หมายเหตุ : นิยายเรื่องนี้ประกอบไปด้วย 2 เรื่องสั้น ได้แก่
1. คืนนั้นฉันลืมไม่ลง
2. โซ่ตรวนแห่งซาตาน
****************************************************************************
ฉันชื่อนิดา อายุยี่สิบปี ตอนนี้เรียนอยู่ปีสอง เป็นเด็กต่างจังหวัดที่สอบเข้าเรียนมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในเมืองหลวงได้ จึงได้เข้ามาใช้ชีวิตเด็กหอ ที่บ้านฉันขายของชำ รายได้ก็พอกินพอใช้ ไม่ได้เหลือเก็บเท่าใดนัก ฉันจึงหารายได้พิเศษโดยการทำงานหลังเวลาเรียนตามร้านอาหารฟาสท์ฟู้ดทั่วไปอย่างที่เพื่อนคนอื่น ๆ ทำกัน ประกอบกับที่ฉันเป็นเด็กดี ไม่เที่ยวเตร่ไม่ใช้จ่ายฟุ้งเฟ้อ ทำให้ฉันไม่ต้องขอเงินจากทางบ้าน
พอขึ้นปีสอง เพื่อนเรียนเอกภาษาอังกฤษเหมือนกัน คณะเดียวกัน อยู่หอเดียวกัน ชื่อ เฟิร์น เธอมีโอกาสได้ไปทำงานที่ผับหรูหราแห่งหนึ่งที่รุ่นพี่ชักนำไปแล้วเธอก็เอามาเล่าให้ฉันฟังว่ารายได้ดีมาก และเขาต้องการพนักงานเพิ่มเติม โดยเฉพาะหากพูดภาษาอังกฤษได้บ้างจะดีมาก เพราะร้านนั้นอยู่ในทำเลทองที่มีแขกต่างชาติทุกวัน ฉันพอสื่อสารได้บ้างเพราะเรียนเอกภาษาโดยตรงเช่นเดียวกับเฟิร์น
“ ทำงานหกโมงถึงตีสอง เขาให้คืนละสามร้อย ทิปจากแขกต่างหากนะนิดา เฉลี่ยแล้วคืนหนึ่งไม่ต่ำกว่าพัน บางคืน ฟลุ้ค ๆ เป็นหมื่นเลยนะ ”
ฉันตาลุกวาว ทำงานในร้านฟาสท์ฟู้ด เหนื่อยและวุ่นวายตัวเป็นเกลียวหัวเป็นน็อต ยังไม่ได้ครึ่งนี้เลย แต่อีกใจหนึ่งก็กล้า ๆ กลัว ๆ
“ เหรอ ดีจังเลย แล้วเราต้องทำอะไรบ้างล่ะ ”
“ ก็แค่ไปรับออเดอร์แล้วเอาเครื่องดื่มหรือไม่ก็อาหารไปเสิร์ฟแค่นั้น จบเลย แขกที่นี่แบบมีระดับหน่อยไง มันหรูพอสมควร ”
“ แค่เสิร์ฟจริง ๆ นะแก ” เฟิร์นหัวเราะ
“ นี่ แกคิดว่าฉันชวนไปทำบาร์อะโกโก้แล้วต้องขึ้นไปเต้นโชว์ด้วยหรือไง นี่มันผับธรรมดา ก็มีดีเจเปิดเพลง มีคนเต้น แค่หรูหราขึ้นมาหน่อย พวกคนมีตังค์เขาไปกัน ฝรั่งก็เยอะ ทิปเลยหนักหน่อย ”
ฉันนั่งคำนวณเวลาเรียนว่าจะตื่นไหวไหม เฟิร์นมีรถจักรยานยนต์ซึ่งฉันคงจะได้อาศัยซ้อนท้ายไปกับเธอแล้วหารค่าน้ำมันเอา ผับเลิกตีสอง ใช้เวลาขับรถประมาณสี่สิบนาที อาบน้ำอาบท่าเสร็จก็น่าจะได้นอนตีสาม ฉันมีเรียนเช้าทุกวันที่เวลาเก้าโมง นอนวันละห้าชั่วโมงน่าจะพอวะ เพื่อตัวเอง เพื่อครอบครัว เพื่อเงิน ต้องไหวสิ
แต่แล้วฉันก็นึกอะไรบางอย่างได้ ก่อนเงยหน้ามองเฟิร์นแล้วยิ้มแหย ๆ
“ แก ทำงานในผับต้องหน้าตาดีรูปร่างดีหรือเปล่า อย่างฉันเขาจะรับเหรอ ” เฟิร์นหัวเราะดังลั่น
“ เขาก็คัดหน้าคัดหุ่นแหละ แกไม่รู้ตัวเหรอว่าแกสวย ”
ฉันเป็นฝ่ายหัวเราะออกมาบ้าง ฉันเนี่ยนะสวย ฉันสูงร้อยหกสิบห้าเซนติเมตร หนักห้าสิบหกกิโลกรัม หุ่นไม่ได้อ้อนแอ้นบอบบางเหมือนอย่างสมัยนิยม เรียกได้ว่าอวบระยะสุดท้ายก็ว่าได้ แถมผิวค่อนข้างคล้ำ ไม่ได้ขาวหมวยสวยเอ็กซ์ตามพิมพ์นิยม แถมใบหน้าคมแบบไทยแท้อีก ผมก็ปล่อยยาวตามธรรมชาติและมักจะรวบไว้ง่าย ๆ ไม่เคยย้อมไม่เคยดัด อีกอย่างเพราะฉันไม่ผอมบางนี่แหละเลยไม่กล้าแต่งตัวโชว์ทรวดทรงอย่างใครเขา เลยชอบใส่เสื้อผ้าใหญ่กว่าตัวเพื่ออำพรางหุ่นเสมอ
“ ฉันเนี่ยนะสวยเฟิร์น แกอยากให้ฉันเลี้ยงข้าวล่ะสิถึงได้พูดแบบนี้ ” ฉันบอกเสียงดัง เฟิร์นหัวเราะ
“ ถ้าแกไม่สวย ฉันไม่กล้าชวนหรอก แกน่ะต้องเปลี่ยนทัศนคติของตัวเองเสียใหม่นะนิดา ต้องเพิ่มความมั่นใจในตัวเองให้มากขึ้น ไม่อย่างนั้นแกจะหาผัวไม่ได้ ” ฉันสะดุ้ง แต่ก็ตอบเฟิร์นแก้เก้อ
“ ฉันยังไม่อยากมีหรอกผัว อยากตั้งใจเรียนให้จบ หาเงินเลี้ยงตัวเอง ส่งทางบ้านได้ด้วยจะดีมาก ”
“ หาไปด้วยมีผัวไปด้วยก็ได้ ฉันจะบอกอะไรแกให้นะ มีผัวน่ะดีจะตาย เพิ่มความมันส์ให้ชีวิตนะเว้ย ”
นางพูดได้เพราะนางเป็นคนเซ็กซี่ เปรี้ยวเข็ดฟัน และพาผู้ชายมาผลัดเปลี่ยนเวียนหมุนที่ห้องไม่ซ้ำหน้า ฉันเงียบ หน้าแดงยิ่งกว่าลูกตำลึงสุก
“ เอ้า หน้าแดงจนเขียวแล้วนั่น อายอะไรวะ เรื่องปกติของปุถุชนถามจริง เกิดมาไม่เคยมีแฟนเลยเหรอ ”
ฉันส่ายหน้าดิก
“ คนเคยมาจีบมีไหม ” ฉันส่ายหน้าเหมือนเดิม
“ เคยแอบชอบใครไหม ”
“ ฉันจะกล้าแอบชอบใครวะ หน้าตาฉันแบบนี้ ไม่กล้าหรอก กลัวเสียใจ ” เฟิร์นหัวเราะ
“ แกนี่ผิดปกติทางจิตนะเนี่ยนิดา ความคิดลบแบบนี้จะยิ่งทำให้ลดทอนความมั่นใจในตัวเองลงเยอะ แกต้องคิดใหม่ เปลี่ยนตัวเองใหม่ เริ่มที่ผม การแต่งตัว เสื้อผ้าก่อน ”
“ เออ ๆ เอาเหอะ ค่อยซื้อทีหลังก็ได้ ให้ทำงานได้เงินก่อน ค่อยว่ากัน ” ฉันรีบตัดบทเพราะไม่อยากให้เธอพูดเรื่องนี้ต่อ เธอพยักหน้า
“ เดี๋ยวคืนนี้ฉันจะไปบอกกับผู้จัดการร้าน แล้วพรุ่งนี้แกก็เตรียมตัวไปได้เลย ”
“ พรุ่งนี้เลยเหรอวะแก ฉันยังไม่พร้อมเลย ”
“ อยากได้ไหมเงินน่ะ ” ฉันพยักหน้า
“ ถ้าอยากได้ก็ต้องพร้อมเสมอ ไม่มีอะไรน่ากลัว งานสบาย เงินดี ทิปดี แถมเจ้าของผับ โคตรหล่อเลยแก น่ากินมาก ”
นางเอ่ยแล้วพร่ำเพ้ออะไรอีกหลายอย่างเกี่ยวกับอีตาบอสเจ้าของผับอะไรนี่แหละ แต่ฉันไม่ได้ฟัง เพราะในหัวฉันเฝ้าคิดคำนวณถึงรายได้ที่จะเข้ามาแล้วจะได้เจียดส่งไปให้พ่อกับแม่ที่บ้านบ้าง แค่นั้นฉันก็มีความสุขแล้ว
และแล้ววันเริ่มงานที่ผับวันแรกก็มาถึง