ตอนที่ 8 หนูอ่อยนะ พี่ไหวเหรอ

2465 คำ
ทั้งคู่ทานอาหารเลิศรสพร้อมดื่มไวน์ไปเกือบหมดขวด เธอชวนเขาคุยนั่นนี่ไม่หยุดตลอดเวลา และเขาก็ตอบคำถามเธอไม่หยุดแบบไม่มีเบื่อในตัวเจ้าหนูจำไมนี่เหมือนกัน “หมอมีพี่น้องไหมคะ ที่บ้านอยู่กันกี่คน” “นี่มาถึงเรื่องสำรวจสำมะโนครัวผมแล้วหรือครับ” “อยากรู้จักหมอให้มากกว่านี้นี่คะ” เธอเอียงคอเล็กน้อย ส่งสายตาออดอ้อนจนเขาต้องถอนหายใจอย่างแพ้ทาง ท่าถนัดเลยสินะ เอียงคอทำหน้าตาน่ารักเนี่ย “มีน้องสาวหนึ่งคนครับ อยู่กันสามคน ผม แม่ และน้อง” “พ่อหมอ เอ่อ” ใจหนึ่งอยากรู้ ใจหนึ่งก็กลัวว่าหากพ่อเขาเสียแล้วจะไปตอกย้ำรอยแผลเขาหรือไม่ “พ่อผม ทิ้งผมกับแม่ไปตั้งแต่ผมแปดขวบ เขาทิ้งพวกเราไปอยู่กับผู้หญิงจอมมารยาที่อยากได้สามีชาวบ้านจนตัวสั่น หรืออาจจะเพราะผู้หญิงคนนั้นรวยมาก จะบันดาลชีวิตที่สวยหรูให้เขาดีกว่าที่อยู่กับแม่ เขาเลยทิ้งพวกเราไป” แววตาวูบไหวของหมอตกอยู่ในสายตาของขวัญข้าวพอดี เธอไม่น่าไปจี้ปมที่เจ็บปวดนี้ของเขาเลย น่าจะให้เลขาสืบประวัติเขามาให้ก่อน จะได้ชวนพูดคุยได้ถูกช่อง “ข้าวขอโทษนะคะ ไม่ทราบจริงๆ ขอโทษที่อยากรู้ไม่เข้าเรื่อง” หญิงสาวหน้าเจื่อนลงด้วยความรู้สึกผิด “ไม่เป็นไรหรอกครับ เรื่องมันผ่านมานานแล้ว แค่มันยังจำได้ฝังใจแค่นั้นเอง” แววตาหมอหนุ่มวาบขึ้นเมื่อเอ่ยประโยคนั้นพร้อมทั้งจ้องหน้าเธอนิ่ง จนหญิงสาวรู้สึกเสียวสันหลังวาบกับแววตาของเขาที่มีลูกไฟลูกย่อมๆเต้นระริกอยู่ในนั้น “หมออย่ามองข้าวแบบนั้นสิคะ น่ากลัวออก เหมือนข้าวเป็นผู้หญิงไม่ดีคนนั้นเลย” “หึหึ น่ากลัวอะไรกันครับ คุณไม่ใช่ผู้หญิงคนนั้นเสียหน่อย จะกลัวผมไปทำไม” นั่นสิ เธอไม่ใช่ผู้หญิงหน้าด้านคนนั้น แต่เธอเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของนังผู้หญิงสารเลวคนนั้นต่างหาก “ข้าวไม่กล้าทำให้หมอโกรธเกลียดเลยนะคะ ดวงตาหมอเมื่อกี้น่ากลัวจริงๆ” “ถ้าคุณเป็นผม คุณจะทำยังไงครับ ที่วันหนึ่ง พ่อก็ทิ้งพวกเราไป เขาแกะมือลูกสาวตัวน้อยวัยสามขวบที่กอดขาเขาแน่นร้องอ้อนวอนไม่ให้เขาไป แล้วเดินขึ้นรถคันหรูไปกับผู้หญิงคนใหม่ แล้วแม่กับน้องก็นอนร้องไห้ทุกวัน แม่พาพวกเราย้ายกลับไปอยู่บ้านเก่าชานเมือง แม่แทบไม่กินข้าวจนเหลือผอมแต่กระดูก แววตาของแม่เหมือนคนไม่มีชีวิตอีกแล้ว ถ้าเป็นคุณ คุณจะทำยังไง” “ข้าวคงเกลียดผู้หญิงคนนั้นมาก และคงทำทุกวิถีทางให้เธอคนนั้นเสียใจและเจ็บปวดแบบที่แม่เราเป็นมั้งคะ” นั่นสินะ ควรทำทุกวิถีทางให้ผู้หญิงคนนั้นเจ็บปวดทุกข์ทรมานเหมือนที่แม่เราเคยเป็น เธอไม่ได้ตอบเพื่อเอาใจเขา แต่เธอเห็นใจเขาจริงๆ และคิดในมุมมองของเธอ ก็คงทำแบบที่พูดมา เพราะคนอย่างเธอไม่เคยยอมให้ใครมาทำร้ายได้ฟรีๆ โดยเฉพาะทำร้ายคนที่เธอรัก คนๆนั้นคงต้องแหลกกันไปข้างหนึ่งแน่นอน “แบบนั้นหรือครับ ทำแบบนั้น จะดีหรือ” แววตาวับวาบปรากฏขึ้นอีกครั้งในดวงตาเขา “ในมุมมองของข้าว ดีค่ะ เพราะคนอย่างข้าว ตาต่อตา ฟันต่อฟัน ร้ายมาร้ายกลับสิบเท่าไม่โกง แต่คุณอย่าเชื่ออะไรข้าวมากเลยค่ะ ผู้หญิงก็เจ้าคิดเจ้าแค้นแบบนี้ เพราะข้าวคิดว่าเวลาคนที่เรารักเจ็บปวด ผู้หญิงจะเป็นเดือดเป็นร้อนและเจ็บปวดอ่อนไหวมากกว่าผู้ชายค่ะ” “ขอบคุณมากครับ ในความคิดเห็น” แบบนั้นสินะ สิ่งที่เขาควรทำมาตั้งนานแล้ว เธอเดินเข้ามาในชีวิตเขาเองนะ เขาไม่ได้ไปแสวงหาหรือตามหาเธอมาจากไหน ไล่ก็ไม่ไป ลูกคุณหนูผู้เอาแต่ใจ แพ้ไม่เป็นแบบเธอ คงอยากเอาชนะเขามาก อยากได้เขาจนตัวสั่นขนาดนี้ ถ้าสงเคราะห์ให้สักทีมีหวังเธอยิ่งตามติดเขาแจไม่ไปไหน ผู้หญิงแบบนี้คงรักใครไม่ยาก รักแล้วก็คงทุ่มเทให้ไม่อั้น ถ้าเขาทำให้เธอหลงรักหัวปักหัวปำ หรือทำให้เธอท้องไม่มีพ่อ มันจะเป็นยังไงนะที่พ่อของเขาและผู้หญิงคนนั้นรู้ว่าคนที่ทำให้ลูกสาวสุดที่รักท้องแล้วไม่รับนั้นคือเขา มันจะเป็นยังไงนะ ที่สองคนนั้นต้องมาทนเห็นลูกสาวสุดที่รักร้องไห้น้ำตาเป็นสายเลือด วิ่งตามมากอดแข้งกอดขาอ้อนวอนไม่ให้เขาทิ้งเธอไป แล้วมันจะเป็นยังไงนะ ถ้าสองคนนั้นต้องทนเห็นลูกสาวสุดที่รักที่เคยร่าเริงสดใสนอนร้องไห้ทุกคืน กินข้าวกินปลาไม่ได้ ตรอมใจจนร่างกายผ่ายผอมแทบเหลือแต่กระดูก สองคนนั้นจะเจ็บปวดจนใจสลายขนาดไหนกันนะ เขาอยากรู้จริงๆ แต่แล้ว ภาพแม่กับน้องสาวของเขาก็แวบเข้ามาในหัว ผู้หญิงสองคนที่เขารักมาก แม้จะไม่ใช่คนดีเลิศเลอที่ตัดกิเลสได้แล้ว แต่ทั้งสองคนก็ไม่เคยคิดอาฆาตแค้น จองล้างจองผลาญ หรืออยากทำร้ายใคร พวกเขาผ่านชีวิตทุกข์ตรมจนมายืนอยู่จุดนี้กันได้ในตอนนี้ พวกเขามีความสุขแล้ว มีบ้างที่แผลเก่ามันยังระบม แต่ถ้าให้แม่กับน้องสาวเขาเลือก คงเลือกที่จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวพัวพันหรือแก้แค้นใครให้มีกรรมต่อกันไม่สิ้นสุดอีกทั้งนั้น เป็นอันว่าความคิดเห็นของหญิงสาวกับเขาเป็นอันตกไปก่อนในตอนนี้ “ดื่มกันดีกว่าครับ อย่าคิดมากเรื่องไร้สาระเลย” หนุ่มสาวคุยกันไปดื่มกันไปจนไวน์หมดขวด พวกเขาพูดคุยกันหลายเรื่องแม้กระทั่งเรื่องงาน เขารู้สึกทึ่งกับมุมมองการใช้ชีวิตและการทำงานของเธอไม่น้อย แม้เรื่องส่วนตัวเธอจะมีแต่ข่าวคาวๆก็ตามที เธอคนนี้ก็ไม่ได้แย่นักถ้าตัดเรื่องนี้หรือเรื่องที่เธอเป็นลูกของผู้หญิงคนนั้นออกไป เธอชวนเขาไปนั่งดื่มกันต่อที่โซฟา หญิงสาวลุกไปหยิบไวน์ขวดที่สองมาเปิดบริการเขา คราวนี้แม่สาวร้อนรักรุกหนักขึ้น เธอทิ้งตัวลงนั่งที่โซฟาเคียงข้างเขาจนตัวแทบแนบติดกัน พอแอลกอฮอล์อยู่ในเลือดได้ในระดับหนึ่ง ก็ทำให้ทั้งคู่พูดคุยกันอย่างสนุกสนานและสนิทสนมขึ้น โดยเฉพาะเขาที่ชอบที่จะฟังเธอจ้อไม่หยุด ผู้หญิงที่ตรงๆแรงๆ เอาแต่ใจ แต่ก็เป็นคนตลก ขี้อ้อนน่ารัก และขี้ใจอ่อน รู้ตัวอีกทีขวดที่สองก็หมดลงพร้อมอาการเมามายของคนทั้งคู่ “ข้าวชอบหมอจัง” เธอเงยหน้าช้อนสายตาขึ้นมองเขาพร้อมกันกับที่เขาก้มลงมาเพื่อมองเธอพอดี วงหน้าขาวใสที่อมชมพูมีเลือดฝาดจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ช่างสวยนัก ปากกระจับสีสดอวบอิ่มเผยอน้อยๆอย่างเชิญชวน ดวงตาหวานหรี่ปรือเพราะความเมาค่อยๆหลับพริ้มลงเมื่อใบหน้าหล่อเหลาค่อยๆก้มลงมาหา ปากหยักได้รูปแตะแต้มริมฝีปากอวบอิ่มสีแดงอมส้มเบาๆอย่างหยอกล้อ สัมผัสของปากอุ่นอ่อนโยนแต่เรียกร้อง ก่อนบดจูบหนักๆสองสามครั้งพร้อมขบกัดหยอกเอินล่อลวงให้เธอหลงเดินมาตามทางที่เขาปูไว้ หมอหนุ่มบดจูบหญิงสาวด้วยแรงปรารถนาตามระดับของแอลกอฮอล์ในเส้นเลือด เธอตอบสนองเขาอย่างเร่าร้อนไม่ต่างกัน มือใหญ่ลูบไล้กายสาวจนทั่วถ้วนพร้อมกอดก่ายพัวพัน ไม่นานเขาก็พาเธอไปล้มตัวลงนอนบนที่นอนนุ่ม ในตอนนี้หมอหนุ่มลืมสิ้นแล้วทุกสิ่งอย่าง เขาหลงมัวเมาอยู่กับแม่สาวร้อนรักช่างยั่วตรงหน้าเท่านั้น ร่างสะโอดสะองอวบอัดด้วยวัยสาวนอนกระสับกระส่ายร้องครวญครางอยู่ใต้ร่างเขา ทั้งคู่เหมือนถูกดึงดูดเข้าหากันด้วยแม่เหล็กขนาดใหญ่ สองร่างกอดจูบนัวเนียจนเสื้อผ้าเธอหลุดลุ่ยลงมา เขาจึงฉีกทึ้งผ้าผืนบางนั้นออกอย่างไม่สบอารมณ์ที่มาบดบังความงดงามของเธอ ร่างบางเหลือเพียงกางเกงชั้นในลายลูกไม้แสนบางจนแทบปิดอะไรไม่มิด เขาเห็นดังนั้นก็หมดสติยับยั้งตนเองอีกต่อไป ก้มลงดูดดึงซุกไซร้กายสาวแทบทุกตารางนิ้ว “คุณหอมจังที่รัก” เขาพึมพำออกมาอย่างคนไม่มีสติ “อ๊ะ อื้อ” กายสาวบิดเร้าเพราะความเสียวซ่านที่เขามอบให้ ชายหนุ่มผละออกมาถอดเสื้อยืดสีขาวของตนเองออก โชว์มัดกล้ามและซิกแพคพองาม เธอยกมือขึ้นลูบไล้กายหนุ่มด้วยความลุ่มหลงทันที หมอหนุ่มมือไม้สั่นรีบปลดเข็มขัดกางเกงยีนตัวเก่งออกพร้อมถอดมันทิ้งไว้ข้างเตียง เหลือเพียงกางเกงชั้นในขาสั้นแบบบ็อกเซอร์สีดำ ตรงกึ่งกลางกายนูนเด่นดุนดันกางเกงชั้นในตัวนั้นออกมาจนกระทบสายตาของเธอ หมอหนุ่มก้มหน้าลงตวัดปลายลิ้นไล้เลียและดูดดึงปลายยอดสีสดใสนั้นอย่างตะกละตะกลาม จนเธอสั่นระริกครางลั่นด้วยความเสียวซ่านที่ไม่เคยพบเจอมาก่อนในชีวิต เขาชอบร่างกายของเธอมาก มันตอบสนองเขาดีในทุกสัดส่วน หน้าอกอวบสวยใหญ่โตจนล้นมือทำเอาเขาแทบคลั่ง เขาเคล้นคลึงบีบขยำบดบี้มันอย่างมันมือ ยิ่งเขาแตะต้องร่างกายเธอไหร่ เธอยิ่งร้องครวญครางดังขึ้นเท่านั้น ความอดทนของเขากำลังจะขาดสะบั้นลง เมื่อนิ้วแกร่งเกี่ยวกางเกงชั้นในลูกไม้ตัวจิ๋วของเธอลงไปจนสุดปลายเท้า แล้วเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นขัดจังหวะ แต่กระนั้นหมอหนุ่มก็ไม่สนใจสิ่งรบกวนใดๆ ขยับกายลุกขึ้นถอดชั้นในปราการด่านสุดท้ายออกไปจากกายเขา พร้อมความหาเครื่องป้องกันที่เขาพกติดไว้ในกระเป๋าสตางค์เสมอ เขาสบตากับเธอที่นอนตาปรือจ้องลูกชายคนโตของเขาไม่วางตา เธอคงเจอแต่พวกฝรั่งไซส์ยักษ์ แต่ถึงแม้เขาจะไม่ใหญ่โตเท่าชาติพันธุ์ยุโรป แต่ถ้าวัดระดับกับชายไทยด้วยกัน เขาใหญ่โตกว่ามากจนเรียกได้ว่าใหญ่เกินหน้าเกินตา เกินเชื้อชาติไปไกล เขาภูมิใจและมั่นใจในขนาดและลีลาของตนเองเสมอว่าทำให้คู่นอนของตนทุกคนไปถึงสวรรค์ทุกครั้งที่ปฏิบัติกิจกรรมเข้าจังหวะร่วมกับเขา หมอหนุ่มสวมปลอกป้องกันลงที่ท่อนเอ็นอันเขื่องของเขา จากนั้นจึงขยับจัดท่าทางให้เหมาะสมซึ่งเธอก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ก็ดังเข้ามาอีกไม่หยุดเป็นครั้งที่สาม ดึงสติของเขาให้กลับมา อีกเพียงนิดที่เขาจะล่วงล้ำเข้าสู่กายเธอ ชายหนุ่มเด้งตัวลุกพรวดพราดลงจากเตียงไปรับโทรศัพท์ทันทีที่สติกลับคืนมา “เหนือ อยู่ไหนหรอ พรีมไปหาที่ห้องไม่เจอ” เสียงหวานของหมอสาวถามขึ้นอย่างร้อนใจ เธอรู้จากราวินตั้งแต่เย็นแล้วว่าเขาไปไหน จึงนั่งรอเขาอยู่ที่ห้องจนดึกดื่นเขาก็ยังไม่กลับมา “เหนือมาทานข้าวกับคุณข้าวน่ะพรีม” เสียงแหบพร่าตอบกลับไป “นี่เหนือเมาหรอ อยู่ห้องอะไร พรีมจะไปรับ” เสียงแหบพร่าปร่าแปร่งนั้นยิ่งทำให้เธอร้อนรน “ไม่ต้องมาหรอกพรีม เหนือมีเรื่องคุยกับคุณข้าวอีกนิดหน่อย เดี๋ยวก็กลับแล้ว พรีมกลับห้องไปพักผ่อนเถอะ ไม่ต้องเป็นห่วงเหนือ” “จะไม่ให้พรีมห่วงได้ไง ก็เหนือเล่นหายไปกับเขาครึ่งค่อนคืน แถมยังเมาอีกต่างหาก ถ้าเหนือทำ..” ยังไม่ทันที่เธอจะพูดจนจบประโยคที่คิดอยู่ในใจ เขาก็พูดแทรกขึ้นมาเสียก่อน “เหนือโตแล้วนะพรีม ไม่ใช่เด็กเล็กๆที่ใครจะมาหลอกได้ เหนือก็มีสติด้วยไม่ได้เมา พรีมอย่ากังวลไปเลย กลับห้องไปพักนะ เหนือต้องวางแล้ว” พูดจบสายก็ตัดลงไปทันที ปล่อยให้หมอสาวปลายสายน้ำตาไหลอาบแก้ม เมื่อวางสายจากพริมาแล้ว หรอหนุ่มจึงเดินกลับไปดูเธอที่เตียงนอน ก็พบว่าเธอนอนหลับไปแล้ว นั่นคงเป็นเพราะเธอเองก็คงเมามากไม่ต่างจากเขา จึงเอื้อมมือไปดึงผ้าห่มที่ปิดอยู่แค่ช่วงเอวให้ขึ้นมาปิดหน้าอกที่เปลือยเปล่าของเธอด้วย เพราะเธอไม่ได้สวมเสื้อผ้ากลัวว่าเธออาจไม่สบายได้ เขาก้มมองสภาพตัวเอง วันนี้เขายอมรับว่าค่อนข้างเมามากทีเดียว จึงทำอะไรตามอารมณ์และสัญชาตญาณแบบไร้สติไปขนาดนั้น ถ้าเพื่อนของเขาไม่โทรมา เขาคงทำมันไปแล้ว อีกเพียงนิดเดียวเท่านั้นท่อนเอ็นใหญ่โตก็จะก้าวล่วงล้ำเข้าไปในร่างกายเธอแล้ว ไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าเป็นแบบนั้นเขาจะทำอย่างไรดี ถ้าเขาทำตามแผนนั้นสำเร็จแม่กับน้องจะเป็นอย่างไร จะดีใจหรือเสียใจกันนะที่เขาเอาตัวเองไปผูกติดกับความแค้นแบบนั้น เขาก้มมองท่อนเอ็นอันเขื่องที่ยังไม่หดตัวลงเท่าไหร่ตาเขม็ง พร้อมบริภาษใส่มันไม่ยั้ง โทษฐานที่ทำอะไรไม่ผ่านสมอง หมอหนุ่มรูดเอาปลอกป้องกันออกจากมันแล้วโยนทิ้งลงพื้นห้องอย่างหัวเสีย ความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ในกระแสเลือดทำเอาเขามึนหัวจนต้องทิ้งตัวลงนั่งบนเตียง ตอนนี้เขาคงเดินกลับห้องลำบาก ขอพักสายตาสักหน่อยให้สร่างเมาแล้วค่อยกลับห้องไปนอนต่อ คิดแล้วจึงล้มตัวลงนอนแล้วสอดตัวเข้าใต้ผ้าห่มผืนใหญ่เคียงข้างเธอ เขาดึงเธอเข้ามากอดกระชับให้ไออุ่นแก่ร่างเปลือยเปล่าของทั้งคู่แล้วเข้าสู่ห้วงนิทราตามเธอไปอย่างรวดเร็วด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม