บทที่ 07 สูญเสีย

1874 คำ
ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด! ปลายสายถูกตัดไปไม่รู้เป็นรอบที่เท่าไหร่ ร่างสวยเดินวนไปวนมารอบบ้านเนื่องจากเวลาที่เกือบเที่ยงคืนทว่ากลับยังไม่เห็นร่างของน้องชายที่ต้องกลับมาเหมือนเช่นทุกครั้ง "หนาว...รับสายพี่สิ" น้ำฟ้ากระวนกระวายใจอย่างบอกไม่ถูก น้ำหนาวไม่ใช่คนที่เหลวไหลจนไม่รับสายและไม่กลับบ้านเช่นครั้งนี้ ความกลัวทำให้เธอคิดไปต่างๆ นาๆ จนทำให้ดวงตากลมโตเต็มไปด้วยน้ำตาที่คลออยู่เต็มหน่วย "พี่ใจไม่ดีแล้วนะน้ำหนาว..." ร่างเล็กชะเง้อคอมองออกไปนอกบ้าน พลางเรียวปากเล็กก็เอาแต่พึมพำรู้สึกกลัวอยู่คนเดียว กระทั่ง... ครืดดดดด! น้ำหนาว สายที่โทรเข้าระบุชื่อของคนที่เธอรอคอยเกือบทั้งคืน มือเรียวจัดการรีบคว้ามากดรับสายท่าทีลนลาน ใบหน้าสวยฉายรอยยิ้มบางๆ เมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์ของคนที่กำลังรอคอย "หนาว...ทำไมไม่รับสายพี่" ทันทีที่กดรับสาย น้ำฟ้าก็รีบเอ่ยขึ้น (เอ่อ...ญาติคุณนาธารใช่ไหมคะ) แต่แล้วปากเล็กก็ต้องหุบยิ้มทันทีเมื่อปลายสายกลับไม่ใช่คนที่เธอรอคอย เสียงผู้หญิงที่เล็ดรอดจากจากโทรศัพท์พร้อมกับสรรพนามที่เอ่ยเรียกทำให้น้ำฟ้าชะงัก "ชะ ใช่ค่ะ...ฉ ฉันเป็นพี่สาวเขา" น้ำฟ้าตอบด้วยเสียงสั่นเครือ พยายามภาวนาไม่ให้เป็นสิ่งที่เธอกำลังคิดในตอนนี้ แต่แล้ว... (พอดีตอนนี้คุณนาธารประสบอุบัติเหตุค่ะ กำลังส่งตัวไปโรงพยาบาลA) เหมือนฟ้าผ่าลงตรงกลางใจ ประโยคที่ดังผ่านโทรศัพท์ทำให้น้ำฟ้ายืนช็อคตัวแข็งทื่อไปทั้งตัว น้ำตาที่คลออยู่เต็มหน่วยค่อยๆ ไหลออกมาจากดวงตากลมอย่างห้ามไว้ไม่อยู่...สิ่งที่เธอกลัวที่สุดในชีวิต (ฮาโหลค่ะ...คุณคะ) ปลายสายดังขึ้นอีกครั้งทำให้คนที่ถือสายสมองขาวโพลนเริ่มรู้สึกตัว "ฮึก...ฉันจะรีบไปค่ะ" ร่างบางจัดการกดตัดสาย พยายามตั้งสติของตัวเองแล้วรีบพุ่งตัวออกจากบ้านอย่างรวดเร็ว ติ๊งง! น้ำฟ้าตัดสินใจกดออดหน้าบ้านของเฟิร์สพี่ชายข้างบ้าน นี่คือหนทางเดียวที่จะพาเธอไปโรงพยาบาลได้รวดเร็วที่สุด "ฟ้า...เป็นอะไร" ชายหนุ่มเดินออกจากบ้านในยามค่ำคืน เท้ายาวรีบก้าวมาเปิดประตูให้คนที่ยืนหน้าบ้านสั่นเครือไปทั้งตัว "ฮึก...พี่เฟิร์สช่วยไปส่งฟ้าไปโรงพยาบาลหน่อยได้ไหมคะ..." "ฮึก...ฮือออ" น้ำฟ้าระเบิดน้ำตาออกมาอย่างห้ามไม่ได้ เธอเขย่าแขนเฟิร์สราวกับคนที่เสียสติ "ฟ้าใจเย็นๆ ก่อน ค่อยๆ คุย พี่ฟังไม่เข้าใจ" "นะ หนาวค่ะ...หนาวประสบอุบัติเหตุ" น้ำฟ้าพยายามตั้งสติ คุมเสียงให้สั่นน้อยที่สุดแล้วเอื้อนเอ่ยกับคนตรงหน้า "ว่าไงนะ! เดี๋ยวพี่รีบไปเอารถ" เฟิร์สขึ้นเสียงใส่ด้วยความตกใจแล้วรีบวิ่งเข้าไปในบ้านอีกครั้ง ก่อนที่เขาจะลนลานรีบหยิบกุญแจรถขับออกมาอย่างรวดเร็ว ใช้เวลาไม่นานทั้งสองก็มาถึงโรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่ ร่างเล็กรีบวิ่งไปหาห้องฉุกเฉินอย่างไม่คิดชีวิตโดยที่มีเฟิร์สรีบวิ่งตามหลังเธอมาอีกคน "ฮึก...หนาว..." ทันทีที่ถึงหน้าห้องฉุกเฉิน ร่างบางก็ยืนนิ่งมองเข้าไปในห้อง หัวใจดวงน้อยสั่นอย่างบอกไม่ถูก "ใจเย็นๆ นะฟ้า ถึงมือหมอแล้ว น้องต้องไม่เป็นอะไร" มือหนายกขึ้นมาลูบหัวเล็กอย่างต้องการปลอบใจ ผลั่ก! ไม่นานเสียงประตูห้องฉุกเฉินก็ถูกเปิดออกพร้อมกับร่างของชายวัยกลางคนในชุดกาวน์สีขาว น้ำฟ้าที่เห็นดังนั้นก็รีบพุ่งตัวเข้าไปหาทันที "หมอคะ! คนไข้ชื่อนาธารเป็นยังไงบ้าง" เธอรีบลนลานเข้าไปถามหมอราวกับคนสติหลุด "คนไข้มีเลือดคลั่งในสมองครับ หมอจำเป็นต้องรีบผ่าตัดเพื่อไปเอาก้อนเลือดที่กดทับตรงเนื้อสมองออก วิธีการนี้อาจช่วยให้ผู้ป่วยพ้นขีดอันตราย...หรือทำให้อาการแย่ลงก็ได้ครับ" ประโยคคำพูดของหมอหนุ่มทำให้ผู้หญิงตัวเล็กๆ แทบเป็นลมล้มทั้งยืน "..." น้ำฟ้ายืนนิ่งเงียบช็อคกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น การที่หมอบอกว่าน้องของเธออาจจะอาการแย่ลงนั้นคือหมายความว่าอาจจะไม่มีสิทธิ์รอด สิ่งที่เธอกลัวที่สุดในชีวิตกำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้ง...เธอกลัวการสูญเสีย "ญาติคนไข้ยินยอมที่จะผ่าตัดไหมครับ" "..." น้ำฟ้ายังคงนิ่งช็อคอยู่กับเหตุการณ์ "ฟ้า..." จนเสียงทุ้มของเฟิร์สที่อยู่ด้านข้างสะกิดขึ้นจนเธอได้สติ "หมอถามว่าจะยินยอมให้ผ่าตัดหนาวไหม" เฟิร์สพูดทวนอีกครั้ง "ผะ ผ่าค่ะคุณหมอ...คุณหมอต้องช่วยน้องฉันนะคะ" แม้ว่าการผ่าตัดอาจจะไม่มีสิทธิ์รอด ทว่าการไม่ทำอะไรเลยน้องเธออาจะไม่มีสิทธิ์รอดมากกว่า "ครับ รบกวนเคลียร์เอกสารกับพยาบาลได้เลยครับ" หมอหนุ่มพูดจบก็เดินออกไป "ไหวไหม ให้พี่ไปเป็นเพื่อนหรือเปล่า?" "ว ไหวค่ะ ฟ้าฝากพี่เฟิร์สดูหนาวด้วยนะคะ" น้ำฟ้าพยักหน้าทั้งน้ำตาให้คนด้านข้าง ก่อนที่เธอจะรีบเดินตามพยาบาลสาวออกไปอีกทาง "เอกสารเซ็นยินยอมและค่าใช้จ่ายทั้งหมดค่ะ" "ห้าแสน..." เรียวปากเล็กพึมพำกับราคาของค่าใช้จ่ายทั้งหมดในครั้งนี้ การผ่าตัดใหญ่ขนาดนี้ย่อมมีค่าใช้จ่ายที่สูงตามไป ยิ่งเป็นโรงพยาบาลของเอกชนแล้วค่าใช้จ่ายยิ่งสูงตาม น้ำฟ้ากำเสื้อของตัวเองแน่นน้อยใจในโชคชะตาของตัวเอง เธอยืนมองยอดเงินที่ระบุในกระดาษสีขาวด้วยจิตใจล่องลอย กระทั่ง... มือเรียวจัดการเซ็นเอกสารลงไปในที่สุด ดวงตากลมโตวูบสั่นไหวความห่วงน้องชายและยอดค่าใช้จ่ายตีขึ้นจนเธอรู้สึกมืดแปดด้าน แต่แล้วสิ่งเดียวที่ต้องทำตอนนี้คือการทำทุกอย่างเพื่อให้น้องชายรอดปลอดภัย น้ำฟ้าเดินกลับมายังหน้าห้องฉุกเฉินด้วยสภาพที่ล่องลอย สมองเล็กกำลังประมวลผลทั้งเรื่องผ่าตัด เรื่องค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เธอต้องเผชิญ "ฟ้าเป็นยังไงบ้าง?" "ฮึก...พี่เฟิร์ส" "..." ร่างหนาไม่พูดอะไรเลือกที่จะลูบหัวเล็กอย่างต้องการปลอบใจ เขาไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่านี้ได้เลย "ฮึก...ค่าผ่าตัดตั้งห้าแสน ต้องจ่ายภายในสามวันแล้ว ฟ้าลงทุนไปกับร้านหมดแล้วพี่เฟิร์ส ฟ้าจะทำยังไงดี...ฮือออ" น้ำฟ้าที่สุดจะกลั้นน้ำตาก็ปล่อยโฮออกมาอย่างไม่อายใคร ความรู้สึกที่อัดอั้นไว้ในตอนแรกถูกปลดล็อกเพียงเพราะเสียงทุ้มที่สะกิดมัน "มันต้องมีทางสิฟ้า ใจเย็นๆ นะ" "ฟ้ามืดไปหมดเลยพี่เฟิร์ส ฟ้าเป็นห่วงน้อง..." "น้ำหนาวต้องไม่เป็นอะไร เชื่อพี่นะ" "ฮึก ฮือออ" ร่างเล็กสวมกอดพี่ชายข้างบ้านพร้อมกับปล่อยโฮออกมา ผ่านไปสักพัก "พี่ขอโทษที่พี่ช่วยอะไรฟ้าไม่ได้เลย..." เฟิร์สเอ่ยขึ้นกับคนตัวเล็กที่นั่งกุมมือเงียบๆ หลังจากที่เธอได้ปลดปล่อยความรู้สึกอัดอั้นออกมาจนหมด "ไม่หรอกค่ะ พี่เฟิร์สช่วยฟ้าได้เยอะมากเลยค่ะ" น้ำฟ้าคลี่ยิ้มบางๆ ให้คนตัวสูง "เงินเก็บพี่ยังพอมีอยู่บ้าง แต่มันก็ไม่ได้เยอะเหมือนก่อนที่ซื้อรถ ฟ้าเอาไปก่อนนะ ไว้พี่จะลองไปถามแม่ดู" "พี่เฟิร์สเก็บไว้เถอะค่ะ มันคือก้อนสุดท้ายของพี่ ฟ้าไม่อยากรบกวน พี่เฟิร์สอย่าบอกคุณน้านะคะ ฟ้าไม่อยากรบกวนท่านเหมือนกัน" "แต่ว่า..." "ไม่เป็นไรค่ะ เรื่องนั้นฟ้าจัดการได้" น้ำฟ้ายิ้มอีกครั้งเพื่อให้อีกคนสบายใจ "ตอนนี้ก็ไม่มีอะไรแล้ว พี่เฟิร์สกลับก่อนก็ได้ค่ะ มันดึกแล้ว ขอบคุณสำหรับวันนี้นะคะ" เจ้าของร่างสวยหลุบตาไปมองนาฬิกาที่ข้อมือก่อนที่จะพบว่าเป็นเวลาเกือบตีสอง "แล้วฟ้าอยู่ได้เหรอ?...พี่อยู่เป็นเพื่อนดีกว่า" "ฟ้าโอเคขึ้นแล้วค่ะ พี่เฟิร์สรีบกลับไปพักผ่อนเถอะ พรุ่งนี้ต้องทำงานอีก ฟ้าไม่อยากรบกวน" "งั้นพรุ่งนี้หลังเลิกงานพี่มาหาใหม่นะ" เฟิร์สลูบหัวเล็กอีกครั้ง ใบหน้าคมคายยกยิ้มอย่างส่งกำลังใจ ก่อนที่จะหมุนตัวเดินออกไป การผ่าตัดผ่านไปราวๆ สี่ชั่วโมง น้ำฟ้าได้นั่งนิ่งกุมมือตัวเองไว้ "พ่อกับแม่ช่วยน้องด้วยนะคะ...ช่วยให้น้องปลอดภัยด้วย..." น้ำฟ้าได้แต่ขอพรภาวนาให้ทุกอย่างผ่านด้วยดี หวังว่าครั้งนี้โชคชะตาจะไม่ใจร้ายกับเธอไปกว่านี้ ผลั่ก! "หมอคะ!...น้องฉันเป็นยังไงบ้าง" "คนไข้พ้นขีดอันตรายแล้วครับ แต่ยังคงต้องอยู่ในห้องไอซียูเพื่อรอดูอาการแทรกซ้อนต่ออีกครับ" ราวกับตอนนี้มีใครได้ยกก้อนหินออกจากอก รอยยิ้มบางๆ ผุดขึ้นทั้งน้ำตา คำขอของเธอถูกตอบรับแล้ว... "ขอบคุณมากจริงๆ ค่ะหมอ" "ยินดีครับ" หมอหนุ่มพูดจบก็เดินออกไป ก่อนที่น้ำฟ้าจะนั่งลงบนเก้าอี้อีกครั้งเพื่อตั้งสติ มือเรียวยกขึ้นมาดูนาฬิกาข้อมือที่บ่งบอกว่าเป็นเวลาหกโมงเช้า คนตัวเล็กรีบสาวเท้าเดินออกจากโรงพยาบาลเพื่อกลับบ้านเตรียมไปทำงานในเช้าวันใหม่ ยังไงแล้ววันนี้เธอก็ไม่มีสิทธิ์เยี่ยม การมาทำงานอาจจะลดอาการที่กำลังฟุ้งซ่านในตอนนี้ได้ "น้ำฟ้าเป็นอะไร ทำไมหน้าซีดขนาดนั้น" ทันทีที่เท้าเล็กเดินผ่านหน้าโต๊ะของรุ่นพี่ที่ทำงาน ไม่วายที่ลินจะเอ่ยทักขึ้นเมื่อเห็นใบหน้าไม่สู้ดีของเธอ "ไม่เป็นไรค่ะพี่ลิน เมื่อคืนฟ้าอาจจะนอนน้อย" น้ำฟ้าสั่นหัวเพื่อไล่อาการปวดหัวที่เริ่มก่อตัว "ไหวไหมเนี่ย..." "ไหวค่ะ ฟ้าไปทำงานก่อนนะคะ" น้ำฟ้ายิ้มเอ่ย เดินต่อไปยังโต๊ะของตัวเอง ก่อนที่จะหยิบจับเอกสารมาทำงานตามปกติ ทว่าร่างเล็กก็ต้องขยี้ตาอย่างหนักเมื่อตอนนี้ตัวอักษรตรงหน้ากลับซ้อนทับไปหมด ในขณะนั้นเอง... ติ๊ด. "เข้ามาพบผมหน่อย" เสียงทุ้มจากโทรศัพท์ที่ทำงานดังขึ้นโดยคนข้างในที่เป็นคนเอ่ยสั่ง น้ำฟ้ารีบลุกขึ้นตามสัญชาตญาณของการเป็นเลขา จนร่างสวยเซเล็กน้อย "บอสมีอะไรหรือเปล่าคะ" ทว่าในที่สุดร่างเล็กก็รั้นตัวเองเดินเข้ามาในห้องของเจ้านายได้สำเร็จ เรือนร่างเล็กยืนประสานมือพยายามประคองตัวไม่ให้เซด้วยภาพที่กำลังหมุนจนลายตา "เป็นอะไร?..." ใบหน้าซีดเซียวและดวงตาที่ค่อยๆ หรี่ลงทำให้พร้อมพงศ์เอ่ยถามขึ้น "ป เปล่าค่ะ" "เปล่าแล้วทำไมถึงหน้าซะ...น้ำฟ้า!"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม