4

1278 คำ
“ฉันก็มองหางานให้อยู่นะ ที่บริษัทก็มีตำแหน่งว่า แต่ก็เบื่อระบบเด็กฝาก ถ้าเส้นไม่ใหญ่ สู้เขาไม่ได้” “ฉันเข้าใจ ฉันก็หางานเองด้วย รอติดต่อกลับมาทั้งนั้น” กุลธิรัตน์บอกเพื่อน “แกน่ะเก็บเงินไว้บ้างก็ดีนะ นึกถึงตอนไม่มีไง คนเรามันไม่แน่นอนนะ” กุลธิรัตน์เป็นคนประหยัด รู้จักกินรู้จักใช้ ตามประสาคนหาเงินส่งเสียตัวเองเรียนจนจบปริญญาตรี “ส่วนที่เก็บก็มี ส่วนที่ใช้ก็ต้องมีหรือเปล่า ส่วนที่กินก็ต้องมีด้วย ฉันไม่ได้กินบ่อยๆ นะ เดือนนึงกินสักครั้ง อีกอย่างแกกับปูจาไม่ใช่ผีปอบนะถึงกินล้างผลาญ ไปกินปิ้งย่างร้านนี้ อย่างมากก็แค่สองพัน ฉันเลี้ยงแกสองคนได้ แกไม่ต้องคิดมาก” พัชรินทร์บอกเพื่อนให้เข้าใจ “ว่าแต่แกเถอะ เป็นไงบ้าง โอเคหรือเปล่า” คำถามนี้ กุลธิรัตน์ทำหน้าเศร้า แต่ก็ยังยิ้มบางส่งให้เพื่อน “ก็ไม่ได้อะไร โอเคนะ ฉันไหว” พัชรินทร์มองหน้าเพื่อนที่ชีวิตเหมือนมีมรสุมพัดผ่านตลอดเวลา ลูกนั้นไป ลูกใหม่มา แต่ละลูกกระหน่ำใส่ไม่ลืมหูลืมตา เปรียบดั่งราหูอมจันทร์แบบไม่มีวันคาย หล่อนว่าชีวิตตนลำบากแล้ว เจอชีวิตกุลธิรัตน์เข้าไป หล่อนชิดซ้ายตกขอบโลก “ไม่พูดเรื่องนี้ดีกว่า เรานานๆ ทีเจอกัน ไม่ควรร้องไห้ใส่กัน วันนี้ฉันเป็นเจ้ามือเลี้ยงแกเอง ตบท้ายด้วยไอติม ห้ามปฏิเสธด้วย” “ของฟรีไม่ปฏิเสธอยู่แล้ว” สองสาวหยุดคุยกันชั่วคราว เมื่อมิ่งเมืองเดินเข้ามาในร้าน ก่อนที่ทั้งสามจะเดินออกจากร้าน ไปยังร้านปิ้งย่างร้านขึ้นชื่อ ร้านที่พัชรินทร์ตั้งใจเลี้ยงเพื่อนสนิท 17.00 น. หลังจากเลี้ยงเพื่อนรักทั้งสองคนจนอิ่มท้อง ก็ไม่ลืมตบท้ายด้วยของหวาน พัชรินทร์พากุลธิรัตน์กับมิ่งเมืองไปกินไอศกรีม กินของหวานเสร็จ พัชรินทร์เลี้ยงหนังเพื่อนอีกรอบ “แกสองคนไปรอที่ร้านเลย เผื่อคนเยอะจะได้จองที่ไว้ก่อน ฉันเข้าห้องน้ำแปป” กุลธิรัตน์กับมิ่งเมืองพยักหน้ารับรู้ พากันเดินไปยังร้านไอศกรีมที่อยู่ไม่ไกล ด้วยความสนิทสนมกันมาก ยาวนานยี่สิบกว่าปี การที่มิ่งเมืองจับมือถือแขน หรือบางครั้งโอบบ่าเวลาถ่ายรูป ถือเป็นเรื่องปกติของทั้งสาม และในเวลานี้มิ่งเมืองกุมมือกุลธิรัตน์พากันเดินไปร้านดังกล่าว คนอื่นที่ไม่รู้สถานะแท้จริง มองว่าเป็นคู่รักมากกว่าเพื่อน “เฮ้ยอิฐ นั่นเมียนายนี่หว่า” นรภัทรพยักหน้าออกไปนอกร้าน ธรรม์บดีมองตามสายตาเพื่อน “แฟนลูกหมีหรือเปล่าวะ เดินจับมือกันแบบนี้ ฉันว่า แฟนกันแน่ๆ” ธรรม์บดีกับนรภัทรนั่งอยู่ในร้านกาแฟ ทั้งคู่นั่งอยู่ตรงโต๊ะติดกระจกหน้าร้าน มองเห็นคนเดินผ่านไปมาถนัดตา นรภัทรมองเห็นเป็นคนแรก ธรรม์บดีนั่งตรงข้ามกับเพื่อน เขาเห็นทางด้านข้างและด้านหลัง เห็นเพียงแค่นี้ ธรรม์บดีก็จำได้แม่นว่า คือภรรยาตัวเอง คนแสนเกลียดเมียตัวเอง ต้องไม่รู้สึกอะไรกับภาพที่เห็น เหตุใดมิอาจทราบได้ ความไม่พอใจพุ่งพล่านใส่หัวใจ ธรรม์บดี เขาไม่ชอบให้ชายใดเข้าใกล้เมียที่ไม่ต้องการคนนี้ ทว่าเขาเก็บอาการไว้ดีเยี่ยม ยกชาร้อนขึ้นมาจิบ ด้วยท่าทางไม่ทุกข์ร้อนกับภาพตรงหน้า “ก็เรื่องของเธอสิ จะมีแฟนหรือไม่มีแฟนก็ไม่เกี่ยวกับฉัน” “ไม่เกี่ยวได้ไงวะ ก็ตอนนี้ลูกหมีเป็นเมียนายนะโว้ย ถึงไม่ใช่เมียแต่ง แต่ก็คือเมียที่ครอบครัวแกก็รู้ ไหนจะญาติอีก เพื่อนก็รู้อีกหลายคน การที่ลูกหมีเดินจูงมือกับผู้ชายในห้าง ถ้าหากคนที่รู้ว่าลูกหมีเป็นอะไรกับนาย ไม่พูดกันสนุกปากหรือว่า สวมเขาให้นายน่ะ” นรภัทรหวังดีกับเพื่อน แต่หารู้ไม่ว่า กำลังประสงค์ร้ายให้กุลธิรัตน์ไม่รู้ตัว “นายต้องเคลียร์เรื่องนี้กับลูกหมีนะ” “เคลียร์อะไร” “นายรู้มาก่อนหรือเปล่าว่าลูกหมีมีแฟน” นรภัทรไม่ตอบ เขาถามกลับ “ฉันจะไปรู้ได้ไง ไม่เคยคุยกัน หน้ายัยลูกมะ...ลูกหมีฉันยังไม่อยากมองเลย” เกือบพลั้งปากเรียกเมียว่าลูกหมาแล้ว “นายอยากใช้วิธีทางการแพทย์ในการทำลูกหรือเปล่า” “นายจะพูดอะไรก็พูดมาเลย ไม่ต้องถามหลายข้อ ขี้เกียจตอบ เริ่มรำคาญแล้วด้วย” คนถูกถามเริ่มหงุดหงิด อาจมาจากอารมณ์ไม่สู้ดีที่เห็นกุลธิรัตน์เดินจับมือกับผู้ชายอื่น ธรรม์บดีเลยพาลมาถึงเพื่อน “ไม่ว่านายจะเลือกวิธีไหน และลูกหมีมีแฟนแล้ว ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่า ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ไปถึงขั้นไหน อาจมีอะไรกันแล้วก็ได้ นายจะต้องเคลียร์เรื่องนี้ก่อน เรื่องนั้นคือ ให้ลูกหมีเลิกติดต่อกับแฟน เพราะมันเป็นเรื่องที่น่าทำตั้งแต่ลูกหมีเข้ามาอยู่ในบ้านนาย ไม่งั้นก็กลายเป็นว่าลูกหมีมีผัวสองคนในเวลาเดียวกัน ลูกที่เกิดมาจะมั่นใจได้ไงว่าลูกใคร ถึงแม้ว่าลูกหมีอาจใช้ถุงยางกับแฟน แต่มันก็ไม่แน่นะที่ถุงยางจะรั่วน่ะ ทางที่ดี นายต้องทำความเข้าใจกับลูกหมีก่อน เพื่อความชัวร์” ธรรม์บดีหงุดหงิดมากขึ้น กับประโยคที่ว่า กุลธิรัตน์มีความสัมพันธ์กับคนรัก “แต่ถ้านายไม่คิดทำอะไร ก็ปล่อยไป เท่ากับว่านายเสียเงินฟรีๆ ให้ทางนั้น แถมลูกหมีมีความสุขกับแฟนด้วย ไม่เสียอะไรสักอย่าง” มันก็จริง...ฝ่ายธรรม์บดีมีแต่เสียกับเสีย เรื่องที่ครอบครัวไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมลัดดานั่นทำให้เสียชื่อคนที่ บริหารธุรกิจจนประสบความสำเร็จ รุ่งเรือง รุ่งโรจน์มาถึงทุกวันนี้แล้ว ยังมีเรื่องของกุลธิรัตน์ที่กำลังสวมเขาให้ตนอีก เสียเงินไม่ว่า เสียหน้าไม่ได้... “ฉันจะคุยกับลูกหมาเอง” นรภัทรอึ้ง เขาได้ยินเพื่อนเกือบหลุดเรียกชื่อเล่นกุลธิรัตน์ผิดสองครั้ง แต่ไม่คิดว่า ครั้งนี้เอ่ยออกมาตรงๆ “นายเรียกลูกหมีแบบนี้เต็มปากเลยนะ ระวังเถอะ จะเป็นหมาซะเอง” “เหอะ ไม่มีทาง” ธรรม์บดีมั่นใจ “เออ แล้วฉันจะคอยดู” นรภัทรหมั่นไส้กับความมั่นใจของเพื่อน “นายตัดสินใจเอาเองล่ะกันว่าจะเอาไง ที่ฉันพูดไม่ใช่ว่าจะยุให้นายเกลียดลูกหมีหรอกนะ แค่ไม่อยากให้แกเสียเปรียบไปมากกว่านี้” “ฉันจัดการเรื่องนี้แน่ ไม่ต้องห่วง คุณย่าฉันอาจไม่ทันย่าของลูกหมี แต่ฉันนี่แหละ จะแก้เกมทุกอย่างเอง จะได้รู้ว่า ใครกันแน่ที่ชนะ” ธรรม์บดีไม่ปล่อยเรื่องนี้ผ่านไปโดยง่ายแน่นอน เขาเป็นนักธุรกิจ ไม่เคยทำอะไรขาดทุน เรื่องนี้ก็เช่นกัน ไหนๆ ก็เสียเงิน ต้อเอาให้คุ้มกับที่เสียไป เอาทุนคืนอย่างไรนั้น ธรรม์บดีขอคิดอีกที
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม