครๆต่างล่วงรู้ถึงกิตติศัพท์เจ้าหล่อนเป็นอย่างดีนั้น คงเข้าไปเสิร์ฟเนื้อนมไข่ให้บอสอีกตามเคย แต่หนนี้ไงถึงได้ถูกไล่ออกมาเสียได้ก็ไม่รู้ หรือว่าบอสจะเบื่อกินของปรุงแต่งตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า ก็ยัยแม่เลขาหน้าเชิดคนงาม เล่นไปโมร่างกายมาจากเกาหลีทั้งตัว ไม่รู้ว่าไอ้ลูกกะตาขาวๆของเจ้าหล่อน จะเป็นของจริงหรือของปลอม...
“เอาเป็นว่าพรุ่งนี้ตาลเตรียมตัวไว้ให้พร้อมเลยนะ บอสบอกว่าจะมีคนจากทางไร่ ขับรถเข้าไปรับตาลถึงหน้าคอนโด”
“ได้ค่ะพี่ผกา” ตาลหวานรับคำอ่อนน้อม
“พี่คงคิดถึงเธอแย่” ผู้จัดการสาวปรารภขึ้นด้วยความห่วงใย
“แค่สามเดือนเองค่ะพี่ผกา ตาลไปไม่นานเดี๋ยวจะกลับมาช่วยงานพี่เหมือนเดิม”
“ไม่รู้สิ ทำไมพี่ถึงได้รู้สึกใจหาย เหมือนตาลจะไปจากที่นี่นานอย่างไรบอกไม่ถูก” สองสาววัยใกล้เคียงสื่อความรักผ่านทางสายตา
มันอาจเป็นลางสังหรณ์ที่แม่นยำของผากรองก็ได้ ไม่แน่ครั้งนี้ตาลหวานอาจจะต้องเข้าไปใช้ชีวิตอยู่ในไร่ขวัญตาเป็นการถาวรเลยก็ได้ ใครจะไปล่วงรู้อนาคต...
**************************