“แล้วไงต่อ?” คำถามเสียงราบเรียบและเยือกเย็นถูกเอ่ยถามขึ้นหลังจากที่ฉันเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานให้เพื่อนสาวคนสนิทฟังจนจบ
เธอคนนี้ชื่อว่า ‘กระถิน’ เป็นเพื่อนสนิทแต่มีความชอบที่ต่างกัน เธอไม่สนใจพวกเรื่องดารานักร้อง ส่วนใหญ่หมกมุ่นอยู่กับการดูหนังและอ่านหนังสือแนวฆาตกรรมมากกว่า
“ฆ่าอะไรล่ะ ฮืออ อยากฆ่าอปป้ามากกว่า” ฉันฟุบหน้าลงกับโต๊ะไม้อย่างนึกละเหี่ยใจชนิดที่สลัดคราบคนอกหักออกจากตัวไม่ได้สักที จังหวะเดียวกันนั้นเสียงเตือนข้อความลับก็ดังขึ้น พานให้ต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดหน้าจอ
Guest1 :: คุณแม่หายไปไหนคะ ทำไมวันนี้เงียบ ไม่อัปเดตข่าวอปป้าเลย
ขุ่นแม่กาละแมร์ :: ไม่ค่อยสบายจ้า
ฮืออ อกหักนี่เขาจัดว่าป่วยใช่มะ!?
Guest1 :: หนูได้ข่าววงในจากพี่ชายมาด้วยค่ะคุณแม่
Guest1 :: คืนวันนี้พี่ชายหนูบอกว่าวอร์อปป้าจะไปที่ Paradise Mall ตอน 4 ทุ่ม
Guest :: คุณแม่รู้ใช่ไหมคะว่าอปป้าชอบแข่งรถ
ขุ่นแม่กาละแมร์ :: รู้จ้า
Guest1 :: นี่รูปรถของอปป้าที่พี่ชายหนูส่งมาให้ดูค่ะ
Guest1 :: ได้แนบไฟล์ภาพ
รู้ไหม ใจน่ะอยากจะบอกลูกเว็บว่าฉันไม่ไหวแล้ว อย่าเอาเรื่องของอปป้ามาใส่ในหัวอีก แต่พออีกฝ่ายส่งไฟล์รูปแนบมา ฉันกลับไม่สามารถเลี่ยงที่จะดูข้าวของของคนที่รักได้ แม้จะรู้ก่อนหน้านี้แล้วว่ารถของอปป้าน่ะรุ่นไหน สีอะไร ถึงอย่างนั้นฉันก็ยังต้องตอบข้อความกลับไปตามมารยาทอยู่ดี
Guest1 :: ถ้าคุณแม่ไป อย่าลืมถ่ายรูปอปป้ามาลงแฟนไซต์[1]ของเราด้วยนะคะ
ขุ่นแม่กาละแมร์ :: แล้วมันต้องเสียค่าเข้าหรือเปล่า?
Guest1 :: ไม่เสียค่ะ เขาจัดงานกันที่ชั้นดาดฟ้าลานจอดรถของห้าง
Guest1 :: ที่นั่นมีแต่พวกวัยรุ่นน่ากลัว ถ้าคุณแม่ไป คุณแม่ต้องระวังตัวด้วยนะคะ
แต่ไม่นานหรอกน้องแฟนคลับแฟนด้อมเดียวกัน ก็สามารถเปลี่ยนความคิดของฉันให้กลับมาสนใจข้อความของเธอได้อีกครั้งและมากกว่าทุกครั้งด้วยข้อความต่อมา
Guest1 :: พี่ชายหนูบอกว่าอปป้าตัวจริงไม่หยิ่งเลย แถมยังยอมรับของจากแฟนคลับด้วยมือตัวเองด้วย
Guest1 :: ดีจังเลยนะคะ ไม่มีการ์ดคอยกันท่า แต่ก็แอบเป็นห่วงอปป้าอยู่เหมือนกัน
ไม่มีการ์ดกันท่า แถมยังรับของขวัญจากมือต่อมืองั้นเหรอ!?
ขุ่นแม่กาละแมร์ :: ทำไมอะคะ?
Guest1 :: ก็ถ้าพวกที่พากันไปดักรอให้ของอปป้าเป็นพวกซาแซงแฟนขึ้นมา ขืนพวกนั้นวางยาอปป้าก็แย่น่ะสิคะ
วางยาอปป้าเหรอ?
Guest1 :: น่าจะมีแฟนบางคนโกรธบ้างแหละที่อปป้าให้สัมภาษณ์ว่ามีผู้หญิงในดวงใจ
Guest1 :: คุณแม่คิดเหมือนหนูไหม?
ขุ่นแม่กาละแมร์ :: ไม่มีหรอกจ้ะ คนใจร้ายแบบนั้น อย่าคิดมากเลย
มือฉันน่ะพิมพ์ตอบลูกเว็บไปแบบนั้นพร้อมทั้งลดโทรศัพท์มือถือในมือลงกับโต๊ะ ในขณะที่ความคิดในหัวกำลังเริ่มทำงานหนัก
คำว่า ‘ซาแซงแฟน’ ฉันเคยได้ยินอยู่บ่อยครั้ง บ้างก็ว่าพวกเขารักศิลปินคนนั้น ๆ มากเกินไปจนก่อความวุ่นวาย บ้างก็ว่าพวกเขาเป็นกลุ่มคนไม่ดี เที่ยวก่อกวนความสงบสุขของศิลปินที่ถูกเลือกเป็นเป้าหมาย เพราะไม่รู้ว่ามันดีหรือไม่ดีแท้จริงอย่างไร ฉันจึงวางตัวเป็นแฟนคลับที่ดีและรักศิลปินที่ชอบมาตลอด สนับสนุนผลงาน ออกตัวปกป้องและคอยให้กำลังใจในยามที่พวกเขาต้องการมัน
ยิ่งคิดความเจ็บช้ำก็ยิ่งโถมเข้าใส่จิตใจ จนวูบหนึ่งฉันเหมือนจะเริ่มเข้าใจหัวอกของซาแซงขึ้นมา
ทั้งที่รัก ปกป้อง หวงแหนอปป้ามาตลอดตั้งแต่เดบิวต์ แต่อปป้ากลับกระทืบความรักฉันทิ้งด้วยการพูดว่า มีผู้หญิงในดวงใจ!
ถ้าจะพูดแบบนั้นเอามีดมาแทงหนูเสียยังดีกว่า!!
“นี่กระถิน...” พอรู้สึกเช่นนั้นปากจึงขยับถามเพื่อนรักที่เอาแต่นั่งเงียบจ้องไปที่ใดที่หนึ่งได้เป็นเวลานาน ๆ ทันที “บนโลกเรามันมียาสลบสำหรับล้มช้างไหม?”
“ถามทำไม? จะเอาไปทำอะไร?” ฉันเม้มปากลงและใช้สมองอันน้อยนิดเพื่อคิดทบทวน
ถ้าอปป้าจะมีผู้หญิงในดวงใจ อย่างงั้นความซิงที่หนูสะสมมาตลอด 20 ปี มันก็ไร้ค่าน่ะสิ ก็ดี! ในเมื่อเป็นแฟนคลับที่ดีแล้วอปป้าไม่สนใจ งั้นฉันก็จะผันตัวไปเป็นซาแซงแฟน
ถ้าฉันไม่ได้อปป้า ผู้หญิงหน้าไหนก็ต้องไม่ได้อปป้าเหมือนกัน!
เมื่อสมองไตร่ตรองได้แบบนั้นปากจึงขยับตอบคำถามของเพื่อนสาวไปอย่างชัดถ้อยชัดคำและมีเป้าหมายสำหรับพุ่งชน
“ฉันจะเอาไปล้มผู้ชาย!”
และคนเดียวที่น่าจะช่วยฉันหาของที่ต้องการได้ก็ไม่ใช่ใคร ที่พึ่งเดียวที่สำคัญ
ทอร์ช!
เวลาต่อมา...
บ้านพักนักศึกษา
ตุ้บ!
“เอ้า เอาไป...” ฉันทำตาลุกวาวเมื่อถุงซองยาถูกทอร์ชโยนมาให้บนตัก “จะเอายานอนหลับแบบแคปซูลไปทำไร?”
“ที่มหา’ลัยอะ เขาจะให้วิจัยอะไรไม่รู้” ฉันตอบอุบอิบไม่ใช่ว่ากลัวที่จะมองหน้าเขาหรอกนะ แต่เพราะเมื่อวานดันมีไอ้บ้าที่ไหนไม่รู้ ซึ่งฉันคาดว่าน่าจะรู้จักกับทอร์ชเปิดประตูเข้ามาตอนใช้นมพิชิตอปป้าบนผนังนั่นไง เลยทำให้ฉันค่อนข้างประหม่าหลาย ๆ เรื่อง
ไม่รู้ไอ้ผู้ชายคนนั้นเอาไปเล่าให้ทอร์ชฟังด้วยหรือเปล่า
“เรียนศิลปกรรมไม่ใช่เหรอ? มันต้องวิจัยยาด้วย?”
ฉันทำหน้านิ่งไปครู่หนึ่งเมื่อถูกทักท้วง
“อ๋อ เขาให้เอายาไปผสมสี แล้วสีมันจะเข้ม...” ทอร์ชไม่รอฟังฉันแก้ตัวจนจบแต่รีบใช้มือเขกใส่หน้าผากฉันหนึ่งที พร้อมทั้งต่อว่า “อย่าโกหกสิติ่ง ฉันกินข้าวนะไม่ใช่หญ้า”
ฉันยู่หน้า ขมวดคิ้วมองค้อนใส่คนตัวสูงตรงหน้าอย่างนึกขัดใจที่ถูกจับได้ แต่ยังไม่ทันแก้ตัวอะไร ทอร์ชก็พูดขึ้นอีกครั้งอย่างเป็นห่วง
“อย่ากินเยอะ เม็ดเดียวพอ หลังอาหารแล้วก็ห้ามกินทุกวัน”
เอ๊ะ?!
“ช่วงนี้เธอนอนไม่ค่อยหลับใช่ไหมล่ะ เมื่อคืนก็เห็นเปิดไฟอยู่ตั้งเกือบเช้า”
น่ะ...นี่หรือว่าเขาคิดว่าฉันฝากซื้อยาพวกนี้มากินเอง?
“ถึงมันจะเป็นยานอนหลับชนิดอ่อน แต่มันก็มีผลข้างเคียง เข้าใจไหม”
“อือ เข้าใจแล้ว” เพราะว่าทอร์ชเข้าใจแบบนั้น ฉันจึงถือโอกาสตามน้ำไป
อีกอย่างถ้าบอกเหตุผลจริงไป บางทีเขาอาจริบคืนไปหมดก็ได้
ไม่ได้ ๆ ฉันจะทำแผนที่วางมาอย่างดีพังไม่ได้
ทอร์ชยืนจ้องฉันคล้ายกับจับพิรุธอยู่ครู่สั้น ๆ ก่อนขอตัวเดินกลับขึ้นห้องของตัวเอง ฉันก็กระเด้งตัวออกจากโซฟาเพื่อทำตามแผนทันที โอกาสมันไม่ได้มีมาบ่อย ๆ ถ้าเด็กในแฟนไซต์บอกว่าวันศุกร์คืนนี้จะมีโอกาสเจอกับอปป้า ฉันก็มีเวลาเหลืออีกไม่มากเหมือนกัน
เพื่อไม่ให้เสียเวลาฉันจึงรีบโยกย้ายตัวเองไปยังบริเวณห้องครัว จัดแจงเตรียมน้ำหวานกับขวดพลาสติกทรงน่ารักเพื่อใช้สำหรับปฏิบัติการ
ส่วนแผนของฉันมันไม่มีอะไรมากหรอก ก็แค่เอายานอนหลับแบบแคปซูลพวกนี้เทผสมลงไปในเครื่องดื่มแล้วส่งมันให้อปป้ากิน (แบบมือถึงมือ) จากนั้นอปป้าก็จะง่วงนอน เมื่ออปป้าขอตัวไปหลับ ฉันก็จะตามไปจากนั้นก็ถวายพรหมจารีของตัวเองซะ!
เป็นไงล่ะแผนการของฉัน เด็ดไหม?!
คืนนี้มันจะเป็นค่ำคืนน่าจดจำตลอดชีวิตการเป็นผู้หญิงของฉัน ดังนั้นฉันจึงขอตั้งชื่อคืนน่าจดจำนี้ว่า ‘วันสิ้นพรหมจารีของติ่งกะอปป้า!’
หึ ๆ อปป้าคะ คืนนี้อปป้าเสร็จหนูแน่!