ไอ้หมอเพื่อนรัก

1202 คำ
ตอนที่ 4 “ใช่ เพราะฉันก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน นายรู้ไหมว่าหริรักษ์ หรือไอ้รุจน์มันกลับมาแล้ว คราวนี้ล่ะ ถือว่าฉันเจอศึกหนักทั้งสองด้าน เลยล่ะกร เพราะแม่กับลูกนั้นก็ร้ายกาจไม่แพ้กันเลยทีเดียว ฮึ แต่เจ้ารุจน์อาจจะร้ายกว่าแม่ก็ได้” เมื่อเขาครุ่นคิดเรื่องนี้แล้วเอ่ยตอบเพื่อน จามิกรจึงตบบ่าเพื่อนรักเบาๆบอกว่า “เพราะฉะนั้นฉันก็คิดว่า คราวนี้นายจะต้องระมัดระวังตัวให้มากที่สุด นะกิ้น รู้ไหมชีวิตของนาย อาจจะไม่ปลอดภัยนักในช่วงนี้” และกัลย์กฤษณ์เหมือนจะรู้ตัวดีเช่นกัน เขาจึงพยักหน้ากับเพื่อนรัก แล้วไม่นานจากนั้น ทั้งสองต่างฝ่ายต่างก็แยกย้ายกัน เพราะกัลย์กฤษณ์ คิดว่าเขาจะเข้าไปเดินสำรวจดูงานในไร่ซึ่งมันอยู่เลยลึกเข้าไปอีก เพื่อช่วยเหลืองานแทนมารดาของเขา ที่ท่านนั้นก็ควรที่จะพักผ่อนร่างกายเสียบ้าง ทำงานตรากตรำมาตลอด เพราะในตอนนี้ เขาก็ได้กลับมาอยู่ที่นี่แล้ว เพื่อจะมาสานต่อกิจการ ที่ถือว่าทั้งหมดนั้นมันจะต้องเป็นมรดกตกทอดสู่เขาเพียงผู้เดียว และในขณะนี้นั้นเพียงปัทม์ซึ่งหล่อนถือว่าได้รับคำสั่งจากคุณธิดาผู้เป็นป้าท่านให้หล่อนเตรียมเดินทางเพื่อจะไปดูแลที่พักหลังใหม่ซึ่งกำลังจะสร้างขึ้นหลังจากที่กว้านซื้อที่ดินเก็บเอาไว้เพื่อทำเป็นรีสอร์ทท่องเที่ยว เพื่อเป็นรีสอร์ทกึ่งโรงแรม และมีลักษณะเป็นโฮมสเตย์ให้ชาวต่างชาติพักอาศัยด้วยอยู่ที่ ณอำเภอหนองบัวแดง และในคราวนี้เมื่อหล่อนนั้นเรียนจบมาจากสาขามนุษยศาสตร์สาขาการโรงแรมท่องเที่ยว แล้วได้มาทำงานตรงนี้ ที่ถือว่าแม้มันไม่ตรงกับสาขาและสายงาน เพราะหล่อนไม่ได้เกี่ยวข้องอยู่กับงานมัคคุเทศก์หรือพนักงานประชาสัมพันธ์ในโรงแรม หากแต่ต้องมาเป็นผู้จัดการในไร่และโรงแรมกึ่งรีสอร์ทของคุณป้านั่นเองที่อำเภอแห่งนี้ แต่ว่าสำหรับเพียงปัทม์หรือน้องพาวน์นั้น หล่อนถือว่า ห่างไกลเช่นนี้ มันทุรกันดารพอสมควรล่ะก็เพราะบ้านเกิดของหล่อนอยู่ที่ตัวเมืองในจังหวัดนครราชสีมา หากแต่กลายเป็นว่าเพียงปัทม์ต้องทิ้ง ทางนั้นเพื่อมาอาศัยและพักอยู่ที่นี่แบบเป็นทำงานประจำไปเลย นั่นเพราะคำสั่งของคุณป้า ที่ไร่แห่งใหม่ในหนองบัวแดงเป็นเพราะคุณป้าขอร้องมานั่นไง ซึ่งหากหล่อนก็ต้องรับคำสั่งของคุณธิดาอย่างง่ายๆ เพียงเพราะความเป็นป้าหลานกัน ซึ่งท่านขอร้องและไหว้วานตัวหลานสาวนั้น ผ่านทางบิดาของหล่อน เลยทำให้เพียงปัทม์นั้นก็ยากที่จะปฏิเสธ และก่อนวันเดินทางที่จะมาถึงที่นี่นั้น ก็มีนายนิรุตและคุณโฉมนภา ผู้เป็นบิดาและมารดา ท่านทั้งคู่เป็นคนเดินออกมาส่งลูกสาวอย่างหล่อนที่หน้าบ้าน และเมื่อคณะรถตู้ของคุณธิดานั้นได้เดินทางมาถึง เพื่อจะจัดส่งให้เพียงปัทม์ได้ไปอยู่ที่หนองบัวแดง มารับตัวพร้อมด้วยข้าวของสัมภาระที่จำเป็นขึ้นรถไปด้วย หากเรื่องนี้นั้นนางโฉมนภากับสามีก็วางใจแม้จะรู้สึกอาลัยเพราะความคิดถึง ที่ลูกสาวต้องจากอ้อมอกไปทำงานไกล ก็เพราะเพียงปัทมนั้นเป็นหลานสาวเพียงคนเดียวของคุณธิดาก็เลยทำให้เธอเชื่อแน่ว่าคุณธิดาคงให้ความสำคัญกับลูกสาวของเธอเป็นอย่างมาก เพราะรักหลานสาวคนนี้ แม้ว่าท่านจะมีบุตรชายเพียงคนหนึ่งก็ตาม ที่ชื่อ หริรักษ์ ที่คุณโฉมนภาทราบว่า ลูกชายของท่านหรือหลานชายของนางกับสามีเพิ่งสำเร็จคณะแพทย์ และได้เป็นคุณหมอมือใหม่ “นี่นึกแล้ว มันก็ใจหายเหมือนกันนะคะคุณ ที่จู่ๆนั้นลูกสาวเราก็พลัดออกไปจากอกอย่างนี้ ไปอยู่เสียที่อื่น..หากนี่ไม่ใช่เป็นเพราะพี่สาวของคุณนั้น ดิฉันเห็นทีจะไม่ยอมแน่ค่ะ คุณนิรุตน์” คุณโฉมนภานั้นเธอทำงานเป็นข้าราชการครู และสอนเด็กชั้นมัธยม ส่วนท่านสามีเป็นข้าราชการกรมที่ดินของจังหวัด ซึ่งทั้งคู่มีเพียงบุตรสาวเพียงคนเดียวที่เป็นแก้วตาดวงใจและไม่มีบุตรอีกแล้ว เพราะทำหมัน ดังนั้นเพียงปัทม์จึงเป็นยิ่งกว่าแก้วตาดวงใจของทั้งคู่ เมื่อคุณโฉมนภานั้นลองถามความสมัครใจของลูกสาวและลองสอบถามเอากับบุตรสาวนั้น ฝ่าย เพียงปัทม์ก็ตอบตกลง “ตกลงค่ะคุณแม่เพื่อคุณป้าสุดที่รักของหนูพาวน์ตกลงจะไปค่ะ ก็ในเมื่อที่นั่น ก็มีคนของคุณป้าออกจะเยอะแยะ หนูไม่กลัวอะไรหรอกค่ะ” หากว่าทีแรก คุณโฉมนภานึกว่าบุตรสาวคนเดียวจะปฏิเสธไปด้วยซ้ำ นางก็เลยมีอาการไม่พอใจเล็กน้อยเพราะรักลูกสาวคนเดียวเหมือนกัน ที่ลูกสาวนั้นมาเห็นคนอื่นดีกว่าแม่อย่างเธอ “แหมนี่แม่ก็นึกว่าแกจะปฏิเสธป้าของแกนะยัยพาวน์” เลยทำให้คุณโฉมนภานั้นบ่นขึ้นกับ ลูกสาว หากแต่เพียงปัทม์ก็หันมายิ้มให้อย่างปลอบใจมารดา “แหมคุณแม่อย่าว่าอย่างโน้นอย่างนี้สิคะในเมื่อคุณป้ามาขอร้อง ก็เลยทำให้พาวน์นั้นอยากจะลองไปทำงานให้ท่านสักระยะหนึ่ง แต่พอได้คนใหม่แล้ว และอยู่สอนงานจนคล่องดีแล้ว เสร็จสรรพจากนั้น พาวน์ก็จะกลับมาอยู่กับแม่เหมือนเดิมให้แม่เบื่อไปเลยนี่ล่ะค่ะ” แต่ครั้นเมื่อเห็นเงื่อนไขของบุตรสาวแล้วนางก็พยักหน้ารับ อย่างยินยอม และก็ปล่อยวาง เมื่อสามีเองก็เห็นด้วยและไม่ทัดทานที่ เพียงปัทม์ไปทำงานไกลถึงที่นั่น แต่คิดว่าระยะเวลาที่ผ่านไปก็คงจะไม่นาน จากนั้นนางก็ถอนใจหากแต่ยังไม่วายห่วงลูกสาวเช่นเดิม “นี่ ถ้าไปอยู่โน่นแล้ว แม่ก็ขอให้ดูแลรักษาเนื้อรักษาตัวให้ดีด้วยล่ะ แม่ไม่ได้อยู่ชิดใกล้กับหนูเหมือนเดิมด้วยแล้วยัยพาวน์” “โธ่ แม่คะ ในเมื่อโทรศัพท์ก็มี และถ้าแม่คิดถึงพาวน์ ล่ะก็ แม่ก็โทร. มาหาหนูได้ตลอดเวลาเลยค่ะ” “ย่ะ”คุณโฉมนภาเลยกระแทกน้ำเสียงใส่เป็นคำตอบให้บุตรสาว “นี่ แล้วยังไงละก็ พาวน์ก็อย่าลืมโทร.มาหาแม่บ่อยๆ นะ ลูก เพราะแม่เหงา แม่คิดถึงลูก” “ค่ะ แม่” จากนั้นคุณโฉมนภาที่เริ่มจะน้ำตาไหลคลอออกมาด้วยความคิดถึงลูกสาวคนเดียวที่จะจากไปไกลเช่นนั้น โดยที่สองแม่ลูกนั้นก็ไม่เคยห่างไกลกันอย่างนี้มาก่อน แม้ข้ามจังหวัดก็ตาม และถึงนครราชสีมากับชัยภูมิไม่ได้ไกลกันมากมาย หากแต่นางก็คิดถึงบุตรสาว “พ่อ ก็คิดถึงหนูเช่นกัน ยัยพาวน์”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม