รามิลกลุ้มใจจริงๆ
“พี่รามิลไม่เคยรู้อะไรหรอก คิดว่าอยากแค่เอาชนะหรือไง... ลูกตาลจะบอกว่าไม่อยากเอาชนะพี่รามิลอย่างเดียวหรอก... ลูกตาลแค่อยากได้คนที่อยู่ด้วยตลอดชีวิต ก็บอกแล้วไงว่าทำไม่ได้ ก็อย่ามาขวางทางลูกตาลกับอาเหม็ด”
“โธ่เว้ย” รามิลสบถเสียงดัง...
“ลูกตาลยังไม่โตพอที่จะสะกดคำว่าแต่งงานถูกเสียด้วยซ้ำ... ไม่กี่ปีก่อน ยังดูดนมจากขวดนมอยู่เลย... วัยอย่างลูกตาลไม่ควรคิดถึงเรื่องแบบนี้... การแต่งงานคือการเอาชีวิตทั้งชีวิตของเราไปผูกกับใครคนหนึ่ง... แต่งแล้วก็แต่งเลย ถ้าพลาดไปแล้วจะมาแก้ไขมันก็ไม่เหมือนเดิม การแต่งงานแต่ละครั้งจึงต้องไตร่ตรองอย่างยาวนาน ไม่ใช่แค่คิดชั่ววูบเข้าใจไหม”
“ลูกตาลคิดดีแล้ว”
รามิลกุมขมับ ชักปวดหัวกับแม่เด็กดื้อ...
ถ้าเป็นคนอื่น เขาอาจจะตะโกนบอกว่า อยากแต่งโดยไม่คิดก็แต่งไปเลย จะแต่งกับใครก็แต่งไป เขาจะไม่ยุ่งด้วยแล้ว...
แต่นี่หล่อนคือวชิตารีย์ เป็นลูกผู้มีพระคุณของเขา... เขาจะนิ่งดูดายได้อย่างไร...
แล้วปัญหาเรื่องนี้ ทางออกทางเดียวคือเขาต้องแต่งงานกับหล่อน... ไม่ง่ายสักนิด สำหรับเขา สำหรับคนอื่น แต่ง่ายนิดเดียวสำหรับหล่อน...
นี่มันแต่งงานนะ... หล่อนจะคิดให้มากกว่านี้นักไม่ได้หรือไง...
ถ้าใครเจอปัญหาแบบเขา จะหาทางออกได้อย่างไร... นอกจากวิ่งเอาหัวไปโขกกำแพง เขาอยากรู้เสียจริง...
“ลูกตาลไปนอนก่อนนะคะเพราะว่าพรุ่งนี้อาเหม็ดชวนไปทานข้าวแต่เช้า จะลุกมาแต่งตัวไม่ทัน” หล่อนบอกก่อนจะเดินออกไป... รามิลทรุดนั่งลงกับโต๊ะทำงาน...
เขา หาทางออกให้กับตัวเองไม่ได้เอาเสียเลย ให้ตายเถอะ...
เขาไม่ยากแต่งงาน แต่ไม่อยากให้หล่อน ไปยุ่งกับคนอื่น... ทำอย่างไรกับเรื่องนี้ดี ทำอย่างไรถึงจะทำให้หล่อนคิดลึกๆ กว่านี้ได้...
รามิลไม่สามารถแก้ไขปัญหาด้วยตนเองคนเดียวอีกต่อไปแล้ว...
มือหนาเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์ภายในที่วางอยู่บนโต๊ะทำงาน ต่อสายตรงเข้าห้องชีคเบนจามีน...
“ท่านชีคครับ... ผมรามิลเองครับ... ผมต้องขอโทษที่รบกวนท่านชีคกับชีคคาตามตะวันกลางดึก แต่ผมมีเรื่องจะปรึกษาท่านทั้งสองรอไม่ได้อีกแล้วครับ”
หนึ่งเดือนถัดมา
อามีนา ดาริยา สองสาวฝาแฝดถูกเรียกตัวกลับบ้านที่จาร์มาอย่างเร่งด่วนทำให้ต้องงดเรียนซัมเมอร์ที่ต่างประเทศมาเรียนที่จาร์มาแทนเพราะมีงานสำคัญที่จัดที่บ้าน... วันนี้ที่ห้องรับแขกของครอบครัวชีคเบนจามีนแทบจะเป็นการรวมตัวของเหล่าทายาทเจนเนอเรชั่นใหม่ที่พวกผู้ใหญ่อย่างชีคเบนจามีน ตามตะวันและแสงตะวันพี่ชายของตามตะวันเป็นคนรุ่นเก่าที่เป็นพ่อแม่ต้องนั่งดูลูกๆ ที่เป็นเครือญาติกัน พบปะกัน...
อามีนา ดาริยาเด็กที่สุด เพราะอายุยังไม่ถึงยี่สิบ... ลูกสาวของแสงตะวันกับภรรยานามว่า รุ่งอรุณ ก็อยู่ในวัยสิบหกปี ได้พบปะกัน รวมทั้ง แอลลี่ สาวน้อยลูกครั้งจาร์มากับยุโรป ลูกสาวของแอล ผู้ช่วยของชีคเบนจามีนมานั่งรวมกลุ่มกันหลังจากที่ไม่ได้เจอกันนานส่งเสียงเจื้อยแจ้วดังไปหมด เพราะทุกคนต่างตื่นเต้น ที่รู้ว่า พี่สาวคนโตของพวกตน กำลังจะแต่งงานกับ พี่รามิล ผู้ที่เปรียบเสมือนพี่ชายใหญ่ของตระกูลที่มีน้องๆ เป็นสาวน้อยแรกรุ่น
จะมีก็แต่ผู้ใหญ่ ที่ไม่ได้ยินดีปรีดากับงานนี้นัก เพราะรู้ดีว่า การแต่งงานครั้งนี้ ไม่แตกต่างจากการบังคับรามิลกลายๆ เพราะหลังจากที่วชิตารีย์ประกาศตัวว่าจะแต่งงานกับอาเหม็ด ชีคเบนจามีนก็ปั่นป่วนยิ่งนักเพราะรู้ดีว่าเจ้าตัวจะทำเช่นนั้นให้จงได้...
ท่านขอให้รามิลแต่งงานกับวชิตารีย์เอาไว้ เพื่อให้ความต้องการในการแต่งงานกับอาเหม็ดของหล่อนหมดลง... เป็นการแต่งงานไปพร้อมๆ กับสัญญาว่าจะไม่ทำอะไรวชิตารีย์ ปล่อยให้หล่อนได้ร่ำเรียน และใช้ชีวิตต่อไปเช่นเดิม เพียงแต่รักษาสถานภาพการแต่งงานเอาไว้ ไม่ให้หล่อนโวยวายที่ตนเองไม่ได้แต่งงานเท่านั้น...
การทำเช่นนี้เพราะทุกฝ่ายรู้ดีว่าหญิงสาวต้องการแต่งงานเพื่อเอาชนะเท่านั้น ถ้าไม่ได้แต่งก็ทำร้ายตัวเองให้แย่ไปเปล่าๆ ดังนั้นจึงจะปล่อยให้แต่ง แต่ไม่สมจริง เผื่อว่าวันหนึ่งเจ้าตัวคิดได้และไม่อยากแต่งงานแล้ว ทุกอย่างจะได้กลับคืนมาสู่สภาพเดิม...
คนที่ทุกคนเห็นใจที่สุดก็คือรามิล ที่จะต้องแต่งงานกับหญิงสาวเฉยๆ แต่ไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ ราวกับว่าเนื้อก็ไม่ได้กินหนังก็ไม่ได้รองนั่ง ยังต้องเอากระดูกชิ้นโตมาแขวนคอ...
แต่คำว่าบุณคุณทำให้เขาปฏิเสธไม่ออกสักคำ จึงยินยอมแต่งงานกับหล่อน เพื่อเป็นการปราบอาเหม็ดไปจากชีวิตของวชิตารีย์... จากนั้น เมือมีโอกาสที่เหมาะสม ไม่เขาก็หล่อน ก็คงต่างฝ่ายต่างขอหย่ากันในอนาคต...
การแต่งงานครั้งนี้แม้จะเป็นที่ฮือฮาในวงสังคม และเป็นที่ตื้นเต้นของน้องๆ หรือคนที่รู้จัก แต่ฝ่ายชายคนที่จะแต่งงานจริงๆ นั้นกลับเฉยชาได้อย่างไม่น่าเชื่อ... เพราะเขารู้ดีว่าการแต่งงานครั้งนี้เป็นการแต่งเพื่อทดแทนบุญคุณของคนที่ชุบเลี้ยงมา...
และมันก็เป็นการซื้อเวลาเอาไว้เพื่อวันหนึ่งที่จะเลิกกันเท่านั้น
เขารู้ตัวว่าเขาพึงระรึกเสมอว่าตนเองไม่ได้มีสิทธิจะไปหลงระเริงเรื่องการแต่งงานหรือใช้สิทธิเป็นสามีจริงๆ ได้... ดังนั้นการแต่งงานก็ไม่แตกต่างจากการต้องใช้ชีวิตในวันต่อๆ ไปให้เหมือนเดิม สำหรับเขา...
แต่สำหรับวชิตารีย์นั้นหล่อนไม่ได้คิดอย่างนั้น... ภายใต้ความสุขรื่นเริง และการเตรียมตัวเป็นเจ้าสาวที่งดงามนั้น ความเบิกบานไม่ได้มาจากการเอาชนะเขาได้อย่างที่ทุกคนเข้าใจ... หากมันเป็นความสุขที่จะได้ใกล้ชิดเขามากขึ้น อย่างที่หัวใจเรียกร้องต้องการต่างหาก...
ยิ่งใกล้วันแต่งงานมาเท่าไหร่ หล่อนก็มีความสุขมากขึ้นเท่านั้น... แม้ไม่ได้เห็นฝ่ายชาย เพราะหล่อนถูกส่งมาต่างเมือง เพื่อเรียนรู้ขนบธรรมเนียมและเตรียมตัวให้เป็นเจ้าสาวที่พร้อมสำหรับรามิลตามประเพณี กว่าจะได้อยู่ด้วยกันก็ต้องหลังแต่งงานไปแล้ว
หล่อนแอบหวังเล็กๆ ในใจว่า เขาคงจะตื่นเต้นกับงานแต่งงานที่กำลังจะเกิดขึ้น อย่างน้อยสักนิดก็ดี...
ความตั้งใจแน่วแน่จุติในหัวใจดวงน้อยว่าจากนี้จะทำดีกับเขาให้มากที่สุด และทำให้เขารักหล่อนให้ได้ เหมือนที่หล่อนรักเขา...