ตอนที่ 9 ชื่อตอน ในทุ่งหญ้า 25+

1475 คำ
เสี่ยวโซ่วหน้าแดงแต่ทว่านางคิดถึงหวงต้าเกอมาก ตลอดระยะเวลาหกเดือนนั้น นางทั้งห่วงทั้งคิดถึงหวงต้าเกอจนจะขาดใจตาย แม้มีผู้อื่นอยู่รอบกาย แต่นางกลับคล้ายจะมิอาจขาดหวงต้าเกอได้ไปเสียแล้ว เสี่ยวโซ่วกอดตอบกลับไปและหอมแก้มของบุรุษไปคราหนึ่ง ร่างหนาหน้าแดงซ่าน และกอดรัดนางจนแน่น บดแก่นกลางกายลงในกลางกายสาวและขบกัดที่ลำคอขาว ไล้เลียจนร่างสาวดิ้นเร่าหลับดวงตาลงด้วยความซ่านเสียว “อรื้อ หวงต้าเกอ อร้า” “เสี่ยวโซ่ว อา ข้ามิอยู่ตั้งหลายเดือนเจ้าได้ปันใจไปให้ผู้ใดหรือไม่ อา” “อรื้อ ข้าคิดถึงแต่ท่านเจ้าค่ะ” ยามสาวน้อยเอ่ยให้ชื่นใจเช่นนั้น ปากร้อนๆก็บดจุมพิต บดเบียดปลายลิ้นตวัดรัดพัวพันกับลิ้นนุ่ม จนร่างสาวครางฮือดิ้นเร่าบดยอดอกที่ชูช่อตั้งชันเข้ากับยอดอกตึงแน่น ร่างหนาครางฮือ ล้วงฝ่ามือลงในกลางกายสาวบดขยี้ตุ่มไตน้อยๆจนร่างบางดิ้นเร่า แลบปลายลิ้นออกมาจนสุดโคน “อร้า หวงต้าเกอ ข้าคิดถึงท่านคิดถึงกายของท่าน ตลอดหลายเดือนมานี้กายของข้าร้อนรุ่มไปหมด เป็นเพราะท่านผู้เดียว อร้า ซี้ด หวงต้าเกอ นิ้วของท่านมันชอนไชเข้าลึกเหลือเกิน อร้า” ใบหน้าคมดวงตาฉ่ำปรือ เร่งชอนไชปลายนิ้วถอนเข้าถอนออกระรัว จนร่างสาวแอ่นกายเด้งรับปลายนิ้วหยาบระคายไปจนสุดโคน ปากร้อนๆก็ดูดดึงยอดอกสาว จนร่างน้อยๆน้ำหวานแตกกระเซ็น เสียวโซ่วตาปรือ ยกวงแขนกอดรัดร่างแกร่งจนแน่น ร่างหนาดึงมือนางให้ลูบไล้ไปบนแก่นกายตนและเอนกายนอนลง หอบกายใจถี่ออกมาเบาๆ แอ่นกายตามฝ่ามือนุ่มๆของสาวน้อยอย่างหมดท่า เสี่ยวโซ่วเห็นเช่นนี้จึงจุมพิตลงไปที่แก้มอุ่นร้อนของบุรุษ ร่างหนาจดจ้องนางดวงตาวับวาวขึ้นมาเหมือนนักล่า กัดฟันขืนกายนางดุนดันปลายหัวทิ่มพรวดในกลีบเนื้อที่ปิดสนิทจนครึ่งลำ และบดคว้านแก่นกายกายบี้บดจนสาวน้อยดิ้นเร่าหวีดร้องลั่น “อร้า เจ็บเจ้าค่ะหวงต้าเกอ อร้า” กลีบเนื้อสาวตอดตุบๆบีบรัดท่อนเนื้อขนาดใหญ่จนแทบระเบิดพร่า หวงเกาเทียนกัดฟันแน่นเร่งสาวแก่นกายออกมาจนสิ้น และดันหัวมังกรเบ่งบานแข็งขึงสอดแทรกตื้นๆในกายสาว จนร่างน้อยๆน้ำหวานแตกกระเซ็น ดิ้นเร่าดวงตาเหลือกลาน กายสาวสั่นกระตุกถี่ๆ นางขยำขยี้เรือนผมตนเองอย่างบ้าคลั่ง น้ำตาหยาดหยดลงมาที่แก้มขาวนวลคล้ายไข่มุกเม็ดงามในยามต้องแสงทิวา ลิ้นน้อยๆแลบออกมาจนสุดโคน สั่นไหวระริก เสียวซ่านจนน้ำลายยืดหยดลงมาเป็นสายบางๆ เมื่อดวงตาคมมองเห็นเช่นนั้นก็คำรามลั่น ส่งแก่นกายร้อนระอุดุนดันสาวแก่นกายเข้าออกอย่างถี่กระชั้น ร่างสาวน้ำตารินดิ้นแอ่นกลีบเนื้อขึ้นหาอย่างทานทนมิได้อีก “แอร๊ย หวงต้าเกอข้าทานทนมิไหวแล้ว อรึ้ย แอร๊ย ทั้งเจ็บทั้งเสียวซ่านไปหมดแล้ว อรึ้ย อร้าย” ร่างหนาแทบคลั่ง ยามได้ลิ้มรสสัมผัสร่างกายสาวน้อยที่ตนเองคิดถึงอยู่ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา หวงเกาเทียนบดเบียดกายตนเองเชื่องช้าและแน่นหนัก ค่อยๆขยับโยกช้าๆจนร่างสาวดิ้นเร่าผวากอดรัดจนแน่น เสี่ยวโซ่วมิรับรู้สิ่งใดๆแล้ว นางเสี่ยวซ่านจนแทบจะขาดใจตายลงไปแล้ว กายหนาหนักสาวแก่นกายเข้าออกอย่างลึกล้ำ ก่อนจะกัดฟันแน่นและควบขย่มรุนแรงถี่กระชั้นจนร่างสาวน้ำแตกพร่า เสี่ยวโซ่วดิ้นเร่าสติหลุดลอยไปจนสิ้นหวีดร้องดังขึ้นมา “อร้าย หวงต้าเกอ อร้าย” “อร่า เสี่ยวโซ่ว อร่า เจ้าเป็นของเปิ่นหวางแล้ว อร่า” ร่างหนาแตกพร่าในกายสาว ขยับกอดรัดนางจนแน่น บดจุมพิตลงกับต้นคอขาวๆจนเป็นรอยแดงไปหมด เสี่ยวโซ่วหน้าแดงก่ำนางพยายามผลักกายแกร่งออก ร่างหนากดจุมพิตลงบนเรือนผมของนางเบาๆ และพลิกกายให้นางนอนบนร่างของตนเอง ก่อนจะลูบไล้ไปตามร่างสาวเบาๆ เอ่ยเสียงแหบพร่าขึ้นมา “เจ็บมากหรือไม่ หืม” เสี่ยวโซ่วค้อนควับและตีไปที่อกแกร่งเบาๆ สาดสายตาแง่งอนมาให้ หางตาของนางแดงเหมือนกระต่าย หวงเกาเทียนอดขำนางมิได้ จึงรัดนางเข้าในอกและห่อกายของนางด้วยผืนผ้าของตนเอง กดริมฝีปากร้อนๆลงบนแก้มสีคร้ามแดดน้อยๆและรวบนางเข้าในอกอีกครั้ง “อีกมินานกองทัพจะยกกลับไปที่เมืองหลวง ข้าจะต้องไปที่นั่นและจะนำเจ้าไปด้วย หากว่าเราฟื้นฟูเมืองหลวงได้แล้ว ข้าก็จะต้องกลับไปที่ทางเหนือ ที่นั่นนั้นมิอบอุ่นเช่นเมืองฝูหลิง แต่ทว่าข้าก็อยากนำพาเจ้าไปด้วยเหลือเกิน ไปกับข้านะเสี่ยวโซ่ว” เสี่ยวโซ่วน้ำตารื้นลงมาอีกครา นางพยักหน้าเบาๆร่างหนายิ้มให้นาง และดึงดอกไม้ในทุ่งหญ้าเสียบไว้บนเรือนผมของนาง และแย้มรอยยิ้มออกมาบางๆ ขบกัดใบหูขาวและส่งเสียงแหบพร่าออกมาพลัน “ยามที่ลิงน้อยของข้าเป็นสาวเช่นนี้แล้ว ข้าอยากจะนำเจ้าไปแอบไว้ในเรือน มิให้บุรุษใดๆมาพานพบเสียจริงๆเลยเสี่ยวโซ่ว” เสี่ยวโซ่วอายหน้าแดง นางหลุบดวงตาลงนิ่งเงียบไปมิกล้าตอบคำอันใด เพราะหลายเดือนมานี้เมิ่งเกอสอนนางให้อ่านเขียนอักษร ทั้งยังสอนมารยาทสตรีให้นางด้วย เพราะว่าในเมืองนี้มีทหารชั้นสูงมากมาย นางกลายเป็นพี่น้องของเหล่าทหารในเมืองนี้ เพราะทุกคราที่มีคนบาดเจ็บ ก็จะได้นางนี่ล่ะ ที่คอยป้อนข้าวและทำแผลให้ผู้คน มีทหารหนุ่มหลายคนนั้นแอบชอบพอนาง ก็มาสารภาพรัก ลงท้ายแล้วเมิ่งเกอและเล่อเกอก็ขู่ฟ่อๆ จนทหารเหล่านั้นกระเจิงไป อีกทั้งเมื่อยามที่หวงต้าเกอกลับมา ก็แสดงความเป็นเจ้าของในตัวนางอย่างชัดเจน หากมีบุรุษใดมิเคยคุ้นมายืนใกล้ๆนางเข้า หวงต้าเกอจะส่งสายตาอำมหิตใส่ และตามไปทุบตีคนจนหน้าปูดเลยทีเดียว เหล่าทหารน้อยจึงต้องล่าถอยไปและแอบมองนางได้อยู่เพียงไกลๆเท่านั้นเอง เสี่ยวโซ่วยิ้มน้อยๆและกอดร่างแกร่งจนแน่น บุรุษแต่งกายให้นางและถอดเสื้อผ้าไหมนุ่มลื่นของตนเองห่มคลุมให้นาง ก่อนจะให้นางขี่หลังไปเพราะรู้ว่ากายของนางนั้น คงเจ็บปวดอยู่มิน้อย ยามถึงเรือนพักของเหล่าแม่ทัพ หวงต้าเกอพาเสี่ยวโซ่วไปอาบน้ำในห้องนอนของตนเอง และออกไปนำอาหารมาให้นางถึงภายในห้องหอ ร่างหนาถอดเสื้อโยนไปพาดบนฉากไม้อันหนึ่ง และขยับมานั่งข้างนาง ก่อนจะอ้าปากให้นางป้อนข้าวอย่างออดอ้อนนัก เสี่ยวโซ่วหน้าแดงยามที่มองบุรุษเปลือยอกต่อหน้านาง ลมหายใจของบุรุษนั้นเฉียดผ่านนางไปจนร้อนรุ่มไปหมดแล้วในยามนี้ ร่างหนายิ้มจางๆและมิเอ่ยคำมากนัก ขยับหยิบมงกุฎขนนกเหยี่ยวสีเทาอมฟ้าที่วางข้างเตียงตน สวมใส่ให้นาง และหน้าแดงขึ้นมาน้อยๆ “ขนนกนี้มิมีราคาใดๆแต่ทว่าข้าตั้งใจทำมันขึ้นมาในระหว่างที่อยู่ในสนามรบ ข้าคิดว่าเจ้ายังซุกซนอยู่มิน้อย สวมใส่ขนนกเช่นนี้ก็คงได้หลายวันแน่ เจ้าอย่าลืมสวมมันให้ข้าดูชมเล่า” เสี่ยวโซ่วดีใจมากนางแย้มรอยยิ้มดีใจขึ้นมา และก้มลงให้บุรุษสวมใส่มงกุฎขนนกให้นาง หวงเกาเทียนหน้าแดงใช้มือหนึ่งถูจมูกตนเองเบาๆ และเร่งสวมใส่มงกุฎขนนกให้นาง ก่อนจะดึงนางรัดในอกตน ทันทีที่มองแล้วว่านางนั้นน่ารักเหลือเกิน เอ่ยออกมาอย่างห้ามใจตนเองมิได้เลย “อา เจ้าสวมใส่สิ่งใดก็น่ารักนัก เสี่ยวโซ่ว”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม