EP.2 ไอ้หัวขโมยสารเลว
กลอเรียหัวเราะคิกกับนิสัยชอบเอาชนะกันเหมือนเด็กๆ ของพวกหนุ่มๆ ที่อายุไม่ใช่น้อยๆ กันแล้ว อย่างมาร์เซโล คอนสแตนเซีย พ่อนักเตะเจ้าเสน่ห์ของเธอปีนี้ก็ย่างเข้าสามสิบหก ส่วนลูซิโอ อัลเวสก็สามสิบสาม และหากรวมน้องชายของเธอด้วยอีกคน กาเบรียล โอลิเวียร่า ปีนี้สามสิบพอดี แต่กระนั้นสามหนุ่มก็โตมาด้วยกันและสนิทสนมกันมากราวกับคลานตามกันมาเลยทีเดียว
“ถ้าอย่างนั้นคุยกันตามสบายนะจ๊ะ ฉันไม่อยู่เป็นผู้หญิงคนเดียวให้พวกเธอแกล้งดีกว่า” กลอเรียบอกลาพลางหันมายิ้มให้น้องชายแท้ๆ ของเธออย่างรู้กันว่าเรื่องที่คุยค้างไว้คงต้องคุยต่อวันหลัง ซึ่งกาเบรียลเองก็เห็นควรว่าต้องอย่างนั้น เพราะลองถ้ามาร์เซโลไปลากจอมมารขยันติสต์อย่างลูซิโอออกมาจากสำนักแต่งเพลงส่วนตัวได้ สงสัยจะไม่กลับกันง่ายๆ
“พวกนายนึกยังไงชวนกันมาหาฉันถึงนี่” กาเบรียลยอมรับว่าแปลกใจนิดหน่อย เพราะปกติแล้วลูซิโอชอบหมกตัวอยู่กับงานเพลงที่บ้านในริโอ เดอ จาเนโร มากกว่าเดินทางไปไหนมาไหนไกลๆ ส่วนมาร์เซโลเองก็มีบ้านอยู่เซาเปาโล ซึ่งสาเหตุที่พวกเขามีบ้านอยู่คนละเมือง ทว่าสนิทกันเช่นนี้ก็เพราะบรรดาแม่ๆ ของพวกเขาเป็นสามสาวใบเถาจากตระกูลซิลวาที่รักใคร่กลมเกลียวกันมาก
หากทว่าภายหลังจากแต่งงานและแยกย้ายกันมาอยู่บ้านสามี บรรดาแม่ๆ ก็มักจะนัดไปรวมตัวกันที่บ้านคุณตาในเซาเปาโลเสมอ โดยการหอบหิ้วลูกไปด้วยเป็นประจำ แต่พอลูกๆ เริ่มโตและมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบมากขึ้น หลายปีมานี้พวกเขาจึงเจอกันแค่ช่วงวันเกิดคุณตา หรือไม่ก็พูดคุยกันทางโทรศัพท์เท่านั้น
“ก็พี่มาร์เซโลของนายน่ะสิ เที่ยวหว่านเสน่ห์ไม่เลือกจนรถไฟชนกันสามขบวนกลางสระว่ายน้ำโรงแรม นายไม่เห็นข่าวเหรอ” ลูซิโอบอกแล้วหัวเราะหึๆ ในลำคอ
ทว่ากาเบรียลไม่ค่อยได้ติดตามข่าวพวกนี้ กอปรกับช่วงนี้เขาเองก็เพิ่งกลับออกจากแอมะซอนเลยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็เดาได้เลาๆ ว่าคงเป็นปัญหาเรื่องผู้หญิงของมาร์เซโลที่เจ้าตัวเองก็ไม่ได้สะท้านสักเท่าไหร่ ถึงได้หลบมาบราซิลเงียบๆ โดยปล่อยให้ทางโน้นวุ่นวายกันไป และที่เลือกมาหาเขาถึงซัลวาดอร์ก็คงเพราะไม่อยากให้ใครรู้ว่าตัวเองกลับมาบราซิลนั่นเอง
“ว่าแต่... นายมีปัญหาอะไรอยู่หรือเปล่า กาเบรียล” มาร์เซโลเพิ่งจะสังเกตเห็นว่าญาติผู้น้องของเขาวันนี้ดูท่าทางเหมือนแบกโลกทั้งใบเอาไว้บนบ่า
“ก็...นิดหน่อย” กาเบรียลถอนหายใจอย่างที่ทำให้ญาติผู้พี่จ้องมองอย่างรู้ในทันทีว่าไม่ใช่ปัญหาเรื่องงานแน่ๆ และเมื่อกาเบรียลหันไปสบตาญาติผู้พี่อีกครั้ง เขาก็รู้สึกได้ถึงออร่าคำสั่งที่ทั้งคู่ส่งมาอย่างพร้อมเพรียงว่า ‘จงบอกมาเดี๋ยวนี้’
กาเบรียลนิ่งไปครู่หนึ่งอย่างใคร่ครวญ แต่อันที่จริงมันก็ไม่ใช่เรื่องที่เขาจำเป็นต้องปิดบัง
“พวกนายจำผู้หญิงคนนั้นได้มั้ย ที่เป็นเจ้าของร้านอาหารริมหาดบาฮา คนที่กล้าเข้าไปคุยกับโจรให้ปล่อยพนักงานของเธอในคืนนั้น”
“นี่อย่าบอกนะว่า...” มาร์เซโลมองญาติผู้น้องของตนอย่างเหลือเชื่อ ก่อนจะหัวเราะขำ “ฉันไม่นึกว่านายจะเอาจริง”
กาเบรียลรู้ดีว่าในสายตาของอีกฝ่าย การให้ความสนใจผู้หญิงสักคนหนึ่งอย่างจริงจังคงเป็นเรื่องไม่เข้าท่า เพราะสำหรับมาร์เซโลแล้ว ความคิดเรื่องการสร้างครอบครัวหรือรักใครสักคนอย่างจริงจัง เป็นเรื่องไร้สาระ และอาจจะต้องรอให้สักอายุสี่สิบเสียก่อนเขาจึงจะยอมหยิบเรื่องนี้มาขบคิด แต่นั่นก็เพราะทนคำถามซักไซ้ของมารดาไม่ไหว หาใช่เพราะความสมัครใจแต่อย่างใด
“ตั้งแต่เมื่อไหร่ ไม่เห็นเล่าให้ฟังบ้าง” เป็นลูซิโอที่ถาม แม้หมอนี่จะไม่ได้หัวเราะออกมาตรงๆ แต่รอยยิ้มที่มุมปากนั้นก็ทำให้กาเบรียลรู้สึกได้ว่าเจ้าตัวแอบขบขันอยู่ไม่น้อย เพราะลูซิโอเคยถูกผู้หญิงหักหลังมาก่อน
ดังนั้น จึงไม่คิดจะจริงจังกับผู้หญิงคนไหนอีกง่ายๆ เช่นกัน และคงไม่คิดด้วยว่าคนที่มีรสนิยมชอบสาวเซ็กซี่ขยี้ใจ อกเป็นอก เอวเป็นเอวมาตลอดตั้งแต่ย่างเข้าวัยรุ่นอย่างกาเบรียลจะไปสนใจสาวเอเชียตัวเล็กๆ ฉบับกระเป๋าที่วันๆ เอาแต่หมกตัวอยู่ในครัวพอๆ กับที่ลูซิโอหมกตัวอยู่กับการเขียนเพลง
แต่ก็เป็นปาริดาอีกนั่นแหละที่ทำให้กาเบรียลค้นพบตัวเองว่าที่จริงแล้วเขาชอบผู้หญิงฉบับกระเป๋ามากกว่าผู้หญิงทรงโตเป็นไหนๆ
“ก็เร็วๆ นี้แหละ” กาเบรียลกลุ้มใจที่ถูกผู้หญิงบอกเลิกจนคร้านจะอธิบายในเชิงลึก และหากเขาบอกไปจริงๆ ว่าถูกผู้หญิงฟันแล้วทิ้ง มีหวังไอ้สองคนนี้คงได้ล้อเลียนเขาไปยันลูกโตแน่ๆ “พอดีมีเรื่องไม่เข้าใจกันนิดหน่อย”
“งั้นก็ไม่เห็นต้องกังวล ไหนๆ ฉันก็มาพักผ่อนที่ซัลวาดอร์แล้ว นายเป็นเจ้าถิ่นก็พาฉันไปเปิดหูเปิดตา แล้วก็อาจจะชวนบรรดาสาวๆ ที่นายเคยควงมาสนุกด้วยกันเป็นการผ่อนคลาย อืม...ล่องเรือดีมั้ย” มาร์เซโลเสนอไอเดียในการระบายความกลัดกลุ้มของญาติผู้น้อง ก่อนจะเอนกายพิงพนักพลางยกแขนทั้งสองข้างขึ้นกางพาดด้วยสายตากรุ้มกริ่ม
“แล้วก็จะดีสุดๆ ถ้าสาวๆ ของนายจะชวนเพื่อนสวยๆ ไปด้วย” มุมปากที่โค้งขึ้นนิดๆ ของมาร์เซโลทำให้อีกสองหนุ่มรู้ในทันทีว่าที่แท้...หมอนี่ก็หนีสาวอังกฤษมาซุกอกสาวบราซิล!
“ไม่เอาล่ะ” กาเบรียลปฏิเสธตรงๆ ตอนนี้นอกจากปาริดาแล้ว ผู้หญิงคนอื่นในสายตาเขาก็ดูเหมือนหัวไชเท้าที่ไม่ต่างกันเลยสักคน ไม่สวย ไม่ชอบ ไม่อร่อย “แต่ถ้านายจะไป เดี๋ยวฉันบอกให้บรูโน่จัดการเรื่องเรือให้ก็แล้วกัน” ปฏิเสธแต่ก็ยังมีน้ำใจช่วยจัดหาให้ หากลูกพี่ลูกน้องทั้งสองคนต้องการ
มาร์เซโลหันไปมองลูซิโออย่างนึกไม่ถึงว่ากาเบรียลจะเอาจริงขนาดนี้ แต่คนเคยมีประสบการณ์อกหักมาก่อนย่อมเข้าใจดีว่าช่วงนี้ความรู้สึกของกาเบรียลเป็นเช่นไร
“ไอ้ที่บอกว่าไม่เข้าใจกันนิดหน่อยเนี่ย ที่จริงแล้วมันไม่นิดใช่มั้ย”
“…” กาเบรียลไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธ แต่อีกสองคนก็เข้าใจเป็นอย่างดี