ผลจากการรุกรานของคมเพชรทำให้อาทิตยะซี่โครงร้าวและปวดในบริเวณช่องท้องจนต้องนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล หลังจากที่แอดมิทพี่ชายเข้าห้องพักเรียบร้อยรัศมีดาราก็ไม่ลืมที่จะเตือนให้พี่สาวขอใบรับรองแพทย์จากหมอเพื่อที่จะเอาไปแจ้งความดำเนินคดีกับผู้บุกรุก... จันทร์เจ้าขาขอให้รัศมีดารากลับบ้านเพื่อไปเอาเสื้อผ้ามาเพื่อใส่ตอนที่ต้องเฝ้าอาทิตยะเพื่อที่หล่อนจะมีโอกาสคุยกับพี่ชายสองคน...
“พี่รพี ตอนนี้อยู่กันสองคนแล้ว พี่เล่ามาได้แล้วค่ะว่าเรื่องมันเป็นมายังไงถึงได้เป็นแบบนี้ได้” จันทร์เจ้าขาไม่สนว่าพี่ชายจะง่วงนอนเพราะฤทธิ์ยาแก้ปวด หล่อนจ้องตาพี่ชายด้วยแววตาเคร่งเครียดรอคำตอบ...
“เรารักกัน” อาทิตยะ พูดสั้นๆ “พี่ขอโทษที่พี่ปิดพระจันทร์เอาไว้ เพราะพี่รู้ว่าพระจันทร์จะไม่มีวันเห็นด้วย”
“แน่นอนอยู่แล้วว่าพระจันทร์จะไม่เห็นด้วย...” หล่อนแค่นเสียงบอก “ยายพลอยมีคู่หมั้นอยู่แล้วเขากำลังจะแต่งงานกันอยู่แล้วในอีกไม่กี่วัน พี่ต้องเลิกกับยายพลอยคืนยายพลอยให้พี่ชายกับคู่หมั้นของเขา”
“แต่พลอยไม่ได้รักนายน้ำเงิน... พลอยถูกบังคับให้หมั้นพระจันทร์ก็รู้ พี่ไม่เคยบังคับพลอยให้คบกับพี่หรือว่ารักพี่ แต่ที่พลอยเลือกพี่เพราะว่าเรารักกัน รักมานานแล้ว ที่สำคัญพี่คืนพลอยให้ใครไม่ได้ทั้งนั้น เพราะว่าพลอยท้องกับพี่... พลอยถึงได้หนีมาอยู่กับพี่ไงล่ะ”
ดวงตากลมโตของจันทร์เจ้าขาเบิกกว้าง ตกตะลึงกับสิ่งที่ได้ยินเหลือเกิน
“ท้อง!”
“พี่จะพาพลอยหนี... พี่ทนให้เมียของพี่กับลูกของพี่ต้องไปอยู่กับคุณน้ำเงินไม่ได้หรอก”
“พี่รพี” เสียงเรียกพี่ชายแทบไม่หลุดจากปาก หญิงสาวหมดแรงทรุดนั่งลงกับเก้าอี้ข้างเตียงผู้ป่วย มือเล็กกุมขมับที่เริ่มปวดตุบๆ ขึ้นมาเหมือนกับว่าจะกำลังแตกเป็นเสี่ยงๆ
“ทำไมเป็นกันอย่างนี้ได้” ทำไมหล่อนไม่เคยสังเกตว่าสองคนนี้จะมีใจต่อกัน ถ้าหล่อนทันที่จะห้าม หล่อนจะรีบห้ามไม่ให้สองคนแอบปันใจไปจนเกิดเรื่องราวบานปลายกู่ไม่กลับอย่างนี้ “แล้วจะทำยังไง จะหนียังไงถึงจะพ้นเงื้อมมือเขา... เขาไม่ใช่ตาสีตาสาที่จะไปหลอกเขาว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้นะคะ”
“มันต้องเสี่ยงทำ... เพราะมันดีกว่าที่พี่จะไม่ทำอะไรเลยแล้วปล่อยให้พลอยต้องไปแต่งงานกับคนที่ไม่รัก”
“โธ่พี่รพี” จันทร์เจ้าขาครางออกมาเสียงแผ่วระโหย ดวงหน้าสวยหวานที่เคยเคร่งขรึมไม่แสดงอารมณ์ง่ายดายนักถึงกับปกปิดความรู้สึกช็อกไม่ได้
“พี่ขอโทษ พี่ไม่อยากให้พระจันทร์เสียใจกับเรื่องนี้แต่พี่ก็ทำไม่ได้เพราะพี่เองก็รักพลอย ยกโทษให้พี่นะพระจันทร์”
คำพูดของพี่ชายคนเดียวที่เป็นผู้ปกครองให้หล่อนกับน้องสาวมาตลอดทำให้หล่อนนิ่งอึ้งและคิดอะไรไม่ออกเลยแม้แต่น้อยนิด... ตั้งแต่รู้จักกันมา ไม่เคยมีสักครั้งที่พี่ชายหล่อนทำอะไรผิดพลาดใหญ่หลวง ยกเว้นเรื่องนี้...
“ยายพลอยอยู่ไหนคะตอนนี้”
“สัญญาว่ารู้แล้วจะยังไม่บอกดารานะ พี่กลัวน้องจะรู้และเสียใจที่พี่ชายของเขาเลวอย่างนี้ ดาราเป็นคนใจอ่อนไม่เข้มเข็งเหมือนพระจันทร์ พี่กลัวน้องเกลียดพี่...”
“พระจันทร์รู้ค่ะ” หล่อนพยักหน้ารับ รู้ว่ารัศมีดารามองพี่ชายที่แสนดีนั้นเป็นฮีโร่ตลอดเวลา หากรู้เรื่องนี้ รัศมีดาราคงรับไม่ได้ เพราะขนาดจันทร์เจ้าขาก็ยังแทบรับไม่ได้เลย... “พระจันทร์ต้องเจอยายพลอย... พี่รพีบอกมาเถอะค่ะ แล้วพระจันทร์จะหาทางออกอีกที...”
“พลอยหลบอยู่ที่คอนโดที่พระจันทร์พักสมัยเรียน พี่ตั้งใจจะออกไปพร้อมกับรถตู้บริษัทเราเหมือนไปทัวร์ แต่จะวกกลับเข้ามารับพลอยอีกที พี่ชายพลอยตามพี่อยู่ พี่กลัวเขาสงสัยเลยต้องทำอะไรซับซ้อนหน่อย...” อาทิตยะส่งคนรักไปหลบอยู่ที่นั่นเพื่อรอเจรจากับคมเพชร หากแต่ฝ่ายนั้นไม่ยอมฟังเขาและต้องการน้องสาวกลับอย่างเดียวโดยไม่เคยถามความต้องการของวาวพลอยเลย... พวกเขาเลยเลือกที่จะหนี
“พี่รพีคิดจะทำอะไรกันนี่” จันทร์เจ้าขาแทบทรุด พี่ชายหล่อนคิดตื้นเหลือเกิน เขาคิดได้อย่างไรว่าจะหนีคมเพชรได้ ยายพลอยก็อีกคน... โธ่เอ๋ย ทั้งเพื่อนหล่อนกับพี่ชายของหล่อนคิดอะไรกันอยู่นะ
“พระจันทร์ พี่รู้ว่าในสายตาพระจันทร์มันคือความผิดที่ไปแย่งคู่หมั้นคนอื่นมา แต่สำหรับหัวใจ พี่ทำถูกต้องแล้ว ถ้าพระจันทร์รักใครสักคนและคนนั้นก็รักพระจันทร์จนไม่อาจจะทอดทิ้งกันได้ สักวันพระจันทร์จะเข้าใจพี่กับพลอย” อาทิตยะเองก็เจ็บปวดไม่น้อยที่สร้างความวุ่นวายขึ้นมา...
เขารู้ว่าน้องสาวจะต้องตกใจและเสียใจกับเรื่องที่รับรู้ แต่เมื่อเลือกที่จะเป็นเช่นนี้แล้ว... ก็คงต้องพยายามหาทางออกที่ดีที่สุด...
“มันคงจะมีทางออกที่ดีที่สุดสำหรับพวกเราค่ะ... เราอยู่ในจุดที่ย้อนกลับไปไม่ได้แล้ว... คงต้องเดินหน้า” จันทร์เจ้าขาพูดเสียงเครียด หล่อนขอให้พี่ชายนอนหลับให้สบาย หล่อนรับปากจะไปหาวาวพลอยและพูดคุยกันว่าจะหาทางออกอย่างไร...