สี่ทุ่มตรง...
หากนี่เป็นวันเสาร์ตามปกติของภาคิน เวลานี้เขาอาจจะเตรียมตัวเข้านอน เล่นเกม หรือดูหนังดีๆ สักเรื่องเพื่อพักผ่อนจากงานเหนื่อยๆ แต่วันเสาร์นี้ต่างออกไป เพราะอีกหนึ่งชั่วโมงข้างหน้า เขามีนัดหมายกับใครบางคนที่ทำให้ทั้งกายและใจเขากระชุ่มกระชวย ไม่ใช่ไม่เคยผ่านเกมรักอันเร่าร้อน เรื่องแบบนี้ทำเป็นกิจวัตรจนชำนาญและเชี่ยวชาญ แต่คราวนี้ต่างออกไปตรงที่เขาได้มีความสัมพันธ์อันลึกซึ้งกับหญิงสาวที่เห็นหน้ากันมาเกือบสิบปี กว่าจะถึงเวลาห้าทุ่ม เขาเลยมีเวลานอนคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย จนกระทั่งความคิดหยุดลงที่เรื่องราวเมื่อเจ็ดปีที่แล้ว
เจ็ดปีก่อน...
ป้าบัว... ผู้ควบตำแหน่งแม่ครัวและแม่บ้าน เข้ามาบอกพิมลวรรณ แม่ของภาคินว่าหลานสาวจากต่างจังหวัดจะเดินทางมาสอบเข้าเรียนต่อชั้นม.หนึ่งที่กรุงเทพ จึงขออนุญาตให้หลานสาวเข้ามาพักในบ้านชั่วคราว ซึ่งพิมลวรรณก็ยินดี ไม่ได้ติดขัดอะไร เพราะบ้านพักของป้าบัวนั้นแยกออกจากบ้านหลังใหญ่อยู่แล้ว
ส่วนภาคินในวัยยี่สิบเก้าปี เขาไม่ได้สนใจเรื่องนี้ มุ่งมั่นกับการทำงานและส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยได้สุงสิงกับคนในบ้านเท่าไหร่ เนื่องจากอยู่ในวัยที่การงานมั่นคง จึงมีเงินไปสังสรรค์กับเพื่อนฝูงเกือบทุกวัน
แต่วันหนึ่ง... หลังจากว่างเว้นจากการทำงานและเบื่อกับการเที่ยวกลางคืน และแม่ขอให้เพลาเรื่องนี้เรื่องบ้าง เขาสังเกตเห็นว่ามีเด็กผู้หญิงใส่ชุดนักเรียนเดินผ่านสายตาไปมาอยู่บ่อยครั้ง จนได้รู้ว่าหลานสาวป้าบัวจะอยู่ร่วมบ้านเป็นการถาวร เพราะสอบติดโรงเรียนดังคุณภาพดีของประเทศ โดยที่แม่ของเขาจะส่งเสียค่าเทอมและค่ากินอยู่ เพียงแค่ช่วยงานบ้านตามกำลัง หากแม่เขาไม่ทำเช่นนี้ เด็กเรียนดีคนหนึ่งก็หมดโอกาสทางการศึกษาไปอย่างน่าเสียดาย
วันเวลาเดินหน้าไปเรื่อยๆ จากเด็กนักเรียนชั้นมัธยมต้น นางสาวนวินดาเปลี่ยนมาใส่ชุดนักเรียนมัธยมปลาย แต่ภาคินเห็นว่าการเจริญเติบโตด้านความสวยนั้นก้าวกระโดดมากไปหน่อย จำได้ว่าครั้งแรกที่เคยเห็นใกล้ๆ หน้าตาดูไม่ได้ เหมือนเด็กกะโปโล รู้ตัวอีกที... นวินดาก็ใส่ชุดนักศึกษาประจำมหาวิทยาลัยชื่อดัง พร้อมกับความสวยที่ถูกใจภาคินเข้าเต็มๆ เขาจึงนึกสนุก อยากทำตัวเป็นหมาหยอกไก่ หรือสมภารกินไก่วัด... อะไรประมาณนั้น
เขาเริ่มต้นด้วยการไปห้องครัวบ่อยขึ้น จากที่เจอหน้ากันก็ยิ้มทักทาย ถามคำ ตอบคำ แล้วก็เดินแยกกันไป เขาเริ่มถามว่าเธอเรียนอะไร ชวนคุยเรื่องดินฟ้าอากาศ ถามหาป้าบัว ถามว่าวันนี้มีอะไรให้กิน ให้เอาขนมไปเสิร์ฟในห้องทำงาน จนกระทั่งคุ้นเคยกันมากขึ้น จึงเรียกใช้เธอให้ไปช่วยงาน ซึ่งเธอก็หัวไว มีไหวพริบ เข้าใจอะไรได้อย่างง่ายและมีสัมมาคาระ เขาจึงไม่แปลกใจว่าทำไมแม่ถึงตัดสินใจส่งเสียเด็กผู้หญิงคนหนึ่งมานานหลายปี
เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้น...
ภาคินตื่นจากห้วงความคิด ลุกจากที่นอน ออกจากห้อง เดินลงไปบันไดไปยังชั้นล่างของบ้าน พร้อมกับที่นาฬิกาบอกเวลาห้าทุ่มตรง...
“วิว”
“คุณคิน”
“มาตั้งแต่ตอนไหน” เขานั่งลงตรงข้ามกับเธอ กวาดสายตามองการบ้านที่วางอยู่บนโต๊ะรับประทานอาหารเล็กๆ ในห้องครัว
“มาตั้งแต่สามทุ่มแล้วค่ะ”
“สามทุ่ม?” เขาทำหน้าแปลกใจ แต่ปากก็ยิ้มออกมาเจ้าเล่ห์
“วิวบอกป้าบัวว่าหิว ก็เลยขอเอาการบ้านมานั่งทำในนี้ด้วยค่ะ”
คนฟังพอใจในความคิดของเธอ บอกแล้วว่าเธอไหวพริบเป็นเลิศ และก็โชคดีที่บ้านเขามีห้องครัวขนาดใหญ่ และแม่ก็ใจกว้างพอให้ทุกคนในบ้านได้ใช้ครัวร่วมกัน แต่ในยามวิกาลแบบนี้และตอนนี้... มีแค่เพียงเขากับเธอ
“ทำการบ้านวิชาอะไร”
“วิชาภาษาอังกฤษ เรื่องการเขียนอีเมลค่ะ”
ภาคินพยักหน้าเข้าใจและพอใจอย่างมากที่เธอตอบคำถามเขาอย่างชัดเจน ไม่ต้องถามซ้ำว่า... แล้วไอ้วิชาภาษาอังกฤษน่ะหัวข้ออะไร
“ทำเสร็จหรือยัง”
“ยังค่ะ”
“อีกเยอะไหม”
“ไม่เยอะค่ะ”
“งั้นทำให้เสร็จ ฉันจะช่วยตรวจให้”
“ค่ะ” นวินดายิ้มเขิน พยายามตั้งสมาธิให้จดจ่ออยู่กับการบ้าน หลังจากก่อนหน้านี้ต้องใช้เวลามากพอควร ที่จะปัดความคิดเรื่องการนัดหมายกับภาคินออกจากหัว แต่ก็เป็นไปตามคาด... พอเวลาห้าทุ่มใกล้เข้ามาและได้เห็นว่าเขาไม่ปล่อยให้รอเก้อ สมาธิที่มีอยู่น้อยนิดก็หายไปในทันที
“ทำการบ้าน ไม่ต้องคิดถึงฉัน” เขายิ้มยียวน รู้ทันความคิดของหญิงสาวแสนว่านอนสอนง่าย ก่อนจะมองใบหน้าปราศจากเครื่องสำอางที่เผยให้เห็นผิวเนียนใส ปากสีชมพูอ่อนๆ และชุดนอนของเธอ
“ปกติใส่ชุดแบบนี้นอนเหรอ” เขาถามเมื่อเห็นว่าเธออยู่ในชุดเสื้อยืดสีขาวที่ใหญ่เกินตัวกับกางเกงขาสั้น ดูๆ ไปก็ไม่ต่างกับชุดที่ได้ถอดเมื่อตอนบ่ายเท่าไหร่ แค่ดูเก่ากว่าเท่านั้น
“ค่ะ... เสื้อเก่าของคุณคินค่ะ พอป้าบัวเห็นว่าคุณคินใส่เกินสามครั้งก็จะเอาไปทิ้ง แต่วิวว่ามันยังใช้งานได้ แม้จะเป็นเสื้อสีขาวแต่ก็ยังไม่หมอง เพราะเราแยกซัก วิวเลยเอามาใช้ต่อค่ะ”
“แล้วใส่เสื้อในมาทำไม”
“คือ... วิวกลัวว่าถ้ามีคนอื่นมาที่นี่ แล้วเห็นวิวไม่ได้ใส่...”
“ดีแล้ว อย่าให้ใครเห็นนอกจากฉัน... เข้าใจไหม”
เธอไม่ตอบ ทำเพียงแค่ยิ้มและพยักหน้ารับ ก่อนจะส่งการบ้านให้เขาตรวจ
“การเขียนอีเมลไม่ยาก แค่ต้องรู้ว่าส่งถึงใครและควรใช้ภาษาระดับไหน ในฐานะที่ฉันเป็นผู้บริหาร ตัวเองอีเมลอย่างเป็นทางการที่เธอเขียนถือว่าใช้ได้ แต่ส่วนอื่นขอไม่ตรวจดีกว่า อาจจะเฉลยผิด แต่ฉันเชื่อว่าเธอทำถูก” ว่าแล้วเขาก็ส่งการบ้านคืนให้ ก่อนจะปิดหนังสือเรียนทุกเล่มบนโต๊ะ
นวินดากลืนน้ำลาย เกิดอาการหายใจไม่ทั่วท้อง เมื่อสายตาของเขามองเธอตลอดเวลา
“ไม่สงสัยเหรอว่าฉันนัดเธอมาทำไม” ภาคินถาม... พร้อมกับเรียกเธอให้มานั่งบนตัก... หลังเธอแนบกับอกแกร่ง และสองมือเขาลูบต้นขาเนียน กางเกงขาสั้นที่เธอใส่ตอนนี้ถูกใจเขายิ่งนัก เพราะมันร่นขึ้นมาจนเหมือนไม่ได้ใส่อะไรเลย
“คุณคินนัดวิวมาทำไมคะ” เธอหันไปถาม ใบหน้าห่างกันเพียงไม่กี่เซนติเมตร ใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจของกันและกัน
“ฉันอยากกินนมก่อนนอน”
“อื้ม...ม” นวินดาแอ่นอกรับมือหนาที่วางลงบนสองเต้า
“ขอกินนมหน่อยได้ไหม”
“คุณคิน...” เธออายเหลือเกิน เขาพูดตรงเกินไปจนตั้งแต่ตัวไม่ทัน แต่ก็ยอมให้เขาบีบคลึงหน้าอกอย่างเต็มใจ
“ได้ไหม...” เสียงกระเส่ากระซิบถามข้างหู ทำเอาคนฟังเสียววาบไปทั้งกาย
“ได้ค่ะคุณคิน”
“หันหน้ามาวิว” คำสั่งเต็มไปด้วยความปรารถนา และมือที่ช่วยพลิกตัวนวินดาให้หันมาหา ทำให้เธอนั่งคร่อมเขาอย่างรวดเร็ว
“ทำไมมองวิวแบบนี้คะ”
“แบบไหน”
“แบบที่กำลังมองอยู่” เธอยิ้มยั่ว... ชอบใจที่เห็นเขามองเธอปานจะกลืนกิน
“ก็อยากมอง ถ้ารู้ว่าเด็กในบ้านจะเด็ดแบบนี้ ฉันไม่ปล่อยผ่านมานานขนาดนี้หรอก” ภาคินไม่พูดเปล่า มือถอดเสื้อและชั้นในออกภายในเวลาไม่กี่วินาที
“อาห์...” นวินดาเสียว... เมื่อนิ้วเขาสะกิดทักทายยอดอก
“อยากให้ฉันจับไปเรื่อยๆ หรืออยากให้ฉัน... ดูด”
“แล้ว... แล้วแต่คุณคินค่ะ” เธอไม่รู้หรอกว่าตัวเองต้องการสิ่งใด เพราะไม่ว่าเขาจะทำอะไรกับปลายยอดแข็งที่เขาสัมผัส เธอก็รู้สึกดีและยินดีให้เขาทำทั้งนั้น
“งั้นฉันจะเลีย... แล้วฉันก็จะดูด”
“คุณคิน...” นวินดาจับแขนล่ำของเขาไว้แน่น เสียวซ่านไปทั้งกายจนไม่รู้จะวางมือไปตรงไหน แต่เมื่อเขาชี้แนะให้เธอคล้องคอเอาไว้ เธอก็ทำตามโดยไม่ขัดข้อง
“เสียวไหมวิว”
“เสียว...”
ภาคินยิ้มอย่างพอใจ เชื่อว่าเธอพูดจริง ไม่เช่นนั้นอกใหญ่ของไม่แอ่นให้เขาได้ใช้ลิ้นและปากสัมผัสอย่างเพลิดเพลิน เพลินซะจนตอนนี้รอบฐานของมันเป็นสีแดง
“วิว...”
“ขาคุณคิน”
“เคยให้ใครกินนมแบบนี้หรือเปล่า”
“ไม่เคยค่ะ”
“โกหกฉันใช่ไหม” เขาถามก่อนจะวางปากทาบทับปากของนวินดาที่เผยอต้อนรับ แต่เขาก็ไม่จูบเธอสักที
“วิวไม่ได้โกหกนะคะ วิวไม่เคยทำแบบนี้กับใครเลยค่ะ” แววตาสั่นไหวถูกส่งให้ภาคิน กลัวว่าเขาจะไม่เชื่อ แต่ไม่รู้จะอธิบายยังไงต่อ
“แล้วทำไมถึงได้ยั่วขนาดนี้ ไปจำมาจากไหน”
“อาห์...” ยังไม่ทันจะได้ตอบ ปากก็ครางออกมาเสียก่อน เพราะเขาถามจบก็ขบกัดต้นคอเธอเบาๆ
“ทำไมยั่วเก่งขนาดนี้วิว... ตอบมา”
“วิวไม่รู้ค่ะ... วิวแค่อยากให้คุณคินมีความสุข”
“ถ้าอย่างนั้นก็อย่าหยุดยั่ว ยั่วจนกว่าฉันจะกินนมเธอจนอิ่ม ตกลงไหม”
“...ค่ะคุณคิน” เธอหลับตาพริ้มเพื่อรับจูบที่รอคอยมาแสนนาน เธอไม่เคยจูบกับใคร ไม่รู้ว่าจูบที่ดีเป็นเช่นไร แต่การได้จูบกับคนที่เธอหมายปอง มันคือจูบที่ดีที่สุดสำหรับเธอ
ไหนสองเต้าจะได้ทำให้เขาอิ่มเอม ไหนจะเอวบางกับสะโพกที่ขยับถูไถลำกายใหญ่ใต้กางเกงนอนของเขา เธอก็รู้แล้วว่าสุขยิ่งกว่าการได้จูบ คือการได้ทำให้เขาหื่นกระหายและต้องการเธอ
“วิว...” เสียงแผ่วเบาทว่าเต็มไปด้วยแรงปรารถนาของภาคินทำให้นวินดาต้องตอบรับเขาด้วยเสียงหวานชวนฝัน
“...ขาคุณคิน”
“ทำให้ฉันหน่อย...”
“อยากให้วิวทำอะไรคะ”
ภาคินไม่ตอบคำถาม แต่เขาอุ้มเธอลงจากตัก ใช้สายตาสั่งให้เธอถอดกางเกงและใช้มือตัวเองลูบไล้ลำกายที่ขยายเต็มกำลัง
“ทำให้ฉันมีความสุขแบบที่เธอบอกสิ”
“ค่ะ” นวินดายินดีรับคำสั่ง เธอตอบสนองเขาด้วยการวางมือลงทักทาย เลื่อนมือขึ้นลงช้าๆ ก่อนจะเปลี่ยนจากมือเป็นใช้สองเต้าลูบไล้ลำกายของเขา
“โอ้ว... ดีมากวิว” เขาบอกอย่างพอใจ ก้มมองความสวยงามของหน้าอกหน้าใจและสายตายั่วยวนของนวินดาไปพร้อมๆ กัน
“ชอบไหมคะคุณคิน”
“ชอบ... ปกติดูหนังโป๊บ่อยหรือเปล่า”
“คุณคิน!” เธอตกใจกับคำถาม แต่ยังปรนเปรอเขาให้มีความสุขเช่นเดิม
“ยั่วเก่งขนาดนี้ ดูบ่อยใช่ไหม”
“ใครๆ ก็ทำแบบนี้ได้ทั้งนั้นแหละค่ะ แต่วิวเลือกที่จะทำกับคุณคินคนเดียว”
“ตอบไม่ตรงคำถาม... อาห์...” ภาคินเสียว เมื่อเธอกลับมาใช้มือจับแก่นกาย
“วิวแค่... อยากทำแบบนี้กับคุณคินมานานแล้วค่ะ”
“เธอคิดไม่ดีกับฉันมานานแล้วใช่ไหม?”
“เปล่าคิดไม่ดีนะคะ” รอยยิ้มน้อยๆ กลบคำโกหกไม่ได้ แต่เขาก็ไม่ว่าอะไร มองว่ามันเป็นรอยยิ้มที่น่ารักเหลือเกิน
“เดี๋ยวค่อยคุยเรื่องนี้ ตอนนี้เร่งมือหน่อย มันจะออกแล้ว”
“ค่ะ” นวินดาทำตามคำสั่ง อยากลองทำแบบในคลิปที่เคยดูบ้างจัง อยากรู้ว่าหากปากเธอครอบลำกายของเขา ตัวเองจะรู้สึกอย่างไร และเขาจะชอบหรือไม่
“โอ้ว... วิว... เร็ว... เร่งมือหน่อย” ภาคินบอกพร้อมกับยื่นมือไปบีบคลึงอกใหญ่
“เสียวไหมคะคุณคิน”
“เสียว... วิว... เร็ว... อาห์... จะแตกแล้ว... วิว...”
“อุ๊ย!” นวินดาหลับตาปี๋ ถ้าช้ากว่านี้อีกนิด น้ำรักของเขาได้พุ่งเข้าตาเธอแน่ ตอนนี้เลยโชคดีที่มันเลอะเพียงแก้ม และส่วนใหญ่อยู่บนเนินอก
“ฉันเช็ดเอง” เขารีบห้ามเมื่อเธอหยิบกระดาษทิชชู อยากทำความสะอาดสิ่งนี้ด้วยตัวเอง แค่เธอทำให้เขาไปถึงสวรรค์ชั้นเจ็ดเขาก็พอใจมากแล้ว และเขายังต้องพาเธอถึงสวรรค์เช่นเดียวกัน เมื่อครู่เขาอดทนไม่ได้ เนื่องจากเก็บความต้องการไว้ตั้งแต่ช่วงบ่าย พอได้เห็นและได้สัมผัสผู้หญิงที่ปรารถนามาหลายชั่วโมง อะไรบางอย่างจึงยากจะควบคุม
“ขอบคุณนะคะ” นวินดาบอกอย่างซึ้งใจ เธอไม่ได้รังเกียจมันเลย สาบานได้... แต่หากเขายืนยันจะทำเช่นนั้น เธอก็ขยับตัวเขาไปใกล้ เขาจะได้เช็ดอย่างง่ายดาย
“เธออยากทำตรงไหน บนนี้ดีไหม” เขาชี้ไปบนเคาน์เตอร์กลางห้องครัว ดีจังที่ป้าบัวรู้จักเก็บทุกอย่างไว้ในด้านล่าง พื้นที่ว่างด้านบนจึงมากพอให้เขากับเธอ...
“วิวไม่ทำค่ะ”
“ทำไม...?”
“วิว... ขอแค่จูบคุณคินก็พอ” เธอขยับเข้าไปใกล้เขามากขึ้น ใกล้ซะจนหน้าอกแนบชิดกับตัวของเขา ใกล้ซะจนสัมผัสได้ว่าแก่นกายเขายังไม่มีทีท่าจะสงบลงเลย มันยังคงแข็ง... อุ่น... และทักทายตรงกลางระหว่างขาเธอช้าๆ...
“จูบวิวหน่อยได้ไหมคะคุณคิน” เสียงออดอ้อนบวกกับแววตาอ้อนวอน มีหรือที่ภาคินจะปฏิเสธได้ลง เขาจึงมอบจูบแสนหวานและนุ่มนวลชวนฝันตามคำขอของเด็กในปกครอง
“วิว”
“ขาคุณคิน”
“ให้ฉันทำให้เถอะนะ” คราวนี้เขาเป็นฝ่ายขอร้อง เขาต้องการสานต่อสิ่งที่เธอบอกกับเธอไว้ นั่นก็คือการใช้บางอย่าง... แทนนิ้วมือ
“ไม่ดีกว่าค่ะคุณคิน ดึกมากแล้ว ถ้าเราเสียงดัง อาจจะมีคนได้ยินนะคะ” ปากเอ่ยคำปฏิเสธ แต่ตัวนั้นยืนให้เขากอดไม่หนีไปไหน
“เธอกำลังแกล้งฉันใช่ไหม”
“อาห์...” อีกครั้งที่ยังไม่ทันได้ตอบ เสียงครางก็ดังขึ้นมาแทนที่ ก็เขาน่ะสิ... ถามเสร็จก็ดื่มนมเธออีกแล้ว
“วิวไม่ได้แกล้งนะคะ วิวก็ทรมาน แต่เราควรหยุด”
“ไม่” ภาคินยังคงดึงดัน พยายามจะถอดกางเกงตัวจิ๋วของเธอออก
“นะคะคุณคิน”
“ตกลง” เขาถอนหายใจ ถอยตัวออกห่างนวินดาก่อนที่จะทนไม่ไหว หยิบกางเกงขึ้นมาใส่ พร้อมกับยืนมองเธอใส่เสื้อทั้งสองชิ้น
“เจอกันพรุ่งนี้ที่ห้องทำงานของฉัน”
เธอยืดเท้าให้สูงขึ้นเพื่อกระซิบถามเขาอย่างแผ่วเบา “กี่โมงคะ”
“บ่ายโมงตรง”
“ได้ค่ะ คุณคินสุดที่รัก” นวินดาหอมแก้มเขา ไม่เดินไปไหนจนกระทั่งเขาเป็นฝ่ายเดินออกจากห้องครัวไปก่อน
“วิวขอโทษนะคะ” เธอถอนหายใจ... รู้ว่าเขาเดินจากพร้อมความทรมาน ซึ่งเธอเองก็ไม่ต่างกัน แต่หากยอมให้เขาทุกครั้งไป เธอจะไม่มีค่าให้เขาคิดถึงเลย และโชคดีที่ไม่ต้องอาลัยอาวรณ์เขาเกินความจำเป็น เพราะเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมา
นวินดารับโทรศัพท์ คนโทร.เข้ามาก็รู้เวลาเสียจริง ไม่โทร.มาขัดจังหวะตอนเธอกับภาคินกำลังมีความสุข
“ยังไม่นอน ต้นมีอะไรเหรอ?”
จากที่กำลังจะออกจากห้องครัวไปห้องพักของตัวเอง เธอก็นั่งลงบนเก้าอี้ตัวที่เขานั่งเมื่อครู่พร้อมกับรอยยิ้มบางๆ เมื่อคิดถึงความเสียวของเขาตอนเธอใช้มือจับลงไปตรงนั้น...
“พรุ่งนี้กี่โมงเหรอ?”
“บ่ายสอง...”
ภาคินทำหน้าสงสัย หลังจากแอบฟังเธอคุยโทรศัพท์มาสักพัก ตอนแรกเขาจะขึ้นห้องนอนแล้ว แต่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ของเธอ ขาจึงหยุดเดินโดยอัตโนมัติ
“เดี๋ยวเราบอกอีกทีนะต้นว่าไปได้ไหม”
“โอเค บ๊ายบาย”
นวินดาวางสาย เก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกง ก่อนจะหยิบหนังสือเรียน ปิดไฟและกลับห้องไปพร้อมกับความกังวล...
เพื่อนโทรศัพท์มาชวนไปกินข้าวกับสายรหัส แต่พรุ่งนี้เธอมีนัดกับภาคินตอนบ่ายโมงและคงไปไม่ทันเวลาบ่ายสอง ต้องเลือกระหว่างเขากับกลุ่มพี่น้องที่มหาลัย
ส่วนภาคิน... เขาได้แต่สงสัยว่าใครต้น ต้นชวนวิวไปไหน ระหว่างเขากับเพื่อนชายคนนั้น... วิวจะเลือกไปกับใคร