หลังจบเรื่องพูดคุยแล้ว หลี่น่าก็แบกถังสองถังขึ้นบนบ่าเดินกลับบ้านพร้อมกับหนิงเซียนที่ถือถังน้ำเล็กๆเดินตามต้อยๆจนถึงบ้าน หลี่น่าและหนิงเซียนเดินไปแบกน้ำกันสามรอบเพื่อมาเติมน้ำในบ้านให้มากพอใช้
รอบสุดท้ายที่แบกมาถึงบ้าน เด็กน้อยหนิงเซียนก็เหนื่อยหอบ นั่งลงพักอย่างหมดแรง หลี่น่าเห็นลูกสาวเหนื่อยจากการช่วยแบกน้ำก็เดินเข้าไปหยิบนมกล่องรสช็อคโกแลตมาให้เป็นรางวัล
"อะไรหรือเข้าคะท่านแม่"
"นมรสช็อกโกแลต อร่อยนะเซียนเอ๋อร์ต้องลองกินดู แม่ให้เป็นรางวัลที่วันนี้เซียนเอ๋อร์ช่วยแม่แบกน้ำตั้งหลายรอบ"
"จริงหรือเจ้าคะ! เซียนเอ๋อร์ขอบคุณท่านแม่เจ้าค่ะ" หนิงเซียนกล่าวขอบคุณอย่างดีใจและรับนมกล่องนั้นมาแต่ไม่รู้ว่าต้องกินอย่างไร หลี่น่าจึงสาธิตให้ดูและยื่นให้ หนิงเซียนรับมาและดูดที่หลอดของกล่องพอได้ชิมรสชาติแปลกใหม่ก็รู้สึกตื่นใจกับรสชาติที่ช่างอร่อย ของขวัญที่ท่านแม่มอบให้มันช่างวิเศษจริงๆ หนิงเซียนไม่เคยกินน้ำอะไรอร่อยเท่านี้มาก่อนจึงดูดกินจนหมดกล่อง
"ท่านแม่มันอร่อยมากเลยเจ้าค่ะ เซียนเอ๋อร์จะช่วยท่านแม่ทุกวันแล้วท่านแม่จะให้รางวัลเป็นสิ่งนี้หรือไม่เจ้าคะ" เด็กน้อยเข้าไปประกบอ้อน หลี่น่าระบายยิ้มอ่อนโยน
"มันมีจำกัด แต่มันจะเป็นของเซียนเอ๋อร์หากอยากกินก็ไปหยิบเอาได้เลยแต่วันนี้กินไปแล้วไว้กินอีกกล่องวันอื่นนะ" แม้จะเป็นของโปรดของนางแต่ยกให้เด็กน้อยคนนี้ก็ไม่เป็นอะไรหรอกในเมื่อเด็กน้อยชอบ
"เจ้าค่ะท่านแม่ แล้ววันนี้ท่านแม่จะออกไปหาอาหารในป่าอีกหรือไม่เจ้าคะ"
"ไม่แล้วล่ะ วันนี้เราแบกน้ำกันหลายรอบมาก แม่เองก็เหมื่อยล้าเหมือนกันเพราะฉะนั้นวันนี้เราจะนอนพักผ่อนกัน" ความจริงแล้วนางไม่กล้าเข้าป่าต่างหาก ไม่รู้ว่าในป่าจะมีอะไรบ้าง หากเจอสัตว์ดุร้ายจะทำอย่างไรนางไม่มีความรู้เอาตัวรอดในทางนี้เลย
ในระหว่างที่หลี่น่าและลูกสาวตัวน้อยกำลังจะนอนพักสายตาก็มีเสียงเรียกที่หน้าบ้านเสียก่อน
"หลี่น่า เจ้าอยู่บ้านหรือไม่" เสียงเรียกของสตรีที่ไม่คุ้นเคยทำเอาหลี่น่างุนงง นางไม่รู้ว่าเป็นใครและรู้จักสนิทชิดเชื้ออะไรกันมากหรือไม่ จึงยังไม่เดินออกไปแต่ต่างกับเด็กน้อยอย่างหนิงเซียนที่พอได้ยินก็หูพึ่งยกยิ้มดีใจและวิ่งก้าวสั้นๆออกไปหาผู้ที่ส่งเสียงร้องเรียกทำให้หลี่น่าต้องเดินตามออกไปด้วย
"ท่านป้าซือถิง!" หนิงเซียนร้องเรียกด้วยเสียงสดใสเมื่อพบเจอใบหน้าอันคุ้นเคยที่ห่างหายไปหลายวัน
"เป็นอย่างไรบ้าง ป้าไม่อยู่หลายวันเจ้าเหงาหรือไม่เซียนเอ๋อร์"
"เหงานิดหน่อยเจ้าค่ะท่านป้า ท่านป้าไปนานหลายวันต้องเหงาแย่เลยไม่มีข้าเล่นด้วย"
"เหงาสิ ป้าน่ะคิดถึงเซียนเอ๋อร์มากเลย ป้านำขนมมาให้เซียนเอ๋อร์ด้วยนะ เดี๋ยวท่านลุงซือฉีจะเอามาให้เจ้ารอก่อนนะ"
"ขอบคุณเจ้าค่ะท่านป้า"
หลี่น่ามองภาพทั้งสองที่ดูสนิทสนมกันดี แล้วอย่างนี้ท่านป้าซือถิงที่หนิงเซียนเรียกขานจะรู้หรือไม่ว่านางไม่ใช่หลี่น่าตัวจริง
"เจ้าเป็นอะไรไปหลี่น่า ยืนเงียบเชียว แต่จะว่าไปวันนี้ข้าก็มีเรื่องพูดคุยกับเจ้าพอดีเลย" ซือถิงเอ่ยถามเห็นหลี่น่ายืนเงียบมาตั้งแต่เดินออกมาแล้ว
"คุยกับข้าหรือ?" นางจะถูกจับได้หรือไม่ว่าไม่ใช่ตัวจริง และจะมาคุยอะไรกับนาง นางจะคุยด้วยได้หรือ หากเป็นเรื่องที่หลี่น่าตัวจริงกับซือถิงรู้กันอยู่สองคนล่ะนางจะไปคุยไปตอบไปได้อย่างไร หลี่น่าคิดวิตกกังวลแต่พยายามไม่ให้สีหน้าแสดงออกว่ากำลังกังวลอยู่
"ใช่สิ ..เซียนเอ๋อร์เดี๋ยวป้าขอคุยกับแม่เจ้าสักประเดี๋ยวนะ หากเจ้าหิวก็เดินไปหาท่านลุงซือฉีเลยก็ได้ ท่านลุงเจ้ากำลังขนของจากรถเทียมลาอยู่"
หนิงเซียนพยักหน้ารับและออกจากบ้านไปยังหน้าบ้านข้างๆที่มีสิ่งที่เรียกว่ารถเทียมลักษะเป็นเหมือนกล่องสี่เหลี่ยมที่ทำจากไม้และมีลาตัวหนึ่งอยู่ด้านหน้าเป็นลาที่ใช้สำหรับลากรถเทียมที่ส่วนใหญ่ชาวบ้านจะใช้ขนสัมภาระต่างๆเวลาเดินทางหรือไว้นั่งสำหรับคนเดินทางไกล และใกล้ๆนั้นมีท่านลุงซือฉีกำลังยกของลงจากรถเทียมลา หนิงเซียนเห็นดังนั้นจึงเข้าไปช่วยยกของที่นางพอจะยกได้เข้าบ้าน
ทางด้านหลี่น่าและซือถิงก็เข้าไปนั่งคุยที่ในบ้าน
"นี่หลี่น่าเรื่องที่เจ้าขอให้ข้าช่วยน่ะ ได้เรื่องแล้วนะ" ซือถิงเอ่ย
เรื่องที่ขอให้ช่วย? นางไม่รู้ว่าเรื่องอะไรแล้วควรจะเอ่ยตอบเช่นไร จึงได้แต่ยิ้มตอบไปก่อน
"ดีใจใช่หรือไม่ ข้าก็ดีใจกับเจ้าด้วยเช่นกันได้งานนี้ทำแล้วเจ้าจะได้ไม่ต้องออกไปหาอาหารในป่าอีก แม้จะต้องมากเสียหน่อยแต่ก็ยังดีกว่าออกไปหาอาหารในป่าเกิดเจอพวกสัตว์ร้ายจะทำอย่างไร ข้ากับซือฉีก็ไม่ได้ว่างไปหาอาหารกับเจ้าในป่าตลอด ได้งานนี้มาข้าเองก็สบายใจเหมือนกัน" ซือถิงเอ่ยอย่างที่คิด
ตัวซือถิงนั้นรู้จักกับหลี่น่ามาตั้งแต่หลี่น่ายังอยู่กับสามีจนสามีของหลี่น่าทิ้งไป ทิ้งให้หลี่น่าเลี้ยงลูกเพียงลำพัง ตัวนางเองก็เป็นเพียงชาวบ้านเช่นกันคราแรกก็ออกไปหาอาหารในป่าเช่นเดียวกับหลี่น่าแต่พอตั้งท้องลูกคนแรกซือฉีสามีของนางก็ไปของานกับญาติที่รู้จักจนได้งานให้อาหารม้าเก็บมูลม้าที่โรงเตี๊ยมแห่งหนึ่งในเมืองหลวงสลับไปทำวันเว้นวันกับคนงานอีกคน ส่วนนางก็เพิ่งท้องไม่กี่เดือนสามารถทำงานได้บ้างเล็กน้อยเข้าเมืองไปครั้งนี้จึงไปมองหางานและเจอร้านผ้าแห่งหนึ่งที่ประกาศรับคนเย็บปักผ้าเช็ดหน้า นางเลยไปสอบถามมาให้หลี่น่าเพราะก่อนจะเข้าไปเมืองหลวงหลี่น่าวานนางให้ช่วยหางานในเมืองให้เพราะอยากมีรายได้ และตัวซือถิงเองก็อยากทำเช่นกันแม้จะท้องอยู่แต่ก็เพิ่งจะไม่กี่เดือนยังสามารถทำได้ หากมีรายได้ตรงนี้ก็แบ่งเบาภาระให้สามีได้บ้าง
"งาน? งานอะไร" หลี่น่าตัวจริงคนนั้นก็มีความคิดดีเหมือนกันที่ฝากคนอื่นให้ช่วยหางานให้ แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นงานอะไรแล้วนางจะทำได้หรือไม่
"ที่ในเมืองมีประกาศว่ารับคนเย็บปักผ้าเช็ดหน้า ข้าไปสอบถามมาแล้วนะที่ร้านนั้นต้องการคนมากหากสนใจต้องไปสมัครเองที่นั่นเพราะเถ้าแก่เนี้ยจะดูฝีมือว่าใช้ได้หรือไม่ หากใช้ได้ก็จะให้อุปกรณ์และผ้ามาทำไม่ต้องไปนั่งทำที่ร้าน รับเงินตอนนำผ้าเช็ดหน้าไปส่ง"
"แต่ค่าจ้างมันอาจจะได้น้อยนะหลี่น่า ได้แค่ผืนละสองอีแปะเอง แต่ข้าว่าก็ยังดีกว่าไปหาของในป่าทุกวันนะ"
"สองอีแปะ แล้วสองอีแปะมันสามารถซื้ออะไรได้บ้างหรือ"
"ก็อย่างน้ำตาลปั้นอย่างไร แต่ใช่ว่าเจ้าจะทำส่งผืนเดียวเสียเมื่อไหร่ หนึ่งครั้งให้ทำส่งสิบผืนก็จะได้ยี่สิบอีแปะเลยนะ ยิ่งเจ้าทำได้เร็วและไม่ผิดพลาดก็จะได้เงินเร็วขึ้น"
"แล้วหากทำผิดพลาดล่ะ"
"ก็จะโดนหักเงินออกน่ะสิ ตอนนี้ก็มีแค่งงานนี้แหละหลี่น่าหากเจ้าสนใจวันพรุ่งนี้ซือฉีต้องเข้าเมืองไปทำงานอยู่แล้วก็ติดรถเทียมลาไปพร้อมกันเถอะ ส่วนขากลับเจ้าคงต้องเดินกลับนะหลี่น่าเพราะซือฉีไม่ว่างมาส่งเพราะซือฉีเลิกงานดึกและไม่กลับหมู่บ้านในกลางคืนจะกลับก็รุ่งเช้าและข้าก็ไม่ได้ไปด้วย แต่ก็ไม่ต้องกลัวนะมีพวกชาวบ้านทั้งในหมู่บ้านเราและหมู่บ้านอื่นเดินไปๆมาๆที่เมืองหลวงบ่อย ขากลับเจ้าก็เดินเกาะกลุ่มกับพวกชาวบ้านนั้นกลับมาก็ได้" ซือถิงเอ่ยบอก
งานปักผ้าเช็ดหน้า เรื่องงานฝีมือนางไม่ถนัดนักแต่ก็พอถูไถไปได้คงต้องลองไปสมัครดูก่อนว่าจะได้ทำหรือไม่ หากไม่ได้จะได้มองหางานใหม่ทันที หวังว่าจะมีงานที่นางพอถนัดบ้างหากไม่ได้งานปักผ้าเช็ดหน้า ส่วนการเดินกลับนั้นคงไม่ยากอะไรเพราะซือถิงบอกเองว่ามีชาวบ้านเดินทางไปๆมาๆตลอด นางจะคอยเกาะกลุ่มเดินกลับกับชาวบ้านเอง หวังว่าคงไม่เกิดเรื่องอะไร