ตอนที่2 วันอะไร
ปึก!
“อ๊ะ!”
“อุ๊ย! พี่ไม่เห็นว่าน้องกำลังสวนมาน่ะ” อชิรญาโดนหญิงสาวรุ่นพี่ที่เคยบังคับให้เธอลงประกวดดาวคณะเดินมาชนเหมือนตั้งใจ กระเป๋าสะพายราคาแพงทรงสี่เหลี่ยมร่วงหล่นลงบนพื้น ส่งผลให้แป้งพัฟราคาแบรนด์ดังได้ออกมานอนแตกละเอียดแทบรองเท้าส้นสูงของรุ่นพี่
“อุ๊ย แป้งแตกละเอียดเลยของแพงซะด้วย”
“ไม่เป็นไรค่ะ” รุ่นน้องอย่างเธอทำได้เพียงก้มหน้ารับชะตากรรม วันนี้เพื่อนสนิทตัวดีดันท้องเสียเลยได้อยู่คนเดียวแบบหัวเดียวกระเทียมลีบ อชิรญานั่งลงเก็บตลับแป้งที่เนื้อมันกองอยู่บนพื้นด้วยความเสียดาย แต่คนชนกับพูดจาเย้ยหยันใส่
“เป็นถึงลูกสาวหมออธิปแค่นี้จิ๊บ ๆ มั้งคะ”
“...” แค่เพียงเธอไม่ทำตามใจรุ่นพี่ก็ต้องถูกเกลียด ผู้คนรอบ ๆ ก็เหมือนกำลังมองเธอเป็นตัวตลก บางคนแอบขำ บางคนก็เบะปากใส่ซึ่ง ๆ หน้า
“เธอชน ทำไมไม่ขอโทษ” เสียงทุ้มต่ำที่ดังขึ้นเหนือศีรษะทำให้หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมอง ชายหนุ่มที่สวมเสื้อช็อปของคณะวิศวะฯยืนอยู่ข้างหลัง สิ่งที่เด่นสะดุดสายตาไม่แพ้ใบหน้าที่ดูดีก็คือรอยสักไม้กางเขนที่ลำคอหนานั่น
“เจเลอร์ เราไม่ได้ตั้งใจซะหน่อย”
“เธอตั้งใจ” เขาตอกกลับเสียงเรียบ และมันทำให้หญิงสาวอ้าปากค้างอย่างคิดไม่ถึงว่าเขาจะกล้าหักหน้าเพื่อนรุ่นเดียวกันเพื่อรุ่นน้องหน้าซื่อ แต่ไม่ใสคนนี้
“นี่เจเลอร์ นายเข้าข้างยัยนี่เหรอ”
“ขอโทษ มันพูดยากเหรอวะพราว”
“ไม่เป็นอะไรค่ะพี่ อายไม่ได้เจ็บอะไร” เมื่อเธอยืน คนตัวสูงก็ก้มมองดวงตาสีน้ำตาลอ่อนตรงหน้านานหลายวินาที นี่คือครั้งแรกที่เขาได้มองเธอใกล้ ๆ และเธอก็เพิ่งได้มองใครนานขนาดนี้
“เห็นมั้ย น้องมันยังไม่ต้องการอะไรเลย”
“แป้งนั่นราคาเท่าไหร่” คนที่ตั้งใจชนอชิรญาหน้าเจื่อน ของแท้ราคาเท่าค่าขนมรายเดือนเธอเชียว
“ไม่เป็นอะไรจริง ๆ ค่ะ พี่เขาไม่ได้ตั้งใจ” หญิงสาวที่กลัวเสียเงินรีบปรี่ออกไปก่อนจะถูกเจเลอร์คาดคั้นให้ชดใช้ ในที่สุดเขากับเธอยืนกันอยู่สองคนท่ามกลางสายตาหลายสิบคู่
“มึง! พี่เจเลอร์เขาจะทำอะไรวะ” “เขาจะสนใจยัยนี่จริง ๆ เหรอ” “กูว่าแค่หลอกฟันสนุก ๆ”
“ขอบคุณมาก ๆ นะคะที่ช่วยอาย”
“เธอชื่ออายเหรอ”
“ชื่ออ๊ะอายค่ะ เรียกอายเฉย ๆ ก็ได้นะคะ” การที่เจเลอร์ทำท่าเหมือนสนใจเธอก็ดันเป็นเรื่องที่ถูกพูดถึงอย่างรวดเร็ว
“นาน ๆ จะเห็นเจเลอร์ออกล่า ปกติเหยื่อมาให้ท่าตลอด”
“เหยื่อตัวนี้ไม่น่าจะออกไปให้ท่าล่ะมั้ง ใคร ๆ ก็อยากได้เหยื่อใหม่ ๆ แบบนั้นกันทั้งนั้นน่ะ”
“ก็คงจะเอาเล่น ๆ หาเรื่องสนุกทำกันล่ะสิ” หญิงสาวคนหนึ่งพูดแทรกขึ้นมาหลังทาลิปสติกเคลือบกลีบปากอวบอิ่มเรียบร้อย เธอเป็นหนึ่งในคนที่เคยนอนกับเจเลอร์ แต่ไม่ได้ผูกมัด เพราะเขาไม่ให้ผูก
“ก็น่าจะจริง เสือร้ายอย่างนั้นใครจะเอาอยู่” “ก็อาจจะเป็นฉันมั้ง”
“ฮ่า ๆ เป็ดจมน้ำยังเป็นไปได้มากกว่า อย่ามั่นไปหน่อยเลย”
.....
ทันทีที่เรียนชั่วโมงสุดท้ายสิ้นสุดลงอชิรญาก็กดโทรไปแกล้งเพื่อนสนิท รอนานหลายนาทีจนเธอเดินถึงรถพอดีแสนดีจึงกดรับสาย เธอยืนพิงรถหรูของตัวที่เหลือจอดอยู่เพียงคันเดียวคุยกับเพื่อนก่อน
“ยัยแสนนะยัยแสนทิ้งฉันมาเรียนคนเดียวซะได้”
“โอ๋ ๆ ก็คนมันหมดแรงหนิ อย่างอนไปเลยนะเดี๋ยวพรุ่งนี้พาไปเลี้ยงไอติม”
“ฉันไม่ใช่เด็กนะ ไม่ต้องเอาไอติมมาล่อ”
“กินมั้ยล่ะ ร้านข้างม.น่ะ”
“...” หญิงสาวแกล้งไม่ตอบแต่มุมปากประดับด้วยรอยยิ้ม บอกให้รู้ว่าเธอไม่ได้โกรธจริง
“จะหกโมงแล้วนะ ยังอยู่ที่ม.อยู่เหรอ”
“ใช่ อาจารย์ไม่ยอมปล่อยสักทีน่ะสิ”
“รีบกลับเถอะ เห็นมั้ยว่าไม่มีใครอยู่แถวนั้นแล้ว”
“โอเค เดี๋ยวเจอกันนะ”
ติ๊ด
อชิรญากดรีโมตปลดล็อคประตูรถ แต่จังหวะที่เธอจะขึ้นดันเห็นความผิดปกติของยางด้านหน้า หญิงสาวอ้าปากค้าง กระพริบตามองมันปริบ ๆ แบนจนแม็กติดดินขนาดนี้จะทำยังไงดี เธอรีบเอาสมาร์ทโฟนออกมาจากรถที่เพิ่งโยนกระเป๋าเข้าไปเพื่อกดโทรหาคนที่พร้อมจะช่วยเหลือได้เสมอ
“ป๊า...”
“ทำไมยังไม่กลับเหรอครับ”
“อ๊ะ! พี่คะ” อชิรญาตกใจเมื่อมีเสียงทุ้มต่ำดังขึ้นจากด้านหลัง จนต้องหันไปมองอัตโนมัติที่ปนไปด้วยความระมัดระวัง เรียวคิ้วสวยขมวดมุ่นวันนี้เธอเจอผู้ชายที่สวมเสื้อช็อปอีกคนแล้ว? วันอะไรของเธอเนี่ย
“ป๊าคะรถของอายยางแบนค่ะ อยู่ที่มหาลัยรีบมานะคะ” ชายหนุ่มยังยืนรอคำตอบจากอชิรญา หญิงสาวเลือกที่จะไม่วางสายจากพ่อของเธอเพื่อความอุ่นใจ
“ยางก็ยังใหม่ ไปเหยียบอะไรมาหรือเปล่า”
“ไม่แน่ใจค่ะ เมื่อเช้ามันก็ยังปกติ”
“พี่ชื่อไมเคิล เรียกไมค์ก็ได้” หญิงสาวพยายามมองหาคนอื่น ๆ บริเวณนี้แต่ก็ไร้วี่แวว และนี่มันลานจอดรถของคณะบริหาร เธอไม่น่าจะเจอคนคณะอื่นตรงนี้
“พี่กับเพื่อนกำลังทำโปรเจ็คกันอยู่ที่อาคารนั้น เห็นเราอยู่คนเดียวเลยมาดูว่าเป็นอะไรหรือเปล่า มันจะมืดแล้วนะ” ไมเคิลชี้ที่อาคารเอนกประสงค์ด้านหลังของโรงจอดรถ เพิ่งเคยได้มองเธอในระยะใกล้ขนาดนี้ไม่น่าเชื่อว่าเหมือนมีแรงดึงดูดให้เขามองเธออย่างไม่อยากเอาสายตาไปมองทางอื่น
“ไม่ต้องกลัวพี่หรอก”
“เปล่ากลัวนะคะ อายรอป๊าอยู่น่ะค่ะกลัวจะไม่เห็น”
“ชื่ออายเหรอเรา”
“ชื่ออ๊ะอายค่ะ แต่เรียกอายเฉย ๆ ก็ได้” ไมเคิลยกยิ้มมุมปาก แอบใช้สายตาสำรวจรูปร่างของเธอผ่านชุดนักศึกษาที่ไม่ได้รัดรูปเท่าไรนัก ปีหนึ่งก็แบบนี้ ปีหน้ากระดุมคงแทบปริ