ตอน 6

1607 คำ
“อ๊ะ...นี่ใครให้มันรู้ซะบ้าง” คณาทิปชี้เข้าตัวเองที่ทำงานว่องไว รอบครอบไม่ให้ใครกล้าปฏิเสธงานที่ตนมอบหมาย             “คิดไว้นานแล้วสิท่า ขนาดซื้อตั๋วเครื่องบินรอ ไม่คิดจะคุยกันก่อนเลยนะเจ๊” ต่อว่าอีกเจ้านายอย่างเคืองๆ ถ้าไม่สนิทกันจริง ไม่กล้าใช้คำพูดและสายตาต่อว่าอย่างนี้หรอกนะ             “เจ๊เห็นว่าจัสมินเหมาะ เชื่อเจ๊เหอะ ไม่มีใครเหมาะกับงานนี้เท่าจัสมินอีกแล้ว ขอร้องทำงานให้เจ๊นะ” คราวนี้คณาทิปเปลี่ยนโทนเสียงเป็นออดอ้อน ทีเมื่อกี้ทั้งขู่ทั้งบังคับจัดแจงอะไรต่างๆ นานาเสร็จสรรพ ไม่เคยคิดจะถามเรื่องสุขภาพสักคำ             “จ้า...เจ๊ว่ายังไงลูกน้องก็ว่าตามนั้นล่ะค่ะ” ตอบรับน้ำเสียงประชดประชัน พอๆ กับดวงตาคู่สวยที่มองเจ้านายอย่างประหลับประเหลือกแกมต่อว่า             “อยากได้อะไรเพิ่มก็บอก” กลัวลูกน้องเบี้ยวการทำงานสำคัญ จึงถือโอกาสเสนอการช่วยเหลือเต็มที่ ครั้นจะไปเองก็กระไร หน้าที่ไม่ใช่ผู้บริหารควรอยู่บริหาร ให้ลูกน้องมันได้ทำงานบ้าง อีกทั้งการถ่ายแบบที่พัทยา ดาราคู่ขวัญคนดังสำคัญมากทีเดียวจึงทิ้งไปไม่ได้               “รับรองบอกแน่เจ๊ มะลิขอไปทำงานก่อนนะคะ” มะลิหยัดกายลุกขึ้นพร้อมกับถือแฟ้มเอกสารโครงการบันลือโลกของคณาทิปติดมือไปด้วย ก่อนเดินทางเธอคงต้องเตรียมการอะไรอีกเยอะ ที่สำคัญภาษาฝรั่งเศสของเธอที่ร้างมานานเหลือเกิน มาคิดอีกทีโลกสมัยนี้กว้างขวางเรื่องภาษา ใครๆ เขาก็ใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารกันทั้งนั้น นึกยังไงถึงต้องให้ค้นภาษาฝรั่งเศสของมาใช้ หรือว่าต้องการเอาใจคนที่เธอต้องไล่ตามสัมภาษณ์ ในรายละเอียดเธอต้องส่งจดหมาย เข้าไปขอสัมภาษณ์ทางนั้นภายในวันนี้ด้วย แต่ไม่ว่าอาดิลริสจะอนุญาตหรือไม่ ไทม์ไลน์ก็ต้องแส่ไปสัมภาษณ์ให้ได้ว่าอย่างนั้น             “ขอบใจมากจ้าคนสวย นี่ถ้าเจ๊ไม่ชอบชายหล่อล่ำ จัสมินเสร็จเจ๊ไปนานแล้วนะเนี่ย” เจ้านายส่งเสียงแจ๋วตามหลัง โบกมือส่งลูกน้องแบบนางงามได้มงกุฎ บนเวทีประกวดโชว์ขาอ่อนเพื่อส่งมะลิไปทำงาน                  แฟ้มงานถูกวางลงบนโต๊ะทำงานพร้อมกับก้นงอนที่หย่อนลงนั่ง มะลิรู้พอๆกับที่คณาทิปรู้ว่าเธอไม่ได้ทำหน้าที่ตรงนี้ แต่เขาวางใจให้เธอทำหน้าที่ ว่าแต่วางใจให้เธอทำแล้วเจ้าของคอลัมรู้เรื่องหรือเปล่าหรือว่ารู้แล้ว แต่เต็มใจยกงานนี้ให้เธอ ปกติจิดาภาค่อนข้างไม่ยอมอะไรง่ายๆ               “ไงได้ข่าวว่าเจ๊คณาให้ทำงานสำคัญ” เสียงเหยียดดังขึ้นเบื้องหลังมะลิ หญิงสาวขยับเก้าอี้หมุนไปทางเสียงเหยียดนั้นด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย นึกแล้วเจ้าของคอลัมน์ต้องโผล่มาที่โต๊ะของเธอ ยัยนี่คงรอจังหวะตอนที่เธอออกจากห้องเจ้านาย             “ถามแบบนี้จริงๆ ก็รู้แล้วสิว่างานอะไร”             “ดูเธอกระหายอยากทำงานนี้” จิดาภาเชื่อแบบนั้น ใครจะไม่ดีใจเจ้านายไว้วางใจส่งงานสำคัญให้ทำ             “เอาไปทำเองก็ได้นะ ฉันไม่ว่า” มะลิไม่แยแสสักหน่อย แต่ที่รับทำเพราะคำว่าไว้วางใจ และเพราะได้ถูกเลือกแล้วต่างหาก             “เจ้านายเลือกหล่อน ฉันคงไม่บังอาจ” จิดาภาหยันถากด้วยสายตา             “เชื่อเถอะถ้าเธออยากทำ ฉันเดินเข้าไปคุยกับเจ้านายได้”             “ปากดี เธอมันก็แค่ตัวเลือก อย่าผยองในตัวเองนักเลยมะลิ” จิดาภาเดือด             “จีด้าแม่ชื่อเจิดบันลือโลก ฉันไม่ได้ต้องการให้เจ๊คณาเลือก แต่เจ๊เลือกฉัน เพราะเล็งเห็นศักยภาพการทำงานของฉัน ที่...” มะลิไล่สายตาตรงไปยังสรรร่างของเพื่อนร่วมงานปากเปราะ ขี้อิจฉา แต่งตัวเยอะยุ่งยากมากชิ้น ขนเครื่องแต่งกายมากชิ้น ลงกับเรือนร่างตัวเองจนดูรกรุงรัง หล่อนคงใช้เวลาในการแต่งตัว แต่งหน้านานกว่ามนุษย์มนาทั่วไป วันนี้หล่อนก็มาสไตล์สาวโบฮีเมี่ยน สร้อยเอย ผ้าโพกหัวเอย กระโปรงยาวกรอมเท้าลายเวียนหัว ตุ้มหูขนนกเชือกคาดหน้าผากยิ่งกว่ามงคลนักมวย ชวนเวียนหัวอย่างที่สุด             “นี่หล่อนจ้องฉันแบบนี้หมายความว่ายังไง จะบอกว่าฉันทำงานไม่มีประสิทธิภาพหรือยะ” จิดาภาร้อนตัวเธอยอมรับภาษาต่างประเทศไม่ได้คล่องปากนัก ครั้นจะให้เดินทางไปสัมภาษณ์คนสำคัญที่พูดภาษาไทยไม่ได้สักประโยค ค่อนข้างยากทีเดียว โดยเฉพาะคนดังที่เข้าถึงตัวยากอย่างรายนี้ ก่อนหน้านั้นคณาทิปเคยเรียกเธอเข้าไปคุยเกี่ยวกับงานนี้ แต่เธอบ่ายเบี่ยงมีข้อแม้เรื่องภาษา ฉะนั้นเช้านี้คณาทิป จึงเรียกตัวมะลิเพื่อคุยงานที่เป็นส่วนของเธอ อย่างที่เขาได้เคยบอกไว้             “อันนั้นเธอก็พูดเอง” หญิงสาวโต้ด้วยประโยคเฉยชา ไม่สนใจอารมณ์ของอีกฝ่าย เรื่องการงัดข้อมะลิค่อนข้างฉกาจพอตัว ใครดีมาเธอดีตอบ ใครร้ายมาเธอร้ายแสน และยัยจิดาภาก็กัดเธอไม่ปล่อยมาหลายครั้งแล้ว ไม่ว่าหลายครั้งเธอต้องไปออกงานกับคณาทิปก็โดนหล่อนเหน็บแนบ หาว่าเป็นลูกรักเพราะเลียเก่ง ประจบเก่ง ความจริงเธอเป็นของเธอแบบธรรมชาติ เน้นความเป็นตัวตน เข้ากับคนง่าย ยิ้มแย้มใส พูดจารื่นหู ที่สำคัญยิ้มของเธอเปิดโลกให้สดใจ ดีกว่าจิดาภาวันๆเอาแต่จิกสายตาด่าว่าคนอื่น ยกตนข่มท่าน             “สายตาเธอมันฟ้อง” จิดาภาไม่ยอมแพ้ต่อว่าคนถูกเลือกทำงานแทนตน ตอนแรกรู้สึกเจ็บใจอยู่มาที่ผู้ใหญ่วางใจมอบงานใหญ่ให้มะลิ แต่เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายต้องไปตามจิกสัมภาษณ์อาดิล หล่อนมองเห็นหายนะลางๆจึงไม่อยากเสนอตัวทำงานนี้ ทั้งที่ควรเป็นหน้าที่ของตน               “ชัดขนาดนั้นเชียวหรือ” มะลิลอยหน้าลอยตา เธอไม่เคยยั่นกับเพื่อนร่วมงานที่มีแต่แววตาและคำพูดริษยา             “ยัยมะลิ” จิดาภากัดฟันกรอดๆ ขุ่นเคืองใจเป็นยิ่งนัก มะลิไม่เคยลดราวาศอกให้กับหล่อน ต่างจากเพื่อนร่วมงานคนอื่นที่ไม่คิดตอแยหล่อนเลย หล่อนว่าอย่างไรคนพวกนั้นก็ว่าตามนั้น แต่สำหรับมะลิไม่มีสักครั้งยัยชื่อเชยสิ้นดีคนนี้จะคิดอ่อนข้อ             “ฉันรู้ฉันชื่อมะลิ แล้วเธอล่ะจะเอายังไง จะให้ฉันไปบอกกับเจ๊คณาเปลี่ยนตัวคนทำงานเลยก็ได้ งั้นก็เริ่มต้นจากการเขียนอีเมล์ ส่งตรงไปถึงเลขาของอาดิล การ์ริสม็องเลยดีไหม” ยัดแฟ้มงานของคณาทิปส่งให้จิดาภา บุษบาผู้เขียนคอลัมสัมภาษณ์คนดัง ฝ่ายจิดาภาก็เหมือนโดนของร้อน รีบหดมือกลับทันที พลางขยับไปยืนห่างอีกสองก้าว             “เรื่องอะไรรับงานมาแล้วก็ต้องทำให้เสร็จ ชิ...ฉันไปล่ะ... อ้อ ขอให้หล่อนโชคดี” โยนลูกไฟร้อนๆ เสร็จทิ้งห่างจากไป ไม่สนงานหนักหนาสาหัส ไปทำสบายๆ ไม่ต้องดิ้นรนให้ตัวเองเหนื่อยเงินเดือนก็ได้รับทุกเดือน ไอ้ครั้นอยากเที่ยวฟรีก็อยากแต่งานหินขนาดนั้นหวังเถอะจะได้เที่ยวสมกับที่คิด การตามตูดคนดังที่เข้าถึงตัวยากนี่นะ วอนโดนด่าสิไม่ว่า             “ไปซะได้ก็ดี เห่าอยู่ได้น่ารำคาญ”             “ยัยนี่มันก็อย่างนี้ล่ะมะลิอย่าไปสนใจคนดีแต่ปากอย่างยัยนั่นเลย” เพื่อนร่วมงานอย่างพู่กันแทรกขึ้นข้างๆมะลิ เพื่อนร่วมงานที่ทำหน้าที่แอดมินดูแลประงานทั่วไปของสำนักพิมพ์เอ่ยขึ้น เพราะรู้จักจิดาภาพอๆกับที่เพื่อนร่วมงานคนอื่นรู้จัก             “ฉันไม่สนใจยัยนั่นอยู่แล้ว แต่ถ้ามาก่อกวนฉันเมื่อไหร่ ฉันก็ไม่เอามันไว้แน่”             “เธอน่ากลัวพอๆ กับยัยนั่นเลยนะ อาทิตย์หน้าเธอไปฝรั่งเศส พวกเราก็จะไปหัวหิน”  พู่กันเอ่ยขึ้น             “ไปถ่ายแบบเซ็ตทะเลนั่นหรือ ว่าแต่ตัวนางแบบลงตัวแล้วใช่ไหม” เห็นว่าตอนประชุมยังเลือกตัวนางแบบนายแบบอยู่เลย               “อืม...คู่พระนางจากละครดังน่ะ เจ๊เราว่องไวอยู่แล้ว”             “มิน่าล่ะเจ๊ไปฝรั่งเศส ไม่ได้ต้องอยู่คุมงานถ่ายแบบนี่เอง สมเป็นเจ้านายเลิศรสจริงๆ”             “เซ็ตนี้ก็คงเรียกเงินในกระเป๋าสาวๆได้อีกอย่างไม่ต้องสงสัย ว่าแต่งานที่เจ๊มอบหมายให้มะลิทำเป็นไงบ้างเห็นยายจีด้ายี้ ออกตัวแรงขนาดนั้นน่าจะหินจริงป๊ะ”             “จะว่าหินก็ใช่นะ เพราะข่าววงนอกค่อนข้างหนาหู”             จากนั้นมะลิจึงเล่ารายละเอียดให้กับเพื่อนร่วมงานฟัง เท่าที่เธอรู้จากข่าววงนอกกล่าวถึงนักธุรกิจเจ้าของห้องเสื้อชื่อดังของฝรั่งเศส คาดเดาไม่ได้เลย ข้อมูลในวงการมีน้อยมาก เขาคือคนดังค่อนข้างเก็บตัวพบเจอตัวยาก คนดังส่วนใหญ่มักเสนอตัวเสนอหน้าต่อสังคมทั้งนั้น ความดังไม่เข้าใครออกใครขนาดอาดิลเก็บตัวขนาดนั้นยังอุตส่าห์มีปาปารัซซี่ได้ประวัติคร่าวๆของเขามาตีพิมพ์จากการนั่งเทียนเขียนส่วนใหญ่ แม้รายละเอียดไม่มาก เท่ากับเป็นการเรียกร้องให้สื่อกระหายขุดคุ้ยประวัติอาดิลอยู่มาก 
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม