“หน้าตาพอใช้ได้” ไอ้คนที่เดินเข้ามาทีหลังเพื่อนพูดแล้วผิวปากหวือ มันกวาดตามองสำรวจเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า และมองตรงจุดที่ไม่ควรมองอย่างเสียมารยาท “ซิงหรือเปล่าวะ”
แม้หน้าตามันจะดูดีเข้าขั้นหล่อลากไส้ ทั้งรูปร่างก็สูงสมาร์ตน่าเกรงขาม แต่คำพูดคำจาของมันแสนทุเรศ น่าเอาน้ำยาล้างส้วมกรอกปาก
“ไม่ทราบครับคุณชิณณ์” ไอ้คนที่เข้ามาก่อนหนึ่งในสองตอบ
“เดี๋ยวกูเช็กของเอง”
พอมันบอกว่าจะเช็กของ พรีมก็เบิกตากว้างด้วยความตกใจ เธอดิ้นสุดฤทธิ์แต่ไม่อาจหลุดจากพันธนาการได้ พรีมกรีดร้องออกมาสุดเสียง ทว่าเสียงที่ออกมาก็ดังเพียงอู้อี้ เพราะพวกมันใช้ผ้ามัดปิดปากเธอไว้
“จุ๊ ๆ เอวดีนี่หว่า เด้งแบบนี้มันน่าจัดสักยกก่อนส่งให้แขก”
เอวดีพ่อง...พรีมอยากตะโกนใส่หน้าคนที่นั่งลงข้างเธอ แต่หญิงสาวก็ทำได้เพียงขึงตาใส่มัน พอมันเอาหลังมือมาลูบแก้มเนียน พรีมก็สะบัดหน้าหนี
ไอ้บ้า ! ไอ้ชั่ว ! ไอ้เลว !
เป็นเพียงคำตะโกนก้องในใจ เพราะเธอไม่สามารถเปล่งเสียงใด ๆ ออกมาได้
“สงสัยมีความในใจจะบอก” ชิณณ์ยิ้มขำคนที่พยายามจะพูดแต่พูดไม่ได้ เขาสงสารจึงแก้มัดผ้าปิดปากออกให้เธอ
“ไอ้บ้า ! ไอ้ชั่ว ! ไอ้เลว !”
ความในใจของพรีมถูกพ่นออกมาดังลั่นห้อง คนแก้ผ้ามัดปากให้เธอ ได้ยินชัดเจนเต็มสองหู
“ถ้าจะด่าฉันให้ครบ เธอต้องด่าเพิ่มว่า ไอ้หื่น ไอ้ซาดิสม์ ไอ้โรคจิตด้วย”
ชิณณ์เลิกคิ้วเข้มข้างหนึ่งเป็นเชิงท้าทายอย่างผู้ที่เหนือกว่า เขายื่นมือไปลูบน่องเรียวขึ้นมาจนถึงต้นขาขาว แล้วกระดิกนิ้วเล่นปูไต่ที่โคนขาด้านในอย่างอารมณ์ดี ขู่ให้คนโดนจับมัดขึงพืดอยู่ผวาตื่นตระหนก
ชิณณ์ยิ้มขำคนที่ถูกเขาแกล้ง เมื่อกี้ยังปากดีอยู่เลย พอโดนปูไต่หน่อยเดียวก็หน้าเสีย อ้าปากเหวอ เด๋อด๋า พูดอะไรไม่ออก หน้าตาแบบนี้น่าแกล้งชะมัด...เขาชอบ
“เอ่อ...คุณชิณณ์ครับ”
“อะไร” คนกำลังหยอกล้อกับสินค้าขัดดอกถามเสียงห้วน ลูกน้องจึงขยับเข้ามาใกล้ แล้วกระซิบบอกเขาว่า
“คุณพรีมเป็นเพื่อนสนิทของคุณแต้มรักครับ” ข้อมูลที่ลูกน้องบอกทำให้ชิณณ์ชะงักมือที่กำลังเล่นปูไต่กับขาอ่อนสาวอยู่ เขาดึงมือกลับ แล้วยกขึ้นดมพร้อมกับยักคิ้วกวน ๆ ให้คนที่มองเขาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ
แต้มรักเป็นแฟนของพุฒซึ่งเป็นเพื่อนรักของเขา ถ้าไอ้คนคลั่งรักรู้ว่าเพื่อนของแฟนถูกจับตัวมาขัดดอกที่นี่ มันจะต้องขอให้เขาปล่อยเธอไปแน่ เพราะมันคงอยากเอาใจแฟน ที่จริงเงินไม่กี่แสนที่ธนาเอาตัวเธอมาขัดดอก มันไม่ทำให้ขนหน้าแข้งของเขากระดิกหรอก แต่ผู้หญิงปากดีคนนี้น่าแกล้งชะมัด
พรีมไม่รู้ว่าไอ้คนนั้นบอกอะไรกับไอ้โรคจิต เพราะมันถอนหายใจแล้วลุกขึ้นยืน มันเอาสองมือล้วงกระเป๋าแล้วมองเธออย่างครุ่นคิด พรีมพอจะเดาออกว่าไอ้สองคนที่เข้ามาก่อนน่าจะเป็นลูกน้อง และไอ้โรคจิตหล่อลากไส้คงเป็นเจ้านายของพวกมัน
“ปล่อยฉันนะ ! ปล่อยสิ !” พรีมตะโกนบอกพวกมัน และดิ้นอีกครั้ง
“พวกมึงออกไปก่อน กูจะเช็กของสักสามสี่ยก”
“ครับ” ลูกน้องสองคนรับคำแล้วเดินออกจากห้องไป พอประตูห้องปิดลง พรีมก็เริ่มขวัญผวาหน้าเสียยิ่งกว่าเดิม เธอรู้ว่าคำว่าเช็กของของมันหมายถึงอะไร
“ฉันจะแจ้งตำรวจ แกจะต้องโดนโทษประหาร”
“ตลก” คนถูกขู่หัวเราะในลำคอ เขายักไหล่แล้วนั่งลงข้างเธอตามเดิม “ฉันจะไม่ถูกจับ และจะไม่ถูกประหาร เพราะจะไม่มีใครรู้ว่าเธอถูกจับมาที่นี่”
“พี่ธนารู้”
“เธอจะหวังอะไรกับผีพนันที่ทำทุกอย่างเพื่อตัวมันเอง” ชิณณ์ว่าพลางไต่นิ้วไปตามลำแขนเรียว เขาไต่ไปเรื่อยจนถึงกระดุมเม็ดบนสุดของเสื้อที่หญิงสาวสวมอยู่
“ฉันจะจ่ายเงินแทนพี่ธนาเอง แต่คุณต้องปล่อยฉันไป”
ชิณณ์ชะงักมือที่กำลังจะแกะกระดุม เขาหรี่ตามองเธอ
“สองแสน”
พอได้ยินจำนวนเงิน พรีมสูดลมหายใจลึก เธอเป็นพนักงานออฟฟิศที่เพิ่งเริ่มทำงานแค่สองปี แถมต้องจ่ายค่าเช่าคอนโด ค่าอยู่ค่ากินในเมืองกรุง และเงินที่เหลือก็ต้องส่งไปให้ลุงกับป้าเพื่อใช้หนี้และทดแทนบุญคุณทุกเดือน เธอไม่มีเงินเก็บมากมายขนาดนั้นหรอก
“ฉันขอผ่อนจ่ายเดือนละหนึ่งพันบาทได้ไหม”
“เธอเป็นคนตลกดีนะพรีม”
“สองพันก็ได้ หรือสามพัน” พรีมรีบเพิ่มจำนวนเงินให้เขาเมื่อเห็นว่าเขาทำหน้าไม่เชื่อถือ
“ฉันมีเวลาให้เธอแค่หนึ่งสัปดาห์”
พรีมเม้มปากแน่น หญิงสาวนิ่งอึ้งไม่รู้จะต่อรองยังไงแล้ว
พอเธอเงียบ ชิณณ์ที่มองเธออยู่ก็ถอนหายใจ เขามองหน้าหญิงสาวด้วยสายตาที่พรีมก็อ่านไม่ออก
“เธอยังซิงอยู่หรือเปล่า”
เป็นคำถามที่น่าเอาไม้หน้าสามฟาดปากที่สุด แต่พรีมก็พยายามใจเย็นไม่โวยวายด่าทอเขา เพราะตอนนี้เธออยู่ในสถานะที่เป็นรอง
“ฉันจะผ่อนชำระหนี้ให้คุณจนครบ ฉันไม่หนีไปไหนแน่นอน ขอเวลาฉันหน่อยได้ไหม”
“ตอบให้ตรงคำถาม เพราะถ้าเธอไม่ตอบหรือตอบไม่ตรงคำถาม ฉันจะเช็กของเอง” ชิณณ์ว่าพลางล้วงมือลูบขาอ่อนด้านในของเธอ
“ฉันยังซิง !” พรีมรีบตอบแล้วกัดฟันแน่น ยิ่งพอเห็นเขายิ้มเยาะ เธอก็ยิ่งโมโหคับแค้นใจ