! แต่จู่ๆ เขาที่กำลังจะหยิบเสื้อผ้ากลับชะงัก เขาหันกลับมา เดินตรงมาที่หน้ากรง ไม่มีอะไรบนร่างกายเขา รูปร่างเขาแน่นหนักไปด้วยกล้ามเนื้อ แขนเป็นลำกล้ามเนื้อเป็นรูปร่างกล้ามเนื้อที่สวยงาม แผ่นอกได้รูป หน้าท้องเต็มไปด้วยหมัดกล้ามต่ำลงเป็นรูปตัววี โอ้ว! มันผงาดเหยียดตรงมาตรงหน้าเธอ “ฉันเกิดอารมณ์กับเธอจริงๆ คิม...” พั่บพั่บพั่บ และเขาก็ใช้มือทำการช่วยตัวเองต่อหน้าเธอ เฮ่อเฮ่อ สายตาเขาไม่ละไปจากรูปร่างของเธอ รูปร่างที่ชุดผ้าซีฟองนี้ไม่ช่วยอะไรเลย และสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับเธอมานานแล้ว จู่ๆ เธอก็รู้สึกคัดที่ยอดทรวงอก ระหว่างขาเกิดอาการปวดหนึบและชื้นแฉะกับภาพการช่วยตัวเองของเขา โอ้วววว และในที่สุดก็มีลำน้ำสีขาวฉีดพุ่งออกมารดใส่ที่ซี่ลูกกรงตรงหน้าเธอเต็มไปหมด
ยิ้ม! เขายิ้มให้เธอและเดินกลับไปที่ตู้เสื้อผ้าของเขา เมื่อเขาสวมเสื้อผ้าเรียบร้อยก็เดินออกจากห้องไป คิมมองคราบน้ำขุ่นครั่กที่ซี่ประตูทางออกนั้น และก้มมองเรียวขาตัวเองที่ตอนนี้เหมือนมีน้ำไหลออกมาไปตามเรียวขาของเธอ ‘เธอมีอารมณ์กับการกระทำเมื่อครู่ของเขา’
“นักฆ่าหญิงคนนั้นเป็นไงบ้าง” ชายกำยำถึงกับเงยหน้าขึ้นมองเจ้านายเหนือหัว มันพึ่งเมื่อวานเองนะครับ นี่ผ่านมาไม่กี่ชั่วโมงเอง
“เธอยังไม่ได้สติ เมื่อวานนี้ทางเราพึ่งจะกระตุ้นหัวใจกู้ชีวิตเธอกลับมาได้ คงต้องรออีกสักอาทิตย์นะครับ...เจ้านาย” เลียมไม่ชอบใจเลยที่ได้ยินแบบนี้ ทั้งๆ ที่ยาที่ฉีดให้นักฆ่าคนนั้นเป็นสารเสพย์ติดบริสุทธิ์ ปริมาณที่เธอได้รับมีมูลค่าไม่น้อยเลย แต่สารเสพย์ติดก็คือสารเสพย์ติดให้ดีมากแค่ไหนมันก็เป็นพิษต่อร่างกายอยู่ดี
“เป็นอะไรไป” จอนสันเอ่ยถามเมื่อเลียมเดินมานั่งฝั่งตรงข้าม วู้วู้วู้ และจอนสันก็ร้องออกมาเมื่อรู้คำตอบทันทีที่เห็นสีหน้าและแววตา “นี่อย่าบอกนะ! ว่าบอสเกิดความรักลึกซึ้งกับนักฆ่าสาวคนนั้นจริงๆ ไม่มีเสียงตอบรับและปฎิเสธ “หน้าตาสวย ฉลาดแบบนี้หาได้กลาดเกลื่อนในวงการนักฆ่า ผมไม่เห็นว่าเธอจะมีอะไรพิเศษ จะเหนือกว่าหญิงสาวทั่วไปอยู่บ้างก็แค่ความผูกพันกับบอสที่มีมาเมื่อกาลเก่าไม่ใช่เหรอครับ...ความรักมันฆ่าเราได้เลยนะครับ”
“ความฉลาดของเธอไม่ได้พึ่งมี ที่ตอนนั้นฉันเอาเธอมาไว้ข้างตัวเพราะเธอในตอนนั้น...”
ครื้นนนนน เมื่อประตูตู้คอนเทนเนอร์เปิดอีกครั้งหลังจากผ่านมานานแค่ไหนคิมไม่รู้เลย เธอไม่รู้กลางวันกลางคืน แต่ก็รู้ว่าไม่ได้นานมาก ถ้าเธอจะประมาณการคร่าวๆ เวลาที่เธอต้องอยู่ในนี้ก็สักอาทิตย์ได้ เด็กรุ่นราวคราวเดียวกันกับเธออีกสิบกว่าคนค่อยๆ ลืมตาขึ้นและต้องปิดตาลงเมื่อต้องพบกับแสงจ้า แม้ในตู้ไม่ได้มืดมิดเพราะยังมีแสงสลัวจากโคมไฟสองดวงแต่แสงวอร์มไวท์นั้นก็ไม่เพียงพอให้สายตาของพวกเธอรับกับแสงสว่างจากดวงอาทิตย์ได้ในทันที
“ออกมา!” เสียงไร้ความเป็นมิตรตวาดลั่นที่ด้านนอก เด็กๆ ข้างในตกใจผวาอยากร้องไห้แต่ก็ไม่มีใครกล้าร้อง ทำได้เพียงอดกลั้นตัวสั่นและค่อยๆ คลานกันออกไปทีละคน ทุกคนในนี้มีเพียงเด็ก วัยตั้งแต่เจ็ดขวบไปถึงสิบสองขวบเท่านั้น พวกเธอรอดมาได้อย่างไรนะเหรอ ตู้คอนเทนเนอร์นี้มีช่องพัดลมระบายอากาศอยู่ด้านบน พร้อมพรั่กไปด้วยอาหารประทังหิว น้ำดื่ม และที่สำคัญถังออกซิเจนที่พวกเธอทุกคนได้รับการบอกกล่าวขั้นตอนการใช้งานยามที่อากาศไม่เพียงพอ พร้อมสุขาแบบพกพาสองชุดวางไว้ที่ริมด้านใน นี่คือเหตุผลที่ไม่มีใครตายสักคน
เด็กๆ ที่ตัวสั่นหวาดกลัวออกมายืนเรียงแถวต่อหน้าเจ้าของเสียงรวมถึงคิมด้วย “นี่! เป็นขี้เรื้อนหรือไง” เสียงหญิงสาววัยกลางคนแต่งตัวจัดจ้านแต่แววตาไร้ความปราณีเมตตา หล่อนคนนั้นชี้มาที่เธอ “ดูหน้าตาสกปรก ผมเผ้าหลุดร่วงเว้าแหว่ง แล้วแขนขาก็เต็มไปด้วยแผลเล็กแผลน้อย...สกปรกที่สุด” ชายกำยำร่างสูงสองคนเดินมายืนตรงหน้าเธอ สำรวจมองเธอ
“ตาไม่เหลือง ไม่มีความอ่อนล้า คงเป็นโรคทางผิวหนัง ก็เก็บไว้ใช้แรงงานแล้วกัน” คิมถูกคัดออกจากแถว และเธอเป็นคนเดียวที่ถูกแยกออกจากแถว เด็กหญิงชายที่เหลือถูกแยกไปขึ้นรถตู้ ส่วนเธอถูกผลักยัดใส่รถอีกคัน และต่างก็ออกเดินทางไปที่ใดนั้นเธอไม่รู้ทั้งตัวเธอและเด็กพวกนั้น ตลอดเวลาที่เธอถูกขังอยู่ในตู้คอนเทนเนอร์เธอไม่พูดกับใครสักคน ไม่ใกล้ชิดไม่ผูกพันกับเด็กเหล่านั้น รวมถึงหน้าตาเด็กเหล่านั้นเธอก็แทบไม่มองเลย เธออายุแค่แปดขวบไม่มีเรี่ยวแรงพอที่จะช่วยเหลือใครได้ นอกจากช่วยตัวเอง ตลอดเวลาที่เธออยู่ในตู้คอนเทนเนอร์ เธอกินให้น้อยที่สุด กินเท่าที่หิวเท่านั้น และคอยดึงกัดทึ้งผมตัวเองตลอดเวลา รวมถึงข่วนกัดผิวเนื้อแขนขาของตัวเองให้เกิดบาดแผลเล็กๆ น้อยๆ ให้เยอะที่สุด เจ็บเล็กๆ น้อยๆ ในวันนี้ จะทำให้เธอมีชีวิตรอดในสถานที่อับโคจรได้ เธอไม่ได้ฉลาดแต่ก็ไม่โง่จนไม่รู้ว่าตัวเองถูกลักพาตัวมาขาย
“อยู่ที่นี่ มีหน้าที่ล้างห้องน้ำทำความสะอาด ถ้าไม่ตั้งใจทำงานจะถูกตีจนตาย” หญิงสาวที่รับช่วงมาอีกทีพาคิมมาโยนไว้ในห้องขนาดเล็กเท่ากรงขัง แต่ในนี้ก็มีฟูกเก่าๆ ซักล้างตากทำความสะอาดก็น่าจะใช้งานได้ ห้องที่เธอพักอยู่ริมชายป่าเป็นบ้านพักเก่าๆ ห่างไกลจากอาคารสูงแหล่งผู้คนพลุกพล่านที่สว่างไสวตรงหน้า “ตอนกลางคืนก็นอนกินอยู่ที่นี่ งานที่ต้องไปทำก็เริ่มตั้งแต่สิบโมงไปจนถึงสี่โมงเย็น เข้าใจมั้ย” คิมพยักหน้า โดยไม่ยี่หระต่อสายตารังเกียจของหญิงสาวตรงหน้าที่มองมาแบบนั้น