ตอนที่10 สองต่อสอง2

810 คำ
เจิ้งเหมยดิ้นรนฮัดฮัดในอ้อมกอด จินเฉิงอู่กดคางลงบนไหล่บางจงใจให้เจิ้งเหมยรู้สึกเจ็บ "อย่าดิ้น" ยังแกะมือข้างที่กอดออกจากเอวไม่ยอมฟังคำเตือน "ท่านอ๋อง ปล่อย" "เจ้า มันก็แค่สาวใช้ เช่นไรกล้าออกคำสั่งกับข้า" ใบหน้าเศร้าสร้อยกับคำกล่าวนั้น แต่ยังไม่อยู่นิ่ง ดึงบังเ**ยนให้ม้าหยุดวิ่งปล่อยให้ม้าเหยาะย่างตามใจดึงรั้งเอวบางชิดเอวหนา "อย่างไร อยู่กับข้าสองต่อสองกล้าดีอย่างไรถึงกล้าไม่ฟังคำสั่ง" เกยคางลงบนไหล่บางปล่อยให้สันจมูกโด่งเลาะเล็มอยู่ข้างแก้ม "เจิ้งเหมยเป็นเพียงสาวใช้ท่านอ๋องได้โปรด…." พูดได้เพียงแค่นั้นจินเฉิงอู่เอี้ยวตัวใช้ปากอุ่นประกบปากบาง บดขยี้อย่างที่ไม่อาจหักห้ามใจมือใหญ่ช้อนรับที่ต้นคอระหงตรึงไว้กับที่ไม่ให้ขยับบรรจงจูบจนหนำใจ จึงปล่อยเจิ้งเหมยเป็นอิสระทั้งที่เสียดายรสจูบหอมหวานนั้นเหลือเกิน แต่เจิ้งเหมยกลับอ่อนระทวยในอ้อมแขน ทั้งเขินอายและตกใจ "คราวนี้คงอยู่นิ่งได้เสียที" จินเฉิ้งอู๋ยิ้มอย่างผู้ชนะ สวมกอดแนบแน่นกระตุกบังเ**ยนม้าให้ทะยานไปข้างหน้า …..บ้านตระกูลเจิ้ง….. ฮูหยินตะกูลเจิ้ง และเจิ้งหมิงพี่สาวร่วมบิดากับเจิ้งเหมย ออกมารับจินเฉิงอู่หน้าบ้าน แปลกใจไม่น้อยเมื่อเห็นเจิ้งเหมย อยู่บนหลังม้ากับท่านอ๋องห้า "ข้าฮูหยินตระกูลเจิ้ง คารวะท่านอ๋องห้า" ลงจากหลังม้าเจิ้งเหมยก็กำลังจะหย่อนตัวลง จินเฉิงอู่กลับใช้แขนแข็งแรงช้อนอุ้มเจิ้งเหมยไว้ในอ้อมแขน แล้ววางลงข้างๆ เจิ้งเหมยหลบตาฮูหยินใหญ่ที่มองอย่างไม่พอใจนัก "ท่านแม่ ไหนท่านพ่อบอกว่านางเป็นเพียงสาวใช้ในจวนอ๋อง" เจิ้งหมิงกระซิบมารดาเบาๆ ฮูหยินใหญ่ใช้ศอกกระทุ้งที่สีข้างเจ้งหมิงเบาๆ "ท่านอ๋อง ใต้เท้าเจิ้งหารือกับฝ่าบาทยังไม่กลับจากวังหลวง เชิญท่านอ๋องในห้องรับรอง" เจิ้งเหมยหยุดนิ่งตั้งใจให้จินเฉิงอู่เข้าไปก่อนแต่จินเฉิงอู่คว้าแขนพาเดินเคียงข้าง โอบรอบไหล่บางพาไปนั่งในที่สูงสุดเคียงข้างเขา มีหรือเขาจะไม่เคยรู้เรื่องของนาง ในเมื่อเขาเพิ่งให้คนสืบค้นความเป็นไปของเจิ้งเหมยก่อนเข้าวัง "ข้าแค่แวะมา พา...เสี่ยวเหมยกลับบ้านสักครั้งตั้งแต่เข้าวัง นางยังไม่เคยกลับมาเยี่ยมตระกูลเจิ้ง" "ท่านอ๋องช่างใส่ใจ รู้ความต้องการของนาง" ฮูหยินพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน "ชายาเอกของท่านอ๋องก็เป็นบุตรีของใต้เท้าตู้หนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่มีความสำคัญไม่น้อยในการกุมกำลังทหาร แต่เสี่ยวเหมยของเราเพียงแค่ลูกของอนุของท่านเจิ้ง ชึ่งมีหน้าที่ดูแลเพียงงบประมาณในคลังหลวง ท่านอ๋องก็ยังปราณีใส่ใจนางอย่างดีเช่นกัน นับว่าที่ได้ยินเสียงร่ำลือเกี่ยวกับความเป็นอยู่ของเสี่ยวเหมยหากไม่เห็นด้วยตาตัวเองยากจะเชื่อได้ทีเดียว" จินเฉิงอู่ยิ้มที่มุมปาก "ตอนนี้นางอาจเป็นเพียงสาวใช้ แต่ต่อไปภายหน้าใครจะหยั่งรู้" ฮูหยินเหมือนจะยอมจำนน "เสี่ยวเหมย แม่ใหญ่ให้เจ้าอยู่ที่นั่นคอยปรนนิบัติท่านอ๋องให้ดี จึงจะถือว่าช่วยเหลือตระกูลเจิ้งได้มากทีเดียว" แสร้งพูดดีทั้งที่ใจจริงริษยาเจิ้งเหมยไม่น้อยเมื่อเห็นว่าจินเฉิงอู่มีท่าทีรักใคร่ห่วงใยเจิ้งเหมยถึงเพียงนั้น "เจิ้งเหมยจะจำใส่ใจ ฮูหยินใหญ่อย่าได้กังวล" กล่าวรับคำพูดในสิ่งที่ฮูหยินใหญ่อยากได้ยิน ส่งเจิ้งเหมยขึ้นบนหลังม้ากระโดดขึ้นคร่อมกระตุกบังเ**ยนออกมาจากบ้านตระกูลเจิ้ง เมื่อเข้าสู่ชายป่า แทนที่จะเร่งฝีเท้าม้ากลับปล่อยให้ม้าเหยาะย่างไปตามทางอย่างช้าๆ เหมือนจะหยุดเวลาไว้ เจิ้งเหมยขยับตัวออกห่างมือใหญ่กับรั้งเอวกิ่วเข้าหาลำตัว "เจ้ายังไม่เข็ดหรือว่าติดใจรสจูบกันแน่"ยิ้มยียวน "ท่านอ๋อง ในเมื่อแสดงละครจบแล้วก็อย่าทำแบบนี้อีกเลย" เจิ้งเหมยเข้าใจว่าทุกอย่างเป็นเพียงหนึ่งในแผนการที่มีเจิ้งเหมยอยู่ในแผนการนั้น จินเฉิงอู่อดขำกับความคิดของเจิ้งเหมยไม่ได้ "เจ้าเล่า... รอยยิ้มของเจ้าในวังหลวงในวันนั้นเป็นการแสดงละครหรือไม่ หรือว่าดีใจที่ได้เข้ามาอยู่....ในจวนอ๋อง..มีโอกาสได้ใกล้ชิดข้า อย่างที่เจ้าต้องการแต่แรก"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม