จอมทัพมาที่ไร่จันทรัชด้วยความมุ่งมั่น อย่างไรวันนี้ก็ต้องเป็นคนงานของที่นี่ให้ได้ จากที่ก่อนหน้านี้ถูกปฏิเสธมาแล้วถึง 2 ครั้ง ทำให้เสียเวลาไปเกือบสัปดาห์
ครั้งแรกเจ้าของไร่ยังไม่กลับจากต่างประเทศ ด้วยช่วงนี้การรับคนงานเข้มงวดขึ้น จึงต้องผ่านการพิจารณาของคนเป็นนายก่อน ส่วนครั้งที่ 2 ก็ด้วยเหตุผลเดิม คนเป็นนายยังไม่กลับจากต่างประเทศ เพิ่มเติมตำหนิรูปร่างที่เล็กไม่เหมาะกับการทำงานหนัก
จอมทัพถูกมองอย่างพิจารณาด้วยรูปลักษณ์ และผิวพรรณที่ผุดผ่องเกินกว่าจะเป็นผู้ชาย แต่เมื่อมีบัตรประชาชนมายืนยันความเป็นชายก็ทำให้ทุกคนคลายความข้องใจไปได้
“น้า ไอ้หมอนี่มาอีกแล้ว” มาโนช ผู้ช่วยของศิราเอ่ยกับ กำปอ หัวหน้าคนงาน ขณะดูแลคนงานทำความสะอาดคอกวัว
“เอ็งมาทำไมอีก ก็บอกไปแล้วว่าไม่รับ” กำปอถามด้วยใบหน้าเอือมระอา
“นายศิรายังไม่กลับอีกเหรอครับ”
“กลับวันนี้ละ แต่ถึงนายจะกลับก็ไม่รับเอ็งหรอก ตัวเท่าเมี่ยง”
“รับผมเข้าทำงานเถอะนะครับ ผมทำงานได้ทุกอย่างเลย” จอมทัพขอร้องหัวหน้าคนงานให้รับตนเข้าทำงาน
“อ้อนแอ้นอย่างกับผู้หญิง จะไปทำอะไรไหว ไม่รับ ๆ” หัวหน้าคนงานยังคงสบประมาทชายหนุ่มตรงหน้าด้วยถ้อยคำเดิม ๆ ด้วยมีลักษณะเอวบางร่างน้อย จะเอาเรี่ยวแรงที่ไหนมาทำงานในไร่ ในฟาร์ม อย่างไรก็ไม่รับเป็นคนงานของไร่จันทรัชท่าเดียว
“เห็นผมตัวเล็ก ๆ แบบนี้ แต่ผมแข็งแรงมากเลยนะครับ”
“ถ้างั้นลองไปยกถุงปุ๋ยนั่นมาวางตรงนี้” กำปอชี้ไปยังกองกระสอบที่บรรจุปุ๋ยคอก หวังจะทดสอบพละกำลังของจอมทัพ
“ถ้าผมยกไหว จะรับผมเข้าทำงานใช่ไหม”
“ยกให้ขึ้นก่อน” กำปอหันไปยกยิ้มพยักพเยิดหน้ากับมาโนช มั่นใจว่าอย่างไรเสียเด็กหนุ่มตรงหน้าก็ไม่มีทางยกกระสอบปุ๋ยคอกที่หนักกว่า 50 กิโลกรัมได้
“ได้ ผมจะยกให้ดู” จอมทัพแสดงความฮึกเหิมที่จะยกกระสอบปุ๋ยคอก
จอมทัพรวบรวมพละกำลังทั้งหมด ตั้งหลักอย่างมาดมั่น แม้จะเป็นชายหนุ่มร่างเล็ก แต่ก็สามารถยกกระสอบปุ๋ยคอกขึ้นมาได้ด้วยสองมือ
“ไอ้หมอนี่มันแน่ว่ะน้า” มาโนชพยักหน้าน้อย ๆ ที่จอมทัพยกกระสอบปุ๋ยคอกขึ้นมาได้
“ถ้าเคยทำงานแบกหามต้องยกขึ้นบ่าแล้ว” กำปอพูดด้วยความมั่นใจ ท่วงท่าที่จอมทัพนำพากระสอบปุ๋ยคอก ไม่เหมือนกับคนที่ผ่านการทำงานแบกหามมาก่อน
“เออ ก็จริงของน้า”
แม้จะทุลักทุเลไปบ้าง แต่จอมทัพก็สามารถนำกระสอบปุ๋ยคอกมาวางตรงหน้ากำปอกับมาโนชได้
“ผมบอกแล้วว่าผมยกไหว ฮะ...เฮ้ย” จอมทัพมีอาการหอบเหนื่อย แต่ก็พยายามฝืนไม่แสดงออกมาให้เห็น ด้วยระยะทางกว่า 20 เมตร ทำให้แข็งขาอ่อนแรงไม่น้อย เป็นผลให้เสียหลักหงายหลัง แต่ก็มีคนเข้ามารับไว้ได้ทัน
“นายศิรา” มาโนชกับกำปอเอ่ยเรียกเมื่อเห็นคนเป็นนาย พร้อมกับค้อมศีรษะทักทาย จอมทัพรีบพยุงตัวเองออกจากวงแขนที่ประคองตนไว้ แล้วไปยืนใกล้ ๆ มาโนชกับกำปอ พลางก้มหน้างุด ไม่กล้ามองหน้าหรือสบสายตา เก็บซ่อนความหวาดหวั่น ด้วยไม่คิดว่าจะเจอเจ้าของไร่แบบไม่ทันตั้งตัว
“ใคร” สายตาคู่คมมองชายหนุ่มร่างเล็กที่ไม่คุ้นตาเอาเสียเลย เพียงคำเดียวก็รู้สึกได้ถึงความมีอำนาจ
“มาขอสมัครเป็นคนงานครับ แต่ผมไม่ได้รับไว้” กำปอเป็นคนตอบ
“ชื่ออะไร” เสี้ยวหน้าที่ได้เห็น ทำให้ศิราอยากเห็นใบหน้าของชายหนุ่มร่างเล็กแบบเต็ม ๆ
“อ้าว…เฮ้ย นายศิราถามก็ตอบสิ” มาโนชใช้ศอกกระทุ้งให้คนที่เอาแต่ก้มหน้าตอบคำถาม
“จะ...จอมครับ จอมทัพ” จอมทัพละล่ำละลัก ค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมา จึงทำให้ได้เห็นใบหน้าเจ้าของไร่จันทรัชรุ่นที่ 2 เต็มตา ใบหน้าของคนตรงหน้าหล่อคมสันไม่ได้แตกต่างไปจากรูปที่เคยเห็นจากการสืบค้นประวัติไร่จันทรัช
“ติดอ่างซะงั้น” มาโนชว่า
ศิราจำได้ในทันทีว่าคนตรงหน้าคือบาริสตาสาว และเป็นคนเดียวกับที่เขาเคยช่วยชีวิตไว้เมื่อ 2 ปีก่อน แค่ทรงผมที่เปลี่ยนไป ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกแตกต่าง ต่อให้เห็นเพียงครึ่งหน้า เขาก็จำเธอได้
หรือจะเป็นฝาแฝด นั่นคือเศษเสี้ยวในความคิด แต่สุดท้ายแล้วศิราก็เลือกจะเชื่อในความรู้สึกแรก แล้วเหตุผลใดที่เธอต้องปลอมตัวเป็นผู้ชายมาสมัครเป็นคนงานที่ไร่จันทรัช หรือเธอเป็นคนของไร่จันทร์ผา แล้วเธอมีความเกี่ยวข้องอะไรกับไร่จันทร์ผา มีคำถามมากมายผุดขึ้นในหัว และเขาก็ต้องรู้ให้ได้
ภายใต้ใบหน้าเรียบนิ่ง ไม่มีใครสามารถอ่านความคิดของศิราได้ คิ้วหนาที่ขมวดเข้าหากันเพิ่มความน่าเกรงขามดุดัน และทำให้มาโนชคิดไปเองว่าคนเป็นนายกำลังไม่พอใจเป็นอย่างมาก
“ไปได้แล้ว นายศิราไม่รับหรอก”
“แต่นายศิรายังไม่ได้พูดเลยนะว่าไม่รับผม” จอมทัพยังคงมีความหวัง หากถูกปฏิเสธจริง ๆ ให้กอดขาขอร้องอ้อนวอนก็ต้องทำ
“นายศิราไม่พูดก็แสดงว่าไม่รับไง”
“พร้อมเริ่มงานเมื่อไร” คำถามของศิราทำให้ทุกคนตะลึงงัน มาโนชกับกำปอแทบไม่เชื่อหูตัวเอง
“ผมพร้อมเริ่มงานทันทีครับ” จอมทัพลิงโลด แต่ก็สงวนท่าทีไว้
“นายจะรับไอ้หมอนี่มาทำงานที่ไร่เหรอครับ ตัวกระเปี๊ยกแบบนี้จะไปทำอะไรได้ครับ” มาโนชถามเพื่อความแน่ใจ
“ผู้ช่วยฉันไง”
“ผู้ช่วยนาย ? แล้วผมล่ะครับ” มาโนชชะงักงันนิ่งอึ้งกับคำตอบผู้เป็นนาย หากให้จอมทัพมาเป็นผู้ช่วย แล้วตัวเขาที่ทำหน้าที่นี้อยู่ล่ะ...
“ในเมื่อพร้อมเริ่มงาน ก็เริ่มงานได้เลย รู้ใช่ไหม ว่าเป็นคนงานที่นี่ ก็ต้องพักที่นี่” ศิราไม่ตอบคำถามของมาโนช ที่ตอนนี้เหมือนคนสติหลุด จู่ ๆ เจ้านายก็รับคนอื่นมาทำหน้าที่ของตน
“รู้ครับ ที่นี่จะมีบ้านพักสำหรับคนงาน แล้วให้ผมพักกับใครครับ” แม้จะแปลกใจที่เจ้าของไร่รับตนเข้าทำงานอย่างง่ายดาย แต่ก็โล่งใจในขณะเดียวกัน ที่แผนการล้วงข้อมูลไร่จันทรัชก้าวหน้าไปหนึ่งขั้น
“เป็นผู้ช่วยของฉัน ก็ต้องพักกับฉัน น้ากำปอจัดการทำประวัติ เสร็จแล้วพาไปที่เรือนไม้สักริมน้ำตก” ทุกคนในที่นี้แปลกใจยิ่งขึ้นไปอีก ปกติแล้วเจ้านายหนุ่มจะไม่ให้คนงานเข้าไปยุ่มย่ามที่เรือนไม้สักริมน้ำตก ซึ่งเป็นทั้งที่ทำงานและที่พัก ยิ่งให้นอนค้างแรมยิ่งไม่มีทางเป็นไปได้ มาโนชยังเข้าไปทำงานได้เป็นครั้งคราว แต่กลับให้จอมทัพไปพักที่นั่น
“ครับนาย” กำปอรับคำเจ้านายหนุ่มที่เดินจากไปหลังจากสั่งการจบ ส่วนมาโนชสติยังคงไม่กลับมา คิดว่าตัวเองต้องตกงานเป็นแน่