Chapter 4 พรหมลิขิต

1568 คำ
Chapter 4 พรหมลิขิต  ใกล้เลิกงาน โนรินยังคงนั่งเคลียร์งานตรงหน้าอย่างไม่มีที่ว่ามันจะหมด เฮ้อ…เมื่อไหร่จะเสร็จเนี่ย เธอนั่งบ่นพึมพำอยู่คนเดียวก่อนจะยกมือขึ้นมาท้าวค้างแบบเซ็ง ๆ สายตาเหลือบไปมองปฎิทินที่วงกลมสีแดงตัวใหญ่ 14 กุมภาพันธ์ ใช่ 14 กุมภาพันธ์ วาเลนไทน์ของทุกคน! แต่ก็นั่นแหละ วันแห่งความรักแล้วไง มันก็แค่วันธรรมดาวันหนึ่งสำหรับสาวโสดไม่เคยมีอะไรที่เป็นพิเศษ จะพิเศษกว่าหน่อยก็คือเป็นวันเดียวกับวันเกิดของเธอที่จะครบอายุสามสิบในปีนี้ โนรินนั่งเหม่อ สายตามองจ้องไปที่ปฏิทินวงกลมสีแดง เมื่อนึกถึงวาเลนไทน์ปีที่แล้ว.... ดอกกุหลาบสีแดงช่อมหึมาถูก Line Man เอาส่งมาหน้าตึกที่แต่เช้าตรู่ ท่ามกลางความกรี๊ดกร๊าดของคนในออฟฟิศว่าสาวน้อยที่โชคดีที่ได้รับเซอร์ไพรส์จากแฟนหนุ่มคือใคร “มีดอกไม้มาส่งครับ” โนรินที่เพิ่งใส่บาตรเสร็จ เดินกลับเข้ามาอยู่หน้าตึกพอดี ถึงกับยิ้มเขินตัวบิดเมื่ออยู่ ๆ ไลน์แมนก็มาบอกว่ามีดอกไม้มาส่ง เธอรีบยิ้มมือไปรับอย่างเขินอาย “อุ้ย…ของใครส่งมาให้คะเนี่ย” “ของคุณปีเตอร์ครับ” เอ๋....มีผู้ชายที่ไหนมาซุ่มแอบชอบเธออยู่อย่างงั้นเหรอ งื้อ...ไม่นะ แค่คิดหัวใจก็พองโตเมื่อรู้ว่าตัวเองก็มีเสน่ห์มากพอที่จะทำให้มีผู้ชายแอบชอบ -อุตส่าห์แอบเหงามาหลายปี อยู่ดี ๆ มีคนมาแอบชอบ เขินนะเนี่ย- “งื้อ ขอบ…” “ส่งมาให้คุณแววนิลครับ ไม่ทราบว่าคุณแววนิลมาทำงานหรือยังครับ พอดีผมพยายามโทรหาเธอไม่ติด” เพล้งงงงง เสียงแก้วที่ไหนไม่รู้แตกละเอียด โนรินมองซ้ายมองขวา เดาว่าน่าจะเป็นแม่บ้านอาจจะทำแก้วที่ไหนหล่นแตกแน่ ๆ คงไม่ใช่หน้าบนใบหน้าของเธอที่แตกละเอียดหรอก “แล้วก็ไม่พูดให้รวดเดียวจบจะเว้นจังหวะทำเพื่อ...” โนรินค้อนประหลับประเหลือกให้พนักงานส่งช่อดอกไม้ “อ่า ขอโทษครับพอดีผมกำลังก้มอ่านชื่อ” “ค้า...น้องแววนิลยังไม่มาถึงที่ทำงานหรอกค่ะ แต่รออีกสิบนาทีเดี๋ยวก็มา” โนรินชักมือกลับ ก่อนขยับแว่นแก้เก้อ เสียงซุบซิบที่เพิ่งจะกรี๊ดกร๊าดด้วยความอิจฉาโนรินที่คิดว่าเธอกำลังจะได้ดอกกุหลาบช่อใหญ่ กลายเป็นเสียงหัวเราะคิกคักตามด้วยเสียงซุบซิบกันทันที “ว้าย ฉันก็นึกว่าของคุณโนริน” “ได้ข่าวว่าจะสามสิบยังโสด” “สามสิบก็วัยใกล้จะขึ้นคานแล้วแหละ” โนรินหันไปมองขวับ ทำเอาเสียงนินทารีบปั้นหน้าหันมายิ้มหวานให้ เธอละอยากจะแหม สามสิบเหรอ! สามสิบแล้วไงยะ! ถ้าให้เอาหนังหนาของคนอายุสามสิบอย่างเธอมาเทียบกับพวกนั้น บอกเลยพวกนั้นหน้านำอายุไปกว่าเธอมากนัก ที่สำคัญคอยดูนะก่อนคืนวาเลนไทน์ปีหน้าเธอจะหาสามีให้ได้! และ...นั่นเป็นความคิดของคิดโนรินในปีที่แล้ว ส่วนปีนี้จวนจะถึงวาเลนไทน์อีกรอบในไม่กี่วัน เธอก็ยังโสดอยู่เหมือนเดิม ก็นะ…มันก็จริงที่ว่า ผู้ชายไม่ใช่ส่วนสำคัญของชีวิต แต่…ติดไว้นิดเป็นสีสีรรก็จะดี เพราะงั้นคอยดูคืนนี้แม่จะต้องหาผู้ชายดี ๆ สักคนเป็นสามีให้ได้! เธอทำท่าหมายมั่น ก็จะนั่งท้าวค้างแล้วถอนหายใจยาว ๆ ออกมา เฮ้อออออ… คิดแล้วเป็นท้อ พูดยังกับจะหาสามีกันได้ง่าย ๆ เสียงถอนหายใจยาว ๆ ดังขึ้นอีกครั้ง ก่อนที่โนรินจะตัดสินใจปิดคอมที่ทำงาน shut down!! สามทุ่ม สาวสวยในชุดรัดรูปสีขาวกลับผมดัดเป็นลอนสีน้ำตาลอ่อนดวงตาคู่สวยที่เคยปกปิดด้วยแว่นหนาเตอะถูกถอดออกมากองอยู่ข้างโต๊ะ มือเรียวหยิบคอนเทคเลนส์สีน้ำตาลวอลนัทออกมาติดเข้าไปในดวงตา ก่อนที่ปัดมาสคาร่าจนดวงตาคู่หวานใสดูกลมโตเข้าไปอีก ตามด้วยริมฝีปากที่ทาด้วยลิปสติกสียอดฮิต เธอเม้มปากเบา ๆ เพื่อเช็คลิสต์ความเรียบร้อยของตัวเอง “เลิศ” “เออ เลิศจ้าแม่ เลิศมาก แต่หล่อนคงลืมเนาะ ว่าหล่อนนัดฉันสามทุ่ม แต่งหน้าอีกร่วมชั่วโมง ไหนหล่อนว่าจะแต่งตัวเบา ๆ ไง” เสียงมะลิเพื่อนรักนั่งกอดอกถอนหายใจอยู่ปลายเตียง มองเหล่เพื่อนสาวที่ตอนนี้ยังคงหมุนตัวไปมาอยู่หน้ากระจก “แหม…แค่สี่สิบนาทียี่สิบห้าวินาทีเองยังไม่ถึงชั่วโมงเลย ว่าแต่ตัวจะไปทำไมหัวค่ำนักล่ะ เที่ยวกลางคืนมันก็ต้องไปดึก ๆ หน่อยสิจริงไหม” “หรา” “อีกอย่างวันนี้ก็เบาที่สุดแล้วย่ะ” “จ้าแม่คุณ เบามากกกก” มะลิมองเพื่อนสาวที่แต่งชุดรัดรูปสีขาวที่มีเว้าโชว์ตรงช่วงเอวเอสเผยให้เห็นสะโพกขยายที่เข้ารูป หุ่นฟ้าประทานแบบนี้เกิดจากการมีวินัยในการออกกำลังกายของโนรินล้วน ๆ แต่แต่งแบบนี้มันคือเบาตรงไหนก้อน “ก็ เบา เบา แต่สวยม้าก มาก” โนรินยักคิ้วพลางส่งทำท่าส่งจูบให้เพื่อนรัก “ป่ะฉันพร้อมล่ะ ป่านนี้พวกยัยสายป่านกับยัยมิมิวรอกันแย่แล้ว” “แหม เพิ่งรู้เนาะว่าเพื่อนรอ” “อย่าบ่นน่าคนสวย ถ้าบ่นบ่อยหน้าแก่ฉันไม่รู้ด้วยนะ” “อะเคร ให้อภัยตรงที่ชมว่าฉันสวย เพราะฉันรู้ว่าแกไม่โกหก” “แต่ก็มีบางวันที่โกหกได้ เช่นวันนี้” “ยัยโนริน!” “จ๋า… เอาน่าเพื่อนรักที่แสนสวย เพื่อนรักที่แสนดีของฉัน แต่วันนี้ฉันพูดจริงเพื่อแกสักวัน วันนี้เพื่อนสาวของฉันสวยมากกกก” โนรินทำเสียงยายเข้าไปกอดเอวมะลิอย่างเอาใจ ดวงตาคู่สวยกะพริบตาปริบๆ ทำท่าอ้อน ก่อนมะลิจะถอนหายใจเพราะที่สุดแล้วเธอก็ยอมแพ้ลูกอ้อนของเพื่อนรัก “ให้อภัยก็ได้” “100% ?” “99% พอ ข้อหาแกสวยเกินหน้าเกินตาฉัน” “อะเครได้ ไปกัน” ในที่สุด สองสาวก็พากันขับรถผ่าฝูงชนของการจราจรที่แน่นขนัดของวันศุกร์สุดสัปดาห์ กว่าจะมาถึงหน้าผับแองเจิลบาร์ตามนัดหมาย ครั้นมาถึงยังไม่วายยังต้องเดินฝ่าฝูงชนที่พากันโยกย้ายไปกับเสียงดนตรีดังกระหึ่มอีกไปหาเพื่อนรักอีกสองคนที่จองโต๊ะเอาไว้ “ทำไมแกสองคนมาดึกนัก” “ก็ยัยโนรินสิกว่าจะแต่งตัวเสร็จ” “แหมยัยรินกว่าจะมาได้ สรุปวันนี้ไม่ถือศีล?” “เว้นหนึ่งวันจ้า เมาได้เต็มที่” โนรินขยิบตาก่อนรับแก้วเหล้าสีชาจากเพื่อนรักอีกคนที่ยื่นแก้วส่งมาให้เธอดื่ม “เอ้า งั้นรออะไรละ ชนแก้ว…” เสียงดนตรีเร้าใจ สี่สาวพากันยกแก้วเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้าปาก เริ่มออกลวดลายเต้นกันอย่างเต็มที่ ใช่…วันศุกร์ของเดือนสำหรับโนริน มันก็จะเป็นแบบนี้แหละ เธอตั้งใจมาปลดปล่อยความเป็นนางฟ้าในตัว ครั้นจะให้เธอนั่งพับเพียบเรียบร้อยอยู่หน้าหิ้งพระก็คงไม่มาเที่ยวกลางคืนแบบนี้หรอก “ว่าไงโนริน ไหนแกว่าจะมีผู้ก่อนสามสิบ” “นั่นสิ จะขึ้นคานแล้วนะแก” เสียงสายป่านกับมิมิวเอ่ยขึ้น หลังจากที่ได้ยินมะลิเล่าเรื่องท้าโนรินหาสามีให้ทันก่อนวันเกิดตัวเองในอีกไม่กี่วันข้างหน้า “พวกแกจะดูถูกฉันมากไปแล้วนะ คนอย่างฉันถ้าจะมีผู้จริง ๆ กระดิกนิ้วก็มาแล้ว” ความเบ่งแบบไม่ดูตัวเอง หาไม่รู้ไม่ว่ากำลังสร้างความเดือดร้อนไม่รู้ตัว “กระดิกนิ้ว? พวกฉันละอยากจะแหม… งั้นไหนแกลองกระดิกนิ้วเรียกผู้ชายโต๊ะนั่นเป็นไง” มิมิวพยักหน้าให้โนรินหันไปมองตามสายตา ในความมืดของแสงไฟที่สาดแสงวิบวับสลับกับเสียงดนตรีที่กำลังดังกระหึ่ม ทว่าเวลาสะท้อนกับแสงไฟวิบวับจากสถานบันเทิง มันจะเหมือนมีแสงจากสปอตไลต์ส่องมาที่ตัวคน ๆ ในความมืดจนเด่นชัด โนรินอ้าปากค้างสายตาคู่หวานจ้องมองชายหนุ่มเชิ้ตสีขาวในท่านั่งสบาย ๆ กำลังยกแก้วเหล้านั่งมองกลุ่มเพื่อนของพวกเขาที่กำลังเต้นอยู่ ใช่!!! ผู้ชายสุดหล่อเบ้าหน้าฟ้าประทานยังกับแจ็คสันหวัง คนนั้น! คือผู้ชายที่เธอเจอหน้าวัดวันนั้นนี่! ว่ากันว่าคนเราถ้าเจอกันแค่ครั้งเดียวเรียกว่าบังเอิญ ส่วนถ้าเจอครั้งที่สองเรียกว่าพรหมลิขิต และนี่ก็คงต้องเป็นความพรหมลิขิตของโนรินแน่ ๆ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม